สปอยล้วนๆ: จัดระเบียบหนังเรื่อง Enemy (2014)

“Chaos is order yet undeciphered.”  ความโกลาหลคือความมีระเบียบที่ยังไม่ได้ถูกตีความ


“Sometimes you have compulsions that you can’t control coming from the subconscious…They are the dictator inside ourselves.”
ในบางครั้งคุณก็มีแรงผลักดันบางอย่างที่ทำให้คุณไม่สามารถควบคุมจิตใต้สำนึกได้ พวกมันเป็นเผด็จการที่อยู่ในตัวเรา (ซึ่งคำว่าเผด็จการหรือ dictator นี้ อีกนัยหนึ่งก็คือเรื่องเซ็กส์)


"History repeats itself, first as tragedy, then as farce… A pattern that repeats itself throughout the history."

ประวัติศาสตร์มักจะเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาในตัวของมันเอง สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกจะเป็นโศกนาฏกรรมหลังจากนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องตลก เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาตลอดประวัติศาสตร์


เรื่อง Enemy ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตัวละครที่แท้จริงแล้วเป็น แอนโทนี่ แคลร์ ดาราเกรด C แต่หนังถ่ายถอดและดำเนินเรื่องผ่าน อดัม เบลล์ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่สอนประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ตัวแอนโทนี่สร้างขึ้นมาในจิตใต้สำนึก และเราจะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อใดที่ถ่ายในส่วนของแอนโทนี่ภาพจะขาวสว่างหมายถึงตัวตนที่ชัดเจนแท้จริง เมื่อใดที่เป็นอดัมภาพและสีจะมืดลงทันที เป็นสัญลักษณ์ถึงตัวตนที่ไม่ชัดเจนคลุมเครือเป็นความลับนั่นเอง แต่ตอนหลังเหตุการณ์เริ่มกระจ่างภาพมืดๆก็จะหายไป

เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นมาจากการที่แอนโทนี่ (ดาราเกรด C) แอบเป็นชู้กับแมรี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาและเธอคบกันมานานแค่ไหน แต่แม่รี่พึ่งสังเกตเห็นรอยแหวนแต่งงานที่นิ้วตอนมีเซ็กส์กัน พวกเขาจึงทะเลาะกันจนทำให้รถคว่ำ ทำให้แอนโทนี่ได้แผลเป็นที่หน้าอกมา เฮเลน (ภรรยาของแอนโทนี่) รู้เรื่องที่แอนโทนี่นอกใจเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น แต่ก็ให้อภัย

แอนโทนี่รู้สึกผิดกับภรรยามาก แต่เป็นคนที่เจ้าชู้และไม่ชอบการผูกมัดมีความความสัมพันธ์อยู่แล้ว จึงยังคงเที่ยวเป็นกิ๊กและไปเซ็กส์คลับเหมือนเดิม ความกลัวและความรู้สึกผิดทั้งหลายกับการยังอยากมีกิ๊กทำให้แอนโทนี่สร้างตัวตนขึ้นมาอีกคนหนึ่งคือ อดัม อาจารย์ประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะได้ตัดเฮเลนออกไปจากชีวิตของเขาและอยู่กับแมรี่ที่อีกอพาร์ทเมนต์โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด

ในตอนที่เป็นอดัมก็ยังคงมีจิตใต้สำนึกในความเป็นแอนโทนี่ตัวจริงอยู่ จึงทำให้อดัมสร้างเพื่อนในจินตนาการซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานขึ้นมาแนะนำให้เขาไปหาหนังเรื่อง Where’s a will, there’s a way. มาดู และนั่นเป็นตอนเริ่มต้นที่เขาพบเจอแอนโทนี่ในหนัง ทำให้โลกทั้ง 2 โลกเริ่มรวมเข้าหากัน
อดัมพยายามโทรติดต่อหาแอนโทนี่ แต่คนที่รับโทรศัพท์คือเฮเลน เขายืนยันตัวเองว่าเขาไม่ใช่แอนโทนี่ แต่เฮเลนก็ยังเรียกเขาว่า “แอนโทนี่” และงงกับคำพูดที่อดัมพูด (ณ จุดนี้แสดงว่าแอนโทนี่ไม่ได้อยู่บ้านแน่นอน) ในเวลาต่อมาอดัมโทรไปที่บ้านแอนโทนี่อีกครั้ง เมื่อแอนโทนี่รับสายอดัมก็เดินเข้าไปคุยในห้องน้ำ ส่วนแอนโทนี่เราก็จะเห็นว่าเขาพึ่งออกมาจากการคุยโทรศัพท์กับอดัมในห้องน้ำเช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแอนโทนี่น่าจะคุยกับตัวเองที่เป็นอดัมในจิตใต้สำนึก ไม่ได้รับสายจากอดัมจริงๆ

เฮเลนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของแอนโทนี่และแอบระแวง จึงถามแอนโทนี่ว่า  “กลับไปพบกับผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วเหรอ” ซึ่งเธอหมายถึงแมรี่ เธอจึงไปเปิดโทรศัพท์เพื่อดูเบอร์สายโทรเข้าก็เห็นแค่เบอร์ unknown call ที่น่าจะเป็นตอนที่อดัมใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรเข้ามาที่บ้านแอนโทนี่และเฮเลนเป็นคนรับสาย (โทรศัพท์บ้านในเมืองนอกถ้าโทรจากบ้านสู่บ้าน มือถือสู่บ้านน่าจะโชว์เบอร์เพราะเห็นมาจากหนังเรื่องอื่นๆ)

ตกดึกเฮเลนตัดสินใจค้นกระเป๋าแอนโทนี่ เธอเจอกระดาษที่แอนโทนี่จดชื่อของอดัมเอาไว้ เฮเลนจึงเสริทหาชื่อพบว่าเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์อยู่ที่มหาลัยซึ่งก็ไม่รู้ว่าคือใครเพราะไม่มีรูป เธอตัดสินใจเดินทางไปที่มหาลัยตามที่อยู่ที่จดมา เฮเลนเจออดัมที่ทำท่าทางไม่รู้จักเธอเลย แถมยังถามอีกว่าเธอท้องกี่เดือนแล้ว เธอตอบว่า “6 เดือน” ซึ่งเป็นจำนวนระยะเวลาเดียวกันกับตอนที่อดัมไปตึกที่ทำงานของแอนโทนี่เพื่อสืบหาประวัติ และรปภ.ทักว่าไม่เจอกันตั้ง  6 เดือน  

เราจะเห็นว่าหน้าตาเฮเลนตอนเจอและคุยกับอดัมนั้นไม่ได้ประหลาดใจที่แค่เจอคนที่หน้าเหมือนกับสามีของเธอ แต่ออกแนวช็อคตกใจเหมือนจะร้องไห้ เมื่อจบบทสนทนาอดัมขอตัวกลับเข้าไปสอน เฮเลนไม่แน่ใจว่าเกิดไรขึ้นจึงรีบโทรหาแอนโทนี่เพื่อเช็คในระหว่างที่อดัมยังอยู่ในระยะสายตาของเธอ เมื่ออดัมเดินหายเข้าไปในตึกแล้ว แอนโทนี่จึงรับสายโทรศัพท์ เฮเลนได้ยินสียงแอนโทนี่พูดกลับมา แต่เธอกลับวางส่ายทิ้งและทำหน้าช็อค ซึ่งเมื่อสายของเฮเลนเข้า จิตใต้สำนึกของแอนโทนี่น่าจะโผล่มารับสายแทนโดยอัตโนมัติ

เฮเลนกลับมาถึงบ้านในอาการที่ช็อคและสับสน แอนโทนี่กลับมาบ้านในเวลาต่อมาบอกว่าไปวิ่งมาและถามหาบลูเบอรี่ที่เขาชอบกิน เฮเลนทำหน้าช็อค งงและเสียใจมากกว่าเดิม จนอดัมเห็นว่าเธอแปลกไปและถามว่าเธอเป็นอะไร เฮเลนจึงตอบเขาไปว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น...คุณก็น่าจะรู้นะ” เฮเลนไม่แน่ใจว่าแอนโทนี่แกล้งหรือแอนโทนี่มีปัญหาจริงๆกันแน่

แอนโทนี่ยอมรับและนัดเจอกับอดัมที่ห้องในโรงแรมแห่งเดียวกับตอนที่แอนโทนี่พาแม่รี่มา แอนโทนี่เดินเข้ามาในห้องถามว่าอดัมมีรอยแผลที่อกเหมือนกันไหม นั่นทำให้แอนโทนี่เริ่มรู้แล้วว่าอดัมน่าจะเป็นอีกคนที่ตัวเองสร้างขึ้นมาในจิตนาการ อดัมก็เช่นเดียวกันและเริ่มกลัวไม่แน่ใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงรีบออกมาจากห้อง ทำให้อดัมก็ยังคงมีตัวตนต่อไป

อดัมไปแม่ถามเรื่องว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวจริงหรือไม่ แม่ของเขาบอกอดัมให้กินบลูเบอรี่เพราะเห็นว่าลูกชอบ แต่อดัมกลับอกว่าไม่ชอบกินบลูเบอรี่ (เห็นได้จากตอนที่แอนโทนี่ถามหาบลูเบอรี่จากเฮเลน)  แม่ของเขายังบอกอีกว่า เลิกไล่หาผู้หญิงคนอื่นๆมีผู้หญิงคนเดียวก็เกินพอแล้ว และการเลิกเป็นดารากระจอกๆไปทำงานอย่างอื่นเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ตอนนั้นอดัมชะงักไปสักพักงงกับสิ่งที่ได้ยินเพราะเขาไม่ใช่ดาราแต่เป็นแอนโทนี่ต่างหาก จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่ย้ำเด่นชัดและนำเสนอได้ชัดเจนว่าแอนโทนี่และอดัมคือคนๆเดียวกัน อดัมน่าจะพอรู้ตัวแล้วว่าเขาก็คือแอนโทนี่

แอนโทนี่ที่โดยพื้นฐานเป็นคนที่หมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ ดันเกิดความหึงหวงเฮเลนขึ้นมา จึงมาถามอดัมว่าเคยมีเซ็กส์กับเฮเลนรึเปล่า ซึ่งเราจะเห็นว่าเขาแค่เคยคุยโทรศัพท์และเจอเฮเลนครั้งเดียวเท่านั้นเอง แต่แอนโทนี่ก็ยังอยากมีเซ็กส์กับคนอื่นอยู่อีกจึงบอกว่าจะพาแมรี่ไปเที่ยวและหายไปจากชีวิต ซึ่งแอนโทนี่ก็ได้หายไปจริงๆ อดัมจึงกลับไปหาเฮเลนที่บ้าน เขาเห็นรูปถ่ายที่แอนโทนี่ถ่ายคู่กับเฮเลน รูปถ่ายใบนั้นคือรูปเดียวกับที่อดัมเอามาเทียบหน้าแอนโทนี่ในแลปท๊อปในตอนแรกที่ค้นพบว่าแอนโทนี่หน้าตาเหมือนเขา เพียงแต่รูปนั้นมีแค่รูปอดัมเพียงคนเดียว ส่วนที่เป็นรูปเฮเลนถูกฉีกออก เป็นสัญลักษณ์หมายความว่า แอนโทนี่ต้องการตัดขาดเฮเลนออกไปจากชีวิต รูปที่อดัมมี จึงมีแค่รูปเขาเท่านั้น

เฮเลนกลับมาถึงบ้านสังเกตว่าแอนโทนี่เปลี่ยนไป เธอรู้ทันที่ว่านี่คืออดัม เธอจึงถามเขาว่า วันนี้เขาไปสอนมาเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้เฮเลนรับรู้แล้วว่าแอนโทนี่มีปัญหาทางจิตแน่นอน อดัมนอนหลับลงข้างเฮเลน เขาฝันถึงเหตุการณ์ที่แอนโทนี่พาแมรี่ไปมีเซ็กส์กันที่โรงแรม จนเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ อดัมตื่นมานั่งร้องไห้ เขารู้ตัวแน่นอนแล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเขาและเขาแท้จริงแล้วก็คือแอนโทนี่ เฮเลนเข้ามาปลอบอดัม และขอให้เขาอยู่ต่อ เพราะเธอชอบอดัมมากกว่าแอนโทนี่ที่เจ้าชู้นอกใจ
ในเช้าวันต่อมาอดัมได้ยินเสียงวิทยุเล่าข่าวเหตุรถชน เขาปิดมันลงและเหมือนเป็นตัวกระตุ้นในแอนโทนี่กลับมานิดนึง อดัมจึงเดินไปเปิดซองจดหมายเจอกุญแจ เขารู้ทันทีว่ามันเป็นกุญแจสู่ประตูเซ็กส์ อดัมโดนแอนโทนี่กลืนหายไปในทันทีตะโกนบอกเฮเลนว่าคืนนี้เขาจะออกไปข้างนอก เฮเลนไม่ตอบ เขาจึงเดินไปหาที่ห้อง แต่ภาพที่เขาพบนั้นกลับเป็นแมงมุมตัวยักษ์ทำท่าห่อตัวตกใจ

แมงมุมที่แอนโทนี่เจอตัวนั้น หมายถึง ตัวเฮเลน ที่แอนโทนี่มองว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว เขากลัวการเป็นพ่อคน กลัวการผูกมัดความสัมพันธ์ กลัวขาดอิสระ ในทางกลับกันแมงมุมซึ่งคือเฮเลนก็รู้ตัวว่าแอนโทนี่คนเดิมกลับมาอีกแล้ว แมงมุมทำท่าตกใจกลัวเพราะแท้จริงแล้วเฮเลนรู้สึกกลัวและตกใจว่าแอนโทนี่จะกลับไปเที่ยวและเจ้าชู้เหมือนเดิมอีก

ทีนี้เหตุการณ์จึงวนมาที่ฉากเปิดเรื่องคือแอนโทนี่เดินถือกุญแจกลับไปที่เซ็กส์คลับ (อดัมไม่เคยไปเลย) เราจะเห็นคนเฝ้าคอนโด (ที่เปิดประตูห้องให้อดัมตอนไปหาเฮเลน) เดินตามหลังแอนโทนี่มาติดๆ แอนโทนี่นั่งดูโชว์ผู้หญิง และต่อด้วยโชว์ที่เหยียบแมงมุม ซึ่งแมงมุมในที่นี้ก็ยังคงเป็นเป็นสัญลักษณ์แทนเฮเลนที่เขาอยากจะทำลายความสัมพันธ์มันลงซะ เหมือนกับการเหยียบแมงมุมคือการทำลายความกลัวของเขานั่นเอง

เพราะฉะนั้นหนังจึงไม่ได้จบห้วน หรือขาดสิ่งใดไปเลย เพราะสิ่งที่หนังจะบอกและสื่อนั้นคือการ repeat หรือการทำซ้ำไปซ้ำมา หรือการวนเป็นวงจรเดิมเหมือนพฤติกรรมที่อดัมทำซ้ำซากจำเจใน 10 นาทีแรกของหนัง บวกกับคำพูดที่เขาพูดใน 10 นาทีแรกด้วยเหมือนกัน (คำพูดตามย่อหน้าบนสุด) ทั้งมีการบอกด้วยภาพกลายๆด้วยว่าอดัมคือคนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกและเป็นคนๆเดียวกัน เพราะเราจะเห็นองค์ประกอบของสิ่งของต่างๆ เช่น ตึก เก้าอี้ กระถางต้นไม้จะ 2 อันตลอด เบอร์ห้องที่โรงแรมยังเป็น 221 คือ มีเลขสอง 2 อันซึ่งรวมกันเป็น 1 แม้กระทั่งข้อความที่เขียนบนกุญแจ “UNICA” ในภาษาอิตาเลี่ยนก็แปลว่า “หนึ่ง” และภาพเวลาอดัมจะเข้าประตูกระจก เราจะเห็นตัวหนังสือที่แปะอยู่ที่ประตูเป็นตัวกลับหลังเสมอ เหมือนเป็นภาพสะท้อนและอีกหนึ่งชีวิตคู่ขนาน

ทำไมถึงต้องเป็นแมงมุม??? เหตุผลแรกได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้ว เหตุผลต่อมาคือแมงมุมที่อยู่ในเรื่องคือแมงมุมทารันทูล่า หรือ Black Widow ขึ้นชื่อเรื่องการมีพิษ ล่อให้ตัวผู้มาผสมพันธุ์ด้วย เมื่อเสร็จกิจตัวเมียก็จะกินตัวผู้ซะ เป็นการเปรียบเปรยของการมีชีวิตคู่ว่าเมื่อผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงก็เหมือนโดนกิน เพราะจะผูกมัดและขาดอิสระในชีวิตไปไม่เหมือนกับตอนโสด

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ หนังเรื่องนี้มีเนื้อเรื่อง การเล่าและการดำเนินเรื่องที่โยงใยเหมือนใยแมงมุม ทุกๆสิ่งมันเชื่อมโยงกันไปหมดแค่เราต้องมาจัดวางเรียบเรียงทำความเข้าใจกันใหม่ ซึ่งหนังก็มีสัญลักษณ์บอกคนดูกลายๆ ทั้งคำพูดในชั้นเรียนของอดัมและทางภาพบนกระดานที่อดัมสอนในฉากแรกๆ ที่ขีดเส้นเชื่อมโยงกันไปมาจนเต็มกระดาน ตึกที่อยู่กระจัดกระจาย สายไฟและสายรถเคเบิ้ลที่คล้องต่อกัน ลายพื้นที่อดัมเดินผ่าน และกระจกรถที่แตกนั่นเอง

ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยน้าค้า ยิ้ม

สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ  https://www.facebook.com/MoviesStalker
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่