จากดราม่าความลับของแม่ เลยอยากขอแชร์เรื่องราวของผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในชีวิตบ้างครับ

ผมรู้จักผู้หญิงอยู่คนนึง เธอเป็นน้องคนสุดท้องในพี่น้องสามคน บ้านเกิดคือที่คลองบางกอกน้อย แม่ประกอบอาชีพช่างตัดเสื้อ ส่วนสามพี่น้องพับถุงขาย เธอพับถุงได้ช้าแต่ทุกถุงนั้นออกมาสวยที่สุดในหมู่พี่น้อง สาย ๆ ทั้งสามคนจะเอาถุงไปขายตลาดแล้วเอาเงินมารวมกันไว้ซื้อขนมกินไม่ต้องขอพ่อแม่ พอเธออายุได้สิบขวบพ่อเธอประสพอุบัติเหตุเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ด้วยความที่ยากจนและต้องเก็บเงินไว้เป็นค่าเล่าให้เรียนลูก ๆ แม่ของเธอจึงตัดสินใจไม่ไปรับศพพ่อมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เรื่องนี้เป็นตราบาปชั่วชีวิตของเธอ ทุกครั้งที่เธอเล่าถึงมันเธอจะพร่ำพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า "พ่อจ๋าลูกขอโทษ ถ้าลูกย้อนเวลาไปได้ลูกจะเอาศพพ่อไปเผาที่วัด ไม่ให้พ่อต้องเป็นศพอนาถา ลูกขอโทษนะพ่อนะ..." ผมได้แต่คอยปลอบเธอว่า "ไม่เป็นไรนะ ยังมีผมอยู่ทั้งคน อย่าร้องไห้อีกเลยนะ ผมจะอยู่ดูแลเธอไปจนวันตาย"

เมื่อเธอเข้ามหาลัยเธอถึงได้พบเจอโลกที่สวยงามกับเค้าบ้าง เหมือนฝนลาฟ้าเริ่มจะใส ในยุคสมัยนั้นหนุ่มสาวจะคบหากันต้องค่อย ๆ คบต้องดูใจกันอย่างน้อยก็ 4-5 ปี เธอเป็นนักร้องประจำคณะ ทุกเย็นเธอจะไปร้องเพลงที่สโมสรเป็นงานพาธไทม์ไว้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน และตอนนั้นเองเธอก็ได้เจอเขา เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตี๋สุภาพมีสเน่ห์อารมณ์ดี และที่สำคัญร้องเพลงได้เพราะมากยิ่งเฉพาะตอนร้องเพลงคู่กับเธอ ชายหนุ่มนั้นเป็นคนฐานะดี เขารักและดูแลเธออย่างดีเสมอต้นเสมอปลาย หลังจากบ่มรักกันมานานห้าปีทั้งสองจึงหมั้นหมายและแต่งงานกัน พอเธอคลอดลูกคนแรกไม่นานเธอก็ได้รู้ว่าเขาแอบไปมีเมียน้อย ผู้หญิงสมัยนั้นทำได้ก็แค่ทนหน้าชื่นอกตรมด้วยค่านิยมภรรยารองเป็นเรื่องธรรมชาติ เธอกล้ำฝืนกลืนน้ำตาเลี้ยงดูลูกชายอย่างดีมาตลอด จนเธอตั้งท้องลูกคนที่สอง ทั้งแม่ทั้งลูกตื่นเต้นกับน้องใหม่มากจนลืมความเศร้า แต่เหมือนจะทำร้ายจิตใจกันไม่หนำ สามีเธอเริ่มไปเสพติดการพนันอย่างหนัก บ้านที่เธอใช้เงินเก็บเล็กผสมน้อยซื้อไว้ให้แม่อยู่สบาย ๆ ก็ต้องถูกขายเอาไปใช้หนี้ สุดท้ายบ้านหลังที่เธอกับลูกใช้ซุกหัวนอนก็ยังต้องถูกขายเพื่อสังเวยเป็นเหยื่อการพนัน เธอตรอมใจมากจนแท้งลูกคนที่สอง เธอและลูกชายกอดคอกันร้องให้น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด

หนี้พนันของสามีแม้ขายบ้านขายรถและทรัพย์สินทั้งหมดที่มีก็ยังไม่พอชดใช้ เขาจึงคิดหนีไปกบดานซ่อนตัวซักพักรอให้หนี้ซาเสียก่อน สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจกัดฟันขอหย่าเพื่ออนาคตของลูกชาย ทั้งที่เธอตั้งใจไว้ว่าชั่วชีวิตนี้ต่อให้อีกกี่สิบเมียน้อยก็จะไม่ขอคิดหย่า.. เธอเล่าให้ผมฟังว่ามีวันนึงเธอหยิบปืนในเซฟขึ้นมา อ้าปากเอาปืนกรอกพร้อมจะลั่นไกอย่างคนที่ในหัวว่างเปล่าเหมือนโดนผีสิง!! แต่ชั่วขณะนั้นเองเหลือบหันมาเห็นลูกชายที่กำลังนอนหลับตาพริ้มไร้เดียงสา เธอตกใจขนลุกซู่โยนปืนทิ้งแล้วกอดลูกนั่งร้องให้พร่ำแต่พูดว่า "แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ แม่จะไม่ทำอีกแล้วนะลูกนะ" ผมฟังเรื่องนี้ทีไรก็ต้องเผลอร้องให้ไปกับเธอทุกครั้งแม้กระทั่งตอนพิมพ์อยู่นี้ก็ตาม

เมื่อยอมรับความเป็นจริงได้ เธอเริ่มต้นใหม่อีกครั้งโดยทำธุรกิจเดิมของสามีเก่าแต่ทำในนามของเธอเอง ถึงจะล้มลุกคลุกคลานปากกัดตีนถีบบ้างแต่เธอก็ส่งเสียลูกชายไม่เอาถ่านคนนึงให้เรียนจนจบปริญญาตรีได้สำเร็จ และตอนนี้เธอก็ใช้ชีวิตอย่างสบายอิสระและมีความสุขในระดับนึง ได้ไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน ๆ ได้ไปปฏิบัติธรรมหาความสงบที่วัดตามแต่ชอบใจ และเธอก็ไม่เคยต้องลำบากอีกเลย เพราะมีผมคอยดูแลเคียงข้างเธอเสมอตลอดมาและตลอดไป และผมขอสัญญาด้วยชีวิตเลยว่า "แม่ครับ ผมจะอยู่ดูแลแม่จนวันตาย"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่