Tempy Movies Review วิจารณ์หนัง: The Godfather {Francis Ford Coppola}, 1972


นับตั้งแต่ Bonnie and Clyde ของอาเธอร์ เพนน์ และ The Graduate ที่กำกับโดยไมค์ นิโคลส์ ซึ่งถูกปล่อยออกมาในปี 1967 นั่นคือใบเบิกทางถึงการสิ้นสลายของยุคฮอลลิวูดคลาสสิคและการก่อกำเนิดของฮอลลิวูดสมัยใหม่ หรือพูดอีกนัยหนึ่งถือว่าเป็นการทลายกำแพงขนบธรรมเนียมตลอดจนจารีตการทำภาพยนตร์  กล้าที่จะนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมได้แก่ ความรุนแรงหรือเรื่องเพศอย่างตรงไปตรงมา

อีกห้าปีต่อมาด้วยการวิวัฒนาอย่างก้าวกระโดด The Godfather ผลงานการกำกับของฟรานซิส คอปโปล่าได้ถือกำเนิดขึ้น เรื่องราวว่าด้วยสังคมมาเฟียอิตาลี่ที่ตั้งรกราก ณ อเมริกาดินแดนแห่งอิสระเสรี แต่จากคำร้องทุกข์ของชายคนหนึ่งที่มีต่อ วีโต หัวหน้าแก๊งคอลีโอเน่ ดูเหมือนว่าอิสรภาพเหล่านั้นคงจะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา วีโตดำรงอยู่ในสถานะไม่ต่างจากพระเจ้า มีหน้าที่เพื่อธำรงความสุขให้บังเกิดแก่ครอบครัวและเพื่อนพ้องของเขายามที่ถึงคราวลำบาก แม้ว่าเขาจะเติบโตมาจากอาชญากรรมและการพนัน แต่สิ่งหนึ่งเขาไม่เคยคิดที่จะเกี่ยวข้องด้วย นั่นคือยาเสพติด

การดำเนินเรื่องของ The Godfather ถือว่าผิดแผกแตกต่างจากระบบระเบียบของหนังแนวมาเฟีย ที่มักจะแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของมาเฟียคนหนึ่ง ค่อยๆไต่เต้าไปถึงจุดสูงสุด และสุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับองค์กรยุติธรรมในสังคม แต่ในตอนต้นเรื่องกลับเป็น วีโต ในวัยชรากำลังจะลงจากบัลลังก์ และมองหาทายาทเพื่อสืบต่อภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ เพราะไม่ใช่แค่เพียงการดำรงอยู่ของสมาชิกในครอบครัวคอลิโอเน่แต่ยังไม่หมายถึงชีวิตของพวกพ้องอีกมากมาย วีโตเลือก ซันนี่ลูกคนโตเอาไว้ในใจอยู่แล้ว ทั้งที่เขามีทางเลือกจากลูกอีกหลายคน ได้แก่ เฟรโด้ ลูกชายที่ไม่เอาไหนในสายตาของวีโต คอนนี่ ลูกสาวที่เพิ่งแต่งงาน กำลังมีลูกกับสามีที่อารมณ์ฉุนเฉียวและทำร้ายคอนนี่อยู่บ่อยครั้ง และสุดท้ายไมเคิล ลูกชายที่ดำเนินเส้นทางแปลกแยกจากครอบครัว รู้สึกรำคาญที่จะพูดภาษาอิตาลี่ เขาสมัครเป็นทหารเพื่อไปรบให้กับอเมริกาในสงครามโลกครั้งที่สองและกำลังคบหาอยู่กับเคย์ อดัม สาวผมบลอนด์ผู้เป็นตัวแทนของความเป็นอเมริกันชน

ไม่นานนักวีโตก็ถูกลอบยิงเนื่องจากขัดผลประโยชน์กับแก๊งอื่น กล่าวคือเขาไม่ยอมช่วยเหลือเกื้อหนุนในการที่แก๊งอื่นจะได้ค้าขายยาเสพติดในแทบฝั่งตะวันออกของนิวยอร์คได้อย่างไร้การสอดส่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเพราะว่าวีโตเถรตรงกับแนวคิดของตนเองจนเกินไปหรอก แต่สังคมต่างหากย่ำแย่ลงทุกวัน ผู้คนหลงศรัทธาในความชั่วร้าย (ยาเสพติด) และคิดเพียงแค่ว่าเป็นวิธีที่หาเงินได้ง่ายและรวดเร็ว

ไมเคิลเมื่อทราบข่าวก็อาสาแก้แค้นให้กับพ่อ เป็นเหตุให้เขาต้องลี้ไปอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนของพ่อเขา ซิซิลี่เกาะแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี่ ณ ที่แห่งนั้นเขาพบกับสาวพราวเสน่ห์ ลูกเจ้าของร้านเหล้า ทันที่ทันใดทั้งคู่ก็แต่งงานกัน นั่นไม่เพียงแสดงถึงการดูถูกชนชาติดั้งเดิมของตนเองแต่ยังรวมไปถึงการทรยศเคย์ คนรักของเขาที่ต้องจากมา ในระหว่างนั้นวีโตสามารถรอดพ้นจากวิกฤตชีวิตหลังจากถูกลอบยิงและกลับมามาพักอาศัยที่บ้านอันอบอุ่น จะว่าเขาโชคดีหรือไม่เพราไม่ทันไรซันนี่ ลูกชายผู้ซึ่งเขาคาดหวังให้สืบทอดเจตนารมย์ ด้วยความที่มีเลือดร้อนอยู่ในตัวมาก นั่นคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอเนจอนาถ

ในระหว่างที่ไมเคิลกำลังเตรียมตัวกลับบ้านที่นิวยอร์ค ภรรยาสาวที่เพิ่งแต่งงานก็บังเอิญตกเป็นผู้เคราะห์ร้าย ต้องมารับผลกรรมของครอบครัวคอลิโอเน่ ไมเคิลกลับไปขอคืนดีกับเคย์ วางแผนจะแต่งงานกัน และในขณะเดียวกันก็สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าแก๊ง ในแต่เดิมวีโตมีเจตนาที่จะเปลี่ยนธุรกิจของตนเองให้ถูกกฎหมายไร้มลทินเพื่อหวังว่าลูกหลานในภายภาคหน้าจะได้อยู่อย่างสบาย ไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะมีใครมาลอบทำร้าย ผิดกันกับไมเคิลเขาสั่งกวาดล้างหัวหน้าแก๊งอื่นทั้งหมดในระหว่างที่กำลังร่วมอันพิธีศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา

ไมเคิลขึ้นก้าวขั้นนั่งบนบัลลังก์เลือดที่เบื้องล่างทับถมไปด้วยซากศพของคนที่เขาคิดว่าเป็นศัตรูและรายล้อมไปด้วยภาพมายาที่ใช้หลอกลวงแม้กระทั่งคนในครอบครัว จะว่าไปแล้วช่วงเวลาที่เขาไต่เต้าขึ้นสู่จุดนี้มันช่างรวดเร็ว ต่างจากสมัยวีโตที่คงต้องใช้ความพยายามไม่ใช่น้อย แม้พ่อลูกคู่นี้ในจุดสูงสุดจะดำรงอยู่ในสถานะไม่ต่างจากพระเจ้าเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันนั่นคือวีโตยอมที่จะเอาตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับความชั่วร้าย ในหลายครั้งที่มันส่งผลกระทบถึงชีวิตของเขา แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เพียงเพื่อครอบครัวได้อยู่อย่างสุขสบาย แต่สำหรับไมเคิลเขากลับทำเพื่อตนเองและทิ้งทุกคนที่เขารักไว้ข้างหลัง

เป็นไปได้หรือไม่ถ้าหากเราจะมองว่าครอบครัวคอลิโอเน่เป็นภาพสะท้อนของสังคมอเมริกัน เพราะแท้จริงแล้วชนชาติดั้งเดิมที่อาศัยบนผืนแผ่นดินอเมริกันคือชาวอินเดียนแดง คนอเมริกันที่มีอำนาจเหนือผู้คนในทุกวันนี้ก็คือคนอังกฤษ (คนยุโรปเช่นเดียวกับครอบครัวคอลิโอเน่ซึ่งเป็นชนชาติอิตาลี่) ที่ย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากที่นั่น และกวาดล้างชนพื้นเมือง พร้อมกับนั่งบนบัลลังก์เลือด ถ้าไปถามว่าทำไมเขาถึงต้องชาวอินเดียนแดง ก็คงตอบเป็นเสียงเดียวกันก็เพื่อชนรุ่นหลัง ดังนั้นวีโต จะต่างอะไรจากคนอังกฤษที่ยอมฆ่าคนเพื่อลูกหลานของเขา

เวลาผ่านไปหลายร้อยปีบนผืนแผ่นดินที่คนอเมริกันเป็นเจ้าของ ลูกหลานของพวกเขาก็เปิดสงครามร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในสงครามโลก แล้วนั่นจะต่างอะไรจากไมเคิลที่ท้ายที่สุดเขาไม่ได้มีพฤติกรรมที่ดีไปกว่าพ่อของเขา ในทางกลับกันเลวร้ายกว่าหลายร้อยหลายพันเท่า ยังไม่รวมถึงประเด็นที่ว่าสงครามได้ทำให้คนๆหนึ่งเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ จากภาพแรกที่เราเห็นไมเคิล เป็นชายหนุ่มที่หวานซึ้งโรแมนติก เมื่อเขาได้ทราบข่าวร้ายที่เกิดกับพ่อตนเอง เขากลับมีจิตที่ต้องการล้างแค้น เหมือนสัตว์ร้ายที่เขาฝังมันไว้ในก้นของจิตใจตั้งแต่กลับมาจากสงครามได้หลุดออกมาเป็นอิสระ

สังคมอเมริกันจึงเหมือนครอบครัวคอลิโอเน่ เป็นสังคมขาวดำที่ดูเหมือนรักดูแลเอาใจใส่แต่ในขณะเดียวกันก็หลอกลวง โป้ปดมดเท็จประชาชนอยู่ลึกๆ เช่นเดียวกับคำพูดของชายคนหนึ่งผู้มาร้องทุกข์กับวีโตในตอนต้นของหนังที่เราได้กล่าวไว้ เขาได้พูดถึงความไม่ยุติธรรมในสังคมทั้งที่เขาเชื่อมั่นและศรัทธาในประเทศนี้มาตลอด และหวังว่าเขาจะได้มีชีวิตใหม่ที่สมบูรณ์ ณ ที่แห่งนี้ แต่สิ่งที่เขาประสบพบเจอมันช่างห่างไกลจากความฝันของเขาเสียเหลือเกิน

อย่างไม่ต้องสงสัยว่าทำไม The Godfather จึงไปปรากฎบนอันดับต้นๆ บนโพลสำรวจหนังที่คนดูหนัง หรือจะคะแนนในเว็ปไชต์ต่างๆในอินเทอร์เน็ตก็ท่วมท้น ไม่ว่าจะสมัครเล่นหรือนักวิจารณ์ก็ต่างเทใจให้คะแนน ไม่ใช่เพราะเพียงแค่ว่าหนังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ หรือแค่คนดูจะได้รับความเพลิดเพลินกับอรรถรสลีลาที่คอปโปล่าจัดวางไว้ได้อย่างอัจฉริยะ แต่ตัวหนังเองยังเป็นกระจกเงาให้เราได้จ้องมองลงไปที่จิตใจของเราเอง

ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ทางเฟสได้เลยน่ะครับ https://www.facebook.com/survival.king
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่