วิถีแมลงสาบ
ข้าวตอกแตก
พลัน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้าคณะคสช. พร้อมทั้งแถลงโรดแม็ปนำพาประเทศไปสู่ทางออกโดยเร็ว
ตามสูตรสำเร็จที่คณะรัฐประหารไทย ชุดก่อนๆ กระทำกันหลังจากนี้ คือแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มีธรรมนูญการปกครองชั่วคราว
แต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ "สนช." ร่างกฎกติกากันใหม่ แล้วคายอำนาจ คืนประชาธิปไตยให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันใหม่
นอกจากนายกฯ ชั่วคราวแล้ว บุคคลที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็น สมาชิกสนช. ก็เป็นที่สนใจไม่น้อยเช่นกัน
ถ้า คสช. ใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกสมัย "บิ๊กบัง" พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร 19 ก.ย.2549
คาดว่ากลุ่มอดีตส.ว.สรรหา อธิการบดีมหาวิทยาลัย นักวิชาการ กปปส. บุคคลในเครือข่ายชนชั้นนำเก่า รวมถึงฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย
น่าจะได้รับโอกาสมากที่สุด
เพราะมีประสบการณ์ เคยทำงานรับใช้สนองนโยบายคณะรัฐประหารชุดก่อนมาแล้ว
เข้าใจงาน ได้รับแต่งตั้งปุ๊บก็สามารถทำงานได้เลย ไม่เคอะเขิน ไม่ต้องมาเรียนรู้งานกันใหม่
เช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองของเครือข่ายชนชั้นนำเก่า จะได้รับผลพวงอย่างไรบ้างจากรัฐประหารล่าสุด
คงจำกันได้ หลังยุค "รสช." และ "คมช." ก็พรรคนี้แหละได้รับประโยชน์เต็มๆ
ยิ่งเที่ยวนี้เดิมพันหมดหน้าตัก
ตั้งแต่ผู้อาวุโส หัวหน้า แกนนำ ลงไปถึงลูกพรรค ประสานเสียงร่วมกันทำทุกวิถีทาง เพื่อกรุยทางไปสู่การแทรกแซงทางการเมืองโดยกองทัพ
สุดท้ายประสบผลสำเร็จ เป็นชัยชนะ อีกผลงานทางการเมืองของพรรค
ทั้งการบอยคอตเลือกตั้ง ขัดขวางประชาชนเข้าคูหาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียง ก่อม็อบเรียกร้องหาอำนาจพิเศษ อำนาจนอกระบบ
สิ่งเหล่านี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว
เป็นพรรคที่ปรับตัวอยู่ได้ในทุกสถานการณ์ ผ่านวิกฤตทางการเมืองมา นับไม่ถ้วน แต่ก็รักษาพรรคเอาตัวรอดได้ด้วยวิธีการพิเศษทุกที
ดูแล้วหลังรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น
ดังคำพูดเปรียบเปรยของแกนนำพรรคนี้เอง "แมลงสาบ ฆ่าไม่ตาย"
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd01USXdOVFl3TUE9PQ==§ionid=
ไม่มีอะไรมาเม้นต่อแล้วนะครับ แค่เอาข้อความจากหนังสือพิมพ์มาให้อ่านกันที่นี่ ไม่แน่ใจว่าจะโดนลบหรือเปล่า
ตอนต่อไปถึงตอนจบ เป็นอะไรที่คาดเดาได้ง่ายๆ
ข้าวตอกแตก
พลัน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้าคณะคสช. พร้อมทั้งแถลงโรดแม็ปนำพาประเทศไปสู่ทางออกโดยเร็ว
ตามสูตรสำเร็จที่คณะรัฐประหารไทย ชุดก่อนๆ กระทำกันหลังจากนี้ คือแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มีธรรมนูญการปกครองชั่วคราว
แต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ "สนช." ร่างกฎกติกากันใหม่ แล้วคายอำนาจ คืนประชาธิปไตยให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันใหม่
นอกจากนายกฯ ชั่วคราวแล้ว บุคคลที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็น สมาชิกสนช. ก็เป็นที่สนใจไม่น้อยเช่นกัน
ถ้า คสช. ใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกสมัย "บิ๊กบัง" พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร 19 ก.ย.2549
คาดว่ากลุ่มอดีตส.ว.สรรหา อธิการบดีมหาวิทยาลัย นักวิชาการ กปปส. บุคคลในเครือข่ายชนชั้นนำเก่า รวมถึงฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย
น่าจะได้รับโอกาสมากที่สุด
เพราะมีประสบการณ์ เคยทำงานรับใช้สนองนโยบายคณะรัฐประหารชุดก่อนมาแล้ว
เข้าใจงาน ได้รับแต่งตั้งปุ๊บก็สามารถทำงานได้เลย ไม่เคอะเขิน ไม่ต้องมาเรียนรู้งานกันใหม่
เช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองของเครือข่ายชนชั้นนำเก่า จะได้รับผลพวงอย่างไรบ้างจากรัฐประหารล่าสุด
คงจำกันได้ หลังยุค "รสช." และ "คมช." ก็พรรคนี้แหละได้รับประโยชน์เต็มๆ
ยิ่งเที่ยวนี้เดิมพันหมดหน้าตัก
ตั้งแต่ผู้อาวุโส หัวหน้า แกนนำ ลงไปถึงลูกพรรค ประสานเสียงร่วมกันทำทุกวิถีทาง เพื่อกรุยทางไปสู่การแทรกแซงทางการเมืองโดยกองทัพ
สุดท้ายประสบผลสำเร็จ เป็นชัยชนะ อีกผลงานทางการเมืองของพรรค
ทั้งการบอยคอตเลือกตั้ง ขัดขวางประชาชนเข้าคูหาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียง ก่อม็อบเรียกร้องหาอำนาจพิเศษ อำนาจนอกระบบ
สิ่งเหล่านี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว
เป็นพรรคที่ปรับตัวอยู่ได้ในทุกสถานการณ์ ผ่านวิกฤตทางการเมืองมา นับไม่ถ้วน แต่ก็รักษาพรรคเอาตัวรอดได้ด้วยวิธีการพิเศษทุกที
ดูแล้วหลังรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น
ดังคำพูดเปรียบเปรยของแกนนำพรรคนี้เอง "แมลงสาบ ฆ่าไม่ตาย"
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd01USXdOVFl3TUE9PQ==§ionid=
ไม่มีอะไรมาเม้นต่อแล้วนะครับ แค่เอาข้อความจากหนังสือพิมพ์มาให้อ่านกันที่นี่ ไม่แน่ใจว่าจะโดนลบหรือเปล่า