สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
เรื่องแรก
ไม่มีใครผิดครับ แค่เข้าใจไม่ตรงกัน
แม่ จขกท ควรจะนำแผงยา ซองยาที่มีชื่อยา ไปด้วยหากจะไปซื้อยาทานเองที่ร้านยา การทำของคุณแม่ จขกท จะเป็นอันตรายต่อตัวคนซื้อเองหากได้ยาที่ผิดมา(หากคนที่จ่ายยาไม่ใช่เภสัช) เช่น ถ้าเป็นยาความดัน หัวใจ เบาหวานเป็นต้น
แม่ จขกท ไปบอกสรรพคุณยา ซึ่งก็ยากในการจ่ายยาอยู่แล้วเพราะยามีเยอะ แล้วดันเป็นสรรพคุณยาที่ไม่ตรงกับยาที่ต้องการอีก omeprazole เป็นยาลดกรด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และให้ออกฤทธิ์ดีที่สุดควรทานตอนท้องว่างคือ ก่อนอาหารครับ
เภสัชบอกได้ยินว่ายาช่วยย่อยที่กินก่อนอาหาร เค้าก็บอกถูกต้องน่ะครับว่าไม่มี แต่ไม่แน่ใจว่าน้ำเสียงจะเป็นอย่างไร
เรื่องที่สอง
เรื่องไม่เป็นเรื่องครับ
เรื่องที่สาม
ความต้องการของ คุณแม่ จขกท เยอะมากเกินไปครับ เป็นผม ถ้าผมอารมณ์ปรกติ อาจจะเปลื่ยนให้แบบไม่ค่อยเต็มใจ แต่ถ้าช่วงอารมณ์เสียไม่เปลื่ยนให้แน่นอนครับ
เพราะ " ซื้อไปแล้วไม่รู้ว่า คุณแม่คุณเก็บดีรึเปล่า อาจจะเอาไว้ในรถโดนความร้อน โดนแดด ของเสียก็ได้" อีกอย่างของก็ไม่ได้หมดอายุ เหลืออีกตั้งนาน ไม่เห็นมันน่าจะเป็นปัญหาเลย
เภสัชก็อาจจะพูดไม่ดีด้วยอาจจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่หรืออารมณ์เสียมาก่อนเลยทำให้แสดงอาการไม่ดีออกไปครับ
ส่วนตัวผมว่าร้านยาร้านนั้นไม่เหมาะกับความต้องการของคุณแม่ จขกท ครับ เปลื่ยนไปร้านอื่นเถอะครับเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย
ขอฝากอีกนิดครับ
1. ขมิ้นชัน สรรพคุณคือ ช่วยขับลมน่ะครับ ไม่ได้ช่วยลดกรด
2. "เข้าร้านยาทุกครั้งควรถามหาเภสัชกรน่ะครับ" ถ้าไม่มีไม่อยู่ อย่าซื้อครับ ไปร้านอื่นที่มี หรือหาหมอดีที่สุด แล้วถ้าไม่มีเภสัชแล้วยังขายยาอันตรายอยู่ โทรร้องเรียนได้ครับที่เบอร์ 1556 ครับ
ตั้งขอสังเกตุนิดนึง
จขกท บอกว่า ซองยา omeprazole ได้จาก รพ. เขียนสรรพคุณว่า ลดกรด ช่วยย่อย ผมว่ามันแปลกๆตรง สรรพคุณช่วยย่อยนี้แหละครับ
ไม่มีใครผิดครับ แค่เข้าใจไม่ตรงกัน
แม่ จขกท ควรจะนำแผงยา ซองยาที่มีชื่อยา ไปด้วยหากจะไปซื้อยาทานเองที่ร้านยา การทำของคุณแม่ จขกท จะเป็นอันตรายต่อตัวคนซื้อเองหากได้ยาที่ผิดมา(หากคนที่จ่ายยาไม่ใช่เภสัช) เช่น ถ้าเป็นยาความดัน หัวใจ เบาหวานเป็นต้น
แม่ จขกท ไปบอกสรรพคุณยา ซึ่งก็ยากในการจ่ายยาอยู่แล้วเพราะยามีเยอะ แล้วดันเป็นสรรพคุณยาที่ไม่ตรงกับยาที่ต้องการอีก omeprazole เป็นยาลดกรด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และให้ออกฤทธิ์ดีที่สุดควรทานตอนท้องว่างคือ ก่อนอาหารครับ
เภสัชบอกได้ยินว่ายาช่วยย่อยที่กินก่อนอาหาร เค้าก็บอกถูกต้องน่ะครับว่าไม่มี แต่ไม่แน่ใจว่าน้ำเสียงจะเป็นอย่างไร
เรื่องที่สอง
เรื่องไม่เป็นเรื่องครับ
เรื่องที่สาม
ความต้องการของ คุณแม่ จขกท เยอะมากเกินไปครับ เป็นผม ถ้าผมอารมณ์ปรกติ อาจจะเปลื่ยนให้แบบไม่ค่อยเต็มใจ แต่ถ้าช่วงอารมณ์เสียไม่เปลื่ยนให้แน่นอนครับ
เพราะ " ซื้อไปแล้วไม่รู้ว่า คุณแม่คุณเก็บดีรึเปล่า อาจจะเอาไว้ในรถโดนความร้อน โดนแดด ของเสียก็ได้" อีกอย่างของก็ไม่ได้หมดอายุ เหลืออีกตั้งนาน ไม่เห็นมันน่าจะเป็นปัญหาเลย
เภสัชก็อาจจะพูดไม่ดีด้วยอาจจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่หรืออารมณ์เสียมาก่อนเลยทำให้แสดงอาการไม่ดีออกไปครับ
ส่วนตัวผมว่าร้านยาร้านนั้นไม่เหมาะกับความต้องการของคุณแม่ จขกท ครับ เปลื่ยนไปร้านอื่นเถอะครับเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย
ขอฝากอีกนิดครับ
1. ขมิ้นชัน สรรพคุณคือ ช่วยขับลมน่ะครับ ไม่ได้ช่วยลดกรด
2. "เข้าร้านยาทุกครั้งควรถามหาเภสัชกรน่ะครับ" ถ้าไม่มีไม่อยู่ อย่าซื้อครับ ไปร้านอื่นที่มี หรือหาหมอดีที่สุด แล้วถ้าไม่มีเภสัชแล้วยังขายยาอันตรายอยู่ โทรร้องเรียนได้ครับที่เบอร์ 1556 ครับ
ตั้งขอสังเกตุนิดนึง
จขกท บอกว่า ซองยา omeprazole ได้จาก รพ. เขียนสรรพคุณว่า ลดกรด ช่วยย่อย ผมว่ามันแปลกๆตรง สรรพคุณช่วยย่อยนี้แหละครับ
ความคิดเห็นที่ 18
เรื่องแรกปกติ
เรื่องที่2 เค้าไม่ได้ถาม แม่ตุณจะบอกเพื่อ
เรื่องที่3 แม่คุณหาเรื่องมากๆ ของยังไม่หมดอายุ ไม่ใกล้ด้วย มีอายุอีกเป็นปี ไปขอเปลี่ยน
ขอโทษเถอะ แต่ก่อนบ้านเราก็เป็นร้านขายยา ถ้าเจองี้ก็ไม่ให้เปลี่ยน
เป็นไปไม่ได้หรอกนะ ที่เค้าจะผลิตปุ๊บลงร้านปั๊บ มันก็ต้องมีเวลาที่อยู่ในสต๊อกบ้าง
กว่าจะออกจากโรงงาน กว่าจะออกจากตัวแทนจำหน่าย กว่าจะออกจากยี่หั๊ว ซาปั๊ว
ปวดหัวกะลูกค้าแบบนี้
เรื่องที่2 เค้าไม่ได้ถาม แม่ตุณจะบอกเพื่อ
เรื่องที่3 แม่คุณหาเรื่องมากๆ ของยังไม่หมดอายุ ไม่ใกล้ด้วย มีอายุอีกเป็นปี ไปขอเปลี่ยน
ขอโทษเถอะ แต่ก่อนบ้านเราก็เป็นร้านขายยา ถ้าเจองี้ก็ไม่ให้เปลี่ยน
เป็นไปไม่ได้หรอกนะ ที่เค้าจะผลิตปุ๊บลงร้านปั๊บ มันก็ต้องมีเวลาที่อยู่ในสต๊อกบ้าง
กว่าจะออกจากโรงงาน กว่าจะออกจากตัวแทนจำหน่าย กว่าจะออกจากยี่หั๊ว ซาปั๊ว
ปวดหัวกะลูกค้าแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 17
ตามข้อเท็จจริงข้อมูลที่เภสัชกรบอก ไม่ผิดนะคะ
เราไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว เภสัชกรคนนั้นพูดตามที่คุณแม่จขกท.บอกมาจริงมั้ย ถ้าจริง
ส่วนตัวเราคิดว่า เภสัชกรออกจะใจร้อนเกินไปหน่อยค่ะ น่าจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจมากกว่านี้ เช่น
เรื่องที่ 1
แม่เรา : "มียาที่ช่วยย่อยอาหารเป็นแคปซูล ที่มันกินก่อนอาหารไหมค่ะ?"
เภสัชฯ : "ยาย่อยอาหารอะไรกินก่อนอาหาร ไม่มีหรอกค่ะ มันต้องกินหลังอาหาร"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 2
แม่เรา : ยื่นแผงโสม "เนี่ยซื้อมาจากเซเว่นจริงๆค่ะ" (แม่เราคงลืมเรื่องก่อนหน้าแล้วเขาคงอยากพิสูจน์ว่ามันมีขายจริงในเซเว่น)
เภสัชฯ : หยิบดูแล้วทำคล้ายๆโยนให้มันวางบนตู้กระจกเหมือนเดิม นางพูดว่า"ของปลอมค่ะ! ไปแจ้งตำรวจจับได้เลย"
ตอนนั้นเราคิดว่าแม่เราคง งง และทำอะไรไม่ถูกค่ะ อยู่ๆให้แจ้งตำรวจไปจับเซเว่น - -"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเองไม่ใช่เภสัชกรร้านยานะคะ แต่เราทำอาชีพที่ต้องเจอผู้ป่วยเยอะแยะเหมือนกัน
เราไม่อยากเข้าข้างใคร เภสัชกรเองก็มีวันที่อารมณ์ดีอารมณ์เสียได้ ลูกค้าเองก็เหมือนกัน
ถ้าเภสัชกรตอบตามที่คุณแม่คุณเล่ามาจริงๆ ตอบแบบห้วนๆ เราก็ว่า เภสัชกรผิดค่ะ
แต่ถ้าคุณแม่คุณเอง หงุดหงิดมาก่อนหน้าแล้ว เภสัชกรจริงๆอาจจะอธิบายมากกว่านี้
แต่คุณแม่คุณอารมณ์ไม่ดี แล้วมาเล่าเป็นอีกแบบ อันนี้ก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน
เราเลยไม่อยากตัดสินว่าใครถูกผิด แต่อธิบายให้เห็นว่าจริงๆ ที่ถูกเภสัชกรควรจะอธิบายยังไง
เราไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว เภสัชกรคนนั้นพูดตามที่คุณแม่จขกท.บอกมาจริงมั้ย ถ้าจริง
ส่วนตัวเราคิดว่า เภสัชกรออกจะใจร้อนเกินไปหน่อยค่ะ น่าจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจมากกว่านี้ เช่น
เรื่องที่ 1
แม่เรา : "มียาที่ช่วยย่อยอาหารเป็นแคปซูล ที่มันกินก่อนอาหารไหมค่ะ?"
เภสัชฯ : "ยาย่อยอาหารอะไรกินก่อนอาหาร ไม่มีหรอกค่ะ มันต้องกินหลังอาหาร"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 2
แม่เรา : ยื่นแผงโสม "เนี่ยซื้อมาจากเซเว่นจริงๆค่ะ" (แม่เราคงลืมเรื่องก่อนหน้าแล้วเขาคงอยากพิสูจน์ว่ามันมีขายจริงในเซเว่น)
เภสัชฯ : หยิบดูแล้วทำคล้ายๆโยนให้มันวางบนตู้กระจกเหมือนเดิม นางพูดว่า"ของปลอมค่ะ! ไปแจ้งตำรวจจับได้เลย"
ตอนนั้นเราคิดว่าแม่เราคง งง และทำอะไรไม่ถูกค่ะ อยู่ๆให้แจ้งตำรวจไปจับเซเว่น - -"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเองไม่ใช่เภสัชกรร้านยานะคะ แต่เราทำอาชีพที่ต้องเจอผู้ป่วยเยอะแยะเหมือนกัน
เราไม่อยากเข้าข้างใคร เภสัชกรเองก็มีวันที่อารมณ์ดีอารมณ์เสียได้ ลูกค้าเองก็เหมือนกัน
ถ้าเภสัชกรตอบตามที่คุณแม่คุณเล่ามาจริงๆ ตอบแบบห้วนๆ เราก็ว่า เภสัชกรผิดค่ะ
แต่ถ้าคุณแม่คุณเอง หงุดหงิดมาก่อนหน้าแล้ว เภสัชกรจริงๆอาจจะอธิบายมากกว่านี้
แต่คุณแม่คุณอารมณ์ไม่ดี แล้วมาเล่าเป็นอีกแบบ อันนี้ก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน
เราเลยไม่อยากตัดสินว่าใครถูกผิด แต่อธิบายให้เห็นว่าจริงๆ ที่ถูกเภสัชกรควรจะอธิบายยังไง
แสดงความคิดเห็น
เภสัชฯทำถูกต้องแล้ว หรือแม่เราเป็นฝ่ายผิดเอง สงสัยค่ะ ?
เริ่มแรกเลยคือพ่อเรามีปัญหาเรื่องกรดไหลย้อนซึ่งมันรักษาไม่หาย จู่ๆ จะเกิดอาการก็เกิดแบบไม่ทันตั้งตัว แม่เราได้คำแนะนำมากมาย
หาอันนี้มากินนะ ใช้ตัวนี้สิดีนะ ฯ ... ก็พยายามหาซื้อยามาให้พ่อทานค่ะ จนวันนึงแม่เราฟังโฆษณาผ่านวิทยุประมาณว่า "ขมิ้นชันยี่ห้อ... ช่วยลดกรด.....หาซื้อได้แล้วในเซเว่น" เมื่อได้ยินวันรุ่งขึ้นก่อนแม่เราไปทำงานเขาก็แวะเข้าเซเว่น (สาขาขอไม่บอกนะคะ เผื่อมีปัญหา- -*)
แม่เราก็เข้าไปเดินหาขมิ้นตัวนี้ค่ะ แล้วก็เจอแต่มันไม่ได้อยู่เป็นซองหรือกล่อง แต่เป็นแบบแผงค่ะ ด้วยราคาที่ไม่แพง(แม่เราสายตายาวและไม่ได้ใส่แว่น)แม่ก็เลยหยิบมา วันทีนี้แม่เราก็เห็นว่าแผงข้างๆดูน่ากินก็หยิบมาดูมันเขียนว่า โสมฯจินโซมิน(แม่เราไม่รู้จักรวมถึงตัวเราด้วย)ด้วยความที่มันมีสมุนไพร20กว่า บวกกับแม่เราคิดว่ามันไม่น่าแพงเลยหยิบมา 1 แผงจะมาลองกิน(ไปจ่ายเงินกลายเป็น62 บ./แผง - -; บ่นไม่หยุดเลย)
เหตุการณ์เริ่มต้นก็ประมาณนี้ค่ะ (มาลองกินลองศึกษา เราค้นหาด้วยความอยากรู้เรื่องโสมและขมิ้นก็เจอหลายๆกระทู้ในพันทิปช่วยให้ข้อมูล^^)
ต่อมาโสมจะหมดค่ะ เรากับแม่เลยไปที่ร้านขายยา โดยร้านนี้เปิดใหม่ค่ะและมีพวกเวชภัณฑ์ ยา อาหารเสริม เครื่องสำอางฯครบมันเลยดึงดูดใจ55
แม่เราเอาตัวอย่างโสมแผงมาแล้วเดินเข้าร้านแบบไม่คิดอะไร ในร้านมี สาวสวยคาดว่าเป็นเภสัชฯ คุณป้ากับคุณลุงคงเป็นพ่อแม่ และนี้คือบทสนทนาในวันนั้นของแม่เราและสาวเภสัชฯยืนมองกัน 3-2 (อาจจะตกหล่นบางคำพูด เพราะจำไม่ค่อยได้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เหตุการณ์ผ่านไปค่ะ แม่เรากินแผงนั้นหมดแล้วก็เลิกกินค่ะ เพราะมันแพงและไม่รู้จะซื้อที่ไหน (ส่วนขมิ้นชันของพ่อแม่เราเปลี่ยนเป็นซื้อแบบกระปุกให้พ่อแทนค่ะ) แม่ไม่ได้เข้าร้านนั้นอีกเพราะไม่รู้จะไปซื้ออะไร แต่เรายังมีเรื่องต้องเข้าไปจนได้ค่ะ แฟนเราปวดหูมากๆเราก็พาไปซื้อยา รอบนี้ไม่มีอะไรค่ะ ก็ไปซื้อยาบอกอาการ แฟนเราก็บอกอาการไป ปวด เจ็บ ไม่ได้ยินเสียง ...ฯ เขาก็ให้จัดยาทานกับยาหยอดมา และเมื่ออาทิตย์ก่อนเราเจ็บคอไม่สบาย เสียงแหบพูดไม่ได้ สุดจะทนเลยจะไปซื้อยาทาน พอดีวันนั้นกลับบ้านดึกค่ะ ยาร้านใหญ่ๆที่เราเข้ามันปิด เราเลยข้ามฝั่งมาซื้อยาอีกร้าน (ร้านนี้เล็กกว่าเปิดมา20กว่าปีได้เด็กๆตั้งแต่เราจำความได้มันก็ขายอยู่แล้ว ตอนเราเห็นร้านใหญ่เราคิดว่าโห้..เปิดชนกันแบบนี้ร้านเล็กจะมีคนมาซื้อหรอวะ ในร้านมีคุณป้ากับคุณลุงคาดว่าเป็นสามีภรรยาเพราะเห็นช่วยกันขายมาตลอดไม่แก่ไม่หนุ่มสาว แต่ยังดูดีค่ะ เราเดินเข้าไปบอกอาการด้วยเสียงอันแสนแหบ เสียงเป็นเป็ดเลยTT เขาทราบทันทีค่ะว่าเสียงแหบ เราพยักหน้า เขาก็หันไปหยิบยามาจัดให้ ถามเราว่าเจ็บคอไหม? กลืนน้ำลายแล้วเจ็บไหม? มีเสมหะไหม? ฯ.. เรายิ้มเลย ยิ้มเพราะเขาถามอาการโดยที่เราไม่ต้องบอกอะไรเลย เราได้ยามากินในราคาที่ถูกกว่าร้านใหญ่ตรงข้ามมากๆ เวลาผ่านไปครอบครัวเราไม่ไปยุ่งกับร้านยาไหนอีกจนมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาค่ะ ทำเราปรี๊ดแตกมาก!
เหตุการณ์มีอยู่ว่า ก่อนหน้าวันที่จะมีปัญหา แม่เราไปซื้อกระปุกยาขมิ้นชันจากร้านใหญ่มาให้พ่อ ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ช่วงค่ำของวันเกิดปัญหาเราลงมาหาแม่เพราะนัดว่าจะให้พาไปโอนเงินตรงวงเวียนหน่อย ลงมาไม่เจอค่ะโทรฯหาก็ตัดสาย สักพักเสียงรถมาพอดี อ่อ..ไปกับพ่อนี่เอง เราก็ถือกุญแจไปรอละ บอกแม่ไปโอนเงินกัน แม่เราเดินเข้าบ้านแบบโมโหเลย สีหน้าออกเราเลยถามว่าเป็นอะไร
แม่เราบอกว่าเมื่อกี้ไปร้านขายยามา จะเอายาไปถามเพิ่งซื้อจากมัน(เริ่มเรียกหยาบละ55)มาวันก่อน กระปุกก็ยังไม่แกะ มันหาว่าแม่มีปัญหากับมันทุกรอบ เราก็เอ๋อค่ะ งงค่ะเกิดอะไรขึ้น? จากที่เราฟังมาค่ะบทสนทนาคล้ายๆแบบนี้มั้ง(จำที่เล่ามาค่ะ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์)
ณ ร้านขายยา มี 3 คนเหมือนเดิมค่ะ พ่อเรารอที่รถ แม่เราเดินไปซื้อ มีลูกค้าในร้านคนนึง ลูกค้าที่มาซื้อคือมีตัวอย่างยามา เภสัชฯนั่งอยู่ค่ะ แม่เภสัชฯถามลูกค้าเอาอะไรค่ะ? คนนั้นก็เอาตัวอย่างให้ดูแล้วเภสัชฯก็แบบสั่งๆว่ายาอยู่ตรงไหนแม่เภสัชฯก็หยิบมาคิดเงินจบการขายกับคนนั้น ถึงคิวแม่เราค่ะ
เราไม่ทราบว่าเขาซื้อโสมแผงมาอีกตอนไหนค่ะ และไม่แน่ใจว่า เหตุการณ์ไหนเริ่มก่อนแต่เรื่องประมาณนี้ค่ะ
เรื่องที่ 1 เกี่ยวกับยาที่ยายเราได้มาจาก รพ.ตำรวจ (คือยา omeprazole* ลดกรด ช่วยย่อย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 2 โสมจินโซมินวางขายในเซเว่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 3 ขอเปลี่ยนยา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเป็นยังไง แต่แม่ไม่ได้ซื้ออะไรกลับบ้านมาค่ะ เราคิดว่าก็จริงค่ะมันหมด 15 แต่ยามันของ 13 ซึ่งตอนนี้มัน 14 เป็นเรา เราก็ไม่ขอทาน ถ้ามันมีตัวเลือกที่ดีกว่า พ่อเราคงไม่กล้ากินจริง ๆ โดยเรื่องรวมๆแล้วก็ประมาณนี้
เราอยากทราบว่าเขาทำถูกต้องแล้วใช่ไหม?
- การที่แม่เราถามในเรื่องที่ 1 นั้นมันผิดหรอค่ะ ก็เราได้ยามาจาก รพ. ซึ่งหน้าซองก็เขียนว่าช่วยย่อย แค่ไม่มีตัวอย่าง แต่เขาจำว่ามันรักษาอะไร กินตอนไหนได้ แม่เราอายุ 50 แล้วนะคะ ทำไมไม่ถามว่าจะเอาไปทำอะไร อาการยังไงแล้วแนะนำยาให้ล่ะ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เรื่องที่ 2 การที่แม่เราไปเจอจินโซมินแบบแผงวางขายในเซเว่น ทางผู้ดูแลสินค้าเมก้ารู้เรื่องไหม? แล้วแม่เราซื้อมาจริง ๆ จะโกหกทำไม จะได้กินฟรีหรอ แค่หาที่ซื้อ แค่บอกว่าซื้อเซเว่นจริง ๆ ทำไมต้องให้เอาตำรวจไปจับ จะให้จับใครวะ?
- เรื่องที่ 3 การที่แม่เราถามถึงอายุของยาเนื่องจากมันปี 13 นี่มันผิดมากหรอ นี่มันปี 14 รู้ว่ากินได้ แต่ใครๆก็ต้องการของปีปัจจุบันไม่ใช่? แล้วขอซื้อ ไม่ได้ขโมย ไม่ได้ขอทำไมไม่ขาย
เราอยากจะให้แม่เอายาไปวางคืนมันจริง ๆ เราคิดนะ ทำไมเราไม่ไปกับแม่ว่ะ ทำไมเภสัชฯพูดจาแบบนี้ ถ้ามีลูกค้าเยอะจะกล้าพูดแบบนี้ไหม เรายอมรับว่าแม่เราเป็นคนเรื่องมาก เพราะแม่เราจัดว่าอายุเยอะแล้วนะ พูดมากถามมากมันธรรมดาป่ะ? แต่ถึงแบบนั้นคุณเภสัชฯก็ไม่ควรพูดจาทุเรศแบบนั้นออกมาอ่ะ สำหรับเรามันร้ายแรงนะ เปิดร้านใหญ่โต ขายยา อาหารเสริม และสินค้ามากมาย ขายกันอยู่ 3 คน พ่อแม่ลูก เวลาลูกไม่อยู่ไปซื้อยาที งานง่ายหน่อยก็ขายได้ งานยากหน่อยก็ต้องรอบอกอาการลูก ร้านขายยาทำง่าย ๆ แบบนี้เลยใช่ไหมค่ะ ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้