*** เรียนเชิญคนที่รัก tattoo มาเม้าท์มอยกันที่นี่จ้า ***

1. anchor tattoo on my left back

ตั้งใจไวว่าจะสักลายสมอในสไตล์ old school ที่หลังด้านซ้ายค่ะ จะมีกรอบคล้ายๆในภาพตัวอย่างนี่เลย และจะเพิ่มป้ายผ้าเข้าไปเลื้อยๆพันๆกับสมอด้วย ตรงหัวกระโหลกอาจจะตัดออกไป เพราะดูไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ อิอิ สำหรับความหมายของมันเราตั้งใจจะสื่อถึงพ่อเราค่ะ พ่อเราเป็นทหารเรือซึ่งสมอก็เป็นตัวแทนถึงอาชีพนี้ได้ดี และหน้าที่ใช้งานของสมอก็คือสิ่งที่เอาไว้ยึดเรือ เปรียบเสมือนพ่อที่เป็นหลักยึดชีวิตของเราค่ะ ส่วนในป้ายผ้าอยากจะเขียนว่า I'm proud of you dad. ง่ายๆแบบนี้ค่ะ ด้วยฟอนท์แบบ old school ที่เข้ากัน

2. Lady of Guadalupe on my right arm

เราไม่ใช่คนคาทอลิคหรอกค่ะ แต่อาจจะเป็นเพราะเราเรียนในคอนแวนต์มา 13 ปี เลยมีความผูกพันกับแม่พระมากพอสมควร และแม่พระในรูปแบบนี้ก็เป็นอีกแบบที่เราชอบมากๆ เป็นแม่พระที่ลงมาปรากฎตัวตามตำนานของชาวเม็กซิกันค่ะ ตั้งใจว่าจะทำที่ต้นแขนขวา เพราะรูปทรงจะเหมาะกันกับพื้นที่ดี แต่อยากจะได้แนวลายเส้นและการลงสีแบบรูปนักบุญตามตัวอย่างด้านล่างนี่มากกว่า มันดูนุ่มนวลกว่าค่ะ ช่างผสมสีได้นวลตาดีจัง เห็นแล้วหลงรักเลย


3. cupcakes on my left arm

คัพเค้กน่ารักๆพวกนี้เราชอบกินมากนะ เป็นคนที่ชอบกินของหวานและกินได้หวานจัดกว่าคนทั่วไปพอสมควร แต่ตัวจริงๆของเรานิสัยไม่ได้หวานเหมือนรสที่ชอบเลยค่ะ ก็เลยอยากจะได้คัพเค้กหวานๆน่ารักสัก 5-6 ชิ้นไปกระจายตัวกันตามต้นแขนซ้าย เอาลายเส้นประมาณในรูปเลยกำลังน่ารักดี ส่วนด้านบนติดหัวไหล่ จะทำแบนเนอร์เล็กๆและเขียนในนั้นว่า sweetless เพื่อบ่งบอกนิสัยที่แท้จริงของเราค่ะ

4. Amazing Grace on my collar bones
ไม่แน่ใจว่าหลายคนรู้จักเพลงนี้กันหรือเปล่า มันเป็นเพลงของชาวคริสต์ที่พูดถึงพระคุณของพระเจ้าค่ะ ใช่แล้ว เราเป็นคริสเตียน แต่รูปแบบที่เราจะถ่ายทอดออกมามันไม่ใช่แค่การเลือกเนื้อเพลงท่อนที่ชอบและสักลงไปเฉยๆแน่ เราตั้งใจจะเลือกเอาท่อนแรกของเพลงค่ะ แต่ไม่เอามาเป็นเนื้อนะ จะสักลงในรูปแบบของบรรทัดห้าเส้นที่มีโน้ตค่ะ อยากได้เป็นสไตล์ที่เรียบง่าย ไม่ต้องเล่นหัวเล่นหางอะไรมาก ให้มันดู minimal น่ะค่ะ แบบในภาพนี้

จากนั้นจะแบ่งเป็นสองช่วงแยกไปไว้ที่ข้างขวาและซ้ายอย่างละจุดค่ะ Amazing grace how sweet the sound ไปข้างขวา ส่วน That saved a wretch like me ไปไว้ซ้ายค่ะ สักแบบหันหน้าออกให้คนที่ยืนตรงข้ามเราอ่านได้จากมุมมองซ้ายไปขวาของเขาแบบการอ่านปกติค่ะ จะทำลงตรงช่วย collar bone เยื้องไปทางบ่าค่ะ

งานชิ้นนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งช่างและนักดนตรีที่จะมาเขียนโน้ตให้เราค่ะ ห้ามสักพลาดกันเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นรอยสักที่จะมีแต่นักดนตรีหรือนักร้องที่เป็นคริสเตียนถึงจะเข้าใจค่ะ ถ้าคนทั่วๆไปที่ไม่ใช่ทั้งสองอย่างอาจจะมองผ่านไม่ได้มีความหมายอะไร หรือคนที่เป็นนักดนตรีแต่ไม่ใช่คริสเตียนถึงจะอ่านโน้ตเป็นก็คงไม่อินเท่าค่ะ

5. Carpe Diem on my right wrist

คำว่า Carpe Diem นี่ถ้าใครที่ชอบดูหนังจะต้องรู้จักดีแน่นอน เป็น quote ที่ดังมากๆจาก Dead Poets Society ค่ะ หนังเรื่องนี้ให้แรงบันดาลใจที่ดีมากๆกับใครหลายๆคน ความหมายของมันก็คือฉกฉวยวันเวลาเอาไว้ คำพูดนี้จะเตือนใจเราให้ทำในสิ่งที่เป็นความฝันค่ะ คอยย้ำเตือนไม่ให้เราปล่อยวันเวลาให้ผ่านเลยไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นความฝันของเราเอง ฟอนท์ที่อยากได้ก็ประมาณในรูปเลยค่ะ เป็นตัวหวัดๆที่เหมือนแกะมาจากลายมือคนจริงๆ ไม่ใช่พวกฟอนท์สำเร็จรูปที่เราเห็นกันทั่วไปจากในคอมพ์หรืองานพิมพ์ประเภทอื่นๆ มันจะได้ดูเรียลดีค่ะ ไม่ค่อยซ้ำใครดี และด้วยความที่เราเป็นคนถนัดขวา เราเลยอยากจะสักไว้ที่ข้อมือขวาค่ะ เพื่อที่จะได้ "ฉกฉวย" ได้ถนัดมือหน่อย อิอิ