สวัสดีค่ะ
เราเป็นศิษย์เก่าและผู้ปกครองของเด็กชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งซึ่งทางโรงเรียนมีการเข้มงวดกับทรงผมนักเรียนเป็นอย่างมาก
โดยนักเรียนชายต้องตัดเกรียนทุกระดับ ม.1-6 และนักเรียนหญิงต้องไว้ผมสั้นเท่าติ่งหู ทุกระดับชั้น ม.1-ม.6
ทรงผมสั้นติ่งหูถือเป็นสิ่งที่โรงเรียนภาคภูมิใจมาตลอด และเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมากหากใครไม่ยอมตัดสั้นเท่าติ่ง และห้ามซับ ซอย สไลด์ใดๆทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าผมนักเรียนหยิกและฟูธรรมชาติ ซึ่งเทื่อตัดผมสั้นเท่าติ่งหู หัวจะฟูเป็นดอกเห็ดก็ตาม
โดยในวันแรกของการเปิดภาคเรียน
จะมีอาจารย์ยืนประจำที่หน้าประตูโรงเรียน เพื่อคอย เช็คทรงผมนักเรียน หากไม่สั้น หรือ เกรียน จะไม่ยอมให้เข้าโรงเรียน และ ไล่ให้ไปตัดผมก่อน
นอกจากนี้ ทรงผมนักเรียนส้นติ่งหูนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของของ คะแนน หรือเกรด (เราของเรียกว่าคะแนนติ่งหู หละกัน) จิตพิสัย หรือโดนทำโทษหากผมยาว(ยาวในที่นี่คือเลยกว่าติ่งมา 1นิ้ว)
นอกจากนี้ อาจารย์ ยังมีการขู่และพูดถึงโทษของนักเรียนที่ไม่ตัดทรงติ่งอยู่ตลอด โดยบอกว่าคนที่ผมยาวคือคนที่เกเร และ เป็นเด็กไม่ดี ผมยาวไปกินอาหารสมองทำให้โง่
อยากเป็นสาวเกินตัว (พูดง่ายๆคือ แ-รด) และพูดถึงข้อดีของการตัดติ่ง อยู่เสมอ ว่าเป็นทรงที่เรียบร้อย เหมาะสมวัย เป็นเด็กดีของโรงเรียน
(ความจริงแล้วอยากบอกอาจารย์ว่า ทรงผมดี ใช่ว่านักเรียนจะดีเสมอไป ) โดยเด็กของเราก็ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างดีเรื่อยมา ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องตัดสั้นติ่งก็ตาม
แต่แล้วในปี 56 ที่ผ่านมามีการแก้ไขกฏกระทรวงใหม่ เรื่องการบังคับทรงผมนักเรียนได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ดังนี้
"หมวด 3 แบบทรงผม นักเรียนต้องไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ ดังนี้
(1) นักเรียนชายให้ไว้ผมด้านข้างและด้านหลังยาวไม่เลยตีนผมหรือผมรองทรงก็ได้
(2) นักเรียนหญิงให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย ห้ามนักเรียนดัดผม ทำสีผม ไว้หนวดเครา หรือทำการอื่นใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน
ข้อกำหนดดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับนักเรียนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยและนักศึกษา โดยให้ไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะตามข้อบังคับหรือระเบียบของสถานศึกษานั้น
หากนักเรียนมีความจำเป็นต้องไว้ทรงผมแตกต่างจากที่กำหนดไว้ เนื่องจากความจำเป็นทางศาสนา ประเพณีหรือความจำเป็นอื่นใด ก็ให้อยู่ในอำนาจของสถานศึกษานั้นเป็นผู้พิจารณา"
โดยการตามข่าวจากเวปไซต์กระทรวงศึกษา
http://www.moe.go.th/websm/2013/may/152.html ซึ่งท่านปลัดกระทรวงได้อธิบายถึงหลักเกณฑ์ใหม่ว่า
ซึ่งหมายความว่า กฎกระทรวงฉบับนี้จะเปิดกว้างให้อิสระกับนักเรียน ขณะที่โรงเรียนไม่มีสิทธิไปกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ เพิ่มเติม
ซึ่งทำให้เราค่อนข้างดีใจกับการที่เด็กจะไม่ต้องไปตัดผมทุกๆเดือน คอยกังวัลเรื่องทรงผม ว่าตัดแล้วจะออกมาเด๋อ ไม่สวย
(เราเข้าใจถึงธรรมชาติของมนุษย์ค่ะ ว่าไม่มีใครอยากให้ตัวเองดูน่าเกลียดหรอก) และการไว้ผมยาวและมัดหรือถักเปียให้เรียบร้อย ยังดูน่ารักและสมวัยมากกว่าทรงติ่ง
แต่แล้วเมื่อเปิดเทอม เราก็กลับตะลึงว่า ทางโรงเรียนยังคงบังคับให้เด็กตัดทรงติ่งเหมือน โดยไม่สนประกาศของกระทรวง โดยให้เหตุผลว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน
ซึ่งแรกๆมีเด็กที่ฝืนไว้ผมยาว แต่มัดผมเรียบร้อย(ส่วนมากยาวสุดก็แค่ บ่า) แต่ทางโรงเรียนกลับบังคับให้ด็กกลับไปตัดผมสั้นติ่งอีกครั้ง และบอกว่าโรงเรียนไม่อยู่ในกฏกระทรวงนี้
ผมสั้นเป็นประเพณี สามารถทำได้ โดยทางโรงเรียนได้ใช้มาตรการทุกอย่างตั้งแต่ตรวจผมทุกเช้า ใช้วิธีกดดันนักเรียนในห้อง ใช้คะแนนเป็นตัวล่อ เช่นหากห้องไหนผมยาวจะตัดคะแนนทั้งห้อง
ทำให้เด็กนักเรียนถูกเพื่อนๆกดกันสุดท้าย ทำให้เด็กเกิดความเครียดและถูสังคมกดดันเป็นอย่างมาก ในปี 56 ที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ ทั้งโรงเรียนก็ได้ผมสั้นติ่งทั้งโรงเรียนสมใจอาจารย์
เราอยากถามเพื่อนใน พันทิบ ว่า........
1. กฎกระทรวงศึกษา ปี 56 ที่แท้จริง นักเรียน สามารถไว้ผมสั้นหรือยาวได้เอง โดยโรงเรียนไม่มีสิทธิไปบังคับ ใช่หรือไม่ และหากโรงเรียนมีกฎบังคับตัดผมสั้น สามารถทำได้ หรือผิดกฎกระทรวงหรือไม่
2. โรงเรียนสามารถไม่ปฎิบัติตามกฎกระทรวงได้หรือไม่(โรงเรียนอ้างว่า เป็นประเพณี ยกเว้นได้)
3. หากอาจารย์ในโรงเรียน ถือกรรไกร ไปตัดผมนักเรียนโดยนักเรียนไม่ยินยอม อาจารย์ถือว่ามีความผิดหรือไม่ (เกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิ) เราสามารถแจ้งความหรือฟ้องอาจารย์ได้มั้ย
4. การที่อาจารย์อนุญาติให้นักเรียนบางคน เช่นนักลีลาศ หรือนางรำสามารถไว้ผมยาวกว่านักเรียนทั่วไป ถือว่า เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่
5. การที่อาจารย์ใช้วาจาข่มขู่ วางอำนาจ พูดจาไม่สุภาพ และพูดว่าจะไล่นักเรียนออกอยู่เสมอ หากนักเรียนผมยาว (เลยจากติ่ง) อาจารย์มีความผิดหรือไม่ เราสามารถทำอะไรได้บ้าง
6. เราสามารถทำหนังสือถึงกระทรวงศึกษาเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทางกระทรวงสามารถจัดการอย่างไรได้บ้าง
7. ในกรณีที่เราในฐานะผู้ปกครองเด็กยินยอมให้เด็กไว้ผมยาวได้ และมัดอย่างเรียบร้อยโรงเรียนมีสิทธิบังคับให้เด็กไปตัดผมสั้นหรือไม่
8. คณะครู และ สมาคมผู้ปกครองสามารถประชุมกัน และ ออกแบบทรงผมนักเรียน และบังคับให้นักเรียนทุกคนตัดสั้นติ่ง ได้หรือไม่
9. เด็กเราสูญเสียความมั่นใจทุกครั้งที่ต้องตัดผมสั้น เพราะโครงหน้าเค้าใหญ่ ตัดไปเหมือนมีกะละมาครอบ หรือบางคนที่ผมฟูหยิก ก็จะเด้งฟูออกมาเลย ท่านคิดว่า
ทรงผมแบบนี้ ยังน่ารักและเรียบร้อยอยู่หรือไม่
สุดท้ายในฐานะที่ประเทศไทยเข้าสู่ AC ในไม่กี่ปีนี้ อยากให้โรงเรียนทราบว่า การที่เด็กเราจะพัฒนาตนเองเพื่อให้แข่งขันกับชาติอื่นได้ เราไม่ได้แข่งกันที่ ทรงผม นะคะ
ต่างชาติ เค้าปลูกฝังอะไรให้กับเด็กถึงมีระเบียบวินัยมากกว่า ทั้งๆที่เค้าไม่ได้บังคับเด็กให้ตัดผมสั้นหรือเกรียน ทักษะความรู้ต่างๆนำไทยไม่หลายขุม แต่เด็กไทยยังต้องมากังวลถึงเรื่องทรงผมนักเรียน
เช่น สิงคโปร์ ที่ขึ้นชื่อว่า การศึกษาดีเยี่ยมที่สุด ทักษะของเด็กที่นั้น ภาษาพูดขั้นต่ำคือ อังกฤษ จีน และภาษาอื่นๆเช่นทมิฬ ที่สามารถเอาไปอวดชาวโลกได้
ในขณะที่เด็กไทยหละคะ เรามีทักษะอะไรไปสู้ได้ เราจะไปบอกชาวโลกได้หรือคะว่า เราภูมิใจที่เด็กไทย ตัดผมทรงนักเรียน ?
แต่เด็กของเราพูดทั้งอังกฤษ และ จีน ได้ กลับต้องมาเครียดเรื่องทรงผมที่เค้าไม่ชอบ และกลายเป็นเด็กเกเร ในสายตาอาจารย์ และตอนนี้เด็กของเรากำลังถูกอาจารย์ในโรงเรียนฝ่ายปกครองกดดันให้ตัดผมสั้น และบอกว่า จะให้สังคมภายในโรงเรียนกดดันเธอ เธอจะไม่มีเพื่อนคบ
หากใครมีข้อเสนอ หรือข้อแนะนำในการจัดการกับโรงเรียน ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ปล.
Tag ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับเรื่อง ทรงผมของเด็กนักเรียนหญิง เชื่อว่าหลายๆคนคงผ่านผมสั้นติ่งมา ท่านมีวิธีอย่างไรในเรื่องทรงผม และเห็นด้วยหรือไม่กับการให้เด็กอายุช่วง 15-17 ปีไว้ผมสั้นเท่าติ่งหู
Tag ห้องร้องทุกข์ กับกฎหมาย ถามเรื่องกฎกระทรวงศึกษา และ กฏของโรงเรียน สามารถขัดแย้งกันได้หรือไม่ และโรงเรียนไม่ทำตามกฎกระทรวงได้ไหม
Tag ห้องห้องไกลบ้าน เนื่องด้วยเด็กของเราจะไปแลกเี่ยนที่อเมริกา 1 ปี ทรงผมสั้นเท่าติ่งหูทำให้เด็กเราสูญเสียความมั่นใจในการไปเจอเพื่อนต่างชาติ ซึ่งแน่นอนอาจโดนล้อ ในฐานะที่อยู่ต่างประเทศ เค้ามองเรื่องสิทธิด้านทรงผมเด็กนักเรียนเป็นอย่างไรกันบ้าง
ตามกฏกระทรวงศึกษา โรงเรียนยังสามารถบังคับเด็กให้ตัดทรง "ติ่ง" ได้อยู่หรือไม่
เราเป็นศิษย์เก่าและผู้ปกครองของเด็กชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งซึ่งทางโรงเรียนมีการเข้มงวดกับทรงผมนักเรียนเป็นอย่างมาก
โดยนักเรียนชายต้องตัดเกรียนทุกระดับ ม.1-6 และนักเรียนหญิงต้องไว้ผมสั้นเท่าติ่งหู ทุกระดับชั้น ม.1-ม.6
ทรงผมสั้นติ่งหูถือเป็นสิ่งที่โรงเรียนภาคภูมิใจมาตลอด และเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมากหากใครไม่ยอมตัดสั้นเท่าติ่ง และห้ามซับ ซอย สไลด์ใดๆทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าผมนักเรียนหยิกและฟูธรรมชาติ ซึ่งเทื่อตัดผมสั้นเท่าติ่งหู หัวจะฟูเป็นดอกเห็ดก็ตาม
โดยในวันแรกของการเปิดภาคเรียน
จะมีอาจารย์ยืนประจำที่หน้าประตูโรงเรียน เพื่อคอย เช็คทรงผมนักเรียน หากไม่สั้น หรือ เกรียน จะไม่ยอมให้เข้าโรงเรียน และ ไล่ให้ไปตัดผมก่อน
นอกจากนี้ ทรงผมนักเรียนส้นติ่งหูนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของของ คะแนน หรือเกรด (เราของเรียกว่าคะแนนติ่งหู หละกัน) จิตพิสัย หรือโดนทำโทษหากผมยาว(ยาวในที่นี่คือเลยกว่าติ่งมา 1นิ้ว)
นอกจากนี้ อาจารย์ ยังมีการขู่และพูดถึงโทษของนักเรียนที่ไม่ตัดทรงติ่งอยู่ตลอด โดยบอกว่าคนที่ผมยาวคือคนที่เกเร และ เป็นเด็กไม่ดี ผมยาวไปกินอาหารสมองทำให้โง่
อยากเป็นสาวเกินตัว (พูดง่ายๆคือ แ-รด) และพูดถึงข้อดีของการตัดติ่ง อยู่เสมอ ว่าเป็นทรงที่เรียบร้อย เหมาะสมวัย เป็นเด็กดีของโรงเรียน
(ความจริงแล้วอยากบอกอาจารย์ว่า ทรงผมดี ใช่ว่านักเรียนจะดีเสมอไป ) โดยเด็กของเราก็ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างดีเรื่อยมา ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องตัดสั้นติ่งก็ตาม
แต่แล้วในปี 56 ที่ผ่านมามีการแก้ไขกฏกระทรวงใหม่ เรื่องการบังคับทรงผมนักเรียนได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ดังนี้
"หมวด 3 แบบทรงผม นักเรียนต้องไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ ดังนี้
(1) นักเรียนชายให้ไว้ผมด้านข้างและด้านหลังยาวไม่เลยตีนผมหรือผมรองทรงก็ได้
(2) นักเรียนหญิงให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย ห้ามนักเรียนดัดผม ทำสีผม ไว้หนวดเครา หรือทำการอื่นใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน
ข้อกำหนดดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับนักเรียนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยและนักศึกษา โดยให้ไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะตามข้อบังคับหรือระเบียบของสถานศึกษานั้น
หากนักเรียนมีความจำเป็นต้องไว้ทรงผมแตกต่างจากที่กำหนดไว้ เนื่องจากความจำเป็นทางศาสนา ประเพณีหรือความจำเป็นอื่นใด ก็ให้อยู่ในอำนาจของสถานศึกษานั้นเป็นผู้พิจารณา"
โดยการตามข่าวจากเวปไซต์กระทรวงศึกษา http://www.moe.go.th/websm/2013/may/152.html ซึ่งท่านปลัดกระทรวงได้อธิบายถึงหลักเกณฑ์ใหม่ว่า
ซึ่งหมายความว่า กฎกระทรวงฉบับนี้จะเปิดกว้างให้อิสระกับนักเรียน ขณะที่โรงเรียนไม่มีสิทธิไปกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ เพิ่มเติม
ซึ่งทำให้เราค่อนข้างดีใจกับการที่เด็กจะไม่ต้องไปตัดผมทุกๆเดือน คอยกังวัลเรื่องทรงผม ว่าตัดแล้วจะออกมาเด๋อ ไม่สวย
(เราเข้าใจถึงธรรมชาติของมนุษย์ค่ะ ว่าไม่มีใครอยากให้ตัวเองดูน่าเกลียดหรอก) และการไว้ผมยาวและมัดหรือถักเปียให้เรียบร้อย ยังดูน่ารักและสมวัยมากกว่าทรงติ่ง
แต่แล้วเมื่อเปิดเทอม เราก็กลับตะลึงว่า ทางโรงเรียนยังคงบังคับให้เด็กตัดทรงติ่งเหมือน โดยไม่สนประกาศของกระทรวง โดยให้เหตุผลว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน
ซึ่งแรกๆมีเด็กที่ฝืนไว้ผมยาว แต่มัดผมเรียบร้อย(ส่วนมากยาวสุดก็แค่ บ่า) แต่ทางโรงเรียนกลับบังคับให้ด็กกลับไปตัดผมสั้นติ่งอีกครั้ง และบอกว่าโรงเรียนไม่อยู่ในกฏกระทรวงนี้
ผมสั้นเป็นประเพณี สามารถทำได้ โดยทางโรงเรียนได้ใช้มาตรการทุกอย่างตั้งแต่ตรวจผมทุกเช้า ใช้วิธีกดดันนักเรียนในห้อง ใช้คะแนนเป็นตัวล่อ เช่นหากห้องไหนผมยาวจะตัดคะแนนทั้งห้อง
ทำให้เด็กนักเรียนถูกเพื่อนๆกดกันสุดท้าย ทำให้เด็กเกิดความเครียดและถูสังคมกดดันเป็นอย่างมาก ในปี 56 ที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ ทั้งโรงเรียนก็ได้ผมสั้นติ่งทั้งโรงเรียนสมใจอาจารย์
เราอยากถามเพื่อนใน พันทิบ ว่า........
1. กฎกระทรวงศึกษา ปี 56 ที่แท้จริง นักเรียน สามารถไว้ผมสั้นหรือยาวได้เอง โดยโรงเรียนไม่มีสิทธิไปบังคับ ใช่หรือไม่ และหากโรงเรียนมีกฎบังคับตัดผมสั้น สามารถทำได้ หรือผิดกฎกระทรวงหรือไม่
2. โรงเรียนสามารถไม่ปฎิบัติตามกฎกระทรวงได้หรือไม่(โรงเรียนอ้างว่า เป็นประเพณี ยกเว้นได้)
3. หากอาจารย์ในโรงเรียน ถือกรรไกร ไปตัดผมนักเรียนโดยนักเรียนไม่ยินยอม อาจารย์ถือว่ามีความผิดหรือไม่ (เกี่ยวกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิ) เราสามารถแจ้งความหรือฟ้องอาจารย์ได้มั้ย
4. การที่อาจารย์อนุญาติให้นักเรียนบางคน เช่นนักลีลาศ หรือนางรำสามารถไว้ผมยาวกว่านักเรียนทั่วไป ถือว่า เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่
5. การที่อาจารย์ใช้วาจาข่มขู่ วางอำนาจ พูดจาไม่สุภาพ และพูดว่าจะไล่นักเรียนออกอยู่เสมอ หากนักเรียนผมยาว (เลยจากติ่ง) อาจารย์มีความผิดหรือไม่ เราสามารถทำอะไรได้บ้าง
6. เราสามารถทำหนังสือถึงกระทรวงศึกษาเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทางกระทรวงสามารถจัดการอย่างไรได้บ้าง
7. ในกรณีที่เราในฐานะผู้ปกครองเด็กยินยอมให้เด็กไว้ผมยาวได้ และมัดอย่างเรียบร้อยโรงเรียนมีสิทธิบังคับให้เด็กไปตัดผมสั้นหรือไม่
8. คณะครู และ สมาคมผู้ปกครองสามารถประชุมกัน และ ออกแบบทรงผมนักเรียน และบังคับให้นักเรียนทุกคนตัดสั้นติ่ง ได้หรือไม่
9. เด็กเราสูญเสียความมั่นใจทุกครั้งที่ต้องตัดผมสั้น เพราะโครงหน้าเค้าใหญ่ ตัดไปเหมือนมีกะละมาครอบ หรือบางคนที่ผมฟูหยิก ก็จะเด้งฟูออกมาเลย ท่านคิดว่า
ทรงผมแบบนี้ ยังน่ารักและเรียบร้อยอยู่หรือไม่
สุดท้ายในฐานะที่ประเทศไทยเข้าสู่ AC ในไม่กี่ปีนี้ อยากให้โรงเรียนทราบว่า การที่เด็กเราจะพัฒนาตนเองเพื่อให้แข่งขันกับชาติอื่นได้ เราไม่ได้แข่งกันที่ ทรงผม นะคะ
ต่างชาติ เค้าปลูกฝังอะไรให้กับเด็กถึงมีระเบียบวินัยมากกว่า ทั้งๆที่เค้าไม่ได้บังคับเด็กให้ตัดผมสั้นหรือเกรียน ทักษะความรู้ต่างๆนำไทยไม่หลายขุม แต่เด็กไทยยังต้องมากังวลถึงเรื่องทรงผมนักเรียน
เช่น สิงคโปร์ ที่ขึ้นชื่อว่า การศึกษาดีเยี่ยมที่สุด ทักษะของเด็กที่นั้น ภาษาพูดขั้นต่ำคือ อังกฤษ จีน และภาษาอื่นๆเช่นทมิฬ ที่สามารถเอาไปอวดชาวโลกได้
ในขณะที่เด็กไทยหละคะ เรามีทักษะอะไรไปสู้ได้ เราจะไปบอกชาวโลกได้หรือคะว่า เราภูมิใจที่เด็กไทย ตัดผมทรงนักเรียน ?
แต่เด็กของเราพูดทั้งอังกฤษ และ จีน ได้ กลับต้องมาเครียดเรื่องทรงผมที่เค้าไม่ชอบ และกลายเป็นเด็กเกเร ในสายตาอาจารย์ และตอนนี้เด็กของเรากำลังถูกอาจารย์ในโรงเรียนฝ่ายปกครองกดดันให้ตัดผมสั้น และบอกว่า จะให้สังคมภายในโรงเรียนกดดันเธอ เธอจะไม่มีเพื่อนคบ
หากใครมีข้อเสนอ หรือข้อแนะนำในการจัดการกับโรงเรียน ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ปล.
Tag ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับเรื่อง ทรงผมของเด็กนักเรียนหญิง เชื่อว่าหลายๆคนคงผ่านผมสั้นติ่งมา ท่านมีวิธีอย่างไรในเรื่องทรงผม และเห็นด้วยหรือไม่กับการให้เด็กอายุช่วง 15-17 ปีไว้ผมสั้นเท่าติ่งหู
Tag ห้องร้องทุกข์ กับกฎหมาย ถามเรื่องกฎกระทรวงศึกษา และ กฏของโรงเรียน สามารถขัดแย้งกันได้หรือไม่ และโรงเรียนไม่ทำตามกฎกระทรวงได้ไหม
Tag ห้องห้องไกลบ้าน เนื่องด้วยเด็กของเราจะไปแลกเี่ยนที่อเมริกา 1 ปี ทรงผมสั้นเท่าติ่งหูทำให้เด็กเราสูญเสียความมั่นใจในการไปเจอเพื่อนต่างชาติ ซึ่งแน่นอนอาจโดนล้อ ในฐานะที่อยู่ต่างประเทศ เค้ามองเรื่องสิทธิด้านทรงผมเด็กนักเรียนเป็นอย่างไรกันบ้าง