ก่อนอื่นต้องขอบอกนะคะ ว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ นำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นวิทยาธาน และบอกกล่าวไปให้ใครหลาย ๆ คนได้รับทราบ หากเกิดกรณีเช่นนี้....
ขอแทนชื่อเพื่อนว่า ดาว แล้วกันค่ะ (เป็นนามสมมุติ)
เมื่อหลายปีก่อน ดาว ได้เรียกรถแท๊กซี่จากย่านหมอชิต หลังจากเลิกงานในช่วงเย็นเพื่อไปหาเพื่อนแถว ๆ จ.นนทบุรี ไม่นานรถแท๊กซี่ (ซึ่งไม่แน่ใจว่า กำลังมองหาเหยื่อหญิงสาวอยู่หรือไม่) ก็ได้จอดรับดาว เพื่อนำไปยังจุดหมายปลายทางที่ควรไป ระหว่างทางที่โดยสารรถแท็กซี่คันดังกล่าว คนขับรถก็ไม่แสดงท่าทีพิรุธแต่อย่างใด เมื่อขับไปได้สักระยะ ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มลง ประกอบกับมีสายฝนโปรยปราย
รถแท๊กซี่คนดังกล่าว ก็ได้ขับซอกซอยลัดเลาะไปทั่ว ซึ่งผิดกับรถปกติทั่วไปที่จะนำสู่ถนนใหญ่ เพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว เนื่องจาก ดาวเองก็ไม่ได้ไปหาเพื่อนบ่อยนัก แต่ก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงได้เอ่ยปากถาม คนขับรถแท็กซี่ว่า
ดาว : พี่ รู้จักทางหรือป่าว ทำไมถึงพามาทางเส้นนี้ล่ะ แถมไม่ค่อยมีบ้านคนอีกต่างหาก
แท็กซี่ : อ๋อ พี่มาทางลัด ทางปกติวันอย่างนี้ รถมันติดเยอะ
เมื่อดาวสังเกตุดู ก็เริ่มเห็นว่า คนขับแท็กซี่ ขับวนไปวนมาอย่างจงใจ ไปตามเส้นทางเลียบทุ่งนา และเปลี่ยวมาก และไม่ค่อยมีบ้านคน ดาวเองได้ดูนาฬิกาขณะนั้นเป็นเวลา 19.00 น. จึงได้บอกคนขับแท็กซี่ว่า ถ้าอย่างไรเสียให้ไปส่งที่ถนนใหญ่ เพื่อจะเดินทางเองสะดวกกว่า คนขับแท๊กซี่ได้ฟังดังนั้น ก็เหมือนจะรู้ว่า เหยื่อเริ่มเอะใจ จึงบอกว่า "เดี๋ยวไปข้างหน้าอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว" ดาวก็ได้พยายามมองฝ่าความมืด สังเกตุสองข้างทาง เห็นเป็นร่องสวน มียังมีน้ำในท้องร่องอยู่บ้าง ก็นึกใจคอไม่ค่อยดีเหมือนกัน รถแล่นผ่านต้นไทรใหญ่ รกครึ้มและมีเครื่องลางโบราณที่ชำรุดเสียหายมากมายกองอยู่ที่โคนต้น ดาวจึงตั้งจิตสวดมนต์ ขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองเธอในครั้งนี้ด้วย
และสิ่งที่กลัวก็เริ่มเป็นจริง เมื่อคนขับรถแท็กซี่ได้จอดรถในที่ห่างไกลผู้คน และได้พยายามล่วงเกิน และบีบคอเธอ ดาวพยายามร้องขอชีวิต "อย่าทำอะไรชั้นเลย ไหว้ล่ะ ขอร้อง อย่าทำชั้นเลย" พร้อมกับพนมมือขอชีวิตต่อไป แต่ความพยายามดังกล่าวไม่เป็นผล ดาวจึงดันประตูด้านที่ติดกับตัวดาวออก และวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ปากก็ตะโกนร้องให้คนช่วย แต่ไม่เป็นผลค่ะ เนื่องจากแท็กซี่ที่วิ่งไล่ตาม จับดาวไว้ได้แต่ชกเข้าที่ท้อง และพยายามบีบคอ และถีบตัวดาวลงไปในร่องสวน เพื่อหวังจะฆ่าเธอ ด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด จึงทำให้ดาว แกล้งแน่นิ่งไหวติง (แกล้งตาย) และความมืด ประกอบกับสายฝน ทำให้แท็กซี่หื่น มันมิได้เดินไปดูร่างของดาวแต่อย่างใด
เมื่อดาวนอนแช่น้ำในท้องร่องอยู่สักพัก จึงได้ยินเสียงรถเคลื่อนออกไปแล้ว ได้พยุงตัวเดินไปตามแสงไฟบ้านคน
และเรื่องที่เลวร้ายไม่แพ้กันคือ ได้ไปกดกริ่งบ้านที่หลังใหญ่ ก็โดนตะเพิดไล่ ด้วยความรั
เกียจเนื้อตัวที่สกปรก นอกจากไม่ยินดีช่วยเหลือแล้ว ยังขับไล่อีกต่างหาก T_T (แต่อย่างว่าแหละค่ะ สภาพมอมแมมขนาดนี้ ใครจะอยากช่วยคะ) เมื่อไปต่ออีกสักพัก มีคุณลุงกับคุณป้า ที่มีน้ำใจ รีบกุลีกุจอช่วยเหลือ จนสามารถติดต่อเพื่อนให้มารับยังสถานที่เกิดเหตุได้
แต่เรื่องเลวร้ายยังไม่จบค่ะ เมื่อไปแจ้งความกับตำรวจที่โรงพัก ตำรวจได้พูดกับดาวว่า นี่คิดไปเองหรือป่าว ว่าเขาจะทำมิดีมิร้ายเราน่ะ และอีกคำพูดหนึ่งประโยคที่พอจะจับใจความได้ว่า คงไม่ได้ความคืบหน้าอะไรหรอกนะ ลงบันทึกประจำวันไว้เฉย ๆ แล้วกัน แท็กซี่มีเป็นพันคัน

เฮ้อ...
ปล. ดาวเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ ไม่เพิ่งเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ได้ไม่นาน
และ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ไม่ได้มีเทคโนโลยีในเรื่องการสื่อสารดีเหมือนกับสมัยนี้
เมื่อคราวนั้นเธออายุเพียง 20 ต้น ๆ เท่านั้น
และที่สำคัญ การแต่งกายของสาวผู้นี้ ไม่ได้โป๊ หรือเกินงามแต่อย่างใด เพราะเธอใส่สีโปโล คอปก และกางเกงผ้าสีดำ ขายาว
หมายเหตุ ในกระเป๋าสะพายเธอพกมีดคัตเตอร์ค่ะ แต่ในวินาทีนั้น เธอคิดว่า คัตเตอร์นั้นมันจะกลับมาเป็นอันตรายกับเธอ แทนที่จะช่วยชีวิตเธอหรือไม่
สำหรับกระเป๋าสะพาย และทรัพย์สินของเธอก็โดนดึงและตกอยู่ในแท๊กซี่ ซึ่งเธออาจมีเพียงเศษเหรียญไม่กี่บาทที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณเข้ามาอ่านเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดนี้นะคะ
แชร์ประสบการณ์ .....ภัยร้าย ผู้หญิงที่ไปไหนมาไหนคนเดียว
ขอแทนชื่อเพื่อนว่า ดาว แล้วกันค่ะ (เป็นนามสมมุติ)
เมื่อหลายปีก่อน ดาว ได้เรียกรถแท๊กซี่จากย่านหมอชิต หลังจากเลิกงานในช่วงเย็นเพื่อไปหาเพื่อนแถว ๆ จ.นนทบุรี ไม่นานรถแท๊กซี่ (ซึ่งไม่แน่ใจว่า กำลังมองหาเหยื่อหญิงสาวอยู่หรือไม่) ก็ได้จอดรับดาว เพื่อนำไปยังจุดหมายปลายทางที่ควรไป ระหว่างทางที่โดยสารรถแท็กซี่คันดังกล่าว คนขับรถก็ไม่แสดงท่าทีพิรุธแต่อย่างใด เมื่อขับไปได้สักระยะ ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มลง ประกอบกับมีสายฝนโปรยปราย
รถแท๊กซี่คนดังกล่าว ก็ได้ขับซอกซอยลัดเลาะไปทั่ว ซึ่งผิดกับรถปกติทั่วไปที่จะนำสู่ถนนใหญ่ เพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว เนื่องจาก ดาวเองก็ไม่ได้ไปหาเพื่อนบ่อยนัก แต่ก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงได้เอ่ยปากถาม คนขับรถแท็กซี่ว่า
ดาว : พี่ รู้จักทางหรือป่าว ทำไมถึงพามาทางเส้นนี้ล่ะ แถมไม่ค่อยมีบ้านคนอีกต่างหาก
แท็กซี่ : อ๋อ พี่มาทางลัด ทางปกติวันอย่างนี้ รถมันติดเยอะ
เมื่อดาวสังเกตุดู ก็เริ่มเห็นว่า คนขับแท็กซี่ ขับวนไปวนมาอย่างจงใจ ไปตามเส้นทางเลียบทุ่งนา และเปลี่ยวมาก และไม่ค่อยมีบ้านคน ดาวเองได้ดูนาฬิกาขณะนั้นเป็นเวลา 19.00 น. จึงได้บอกคนขับแท็กซี่ว่า ถ้าอย่างไรเสียให้ไปส่งที่ถนนใหญ่ เพื่อจะเดินทางเองสะดวกกว่า คนขับแท๊กซี่ได้ฟังดังนั้น ก็เหมือนจะรู้ว่า เหยื่อเริ่มเอะใจ จึงบอกว่า "เดี๋ยวไปข้างหน้าอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว" ดาวก็ได้พยายามมองฝ่าความมืด สังเกตุสองข้างทาง เห็นเป็นร่องสวน มียังมีน้ำในท้องร่องอยู่บ้าง ก็นึกใจคอไม่ค่อยดีเหมือนกัน รถแล่นผ่านต้นไทรใหญ่ รกครึ้มและมีเครื่องลางโบราณที่ชำรุดเสียหายมากมายกองอยู่ที่โคนต้น ดาวจึงตั้งจิตสวดมนต์ ขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองเธอในครั้งนี้ด้วย
และสิ่งที่กลัวก็เริ่มเป็นจริง เมื่อคนขับรถแท็กซี่ได้จอดรถในที่ห่างไกลผู้คน และได้พยายามล่วงเกิน และบีบคอเธอ ดาวพยายามร้องขอชีวิต "อย่าทำอะไรชั้นเลย ไหว้ล่ะ ขอร้อง อย่าทำชั้นเลย" พร้อมกับพนมมือขอชีวิตต่อไป แต่ความพยายามดังกล่าวไม่เป็นผล ดาวจึงดันประตูด้านที่ติดกับตัวดาวออก และวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ปากก็ตะโกนร้องให้คนช่วย แต่ไม่เป็นผลค่ะ เนื่องจากแท็กซี่ที่วิ่งไล่ตาม จับดาวไว้ได้แต่ชกเข้าที่ท้อง และพยายามบีบคอ และถีบตัวดาวลงไปในร่องสวน เพื่อหวังจะฆ่าเธอ ด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด จึงทำให้ดาว แกล้งแน่นิ่งไหวติง (แกล้งตาย) และความมืด ประกอบกับสายฝน ทำให้แท็กซี่หื่น มันมิได้เดินไปดูร่างของดาวแต่อย่างใด
เมื่อดาวนอนแช่น้ำในท้องร่องอยู่สักพัก จึงได้ยินเสียงรถเคลื่อนออกไปแล้ว ได้พยุงตัวเดินไปตามแสงไฟบ้านคน
และเรื่องที่เลวร้ายไม่แพ้กันคือ ได้ไปกดกริ่งบ้านที่หลังใหญ่ ก็โดนตะเพิดไล่ ด้วยความรั
เกียจเนื้อตัวที่สกปรก นอกจากไม่ยินดีช่วยเหลือแล้ว ยังขับไล่อีกต่างหาก T_T (แต่อย่างว่าแหละค่ะ สภาพมอมแมมขนาดนี้ ใครจะอยากช่วยคะ) เมื่อไปต่ออีกสักพัก มีคุณลุงกับคุณป้า ที่มีน้ำใจ รีบกุลีกุจอช่วยเหลือ จนสามารถติดต่อเพื่อนให้มารับยังสถานที่เกิดเหตุได้
แต่เรื่องเลวร้ายยังไม่จบค่ะ เมื่อไปแจ้งความกับตำรวจที่โรงพัก ตำรวจได้พูดกับดาวว่า นี่คิดไปเองหรือป่าว ว่าเขาจะทำมิดีมิร้ายเราน่ะ และอีกคำพูดหนึ่งประโยคที่พอจะจับใจความได้ว่า คงไม่ได้ความคืบหน้าอะไรหรอกนะ ลงบันทึกประจำวันไว้เฉย ๆ แล้วกัน แท็กซี่มีเป็นพันคัน
ปล. ดาวเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ ไม่เพิ่งเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ได้ไม่นาน
และ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ไม่ได้มีเทคโนโลยีในเรื่องการสื่อสารดีเหมือนกับสมัยนี้
เมื่อคราวนั้นเธออายุเพียง 20 ต้น ๆ เท่านั้น
และที่สำคัญ การแต่งกายของสาวผู้นี้ ไม่ได้โป๊ หรือเกินงามแต่อย่างใด เพราะเธอใส่สีโปโล คอปก และกางเกงผ้าสีดำ ขายาว
หมายเหตุ ในกระเป๋าสะพายเธอพกมีดคัตเตอร์ค่ะ แต่ในวินาทีนั้น เธอคิดว่า คัตเตอร์นั้นมันจะกลับมาเป็นอันตรายกับเธอ แทนที่จะช่วยชีวิตเธอหรือไม่
สำหรับกระเป๋าสะพาย และทรัพย์สินของเธอก็โดนดึงและตกอยู่ในแท๊กซี่ ซึ่งเธออาจมีเพียงเศษเหรียญไม่กี่บาทที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณเข้ามาอ่านเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดนี้นะคะ