วันนี้ผมตื่นมาเพราะน้ามาเรียกว่า “แปดโมงแล้วนะ” ลืมตาไปมองนาฬิกา ในใจก็นึกรำคาน พึ่งจะเจ็ดโมงห้าสิบเอง ใครว่าแปดโมง น้าเว่อจริงๆ โมโหปนหงุดหงิด คิดไปคิดมา ผมก็ตื่นแล้วนี่นะ เจ็ดโมงห้าสิบก็เจ็ดโมงห้าสิบ ลุกก็ได้ ผมลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ที่ทำงานผมนั่งวินมอเตอร์ไซค์จากบ้านไป ใช้เวลาแค่เจ็ดนาที ยังเข้างานทัน เวลาเข้างานแปดโมงสิบห้านาที ได้แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง รีบวิ่งไปสแกนบัตร แปดโมงสิบห้านาทีเป๊ะเลย ผมนั่งทำงานจนเกือบสิบเอ็ดโมง ได้เวลาลงไปสูบบุหรี่แล้วสิ ผมลุกไปนั่งสูบบุหรี่ที่ชั้นล่างบริเวณที่สูบบุหรี่ หยิบไอโฟนขึ้นมาเช็คข้อความ แฟนผมส่งข้อความมาหาแล้วนี่ แต่ผมไม่มีอารณ์มานั่งอ่านหรอก เราทะเลาะกันอยู่ แล้วบุหรี่ก็หมดมวน หมดเวลาคิดเรื่องอื่นแล้ว ผมต้องกลับไปทำงาน พักเที่ยวนั่งกินข้าว แล้วก็กลับมานั่งทำงาน ซัพพอร์ตลูกค้า ตีกับกับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เป็นกิจวัตรผมไปแล้วงานนี้ นั่งทำจนถึงห้าโมงสิบห้า เวลาเลิกงานพอดี เพื่อนๆที่ออฟฟิตรีบพากันเก็บของกลับบ้าน เคอร์ฟิวส์ ส่วนผมไม่เป็นไรหรอก บ้านผมอยู่แค่นี้เอง จะวันไหนผมก็นั่งทำจนเกินเวลาเลิกงานอยู่แล้ว แถมวันนี้ไม่มีอารมณ์รีบกลับด้วย จะรีบกลับไปทำไม ผมทะเลาะกับแฟน ผมยังไม่อยากกลับไปนั่งเบื่อที่บ้านหรอก แฟนผมก็ไม่อยู่ คิดอย่างนั้นผมจึงนั่งทำงานของผมต่อไปจนหกโมง ได้ฤกษ์เก็บของออกละ ผมเหนื่อยแล้ว อยากไปหาเบียร์เย็นๆจิบฉลองเคอชิว เอ๊ย!! เคอฟิวซ์ซะหน่อย
ไม่รอช้า ผมตรงแด่วเดินข้ามถนนมาร้านเบียร์เจ้าประจำที่ผมมักจะมาดื่มอยู่บ่อยๆ เพราะใกล้ที่ทำงาน แถมมีเบียร์สเตลล่าสด และ แซลมอลซี๊ดส์ (สลัดแซลมอนดิบ คลุกเคล้ากับน้ำยำเผ็ดๆ) ของโปรดของผมด้วย ร้านนี้มากี่ทีก็ชอบ ไม่ใช่ร้านใหญ่โต แต่บรรยากาศสบายๆ ออกแนวฝรั่งหน่อยๆ มีทั้งโซนอินดอร์ และเอ๊าท์ดอร์ ซึ่งผมมักจะนั่งโซนข้างนอก วันนี้ก็เหมือนเคย พนักงานรู้ใจ ผมเข้ามานังปุ๊บก็มาถามผมว่า สเตลล่าเหมือนเดิมนะครับ ผมเลยเพิ่มว่า อย่าลืมแซลมอนซี๊ดด้วย พนักงานรับคำ ไม่นานเมนูที่ผมสั่งก็มาเสริฟที่โต๊ะ จิบเบียร์ไปพลางนึกสับสนกับชีวิตของผมไป นี่ผมทำอะไรอยู่เนี่ย มานั่งที่นี่คนเดียวทำไม อ่อใช่ ผมคงกำลังไม่สบายใจเรื่องแฟนอยู่ ผมกับแฟนคบกันโดยที่มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ การที่ต้องเก็บเรื่องราวทุกอย่างไว้มันอึดอัด หนัก และทรมานใจจริงๆ เครียดไปก็กดไอโฟนเข้าเฟสบุ๊คเล่นๆไปเรื่อย จนเห็นโพสของอาจารย์ที่เคยสอนผมสมัยเรียนเอกญี่ปุ่นที่มหาลัย เกี่ยวกับความรัก เรารักที่ตัวเขา หรือ เรารักเขาที่อะไร ผมไม่ได้ติดต่ออาจารย์คนนี้นานแล้ว ตั้งแต่ผมจบปริญญาตรี แต่วันนี้ไม่รู้เพราะเบียร์หรือเพราะความรู้สึกหนักอึ้งในใจผม ผมจึงตัดสินใจส่งข่อความไปทางเฟศบุ๊คถึงอาจารย์ ระบายเรื่องราวเกี่ยวกับผมและแฟนผมที่ไม่สามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ส่งไปให้อาจารย์
วันที่ผมสับสน
ไม่รอช้า ผมตรงแด่วเดินข้ามถนนมาร้านเบียร์เจ้าประจำที่ผมมักจะมาดื่มอยู่บ่อยๆ เพราะใกล้ที่ทำงาน แถมมีเบียร์สเตลล่าสด และ แซลมอลซี๊ดส์ (สลัดแซลมอนดิบ คลุกเคล้ากับน้ำยำเผ็ดๆ) ของโปรดของผมด้วย ร้านนี้มากี่ทีก็ชอบ ไม่ใช่ร้านใหญ่โต แต่บรรยากาศสบายๆ ออกแนวฝรั่งหน่อยๆ มีทั้งโซนอินดอร์ และเอ๊าท์ดอร์ ซึ่งผมมักจะนั่งโซนข้างนอก วันนี้ก็เหมือนเคย พนักงานรู้ใจ ผมเข้ามานังปุ๊บก็มาถามผมว่า สเตลล่าเหมือนเดิมนะครับ ผมเลยเพิ่มว่า อย่าลืมแซลมอนซี๊ดด้วย พนักงานรับคำ ไม่นานเมนูที่ผมสั่งก็มาเสริฟที่โต๊ะ จิบเบียร์ไปพลางนึกสับสนกับชีวิตของผมไป นี่ผมทำอะไรอยู่เนี่ย มานั่งที่นี่คนเดียวทำไม อ่อใช่ ผมคงกำลังไม่สบายใจเรื่องแฟนอยู่ ผมกับแฟนคบกันโดยที่มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ การที่ต้องเก็บเรื่องราวทุกอย่างไว้มันอึดอัด หนัก และทรมานใจจริงๆ เครียดไปก็กดไอโฟนเข้าเฟสบุ๊คเล่นๆไปเรื่อย จนเห็นโพสของอาจารย์ที่เคยสอนผมสมัยเรียนเอกญี่ปุ่นที่มหาลัย เกี่ยวกับความรัก เรารักที่ตัวเขา หรือ เรารักเขาที่อะไร ผมไม่ได้ติดต่ออาจารย์คนนี้นานแล้ว ตั้งแต่ผมจบปริญญาตรี แต่วันนี้ไม่รู้เพราะเบียร์หรือเพราะความรู้สึกหนักอึ้งในใจผม ผมจึงตัดสินใจส่งข่อความไปทางเฟศบุ๊คถึงอาจารย์ ระบายเรื่องราวเกี่ยวกับผมและแฟนผมที่ไม่สามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ส่งไปให้อาจารย์