หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] สามพี่น้อง ตะลุย ฮาร์บิน ปีใหม่ 2014
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
ทริปนี้เป็นทริปสนองความอยากของผมเองครับ น้องสาวทั้งสอง ไม่เคยคิดจะอยากไปหนาวๆแบบนั้น แต่ใครจะสน ผมจ่าย น้องๆต้องไป …………….. ไม่ไปก็อยู่บ้าน พี่ชายจอมเผด็จการ 55555
ขั้นแรกกับการหาทัวร์ ทั้งๆที่พวกเรา 3คนไม่ชอบการไปทัวร์เลย เพราะขาดอิสระในการเดินทางทั้งเวลา สถานที่ แต่คราวนี้จำเป็นจริงๆ เพราะ ข้อจำกัดด้านภาษา และ ความหนาวเย็น ที่ไม่ใช่ธรรมดา ระดับเดียวกับ Polar Vortex คือ -27 c หรือต่ำกว่า ซึงปีที่แล้ว หนาวถึง -37 c จะให้ไปยืนรอรถเมล์ ถามทางคนแถวนั้น เดินหลงๆแบบ ญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นๆ คงไม่ไหว เพราะถ้าหลงทางแบบนั้น มีหวังสิ้นชีพด้วยความหนาวแน่นอน
การจัดกระเป๋า และ การเตรียมตัวไปฮาร์บินผมได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายจาก กระทู้ด้านล่างนี้ ลองอ่านดูนะครับ ใครจะไปที่นี้การเตรียมพร้อมสำคัญมาก เพราะความสนุก สวยงามของที่นี้ ต้องแลกกับความหนาวเช่นกัน ถ้าเตรียมตัวมาดี มันจะเป็น ทริปที่มีความสวยงามน่าทึ่ง แต่ถ้าไม่ ความหนาวเย็นจะแทรกไปถึงกระดูกจริงๆครับ
http://pantip.com/topic/30023675
***พี่น้อง3คนกระเป๋า3ใบใหญ่ น้ำหนัก20kg++ ทุกใบ เรียกว่ามีอะไรที่คิดว่าทำให้อุ่น ไม่ต้องคิดเลยครับ จับยัดไปเลยไม่มีคำว่าเสื้อผ้าพอสำหรับที่นี้ มันไม่เคยพอจริงๆ***
เมื่อเครื่องบินมาถึงสนามบินปักกิ่ง ณ. เวลา เที่ยงคืนและ กัปตันประกาศว่า อุณหภูมิด้านนอกคือ -4 c ผมเฉยๆกับคำประกาศนั้น แต่หลังจากประตูเครื่องบินเปิด กลับไม่พบงวงช้างไปยังTerminal…………..บระเจ้า! ให้ผมเดินลุยลงบันได และวิ่งไปขึ้นรถบัสที่อยู่ห่างออกไปราว 100เมตร …….ผมใส่เสื้อเชิ้ต กับ กางเกงยีนส์แบบหนุ่มออฟฟิต ตอนแรกคิดในใจ ชิวๆ แปปเดียวเอง เดินได้2-3ก้าว ขนลุกซู่ ตัวสั่นสะท้าน เลยครับ……. แต่!น้องสาวทั้งสอง เอาเสื้อหนาวออกมาตอนไหนเนี้ย เดินกันสบายๆ คุยกันหนุงหนิง ……… ผมแข็งเป็นไอติม น้องๆขำกันใหญ่
พอรถบัสพามาถึงTerminal ก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อต่อไปยังอีกterminal ช่วงนี้แหละครับที่ผมมีโอกาสดึงเสื้อที่เตรียมไว้มาใส่ ก่อนจะเข้าไปยัง ตม และ เอากระเป๋าที่สายพาน ก่อนจะรวมพลทัวร์ ก่อนขึ้นรถทัวร์ไปยัง โรงแรม Holiday Inn
มาถึงโรงแรมราวตี 2 ครับ กว่าจะได้กุญแจห้อง แต่ ท้องดันร้องเลยต้องลงมาหาอะไรทานในมินิมาร์ท 24ชมข้างล่างโรงแรม ซึ่งเป็นที่เดียวที่ผมซื้อถุงมือ และ ที่ครอบหู ราคามาตรฐาน และคุณภาพดีที่เดียว โดยไม่ต้องไปออกวิทยายุทธต่อรองราคาให้เหนื่อย และเนื่องด้วยความตื่นเต้นคืนนี้ไม่ได้นอนครับ จัดนู้นนี้นั้นจน 6โมงเช้า หน้าตาเป็นหมีแพนด้าเหมือนในรูปเลยครับ 55555
เช้าวันแรก ต้องไปกำแพงเมืองจีน ด่านจูหยงกวน ซึ่งห่างจากปักกิ่งราว 1 ชั่วโมง
เป็นด่านที่สวยงามมากครับ อากาศหนาว -2 ท้องฟ้าแจ่มใส่ แต่ด่านนี้มันสูงไปนะ
พวกเราสามคนไม่มีปัญหา แต่ลุงป้าน้าอา เด็กๆ ในทัวร์เพียบ จะขึ้นกันไหวหรือ แถม หัวหน้าทัวร์คงคิดว่า ลูกทัวร์ทุกคนเป็น “นก” มั้งครับ ให้เวลาขึ้น 5 ป้อมในเวลา 1 ชม. ผมวิ่งแล้วยังได้แค่3ป้อมครึ่ง น้องสาวทั้งสอง ได้แค่ 2ป้อม ลูกทัวร์คนอื่นที่เหลือ ป้อมแรกบางคนยังไม่ถึงเลย …….. ยังไม่ทันไร หัวหน้าทัวร์ยกธงลิบๆ ขึ้นรถ………… จึงต้องลากำแพงเมืองจีนอันสวยงาม ไปพร้อมกับความเหนื่อย หนาว และ ความขุ่นใจนิดๆ ของเวลาที่ให้ ก็เลือกมากับคนหมู่มาก ก็ต้องทำใจครับ…..
หลังจากนั้นพามาดูหยกที่ทางรัฐบาลบังคับให้ทัวร์มา และนี่คืออีกหนึ่งความอึดอัดของการมาทัวร์จีน สินค้าหยกมาจากพม่า ราคาสูง และ ใช่เวลาที่นี่นานราว 1ชม แต่ที่แย่ที่สุด คือ วิธีการขายของเขา และ การต้อนให้เราต้องควักเงินจ่ายสักชิ้นสองชิ้น สารพัดคำพูด อึดอัดมากครับ จะออกก่อนก็ไม่ได้ ต้องรอจนจบขั้นตอน แต่ทัวร์พวกเรากลุ่มนี้ เรียกว่า “สายแข็ง” ไม่มีใครควักเงินจ่ายออกเลยสักคน
ขอข้ามมาทานอาหารเลยละกันครับว่าอาหารทัวร์เป็นเช่นใด พอทานได้ แต่ไม่ถึงกับอร่อย ทั้งๆที่มีเป็ดปักกิ่ง ด้วยรสชาติก็ ไม่ได้ดีอะไร สู้อาหารบ้านเราไม่ได้
หลังจากนั้นนั่งรถผ่าน สนามกีฬารังนก กับ สนามฟองน้ำ ซึ่งดูแปลกตาดี
สถานที่ต่อไปคือพระราชวังฤดูร้อน ในวันอากาศหนาว มีหมู่อาคารทรงจีน ดูแปลกตา
ใช้เวลาเดินดู แถวๆนั้นอยู่ 1 ชม แต่เพราะ มากับทัวร์กับคนหมู่มาก จึงเดินไปได้ไม่สุดถึง เรือหินอ่อน แถม หัวหน้าไกด์ยังโกหกว่า อยู่ระหว่างซ่อม แต่ เพื่อนผมอีกคนกลับมาโพสIGได้
กิเลน
ทะเลสาบเริ่มเป็นน้ำแข็งแล้ว
ที่แปลกคือมีหินที่ไม่ค่อยมีใครจะถ่ายรูป เพราะ เรียกว่า หินอัปมงคล ตั้งอยู่ในหมู่อาคารพระราชวัง ระหว่างทางเดิน เนื่องจากเคยมีประวัติ ว่า หินประหลาดรูปปลานี้มีเศรษฐีนักสะสมหินพยายามย้ายก้อนหินนี้ แต่ไม่นานหลังจากนั้น ก็ต้องล่มจม และเสียชีวิตลง พอทราบเรื่องเฉียหลงฮ่องเต้ จึงอยากนำข้ามาในปักกิ่ง แต่ ก็ต้องเสียเงินไปมหาศาล ต้องทำตึกใหม่ ทางเข้าใหม่ ทั้งทุบกำแพง ประตู ในการขน (ลองดูขนาดของหิน มันใหญ่โตขนาดไหน) แถม ข้าราชการที่พยายามขนหินก้อนนี้ ก็ต้องล่มจมเช่นกัน หินก้อนนี้จึงถูกปล่อยทิ้งไว้ที่เดิม……………. แต่ผมไม่สนใจ เพราะ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว เลยถ่ายมาให้ดูกัน
และมาถึงบางอ้อว่าทำไมเร่งนัก เพราะต้องรีบทำเวลา เพื่อไปศูนย์การแพทย์จีน เป็นทริปบังคับอีกแล้ว ที่นี้เรียกว่า แย่ที่สุดในการเดินทางครั้งนี้เลยครับ บังคับให้เรานวดเท้า รองเท้าลุยหิมะถอดยากขนาดไหน ยังต้องถอด ไม่ทำก็ไม่ได้ แถมบังคับต้องซื้อยาอะไรก็ไม่รู้ และยังต้องทิปให้คนนวดอีก……..แต่อย่างที่บอก ลูกทัวร์กลุ่มนี้สายแข็ง ไม่มีใครเสียตังสักคนกับยาจีน แต่ยังไงก็ต้องให้ทิปคนนวดนิดหน่อยตามธรรมเนียมไทย แต่ผมไม่ให้สักแดง เพราะ นวดแย่มากกดจุดอะไรไม่รู้ ขาชาตลอดช่วงเย็นเลย…….
บ่นพอสมควรมาดูรูปหลังจากไปนวด ก็ได้มาเดินเที่ยวที่ห้างThe Placeเป็นที่ๆมีจอLEDขนาดใหญ่สุดๆ น้องๆ las vegas มีที่ถ่ายรูปหน้าห้างหลายจุด ขณะรอทางข้าวเย็น
มีร้านขนมปังแนวฝรั่งเศสที่เป็นที่นิยมของคนแถวนี้ชื่อ Paris Baguette อร่อยดีครับ
ร้านอาหารบุฟเฟ่ ที่นี้ เค้าว่า 6ดาว แต่ผมว่าไม่น่าถึง (ที่นี้เค้ามักจะให้ดาวกันเอง อยากใส่เท่าไหร่ก็ได้5555) แต่อาหารเค้ามีหลากหลายมากมายจริงๆกว่า300รายการ แต่ เอาเข้าจริงๆ คนไทยก็กินไม่กี่อย่าง เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร ลอดูได้ไม่กี่10อย่าง ก็อิ่มแล้วครับ แถมเหนื่อยมาก ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ
ถึงโรงแรมก็สลบ…………(ในโรงแรมมีฮีตเตอร์ ค่อนข้างอุ่น แต่อากาศแห้งมาก ผมต้องเปิดกระจกแง้มเล็กๆให้มีลมเข้ามาบ้างไม่งั้น แห้งตายแน่ๆ ผมค่อนเคืองใจนิดๆกับการมาปักกิ่ง ทั้งหัวหน้าทัวร์ ทริปบังคับ และ ความเร่งรีบในสถานที่เที่ยว แต่ทั้งหมดที่ปักกิ่งไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากมา ฮาร์บินต่างหากที่ผมฝันจะมาสักครั้ง
วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนครับ พรุ่งนี้เราไป ฮาร์บินต่อกันครับ
ชื่อสินค้า:
สามพี่น้อง ตะลุย ฮาร์บิน ปีใหม่ 2014
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อากาศหนาวจัด สามารถทำให้ รถไฟความเร็วสูงติดขัดไหมครับ
ได้ข่าวว่า จีนเปิดตัวรถไฟความเร็วสูง จากปักกิ่งไปฮาร์บิน หรือไม่ก็ฮาร์บินไปต้าเหลียนแน่แหละมั้ง(ไม่แน่ใจ) คือผมสงสัยว่าบริเวณดังกล่าวอากาศหนาวจัดมากในฤดูหนาว อย่างนี้จะทำให้รถไฟติดขัดหรือเกิดปัญหาไ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก
Qingdao - Harbin ทริปนี้หนาวแน่ 01 ตอน 25 ชั่วโมงบนรถไฟจีน
สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้ขอมารายงานการเดินทางที่คิดว่าโหดสุดเท่าที่ตัวเองเคยเจอมา (แต่อาจจะโหดน้อยกว่าหลายๆท่านเยอะ) โหดแรก การเดินทางขาไปกับรถไฟจีน 25 ชั่วโมง โหดสอง สภาพอากาศที่ฮาร์บิน ขึ้นชื่อว่า หน
Seventh Ave
ปี้เผิงโกว กับ ฮาร์บิน
ปี้เผิงโกว กับ ฮาร์บิน ที่ไหนเหมาะกับคนขี้หนาวแบบเราคะ ไปธค. สวยทั้ง2ที่เลยไหมคะ หรือที่ไหนสวยกว่า
สมาชิกหมายเลข 8686866
ไม่รู้ภาษาจีนก็เที่ยวจีนได้ : 7 วัน กับ 3 เมือง #ตอนที่ 5 ฮาร์บินกับความหนาวไม่มีวันลืม
การเดินทางในครั้งนี้ ได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศจีน ซึ่งผมใฝ่ฝันมานาน อยากจะไปเยือนประเทศจีนสักครั้งในชีวิต อยากไปดูอารยธรรม สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ของเมืองจีน การเดินทางจึงเกิดขึ้น พร้อมกันนั้นผม
นิวน้ำน่าน
เซี่ยงไฮ้ สิงคโป ไปไหนดี
ใครที่ประสบการเที่ยวสองเมืองนี้บ้างคะ เปรียบิย่างไรดี การเดินทาง ความสดวก ค่าครองชีพ อื่นๆ ที่เที่ยว เคยไปจีนมา1รอบค่ะ สิงคโปไม่เคยไแ ไปฮาร์บินมา ค่าครองชีพไม่แรงมากค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
สมาชิกหมายเลข 8035906
เที่ยวจีนด้วยตัวเอง 3 โซน 24 วัน ไม่ง้อทัวร์
🇨🇳การเดินทางของทริปนี้นะคะ เราแพลนล่วงหน้าเป็นปี ก่อนที่จะมีประกาศฟรีวีซ่าจีน นะ หลังจากที่ห่างหายจากวงการพันทิปมานาน เราก็ผ่านมาหลายทริปแล้ว ครั้งนี้ เลยอยากจะกลับมารีรัน การเล่าเร
Kw-Reindeer
สอบถามเรื่องสถานที่ฝากกระเป๋าในปักกิ่ง
พอดีเสาร์นี้จะไปเที่ยว ปักกิ่ง-ฮาร์บิ้น ครับ ลงเครื่องที่สนามบินปักกิ่งตอนเช้ามืด แต่จองรถไฟไปฮาร์บินรถออกตอนสองทุ่มครึ่ง ไม่ได้จองโรงแรมไว้เพราะกลางวันว่าจะไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน เลยจะรบกวนสอบถามสถานท
สมาชิกหมายเลข 1081952
กลับจากปักกิ่งแล้วมาต่อเครื่องที่กวางโจวที่ 1ชม35นาที จะทันมั้ยครับ
แล้วเคสแบบนี้ปกติ เราต้องปั้ม ตม.ที่สนามบินไหนหรือครับ
Est36
ฮาร์บิน ในวันซึ่งไร้หิมะ แต่ยังหนาวสุดขั้วหัวใจ
ผมไปฮาร์บินช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (Oct 2024) ยังไม่มีหิมะ ไม่มีเทศกาลน้ำแข็ง (Harbin Ice Festival) แม้แต่ Snow Town ก็ยังเดินทางไปไม่ได้ เพราะยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากหิมะที่หมู่บ้านยังไม
เจ้าเมืองไคฟง
มาเป็นขบวนเลย! UN-US-UK-เยอรมนีรุมประณามไทย ไม่พอใจส่งตัวชาวอุยกูร์ไปยังจีน
ขอบคุณที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9680000019627 สื่อต่างประเทศรายงานไทยเนรเทศชาวอุยกูร์หลายสิบคนไปยังจีนในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) แม้มีเสียงเตือนจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายว่าคนเหล่านี้
C.Moon
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 1
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] สามพี่น้อง ตะลุย ฮาร์บิน ปีใหม่ 2014
ขั้นแรกกับการหาทัวร์ ทั้งๆที่พวกเรา 3คนไม่ชอบการไปทัวร์เลย เพราะขาดอิสระในการเดินทางทั้งเวลา สถานที่ แต่คราวนี้จำเป็นจริงๆ เพราะ ข้อจำกัดด้านภาษา และ ความหนาวเย็น ที่ไม่ใช่ธรรมดา ระดับเดียวกับ Polar Vortex คือ -27 c หรือต่ำกว่า ซึงปีที่แล้ว หนาวถึง -37 c จะให้ไปยืนรอรถเมล์ ถามทางคนแถวนั้น เดินหลงๆแบบ ญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นๆ คงไม่ไหว เพราะถ้าหลงทางแบบนั้น มีหวังสิ้นชีพด้วยความหนาวแน่นอน
การจัดกระเป๋า และ การเตรียมตัวไปฮาร์บินผมได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายจาก กระทู้ด้านล่างนี้ ลองอ่านดูนะครับ ใครจะไปที่นี้การเตรียมพร้อมสำคัญมาก เพราะความสนุก สวยงามของที่นี้ ต้องแลกกับความหนาวเช่นกัน ถ้าเตรียมตัวมาดี มันจะเป็น ทริปที่มีความสวยงามน่าทึ่ง แต่ถ้าไม่ ความหนาวเย็นจะแทรกไปถึงกระดูกจริงๆครับ
http://pantip.com/topic/30023675
***พี่น้อง3คนกระเป๋า3ใบใหญ่ น้ำหนัก20kg++ ทุกใบ เรียกว่ามีอะไรที่คิดว่าทำให้อุ่น ไม่ต้องคิดเลยครับ จับยัดไปเลยไม่มีคำว่าเสื้อผ้าพอสำหรับที่นี้ มันไม่เคยพอจริงๆ***
เมื่อเครื่องบินมาถึงสนามบินปักกิ่ง ณ. เวลา เที่ยงคืนและ กัปตันประกาศว่า อุณหภูมิด้านนอกคือ -4 c ผมเฉยๆกับคำประกาศนั้น แต่หลังจากประตูเครื่องบินเปิด กลับไม่พบงวงช้างไปยังTerminal…………..บระเจ้า! ให้ผมเดินลุยลงบันได และวิ่งไปขึ้นรถบัสที่อยู่ห่างออกไปราว 100เมตร …….ผมใส่เสื้อเชิ้ต กับ กางเกงยีนส์แบบหนุ่มออฟฟิต ตอนแรกคิดในใจ ชิวๆ แปปเดียวเอง เดินได้2-3ก้าว ขนลุกซู่ ตัวสั่นสะท้าน เลยครับ……. แต่!น้องสาวทั้งสอง เอาเสื้อหนาวออกมาตอนไหนเนี้ย เดินกันสบายๆ คุยกันหนุงหนิง ……… ผมแข็งเป็นไอติม น้องๆขำกันใหญ่
พอรถบัสพามาถึงTerminal ก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อต่อไปยังอีกterminal ช่วงนี้แหละครับที่ผมมีโอกาสดึงเสื้อที่เตรียมไว้มาใส่ ก่อนจะเข้าไปยัง ตม และ เอากระเป๋าที่สายพาน ก่อนจะรวมพลทัวร์ ก่อนขึ้นรถทัวร์ไปยัง โรงแรม Holiday Inn
มาถึงโรงแรมราวตี 2 ครับ กว่าจะได้กุญแจห้อง แต่ ท้องดันร้องเลยต้องลงมาหาอะไรทานในมินิมาร์ท 24ชมข้างล่างโรงแรม ซึ่งเป็นที่เดียวที่ผมซื้อถุงมือ และ ที่ครอบหู ราคามาตรฐาน และคุณภาพดีที่เดียว โดยไม่ต้องไปออกวิทยายุทธต่อรองราคาให้เหนื่อย และเนื่องด้วยความตื่นเต้นคืนนี้ไม่ได้นอนครับ จัดนู้นนี้นั้นจน 6โมงเช้า หน้าตาเป็นหมีแพนด้าเหมือนในรูปเลยครับ 55555
เช้าวันแรก ต้องไปกำแพงเมืองจีน ด่านจูหยงกวน ซึ่งห่างจากปักกิ่งราว 1 ชั่วโมง
เป็นด่านที่สวยงามมากครับ อากาศหนาว -2 ท้องฟ้าแจ่มใส่ แต่ด่านนี้มันสูงไปนะ
พวกเราสามคนไม่มีปัญหา แต่ลุงป้าน้าอา เด็กๆ ในทัวร์เพียบ จะขึ้นกันไหวหรือ แถม หัวหน้าทัวร์คงคิดว่า ลูกทัวร์ทุกคนเป็น “นก” มั้งครับ ให้เวลาขึ้น 5 ป้อมในเวลา 1 ชม. ผมวิ่งแล้วยังได้แค่3ป้อมครึ่ง น้องสาวทั้งสอง ได้แค่ 2ป้อม ลูกทัวร์คนอื่นที่เหลือ ป้อมแรกบางคนยังไม่ถึงเลย …….. ยังไม่ทันไร หัวหน้าทัวร์ยกธงลิบๆ ขึ้นรถ………… จึงต้องลากำแพงเมืองจีนอันสวยงาม ไปพร้อมกับความเหนื่อย หนาว และ ความขุ่นใจนิดๆ ของเวลาที่ให้ ก็เลือกมากับคนหมู่มาก ก็ต้องทำใจครับ…..
หลังจากนั้นพามาดูหยกที่ทางรัฐบาลบังคับให้ทัวร์มา และนี่คืออีกหนึ่งความอึดอัดของการมาทัวร์จีน สินค้าหยกมาจากพม่า ราคาสูง และ ใช่เวลาที่นี่นานราว 1ชม แต่ที่แย่ที่สุด คือ วิธีการขายของเขา และ การต้อนให้เราต้องควักเงินจ่ายสักชิ้นสองชิ้น สารพัดคำพูด อึดอัดมากครับ จะออกก่อนก็ไม่ได้ ต้องรอจนจบขั้นตอน แต่ทัวร์พวกเรากลุ่มนี้ เรียกว่า “สายแข็ง” ไม่มีใครควักเงินจ่ายออกเลยสักคน
ขอข้ามมาทานอาหารเลยละกันครับว่าอาหารทัวร์เป็นเช่นใด พอทานได้ แต่ไม่ถึงกับอร่อย ทั้งๆที่มีเป็ดปักกิ่ง ด้วยรสชาติก็ ไม่ได้ดีอะไร สู้อาหารบ้านเราไม่ได้
หลังจากนั้นนั่งรถผ่าน สนามกีฬารังนก กับ สนามฟองน้ำ ซึ่งดูแปลกตาดี
สถานที่ต่อไปคือพระราชวังฤดูร้อน ในวันอากาศหนาว มีหมู่อาคารทรงจีน ดูแปลกตา
ใช้เวลาเดินดู แถวๆนั้นอยู่ 1 ชม แต่เพราะ มากับทัวร์กับคนหมู่มาก จึงเดินไปได้ไม่สุดถึง เรือหินอ่อน แถม หัวหน้าไกด์ยังโกหกว่า อยู่ระหว่างซ่อม แต่ เพื่อนผมอีกคนกลับมาโพสIGได้
กิเลน
ทะเลสาบเริ่มเป็นน้ำแข็งแล้ว
ที่แปลกคือมีหินที่ไม่ค่อยมีใครจะถ่ายรูป เพราะ เรียกว่า หินอัปมงคล ตั้งอยู่ในหมู่อาคารพระราชวัง ระหว่างทางเดิน เนื่องจากเคยมีประวัติ ว่า หินประหลาดรูปปลานี้มีเศรษฐีนักสะสมหินพยายามย้ายก้อนหินนี้ แต่ไม่นานหลังจากนั้น ก็ต้องล่มจม และเสียชีวิตลง พอทราบเรื่องเฉียหลงฮ่องเต้ จึงอยากนำข้ามาในปักกิ่ง แต่ ก็ต้องเสียเงินไปมหาศาล ต้องทำตึกใหม่ ทางเข้าใหม่ ทั้งทุบกำแพง ประตู ในการขน (ลองดูขนาดของหิน มันใหญ่โตขนาดไหน) แถม ข้าราชการที่พยายามขนหินก้อนนี้ ก็ต้องล่มจมเช่นกัน หินก้อนนี้จึงถูกปล่อยทิ้งไว้ที่เดิม……………. แต่ผมไม่สนใจ เพราะ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว เลยถ่ายมาให้ดูกัน
และมาถึงบางอ้อว่าทำไมเร่งนัก เพราะต้องรีบทำเวลา เพื่อไปศูนย์การแพทย์จีน เป็นทริปบังคับอีกแล้ว ที่นี้เรียกว่า แย่ที่สุดในการเดินทางครั้งนี้เลยครับ บังคับให้เรานวดเท้า รองเท้าลุยหิมะถอดยากขนาดไหน ยังต้องถอด ไม่ทำก็ไม่ได้ แถมบังคับต้องซื้อยาอะไรก็ไม่รู้ และยังต้องทิปให้คนนวดอีก……..แต่อย่างที่บอก ลูกทัวร์กลุ่มนี้สายแข็ง ไม่มีใครเสียตังสักคนกับยาจีน แต่ยังไงก็ต้องให้ทิปคนนวดนิดหน่อยตามธรรมเนียมไทย แต่ผมไม่ให้สักแดง เพราะ นวดแย่มากกดจุดอะไรไม่รู้ ขาชาตลอดช่วงเย็นเลย…….
บ่นพอสมควรมาดูรูปหลังจากไปนวด ก็ได้มาเดินเที่ยวที่ห้างThe Placeเป็นที่ๆมีจอLEDขนาดใหญ่สุดๆ น้องๆ las vegas มีที่ถ่ายรูปหน้าห้างหลายจุด ขณะรอทางข้าวเย็น
มีร้านขนมปังแนวฝรั่งเศสที่เป็นที่นิยมของคนแถวนี้ชื่อ Paris Baguette อร่อยดีครับ
ร้านอาหารบุฟเฟ่ ที่นี้ เค้าว่า 6ดาว แต่ผมว่าไม่น่าถึง (ที่นี้เค้ามักจะให้ดาวกันเอง อยากใส่เท่าไหร่ก็ได้5555) แต่อาหารเค้ามีหลากหลายมากมายจริงๆกว่า300รายการ แต่ เอาเข้าจริงๆ คนไทยก็กินไม่กี่อย่าง เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร ลอดูได้ไม่กี่10อย่าง ก็อิ่มแล้วครับ แถมเหนื่อยมาก ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ
ถึงโรงแรมก็สลบ…………(ในโรงแรมมีฮีตเตอร์ ค่อนข้างอุ่น แต่อากาศแห้งมาก ผมต้องเปิดกระจกแง้มเล็กๆให้มีลมเข้ามาบ้างไม่งั้น แห้งตายแน่ๆ ผมค่อนเคืองใจนิดๆกับการมาปักกิ่ง ทั้งหัวหน้าทัวร์ ทริปบังคับ และ ความเร่งรีบในสถานที่เที่ยว แต่ทั้งหมดที่ปักกิ่งไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากมา ฮาร์บินต่างหากที่ผมฝันจะมาสักครั้ง
วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนครับ พรุ่งนี้เราไป ฮาร์บินต่อกันครับ