สวัสดีครับเพื่อนๆ พันทิพ มีปัญหาเรื่องหัวใจมาปรึกษาครับ
ผม อายุ 26 ปี เป็นพนักงานบริษัท รายได้ ต่อเดือน 3X,XXX ต้นๆ มีภาระทางบ้าน และหนี้การศึกษา ยังไม่พร้อมแต่งงานตอนนี้ เพราะต้องดูแล น้องสาวที่ยังเรียนไม่จบ
แฟนผม อายุ 29 ปี มีลูกติด 1 คน 9 ขวบ ต้องเลี้ยงดูครอบครัว คนเดียว ดูแลลูกชาย แม่เลี้ยง จ่ายค่าใช้จ่ายคนเดียวทั้งบ้าน เค้าหาเงินเก่งพอควร แต่ตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวแล้วเพราะ งานที่ทำหนักและ เหนื่อยมานาน เธอเป็นคนสวย น่ารัก มีเสน่ เคยเป็นพริตตี้
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมกับแฟนคบกันมา 9-10 เดือน และ เราคบกันแบบจริงจัง เธอพาผมเข้าบ้านเจอ ญาติผู้ใหญ่ทั้งหมด ผมเองก็ทำเช่นกันเราสองคนจริงจังต่อกัน ในเวลาที่ตัดสินใจคบกัน ผมมองข้ามเรื่องที่เธอเคยผ่านเคยทำมาทั้งหมด เรื่องลูกเธอด้วย ซึ่งมันคืออดีตผมไม่สนใจ ด้วยความดีของเธอที่ขยัน รักครอบครัว รู้บุญคุณ มีความเป็นผู้ใหญ่ ปัญหามันเริ่มขึ้นที่ แฟนผมต้องไปทำงาน ตจว. บ่อยขึ้น แล้วอยู่ๆ ไปเจอ เพื่อนซึ่งเป็นลูกค้าเก่าตอนเป็นพริตตี้ เข้ามาในชีวิต ตลอดเวลาที่เธออยู่ ตวจ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า เพื่อนเก่าเธอคอยดูแล ไปรับไปส่ง พาไปเที่ยวโน่นนี่ เธอจะโกหกว่า ไปกับเพื่อน หรือไปคนเดียว รูปที่ถ่ายลง ก็จะเป็นรูปเธอคนเดียว มันเกิดคำถามว่า แล้วใครถ่ายให้? ต่อมาผมเริ่มทะเลาะกับเธอเพราะมันผิดปรกติ หลายๆอย่าง เปลี่ยนไป หลายๆคนคงนึกออกว่าเปลี่ยนยังไง เธอเลยมีเล่าให้ฟังว่า เพื่อนเธอคนนี้ มาติดต่อขอให้เธอทำตัวเป็นเหมือนหน้าม้า เป็นแฟนเค้า โพสรูปลงอินตราแกรม แสดงเหมือนว่าเป็นแฟนกัน รักกันมาก เพราะ เพื่อนเธอ คิดว่าตัวเองเป็น เกร์ เพราะ มีอะไรกับเมียไม่เคยเสร็จ มีกะคนอื่นก็ไม่เคยเสร็จ และไม่อยากให้เพื่อนๆในกลุ่มรู้เรื่อง ซึ่งเมียก็ๆได้ขอหย่าไปแล้ว เพราะเรื่องนี้ ซึ่งแรกกับการที่ ผช จะออกเงินทุนให้ เปิดร้าน เป็นหุ้นส่วนกัน ที่ ตจว. แฟนผมยอมรับข้อเสนอ เพราะอยากมีความก้าวหน้า อยากมีธุระกิจของตัวเอง ซึ่งผมให้ไม่ได้ เพราะใช้เงินเยอะมาก เป็นแสนๆ ซึ่งเธออ้างว่า รอเก็บเงินกับผม คงไม่ได้หลอกเพราะอายุเธอมากแล้ว ลูกต้องกินต้องใช้ ต้องใช้วิธีลัดแบบนี้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดผมพึ่งมารู้เอาทีหลัง หลังจากได้ เห็นภาพต่างๆในอินตาแกรม แล้วเกิดการทะเลาะกันยกใหญ่จนผมจะเลิกกับเธอ เธอมาพูดอธิบายผมเลยใจออ่นคบต่อ หลังจากนั้น ผช คนนี้ได้มีอิธิผลเข้ามาในชีวิตเธอมากขึ้น โดยเธออ้างเหตุผลว่า เพื่อนสนิทกัน ไม่มีอ่ะไรไม่ต้องคิดมาก เธอพาเข้าบ้าน เธอพาเค้ามาเจอผม ซึ่งผมไม่พอใจอยู่แล้ว เธอให้เค้าพาลูกไปเที่ยว เธอไปเที่ยว ตจว กับเค้าแล้วก็พาลูกไปด้วย โดยบอกว่า เป็นเรื่องงานที่ต้องไปดูร้าน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทะเราะเรื่องนี้กันบ่อยมาก เธอจะว่าผมว่าผมเห็นแก่ตัวไม่เข้าใจเธอ เธอสาระภาพว่า ผช ชอบเธอ รักเธอและรักลูกเธอ แต่เธอ รักผม เธอจึงไม่ยอมเลิกกับผม เธอบอกว่า อยากให้แยกแยะเรื่องงาน กับเรื่องความรัก เพราะเธอแยกได้ แต่ ผช คนนั้น แยกไม่ได้ เลยมีปัญหามาขึ้น คือ เธอจะพยายาม ไม่ให้ผม เจอ ผช คนนั้น เวลา ผช โโทรมา ก็จะให้ผมเงียบ หรือเดินออกมา เธออ้างว่า ไม่อยากทำให้ ผช อึดอัด เด๋วจะมีผลกระทบกับงาน ซึ่ง ผช รู้ดีอยู่แล้ว ว่าผม อยู่กับแฟน ตลอดเวลา คือผมอาศัยอยู่บ้านแฟน
ล่าสุด ผช คนนั้น มาบ้าน ของแฟนผม เธอก็บอกว่า เออ จะกลัวอะไร แม่ก็อยู่ ป้าก็อยู่ทุกคนรับรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่แค่ไม่อยากให้เจอผม เพราะจะทำให้ ผช อึดอัด เลยให้ผมรออยู่นอกบ้าน จนกว่า ผช จะกลับไป ผมรออยู่ ถึง ตีหนึ่ง ถึงจะเข้าบ้านได้ แฟนผม อ้างว่า ผช กำลังจะกลับบ้านไป ตจว คืนนี้ เด๋วเค้าก็ไปแล้ว ผมก็ไม่ได้ว่าไร เพราะไม่อยากทะเลาะ รุ่งเช้าผมไปทำงาน พอตกเย็นกลับมา อยู่ๆ ก๊อกน้ำในห้องน้ำ ซ่อมแล้ว ซึ่งผมกะจะทำวัน หยุด ผมก็ถาม ว่าใครซ่อม แฟนผมบอกว่า เออ เพื่อนเธอมา เมื่อเช้า มารอเพื่อนของเค้า เพราะ ผช ไม่มีโทรศัพ เค้า ผช เอาโทรศัพให้ ลูกของเธอใช้ ผช จึงมารอที่บ้าน แต่เธอ ไม่บอกผมเลย ตอนที่ผมโทรหา ก็ไม่เอ่ยถึง คือแบบ มาบอกอีกทีคือ มันเกิดขึ้นไปแล้วซึ่งถ้ผมไม่ถามก็คงไม่รู้ ผช รวยกว่าผม ดูแล แฟนผมได้ดีกว่า ในเรื่องของ ทรัพสิน ดูแลลูกเธอได้ดีกว่า มีเวลาให้มากกว่า เพราะไม่ได้ทำงานประจำ เค้าเข้ามาในชีวิตของเรา ทำให้ผมเริ่มไม่ค่อยมั่นใจ ในตัวของแฟนผมแล้ว มันมากเกินไป ผมเคยถามเธอว่า จะเลิกกันมั้ย เธอก็จะบอกว่า ไม่เลิก เธอรักผม แต่เธอแค่ต้องพึ่ง ผช คนนั้น อยากให้ผมเข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่ผม ทำให้เธอไม่ได้ แต่ ผช คนนั้นทำได้ ให้ผมยอมรับ และเชื่อใจว่ามันไม่มีอะไร ผมควรทำยังไง ปล่อยเธอไป หรือ อยู่แบบนี้ เลยไม่รู้ว่า ความจริง เป็นยังไง ครึ่งนึงก็เชื่อใจ ครึ่งนึงก็กลัวว่าจะโดนสวมเขา ตัวผมเองไม่ได้มีอะไรให้เธอหลอก ได้แค่เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง ออกค้าใช้จ่ายนิดๆหน่อยๆ รถผมก็ไม่มี เธอยังให้ผมยืมรถใช้ เวลาเธอไป ตจว. อยู่บ่อยๆ ผมเลยไม่เข้าใจว่า ตกลงมันมีอะไรรึป่าว หรือ มันไม่ได้มีอะไร ผมกลัวว่าจะเสียทุกอย่างไป โดยไม่รู้ตัว
ผมควรจะไว้ใจเค้าหรือ?
ผม อายุ 26 ปี เป็นพนักงานบริษัท รายได้ ต่อเดือน 3X,XXX ต้นๆ มีภาระทางบ้าน และหนี้การศึกษา ยังไม่พร้อมแต่งงานตอนนี้ เพราะต้องดูแล น้องสาวที่ยังเรียนไม่จบ
แฟนผม อายุ 29 ปี มีลูกติด 1 คน 9 ขวบ ต้องเลี้ยงดูครอบครัว คนเดียว ดูแลลูกชาย แม่เลี้ยง จ่ายค่าใช้จ่ายคนเดียวทั้งบ้าน เค้าหาเงินเก่งพอควร แต่ตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวแล้วเพราะ งานที่ทำหนักและ เหนื่อยมานาน เธอเป็นคนสวย น่ารัก มีเสน่ เคยเป็นพริตตี้
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมกับแฟนคบกันมา 9-10 เดือน และ เราคบกันแบบจริงจัง เธอพาผมเข้าบ้านเจอ ญาติผู้ใหญ่ทั้งหมด ผมเองก็ทำเช่นกันเราสองคนจริงจังต่อกัน ในเวลาที่ตัดสินใจคบกัน ผมมองข้ามเรื่องที่เธอเคยผ่านเคยทำมาทั้งหมด เรื่องลูกเธอด้วย ซึ่งมันคืออดีตผมไม่สนใจ ด้วยความดีของเธอที่ขยัน รักครอบครัว รู้บุญคุณ มีความเป็นผู้ใหญ่ ปัญหามันเริ่มขึ้นที่ แฟนผมต้องไปทำงาน ตจว. บ่อยขึ้น แล้วอยู่ๆ ไปเจอ เพื่อนซึ่งเป็นลูกค้าเก่าตอนเป็นพริตตี้ เข้ามาในชีวิต ตลอดเวลาที่เธออยู่ ตวจ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า เพื่อนเก่าเธอคอยดูแล ไปรับไปส่ง พาไปเที่ยวโน่นนี่ เธอจะโกหกว่า ไปกับเพื่อน หรือไปคนเดียว รูปที่ถ่ายลง ก็จะเป็นรูปเธอคนเดียว มันเกิดคำถามว่า แล้วใครถ่ายให้? ต่อมาผมเริ่มทะเลาะกับเธอเพราะมันผิดปรกติ หลายๆอย่าง เปลี่ยนไป หลายๆคนคงนึกออกว่าเปลี่ยนยังไง เธอเลยมีเล่าให้ฟังว่า เพื่อนเธอคนนี้ มาติดต่อขอให้เธอทำตัวเป็นเหมือนหน้าม้า เป็นแฟนเค้า โพสรูปลงอินตราแกรม แสดงเหมือนว่าเป็นแฟนกัน รักกันมาก เพราะ เพื่อนเธอ คิดว่าตัวเองเป็น เกร์ เพราะ มีอะไรกับเมียไม่เคยเสร็จ มีกะคนอื่นก็ไม่เคยเสร็จ และไม่อยากให้เพื่อนๆในกลุ่มรู้เรื่อง ซึ่งเมียก็ๆได้ขอหย่าไปแล้ว เพราะเรื่องนี้ ซึ่งแรกกับการที่ ผช จะออกเงินทุนให้ เปิดร้าน เป็นหุ้นส่วนกัน ที่ ตจว. แฟนผมยอมรับข้อเสนอ เพราะอยากมีความก้าวหน้า อยากมีธุระกิจของตัวเอง ซึ่งผมให้ไม่ได้ เพราะใช้เงินเยอะมาก เป็นแสนๆ ซึ่งเธออ้างว่า รอเก็บเงินกับผม คงไม่ได้หลอกเพราะอายุเธอมากแล้ว ลูกต้องกินต้องใช้ ต้องใช้วิธีลัดแบบนี้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดผมพึ่งมารู้เอาทีหลัง หลังจากได้ เห็นภาพต่างๆในอินตาแกรม แล้วเกิดการทะเลาะกันยกใหญ่จนผมจะเลิกกับเธอ เธอมาพูดอธิบายผมเลยใจออ่นคบต่อ หลังจากนั้น ผช คนนี้ได้มีอิธิผลเข้ามาในชีวิตเธอมากขึ้น โดยเธออ้างเหตุผลว่า เพื่อนสนิทกัน ไม่มีอ่ะไรไม่ต้องคิดมาก เธอพาเข้าบ้าน เธอพาเค้ามาเจอผม ซึ่งผมไม่พอใจอยู่แล้ว เธอให้เค้าพาลูกไปเที่ยว เธอไปเที่ยว ตจว กับเค้าแล้วก็พาลูกไปด้วย โดยบอกว่า เป็นเรื่องงานที่ต้องไปดูร้าน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทะเราะเรื่องนี้กันบ่อยมาก เธอจะว่าผมว่าผมเห็นแก่ตัวไม่เข้าใจเธอ เธอสาระภาพว่า ผช ชอบเธอ รักเธอและรักลูกเธอ แต่เธอ รักผม เธอจึงไม่ยอมเลิกกับผม เธอบอกว่า อยากให้แยกแยะเรื่องงาน กับเรื่องความรัก เพราะเธอแยกได้ แต่ ผช คนนั้น แยกไม่ได้ เลยมีปัญหามาขึ้น คือ เธอจะพยายาม ไม่ให้ผม เจอ ผช คนนั้น เวลา ผช โโทรมา ก็จะให้ผมเงียบ หรือเดินออกมา เธออ้างว่า ไม่อยากทำให้ ผช อึดอัด เด๋วจะมีผลกระทบกับงาน ซึ่ง ผช รู้ดีอยู่แล้ว ว่าผม อยู่กับแฟน ตลอดเวลา คือผมอาศัยอยู่บ้านแฟน
ล่าสุด ผช คนนั้น มาบ้าน ของแฟนผม เธอก็บอกว่า เออ จะกลัวอะไร แม่ก็อยู่ ป้าก็อยู่ทุกคนรับรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่แค่ไม่อยากให้เจอผม เพราะจะทำให้ ผช อึดอัด เลยให้ผมรออยู่นอกบ้าน จนกว่า ผช จะกลับไป ผมรออยู่ ถึง ตีหนึ่ง ถึงจะเข้าบ้านได้ แฟนผม อ้างว่า ผช กำลังจะกลับบ้านไป ตจว คืนนี้ เด๋วเค้าก็ไปแล้ว ผมก็ไม่ได้ว่าไร เพราะไม่อยากทะเลาะ รุ่งเช้าผมไปทำงาน พอตกเย็นกลับมา อยู่ๆ ก๊อกน้ำในห้องน้ำ ซ่อมแล้ว ซึ่งผมกะจะทำวัน หยุด ผมก็ถาม ว่าใครซ่อม แฟนผมบอกว่า เออ เพื่อนเธอมา เมื่อเช้า มารอเพื่อนของเค้า เพราะ ผช ไม่มีโทรศัพ เค้า ผช เอาโทรศัพให้ ลูกของเธอใช้ ผช จึงมารอที่บ้าน แต่เธอ ไม่บอกผมเลย ตอนที่ผมโทรหา ก็ไม่เอ่ยถึง คือแบบ มาบอกอีกทีคือ มันเกิดขึ้นไปแล้วซึ่งถ้ผมไม่ถามก็คงไม่รู้ ผช รวยกว่าผม ดูแล แฟนผมได้ดีกว่า ในเรื่องของ ทรัพสิน ดูแลลูกเธอได้ดีกว่า มีเวลาให้มากกว่า เพราะไม่ได้ทำงานประจำ เค้าเข้ามาในชีวิตของเรา ทำให้ผมเริ่มไม่ค่อยมั่นใจ ในตัวของแฟนผมแล้ว มันมากเกินไป ผมเคยถามเธอว่า จะเลิกกันมั้ย เธอก็จะบอกว่า ไม่เลิก เธอรักผม แต่เธอแค่ต้องพึ่ง ผช คนนั้น อยากให้ผมเข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่ผม ทำให้เธอไม่ได้ แต่ ผช คนนั้นทำได้ ให้ผมยอมรับ และเชื่อใจว่ามันไม่มีอะไร ผมควรทำยังไง ปล่อยเธอไป หรือ อยู่แบบนี้ เลยไม่รู้ว่า ความจริง เป็นยังไง ครึ่งนึงก็เชื่อใจ ครึ่งนึงก็กลัวว่าจะโดนสวมเขา ตัวผมเองไม่ได้มีอะไรให้เธอหลอก ได้แค่เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง ออกค้าใช้จ่ายนิดๆหน่อยๆ รถผมก็ไม่มี เธอยังให้ผมยืมรถใช้ เวลาเธอไป ตจว. อยู่บ่อยๆ ผมเลยไม่เข้าใจว่า ตกลงมันมีอะไรรึป่าว หรือ มันไม่ได้มีอะไร ผมกลัวว่าจะเสียทุกอย่างไป โดยไม่รู้ตัว