จากมติชนออนไลน์
ความความเคลื่อนไหวศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 14-25 พ.ค. 57 ซึ่งมีทั้งหมด 8 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน โดยจะคัดเอา 5 ทีมสุดท้ายเข้าแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ในปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา
โดยทีมชาติไทยมีคิวลงสนามนัดเพลย์ออฟชิงอันดับ 5 พบกับ "เจ้าภาพ" เวียดนาม ที่ธอง ยัต สเตเดี้ยม เวลา 17.15 น. ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด เพื่อหาทีมสุดท้ายของทวีปเอเชีย ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก ในปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา โดยก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้ และ ออสเตรเลีย เป็น 4 ทีมที่เข้าไปเล่นเวิลด์คัพเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค. "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ได้นำทัพแข้งสาวไทย ฝึกเวทเทรนนิ่ง และลงสระน้ำในช่วงเช้า ที่โรงแรมวิสไซ ไซ่ง่อน ที่พัก ก่อนจะเดินทางไปแถลงความพร้อมก่อนพบ เวียดนาม ที่ธอง ยัต สเตเดี้ยม ช่วงบ่าย จากนั้นช่วงค่ำ นางสาวพรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ อาสาเลี้ยงอาหารทัพแข้งสาวไทยทั้งหมดเนื่องในโอกาสที่มาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยถึงโฮจิมินห์
"โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย เปิดเผยว่า การพบกับเวียดนาม ถือเป็นงานที่หนักและค่อนข้างกดดัน เนื่องจากเราต้องเล่นในบ้านของเวียดนามที่มีกองเชียร์เต็มสนามแน่นอน อย่าไรก็ตามนักเตะของเราทุกคนรู้ดีว่ากำลังเจอกับอะไร ต้องรับมืออย่างไร หากเรามีโอกาสต้องทำให้ได้ รับให้ดี แล้วโต้กลับให้แม่น ก็คิดว่าจะคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกได้

"ในเรื่องสภาพจิตใจขณะนี้เราไม่เป็นรองแน่นอน แต่ที่เสียเปรียบคือสภาพร่างกาย เนื่องจากเวียดนามแข่งรอบแรกเสร็จตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. ส่วนเราแข่งเสร็จ 19 พ.ค. ทำให้เรามีเวลาพักน้อยกว่า อย่างไรก็ตามเรามีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์นี้ไว้แล้ว รวมทั้งเตรียมพร้อมหากมีต้องดวลกันถึงจุดโทษ ซึ่งได้ให้ลูกทีมซ้อมยิงจุดโทษไว้แล้วตั้งแต่ก่อนเดินทางมาที่นี่"
"ส่วนตัวผู้เล่นแม้เราจะได้ นภัทร สีเสริม กองกลางตัวหลักกลับมาแล้ว แต่คิดว่าจะยังพักไว้ก่อน แล้วค่อยลงในครึ่งหลัง เพราะชุดเดิมที่เล่นในแมตช์พบ เมียนมาร์นั่นเล่นดีอยู่แล้ว อีกทั้งกลัวว่าถ้าเอาลงตั้งแต่ต้นเกมจะพบกับปัญหาบาดเจ็บอีก อย่างไรก็ตามแผนการทั้งหมดได้วางไว้หมดแล้ว เรารู้ดีว่าเวียดนามมีจุดอ่อนที่ตรงไหน หากไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะได้เห็นฟุตบอลไทย ไปฟุตบอลโลกแน่นอน” โค้ชหนึ่ง ระบุ
ด้าน "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ช่วยผู้จัดการทีม กล่าวว่า ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าฟุตบอลหญิงของเราถือว่าพัฒนาไปได้ช้า จะเห็นว่าเพื่อนบ้านของเราอย่างเวียดนาม หรือเมียนมาร์เอง ถ้าวัดกันที่สภาพทีมและตัวผู้เล่นโดยรวม อาจจะเหนือกว่าเราด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อจบทัวนามาเมนต์ชิงแชมป์เอเชียนี้ เราจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ฟุตบอลหญิงของไทยพัฒนาไปให้ถึงระดับเอเชีย และระดับโลกให้ได้
"การพัฒนาทีมฟุตบอลไม่ว่าจะทั้งทีมหญิง หรือทีมชาย จำเป็นต้องให้หลายฝ่ายรวมมือกัน ทั้งฝ่ายบริหาร คนดู และผู้ฝึกสอน สำหรับฟุตบอลหญิงนั้น จำเป็นต้องมีผู้ฝึกสอนที่เป็นผู้หญิงที่เป็นมืออาชีพมาควบคุมดูแลให้ เนื่องจากผู้หญิงด้วยกันจะรู้ถึงสภาพร่างกาย และเข้าถึงสภาพจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย จะสังเกตเห็นว่าหลายๆ ประเทศในระดับโลกอย่าง สหรัฐอเริกา, เยอรมนี ฯลฯ ก็มีการใช้โค้ชที่เป็นผู้หญิงแล้ว"
"ส่วนในไทยนั้นตอนนี้ผู้ฝึกสอนที่เป็นผู้หญิงยังหาได้ยาก ผมจึงเตรียมเปิดอบรมโค้ชผู้หญิง เพื่อเพิ่มบุคลากรสำหรับฟุตบอลหญิง และพัฒนาให้ทีมมีศักยภาพขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งยังต่อยอดให้โค้ชเหล่านี้สามารถหาอาชีพคุมทีมสโมสรในลีกหญิงของไทยได้ด้วย โดยทั้งหมดนี้เราจะใช้โค้ชหนึ่งกุนซือทีมชาติไทย เป็นแบบอย่างในการปั้นกุนซือหญิงขึ้นมาเรื่อยๆ" โค้ชหรั่ง กล่าวทิ้งท้าย
′โค้ชหนึ่ง′ ยอมรับแข้งสาวไทยความสดเป็นรอง ′เวียดนาม′ แต่รู้จุดตาย - มั่นใจน็อกเจ้าภาพตีตั๋วไปบอลโลก
ความความเคลื่อนไหวศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 14-25 พ.ค. 57 ซึ่งมีทั้งหมด 8 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน โดยจะคัดเอา 5 ทีมสุดท้ายเข้าแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ในปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา
โดยทีมชาติไทยมีคิวลงสนามนัดเพลย์ออฟชิงอันดับ 5 พบกับ "เจ้าภาพ" เวียดนาม ที่ธอง ยัต สเตเดี้ยม เวลา 17.15 น. ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด เพื่อหาทีมสุดท้ายของทวีปเอเชีย ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก ในปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา โดยก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้ และ ออสเตรเลีย เป็น 4 ทีมที่เข้าไปเล่นเวิลด์คัพเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค. "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ได้นำทัพแข้งสาวไทย ฝึกเวทเทรนนิ่ง และลงสระน้ำในช่วงเช้า ที่โรงแรมวิสไซ ไซ่ง่อน ที่พัก ก่อนจะเดินทางไปแถลงความพร้อมก่อนพบ เวียดนาม ที่ธอง ยัต สเตเดี้ยม ช่วงบ่าย จากนั้นช่วงค่ำ นางสาวพรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ อาสาเลี้ยงอาหารทัพแข้งสาวไทยทั้งหมดเนื่องในโอกาสที่มาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยถึงโฮจิมินห์
"โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย เปิดเผยว่า การพบกับเวียดนาม ถือเป็นงานที่หนักและค่อนข้างกดดัน เนื่องจากเราต้องเล่นในบ้านของเวียดนามที่มีกองเชียร์เต็มสนามแน่นอน อย่าไรก็ตามนักเตะของเราทุกคนรู้ดีว่ากำลังเจอกับอะไร ต้องรับมืออย่างไร หากเรามีโอกาสต้องทำให้ได้ รับให้ดี แล้วโต้กลับให้แม่น ก็คิดว่าจะคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกได้
"ในเรื่องสภาพจิตใจขณะนี้เราไม่เป็นรองแน่นอน แต่ที่เสียเปรียบคือสภาพร่างกาย เนื่องจากเวียดนามแข่งรอบแรกเสร็จตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. ส่วนเราแข่งเสร็จ 19 พ.ค. ทำให้เรามีเวลาพักน้อยกว่า อย่างไรก็ตามเรามีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์นี้ไว้แล้ว รวมทั้งเตรียมพร้อมหากมีต้องดวลกันถึงจุดโทษ ซึ่งได้ให้ลูกทีมซ้อมยิงจุดโทษไว้แล้วตั้งแต่ก่อนเดินทางมาที่นี่"
"ส่วนตัวผู้เล่นแม้เราจะได้ นภัทร สีเสริม กองกลางตัวหลักกลับมาแล้ว แต่คิดว่าจะยังพักไว้ก่อน แล้วค่อยลงในครึ่งหลัง เพราะชุดเดิมที่เล่นในแมตช์พบ เมียนมาร์นั่นเล่นดีอยู่แล้ว อีกทั้งกลัวว่าถ้าเอาลงตั้งแต่ต้นเกมจะพบกับปัญหาบาดเจ็บอีก อย่างไรก็ตามแผนการทั้งหมดได้วางไว้หมดแล้ว เรารู้ดีว่าเวียดนามมีจุดอ่อนที่ตรงไหน หากไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะได้เห็นฟุตบอลไทย ไปฟุตบอลโลกแน่นอน” โค้ชหนึ่ง ระบุ
ด้าน "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ช่วยผู้จัดการทีม กล่าวว่า ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าฟุตบอลหญิงของเราถือว่าพัฒนาไปได้ช้า จะเห็นว่าเพื่อนบ้านของเราอย่างเวียดนาม หรือเมียนมาร์เอง ถ้าวัดกันที่สภาพทีมและตัวผู้เล่นโดยรวม อาจจะเหนือกว่าเราด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อจบทัวนามาเมนต์ชิงแชมป์เอเชียนี้ เราจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ฟุตบอลหญิงของไทยพัฒนาไปให้ถึงระดับเอเชีย และระดับโลกให้ได้
"การพัฒนาทีมฟุตบอลไม่ว่าจะทั้งทีมหญิง หรือทีมชาย จำเป็นต้องให้หลายฝ่ายรวมมือกัน ทั้งฝ่ายบริหาร คนดู และผู้ฝึกสอน สำหรับฟุตบอลหญิงนั้น จำเป็นต้องมีผู้ฝึกสอนที่เป็นผู้หญิงที่เป็นมืออาชีพมาควบคุมดูแลให้ เนื่องจากผู้หญิงด้วยกันจะรู้ถึงสภาพร่างกาย และเข้าถึงสภาพจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย จะสังเกตเห็นว่าหลายๆ ประเทศในระดับโลกอย่าง สหรัฐอเริกา, เยอรมนี ฯลฯ ก็มีการใช้โค้ชที่เป็นผู้หญิงแล้ว"
"ส่วนในไทยนั้นตอนนี้ผู้ฝึกสอนที่เป็นผู้หญิงยังหาได้ยาก ผมจึงเตรียมเปิดอบรมโค้ชผู้หญิง เพื่อเพิ่มบุคลากรสำหรับฟุตบอลหญิง และพัฒนาให้ทีมมีศักยภาพขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งยังต่อยอดให้โค้ชเหล่านี้สามารถหาอาชีพคุมทีมสโมสรในลีกหญิงของไทยได้ด้วย โดยทั้งหมดนี้เราจะใช้โค้ชหนึ่งกุนซือทีมชาติไทย เป็นแบบอย่างในการปั้นกุนซือหญิงขึ้นมาเรื่อยๆ" โค้ชหรั่ง กล่าวทิ้งท้าย