รัฐมนตรีฯกระทรวงศึกษา สั่งห้ามเลือกปฎิบัติกรณีทรงผมนักเรียน

รมว.กระทรวงศึกษา สั่งให้โรงเรียนเลิกใช้ดุลยพินิจการอนุญาตให้ไว้ผมเกรียนสำหรับนักเรียนชาย และผมสั้นเท่าติ่งหูสำหรับนักเรียนหญิง เพราะเกิดปัญหาการเลือกปฎิบัติกับนักเรียนว่าทำไมโรงเรียนบางโรงเรียนให้ไว้ได้ อีกโรงเรียนไว้ไม่ได้

ทีนี้มาพิจารณาที่ละขั้นนะ ผมเกรียนสำหรับนักเรียนชายเนี่ย โรงเรียนไม่มีอำนาจตั้งแต่แรกอยู่แล้วที่จะบังคับให้เด็กตัดเกรียน เพราะกฎกระทรวงบอกว่าให้ไว้ได้ แต่ไม่ให้เลยตีนผม หรือสรุปง่ายๆคือ ให้ไว้ผมรองทรงได้ ทีนี้มีประเด็นว่าโรงเรียนจะอ้างได้ไหมว่าเป็นระเบียบภายในของโรงเรียนในมุมของความชอบด้วยกฎหมายของระเบียบที่อ้าง ถือว่าเป็นระเบียบที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ (หลักกฎหมายมหาชน ถ้าไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ทำไม่ได้)

สำหรับทรงผมของผู้หญิงเนี่ย ขอ Qoute กฎกระทรวงมา
"...นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็ให้รวบให้เรียบร้อย"
ถ้าตีความก็จะได้ว่า
1) ให้นักเรียนหญิงตัดผมหรือไว้ยาวเลยต้นคอ
    *สังเกต - ไม่มีคำว่า"ติ่งหู"ในกฎกระทรวงฯ
2) หากโรงเรียนไหนอนุญาตให้ยาวเกินกว่าข้อ 1) ก็สามารถทำได้ โดยให้เป็นดุลยพินิจของโรงเรียน ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะบางโรงเรียนให้ไว้ยาวกว่านี้ บางโรงเรียนไม่อนุญาต ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติ ดังนั้นกระทรวงจึงไม่ปล่อยให้เป็นดุลยพินิจของโรงเรียนอีกต่อไป สั่งให้ใช้บรรทัดฐานเดียวกันคืออนุญาตให้นักเรียนหญิงไว้ผมยาวได้ แต่ต้องรวบ

สรุป
1. กระทรวงไม่ได้ออกกฎกระทรวงใหม่ แต่ตีความกฎกระทรวงให้บังคับใช้ได้ตรงตามตัวอักษร (สำหรับนักเรียนชายและหญิง)
2. กระทรวงไม่ให้ดุลยพินิจของโรงเรียนอีกต่อไป (สำหรับนักเรียนหญิง)
3. กระทรวงกำลังแก้กฎกระทรวงอยู่ (ผมไม่แน่ใจว่าประเด็นอะไร อาจเขียนให้ชัดขึ้น)

คิดว่าไงกันครับ สำหรับผมเห็นด้วยมากที่ยกเลิกเรื่องพวกนี้เสียที เพราะประวัติศาสตร์ก็เห็นมาแล้วว่ามันไม่ช่วยทำให้เด็กมีระเบียบวินัยขึ้นมาเลย แต่ถ้าเลิกก็ไม่ทำให้เด็กมีวินัยขึ้นใช่ไหมครับ ? ผมมองว่าถ้าไม่เลิกกับเลิกทำให้เกิดผลเท่ากันคือเด็กก็ยังเละเหมือนเดิม ผมสนับสนุนให้เลิก ไม่มีประโยชน์ที่จะมาสั่ง(ทั้งๆที่ไม่มีอำนาจจะสั่ง) ให้เด็กตัดเกรียน ตัดเท่าติ่งหู เรื่องพวกนี้มันส่งผลโดยตรงต่อเรื่องที่ผู้ใหญ่ชอบบ่นกันนั่นแหละว่า เด็กคิดไม่เป็น วิเคราะห์ไม่เป็น ก็เด็กเขาถูกสอนมานิครับ ถ้าถาม ห้ามเถียง ห้ามเสนอ โดนบังคับให้ทำ 1-2-3 ตามเสต็ป ถ้าเถียงก็จะโดนดุ โดนทำให้แปลกแยกจากคนอื่น ผมว่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาการศึกษาอย่างถูกต้องอย่างหนึ่งเหมือนกัน

___________
อ้างอิง : http://th.wikisource.org/wiki/กฎกระทรวง_ฉบับที่_๒_(พ.ศ._๒๕๑๘)_ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ_ฉบับที่_๑๓๒

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่