เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผมนะครับ สำหรับ iPhone 6
จากกระแสข่าวล่าสุดที่ Confirm กันอย่างแน่นอนแล้วว่า iPhone 6 จะเปลี่ยน Design และมีหน้าจอใหญ่ขึ้นทั้ง 2 ขนาด คือ 4.7 นิ้วหนึ่งตัว และ 5.5 นิ้ว หากดูรอบของการออกใหม่ของตัว iPhone และรุ่นนั้นๆ มาถึงรอบนี้ก็ต้องเปลี่ยน Design เป็นธรรมดาอยู่แล้วเหมือนตอน iPhone 4 ไป 5
ซึ่งจาก iPhone 5 ไป 6 ยังมีลูกเล่นเรื่องขนาดของหน้าจอให้ขยายได้อีก ไม่เหมือน Andriod ที่ขยายจนตันแล้ว ดูจาก Galaxy S5 เป็นต้น ต่างกับ S4 มากมั้ย ผมว่าไม่.....
ดังนั้น iPhone Designใหม่ บวกกับความสามารถของกล้องที่เพิ่มขึ้น ความเห็นส่วนตัวของผมคือไม่น่าจะต่างจาก iPhone 4 ไป 5 มากนัก มันคือการปรับ Design กับรายละเอียดปลีกย่อยให้มากขึ้น เป็น iPhone 6 ที่ดีขึ้น ใหญ่ขึ้นตามขนาดของการใช้งาน Style และ Content ในปัจจุบัน
แต่.....
มีข่าวรายงานว่าพบสิทธิบัตรที่ Apple ได้จดเอาไว้ตอนเดือนกุมพาที่ผ่านมา ตามเลขรหัสดังนี้ Apple's U.S. Patent No. 8,730,179
นั่นคือสิทธิบัตร หน้าจอระบบสัมผัส Multi Touch ที่ใช้ๆกันอยู่แต่ได้รวมแผง Solar Cell เพิ่มขึ้นเอาไว้ด้วย...!!!
จริงๆเรื่องระบบชารต์ไฟแบบ Solar Cell นั่นก็มีมานานแล้ว อย่างนาฬิกาของค่าย Casio อย่าง Baby-G G-Shock ก็มีมานานนม แต่นั่นมันนาฬิกาใช้ไฟนิดเดียว แต่ถ้ามันชารต์ไฟเข้ามือถือได้เป็นระบบแบบ Hybrid อย่างที่คาดกันไว้ล่ะ ผมว่าน่าสนใจมากๆ อาจเป็นแผง Solar Cell บางส่วนบนหน้าจอ นั่นก็พอให้ฮือฮากันแล้วครับ
ซึ่งถ้าหากเป็นกล้อง ระบบป้องกันการสั่น เลนส์ต่างๆ ก็คงตามหลัง กล้อง Compact หรือ DSLR ไล่กันไปเรื่อยๆ ไม่น่าตื่นเท่าไหร่นัก...
จากตาม Timeline ของ Apple แล้ว Siri ท่ี Apple ได้ซื้อไปในปี 2010 แล้ว Scott Forstall เอาต้นแบบไปให้ Steve Jobs ทอลองใช้ในเดือนกรกฏา 2011 ช่วงเวลาที่ Jobs ป่วยหนักเต็มที ก่อนปล่อยออกมาให้ใช้กันเดือนตุลา ปี 2011 หรือ Apple Map ที่ได้ซื้อและพัฒนามา รวมถึง Touch Id ล่าสุดที่ซื้อบริษัทมาจาก AuthenTec ปี 2012 รวมๆแล้วก็เกือบ 1-2 ปีเป็นอย่างต่ำ ต่อ 1 เทคโนโลยีที่ผลิตออกมา
จะมีก็เห็นแต่ Apple TV ที่ Steve Jobs บอกเอาไว้ว่า คิดออกแล้วว่าจะปฏิวัติวงการ TV อย่างไร เมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้ 2014 ก็ยังไม่เห็น ( อาจจะเป็นเดือนหน้า WWDC 2014) รึเปล่าก็ไม่แน่ ว่าได้สานต่อกันไปถึงไหน
สรุปคือ จาก Timeline เรื่องของ หน้าจอ Multi touch ชารต์พลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยใช้ระบบ Hybrid จาก Battery และพลังงานแสง
คงไม่มาใน iPhone 6 นี้แน่นอน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะทัน iPhone 6S หรือไม่
ซึ่งคำแนะนำของผมคือ ใครใช้ iPhone5S อยู่ ถ้าอยากได้เครื่องใหญ่ขึ้น ซื้อ iPhone 6 ก็ไม่เสียหายอะไร แต่มันก็คงใช้งานได้ไม่ต่างกับ 4S ไป 5 มากนัก
ถ้าใครอยากได้ Innovation เจ๋งๆ เหมือน Siri ใน iPhone 4S หรือ ระบบสแกนนิ้วมือใน iPhone 5S ก็อาจต้องรอใน iPhone 6S ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ Multi touch Solar Cell แบบ Hybrid จะมาทันใน iPhone 6S หรือไม่
ซึ่งถ้าทัน.....ก็แนะนำให้รอซื้อ iPhone 6S แต่เอ๊ะ....
เดี๋ยว iPhone 7 ก็เปลี่ยน Design อีกแล้วนี่หว่า......(^.^)
.
.
.
.
.
.
https://www.facebook.com/mrgreentealatte7
http://mrgreentealatte.blogspot.com
ปล. ของ IT ถ้าซื้อแล้วได้ใช้เลย ก็ซื้อๆไปเถอะครับ ไม่งั้นคงรอกันไม่จบไม่สิ้น 555
iPhone 6S กับ ระบบหน้าจอพลังงาน Solar Cell แบบ Hybrid
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผมนะครับ สำหรับ iPhone 6
จากกระแสข่าวล่าสุดที่ Confirm กันอย่างแน่นอนแล้วว่า iPhone 6 จะเปลี่ยน Design และมีหน้าจอใหญ่ขึ้นทั้ง 2 ขนาด คือ 4.7 นิ้วหนึ่งตัว และ 5.5 นิ้ว หากดูรอบของการออกใหม่ของตัว iPhone และรุ่นนั้นๆ มาถึงรอบนี้ก็ต้องเปลี่ยน Design เป็นธรรมดาอยู่แล้วเหมือนตอน iPhone 4 ไป 5
ซึ่งจาก iPhone 5 ไป 6 ยังมีลูกเล่นเรื่องขนาดของหน้าจอให้ขยายได้อีก ไม่เหมือน Andriod ที่ขยายจนตันแล้ว ดูจาก Galaxy S5 เป็นต้น ต่างกับ S4 มากมั้ย ผมว่าไม่.....
ดังนั้น iPhone Designใหม่ บวกกับความสามารถของกล้องที่เพิ่มขึ้น ความเห็นส่วนตัวของผมคือไม่น่าจะต่างจาก iPhone 4 ไป 5 มากนัก มันคือการปรับ Design กับรายละเอียดปลีกย่อยให้มากขึ้น เป็น iPhone 6 ที่ดีขึ้น ใหญ่ขึ้นตามขนาดของการใช้งาน Style และ Content ในปัจจุบัน
แต่.....
มีข่าวรายงานว่าพบสิทธิบัตรที่ Apple ได้จดเอาไว้ตอนเดือนกุมพาที่ผ่านมา ตามเลขรหัสดังนี้ Apple's U.S. Patent No. 8,730,179
นั่นคือสิทธิบัตร หน้าจอระบบสัมผัส Multi Touch ที่ใช้ๆกันอยู่แต่ได้รวมแผง Solar Cell เพิ่มขึ้นเอาไว้ด้วย...!!!
จริงๆเรื่องระบบชารต์ไฟแบบ Solar Cell นั่นก็มีมานานแล้ว อย่างนาฬิกาของค่าย Casio อย่าง Baby-G G-Shock ก็มีมานานนม แต่นั่นมันนาฬิกาใช้ไฟนิดเดียว แต่ถ้ามันชารต์ไฟเข้ามือถือได้เป็นระบบแบบ Hybrid อย่างที่คาดกันไว้ล่ะ ผมว่าน่าสนใจมากๆ อาจเป็นแผง Solar Cell บางส่วนบนหน้าจอ นั่นก็พอให้ฮือฮากันแล้วครับ
ซึ่งถ้าหากเป็นกล้อง ระบบป้องกันการสั่น เลนส์ต่างๆ ก็คงตามหลัง กล้อง Compact หรือ DSLR ไล่กันไปเรื่อยๆ ไม่น่าตื่นเท่าไหร่นัก...
จากตาม Timeline ของ Apple แล้ว Siri ท่ี Apple ได้ซื้อไปในปี 2010 แล้ว Scott Forstall เอาต้นแบบไปให้ Steve Jobs ทอลองใช้ในเดือนกรกฏา 2011 ช่วงเวลาที่ Jobs ป่วยหนักเต็มที ก่อนปล่อยออกมาให้ใช้กันเดือนตุลา ปี 2011 หรือ Apple Map ที่ได้ซื้อและพัฒนามา รวมถึง Touch Id ล่าสุดที่ซื้อบริษัทมาจาก AuthenTec ปี 2012 รวมๆแล้วก็เกือบ 1-2 ปีเป็นอย่างต่ำ ต่อ 1 เทคโนโลยีที่ผลิตออกมา
จะมีก็เห็นแต่ Apple TV ที่ Steve Jobs บอกเอาไว้ว่า คิดออกแล้วว่าจะปฏิวัติวงการ TV อย่างไร เมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้ 2014 ก็ยังไม่เห็น ( อาจจะเป็นเดือนหน้า WWDC 2014) รึเปล่าก็ไม่แน่ ว่าได้สานต่อกันไปถึงไหน
สรุปคือ จาก Timeline เรื่องของ หน้าจอ Multi touch ชารต์พลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยใช้ระบบ Hybrid จาก Battery และพลังงานแสง
คงไม่มาใน iPhone 6 นี้แน่นอน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะทัน iPhone 6S หรือไม่
ซึ่งคำแนะนำของผมคือ ใครใช้ iPhone5S อยู่ ถ้าอยากได้เครื่องใหญ่ขึ้น ซื้อ iPhone 6 ก็ไม่เสียหายอะไร แต่มันก็คงใช้งานได้ไม่ต่างกับ 4S ไป 5 มากนัก
ถ้าใครอยากได้ Innovation เจ๋งๆ เหมือน Siri ใน iPhone 4S หรือ ระบบสแกนนิ้วมือใน iPhone 5S ก็อาจต้องรอใน iPhone 6S ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ Multi touch Solar Cell แบบ Hybrid จะมาทันใน iPhone 6S หรือไม่
ซึ่งถ้าทัน.....ก็แนะนำให้รอซื้อ iPhone 6S แต่เอ๊ะ....
เดี๋ยว iPhone 7 ก็เปลี่ยน Design อีกแล้วนี่หว่า......(^.^)
.
.
.
.
.
.
https://www.facebook.com/mrgreentealatte7
http://mrgreentealatte.blogspot.com
ปล. ของ IT ถ้าซื้อแล้วได้ใช้เลย ก็ซื้อๆไปเถอะครับ ไม่งั้นคงรอกันไม่จบไม่สิ้น 555