ผมฝันว่า เมื่อคุณประยุทธ์ทำรัฐประหารสำเร็จ ประเทศไทยคืนสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืน
ผมฝันว่า หลังรัฐประหาร เรามีทหารผู้รักชาติที่ต้องการทำงานให้ประเทศ โดยไม่เคยหวังผลตอบแทน
ผมฝันต่อไปอีกว่า จากการที่เราได้รัฐบาลคนดีที่ผ่านการคัดเลือกจากพวกคนดีด้วยกัน ประเทศไทยปลอดจากการคอรัปชั่นในทุกภาคส่วน เพราะไม่มีนักการเมืองขี้ฉ้อทั้งหลายมาเกาะกินประเทศ
ผมยังฝันต่ออีกว่า ประเทศไทยปราศจากความขัดแย้งกันตลอดไป เพราะองค์กรอิสระต่างๆทำงานเข้าขากับรัฐบาลเป็นอย่างดี
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะมาเร่งชี้มูลความผิดรัฐบาลกันอีกต่อไป เพราะคนดีไม่มีทางทำผิด
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะมาวินิจฉัยกันแบบสุกเอาเผากิน เพราะสถานการณ์บ้านเมืองจะไม่วิกฤติอีก
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะต้องมีองค์กรสิทธิมนุษยชน เพราะคนไทยจะไม่มีใครถูกละเมิดกันอีก
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะมีพรรคการเมืองมาบอยคอตการเลือกตั้ง เพราะไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะเห็นความถ่อยเถื่อนในสภา เพราะเป็นพวกเดียวกันหมด
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะเห็นเผด็จการรัฐสภา เพราะเสียงส่วนใหญ่ล้วนแต่ต้องการทำประโยชน์ให้กับประเทศ
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะเป็นสภาผัวเมีย เพราะคนส่วนใหญ่ในสภาล้วนมาจากการลากตั้งจากพวกคนดี
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะต้องใช้การทำรัฐประหารในการแก้ปัญหาทางการเมือง เพราะการเมืองไม่มีปัญหาอีกต่อไป
ด้วยรัฐบาลคนดี จะทำงานกันอย่างโปร่งใส จนไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบ
ด้วยรัฐบาลคนดี จะทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข โดยไม่ต้องพึ่งประชานิยม
ด้วยรัฐบาลคนดี จะทำให้ประเทศเดินหน้าทัดเทียมนานาประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องหนี้
ด้วยรัฐบาลคนดี จะไม่มีทางลุแก่อำนาจ จนทำให้ข้าราชการหมดกำลังใจ
ด้วยรัฐบาลคนดี จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศ จนเข้ามาลงทุนกันสนั่นหวั่นไหว
ด้วยรัฐบาลคนดี จะเป็นรัฐบาลที่ได้รับการคัดสรรค์จากกองทัพตามระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และผมยังฝันไปถึงประเทศไทยภายใต้การนำของคนดี ทำให้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจโลก ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งนานาประเทศ ไม่จำเป็นต้องพึ่งการท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องพึ่งการส่งออกหรือนำเข้า และไม่จำเป็นต้องฟังเสียงใคร มีแต่ประเทศอื่นต้องคอยฟังเสียงเราต่างหากครับ
แต่พอผมตกใจตื่นขึ้นมา เผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง จึงได้พบว่า เราไม่ได้ปกครองกันในระบอบประชาธิปไตยเสียแล้ว เราจึงมีหน้าที่เป็นพลเมืองดี ด้วยการฟัง และก็ทำตามเท่านั้นเอง เห็นหรือยังครับ ชีวิตคนไทยช่างสะดวกสบายอะไรเช่นนี้ ในยุคคนดีครองเมือง
เมื่อคืนนี้ ผมฝันดีเหลือเกินครับ
ผมฝันว่า หลังรัฐประหาร เรามีทหารผู้รักชาติที่ต้องการทำงานให้ประเทศ โดยไม่เคยหวังผลตอบแทน
ผมฝันต่อไปอีกว่า จากการที่เราได้รัฐบาลคนดีที่ผ่านการคัดเลือกจากพวกคนดีด้วยกัน ประเทศไทยปลอดจากการคอรัปชั่นในทุกภาคส่วน เพราะไม่มีนักการเมืองขี้ฉ้อทั้งหลายมาเกาะกินประเทศ
ผมยังฝันต่ออีกว่า ประเทศไทยปราศจากความขัดแย้งกันตลอดไป เพราะองค์กรอิสระต่างๆทำงานเข้าขากับรัฐบาลเป็นอย่างดี
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะมาเร่งชี้มูลความผิดรัฐบาลกันอีกต่อไป เพราะคนดีไม่มีทางทำผิด
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะมาวินิจฉัยกันแบบสุกเอาเผากิน เพราะสถานการณ์บ้านเมืองจะไม่วิกฤติอีก
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะต้องมีองค์กรสิทธิมนุษยชน เพราะคนไทยจะไม่มีใครถูกละเมิดกันอีก
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะมีพรรคการเมืองมาบอยคอตการเลือกตั้ง เพราะไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะเห็นความถ่อยเถื่อนในสภา เพราะเป็นพวกเดียวกันหมด
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะเห็นเผด็จการรัฐสภา เพราะเสียงส่วนใหญ่ล้วนแต่ต้องการทำประโยชน์ให้กับประเทศ
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะเป็นสภาผัวเมีย เพราะคนส่วนใหญ่ในสภาล้วนมาจากการลากตั้งจากพวกคนดี
ไม่มีอีกแล้ว ที่จะต้องใช้การทำรัฐประหารในการแก้ปัญหาทางการเมือง เพราะการเมืองไม่มีปัญหาอีกต่อไป
ด้วยรัฐบาลคนดี จะทำงานกันอย่างโปร่งใส จนไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบ
ด้วยรัฐบาลคนดี จะทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข โดยไม่ต้องพึ่งประชานิยม
ด้วยรัฐบาลคนดี จะทำให้ประเทศเดินหน้าทัดเทียมนานาประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องหนี้
ด้วยรัฐบาลคนดี จะไม่มีทางลุแก่อำนาจ จนทำให้ข้าราชการหมดกำลังใจ
ด้วยรัฐบาลคนดี จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศ จนเข้ามาลงทุนกันสนั่นหวั่นไหว
ด้วยรัฐบาลคนดี จะเป็นรัฐบาลที่ได้รับการคัดสรรค์จากกองทัพตามระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และผมยังฝันไปถึงประเทศไทยภายใต้การนำของคนดี ทำให้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจโลก ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งนานาประเทศ ไม่จำเป็นต้องพึ่งการท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องพึ่งการส่งออกหรือนำเข้า และไม่จำเป็นต้องฟังเสียงใคร มีแต่ประเทศอื่นต้องคอยฟังเสียงเราต่างหากครับ
แต่พอผมตกใจตื่นขึ้นมา เผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง จึงได้พบว่า เราไม่ได้ปกครองกันในระบอบประชาธิปไตยเสียแล้ว เราจึงมีหน้าที่เป็นพลเมืองดี ด้วยการฟัง และก็ทำตามเท่านั้นเอง เห็นหรือยังครับ ชีวิตคนไทยช่างสะดวกสบายอะไรเช่นนี้ ในยุคคนดีครองเมือง