ขอบคุณสำหรับผู้ที่เข้ามาชมรีวิว Part 1 กันนะครับ^^
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดู แล้วสนใจก็สามารถเข้าไปดูกันได้ที่ลิงค์ตามด้านล่างนี้เลย
http://pantip.com/topic/32053190
เช้าวันที่ 2 ณ. AWAY RESORT ที่เดิมเช่นเคยครับ
วันนี้ตื่นเช้ากันหน่อยเพราะว่าเราจะพายเรือไปน้ำตกคลองเจ้ากันครับ
พี่พนักงานเค้าบอกมาว่าพายตอนเช้าๆ บรรยากาศจะดีมากมีไอหมอกและแถมไม่ร้อนอีกต่างหาก
แล้วถ้าพายไปจนสุดเราก็จะเจอน้ำตกด้วย แต่ตอนนี้เป็นหน้าแล้ง น้ำจะไม่ค่อยเยอะนักนะครับ
พวกเราเลยต้องรีบมาทานอาหารเช้ากันตั้งแต่ 7 โมงเลย ส่วนอาหารเช้าจะเก็บตอน 10 โมงครับ
และนี่คือมื้อเช้าของพวกเราครับ เป็นบุพเฟ่ต์ ใครชอบอะไรก็ตักกินกันได้เลย

วันนี้มีผัดซีอิ๋ว แบคอน ข้าวต้ม กุนเชียง และยำไข่ดาวครับ

ส่วนมุมนี้จะมีเซฟคอยทำออมเลตและไข่ดาวร้อนๆให้ทานกัน

ถัดมาก็เป็นพวกขนมปังแผ่น ปาท่องโก๋ และครัวซองค์

พวกสลัดจะอยู่อีกด้านนึงครับ

แล้วก็โซนผลไม้

แล้วก็มีโซนน้ำครับ มีชาด้วยครับ

เดินดูกันสักพักก็ได้ของมาทานกันตามนี้ครับ

ส่วนออมเลต ผมว่ามันเลี่ยนเนยไปหน่อยครับ

เมื่อทานกันเสร็จก็ดิ่งไปที่ท่าเรือกันเลยครับ
ค่อยๆพายกันไปตามลำคอง ตอนนี้แดดก็เริ่มร้อนแล้วครับ
แนะนำให้ทาครีมกันแดดมากันด้วยครับ ขนาดออกมากันตั้งแต่เช้าแดดยังค่อนข้างแรงเลย

เริ่มเหนื่อยละครับ เวลาที่ใช้พายไปจนถึงน้ำตกก็น่าจะสักประมาณ 40 นาที

พายไปเรื่อยๆตามลำคลองเจ้าครับ

ถ้าเริ่มเห็นแอ่งลำคลองกว้างๆ ก็แปลว่าใกล้ถึงจุดหมายของเราแล้ว

พายไปจนสุดเลยครับ จะเห็นสะพานไม้พังๆอยู่ฝั่งขวามือครับ จากนั้นผูกเรือไว้ตรงแถวสะพาน
แล้วเดินไปตามทาง (สัญชาติญาณ ประมาณห้านาทีจะเจอน้ำตกครับ)

แต่ตอนที่ผมกับแฟนไปน่าจะเรียกว่าลำธารมากกว่า น้ำน้อยจริงอย่างที่เค้าบอกมาครับ

แหะๆ แต่ก็เป็นธรรมชาติดีครับ ถ้าใครจะลงเล่นก็ระวังปลิงด้วยนะครับ เพราะปลิงค่อนข้างเยอะ
ส่วนใครที่ไปช่วงแล้งน้ำแบบผม ระวังพายเรือไปติดโขดหินครับ ผมว่าอันนี้อันตรายมากๆ
เพราะผมเองติดมาแล้ว มีโอกาสที่เรือจะคว่ำสูงครับ
พอได้มาเห็นน้ำตกกันสมใจแล้วก็พายกลับทางเดิม พอกลับมาถึงก็ได้เวลากินข้าวกลางวันกันพอดีเลยครับ
กำลังหิวๆ เพราะใช้พลังงานไปเยอะพอดีเลย
สักพัก พี่พนักงานก็ยกกับข้าวจานแรกออกมาเป็นผัดพริกแกงทะเลที่ค่อนข้างเผ็ดแต่อร่อยครับ

จานที่สอง ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ

และต่อมาก็เป็นปลาสามรส

และปิดท้ายของหวานเช่นเคยกับ เงาะในน้ำเชื่อมครับ

หลังจากทานกันอิ่มก็เดินไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆที่พักกันครับ

ค่อยๆเดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอเจ้าชิงช้าตัวนี้ครับ

จากนั้นก็จะเจอพื้นที่สำหรับเล่นวอลเล่ย์บอลชายชาด

แล้วก็จุดเช่าเรือแคนนู

ส่วนดอกนี้เห็นสวยดีครับ ถ่ายมาซะเลย

พอเดินชมกันสักพักก็กลับมาพักผ่อนก่อนครับ เพราะวันนี้หนักกันตั้งแต่เช้าเลย
จนเวลาล่วงเลยมาถึง ทุ่มนึงงงง แล้วครับ ได้เวลาไปทานอาหารเย็นของวันนี้
ซึ่งจะเรียกว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ครับ
ระหว่างนั่งรออาหาร แฟนผมก็จัดโซเซียวไปแปปนึงครับ

สำหรับมื้อเย็นมื้อนี้ทางรีสอร์ท จะจัดอาหารเลี้ยงส่งครับ พูดง่ายคือจัดเต็ม
จานแรกคือ ทะเลเผา มีกุ้ง ปู หมึก ครับ

ต่อมาก็จะเป็นปลาเผา

และก็ ผัดผัก เช่นเคยครับ (จานนี้แฟนผมชอบมาก)

ส่วนจานนี้ ผัดฉ่าทะเล

และสุดท้าย ต้มยำทะเล

ปิดท้ายด้วย ผลไม้ 3 อย่างครับ

กับข้าว มันโอ้ม้ายก๊อดดดด มากครับ แต่พวกเราก็ทานกันหมด
ต่อมาแฟนผม สั่งคอกเทลมาลองชิมกันหน่อยครับ ไหนๆก็คืนสุดท้ายกันแล้ว
แก้วแรกเป็นคอกเทลสไตส์สเปน รสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน นุ่มครับ ถือว่ารสชาติดี

แล้วอีกแก้ว คือ พั้นซ์ปั่นครับ ส่วนตัวผมว่าแบบไม่ปั่นอร่อยกว่า

พอนั่งชิวๆ ไปด้สักพัก ก็ขอเดินออกไปเก็บภาพบรรยากาศแบบกลางคืนหน่อยกันหน่อยครับ แชะ แชะ แชะ

วิวตรงนี้พลาดไม่ได้เลยครับสะพานที่ทอดออกไปในทะเล ตากลม ชมดาว สวยมากๆครับ

หลังจากเดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยแล้วก็กลับที่พักครับ
คืนนี้คงต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันแล้ว บอกตรงๆไม่อยากกลับเลยครับ
เช้ามาก็มาทานบุพเฟ่ต์กันเหมือนเดิมครับ
แล้วก็ได้เวลานั่งรถคันนี้ไปที่ท่าเรือ

เมื่อไปถึงท่าเรือก็ประมาณ 10 โมงครับ ได้เวลาเรือออกพอดี

ขากลับผมแนะนำว่าให้จองรถตู้กับ บขส ไว้เลยครับ หรือถ้าไม่ได้จองก็ให้บอกคนขับรถจากท่าเรือว่าไปท่ารถตู้ที่ปั้ม ปตท ครับ
ถ้าคนขับแนะนำว่ามีท่ารถที่กลับกรุงเทพ แล้วออกเร็วกว่า ให้ปฎิเสธไปครับ ต้องไปขึ้นที่ปั๊ม ปตท อย่างเดียว
ไม่งั้นจะโดนหลอกเหมือนผมครับ โดนหลอกมาที่นี่ครับ

เป็นอู่รถ จากตอนแรกที่สอบถามเค้าบอกว่ารถจะวิ่งเข้ามอเตอร์เวย์ตรงยาวถึงกรุงเทพครับ

แต่เอาเข้าจริงให้เราขึ้นรถคันแรกมาลงที่ท่าที่จันทรบุรีครับ

แล้วต่อรถตู้อีกคันซึ่งแวะจอดทุกที่ ที่สามารถจอดได้เลยครับ
รถจะวนเข้าเมืองไปจอดรับ-ส่ง คนเรื่อยๆ แถมไม่ขึ้นมอเตอเวย์ด้วย เสียเวลาสุดๆ แถมรถก็ร้อนมากๆ
แบบรถออกเที่ยงครึ่ง ถึงกรุงเทพเกือบทุ่มกันเลย
จึงอยากเตือนเพื่อนๆ สมาชิกว่าอย่าไปหลงเชื่อคนขับนะครับ
เพิ่มเติม
1. พนักงานที่นี่ ถ้ามีเกณฑ์
ห้าดาว ผมให้
หกครับ ตั้งแต่คนยกกระเป๋า ล๊อบบี้ บริการอาหาร บริการกิจกรรมต่างๆ ประทับใจมากๆครับ
2. มีข้อสงสัยอะไรพนักงานที่นี่ตอบได้ ช่วยเหลือได้หมดครับ ให้คำแนะนำดีมาก
3. อาหารบอกตรงๆว่า ไม่ค่อยสด รสชาติทานได้ ไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่โดยรวม ปริมาณกับบริการแล้วผมว่า
ดีครับ
รวมค่าเสียหาย
- แพคเกจ คนละ 5300 บาท
- ค่ารถตู้ คนละ 600 บาท (ไป-กลับ)
- ค่าดูหิ่งห้อย คนละ 150 บาท
- ค่าคอกเทล 180 บาท
- ค่าน้ำพันชปั่น 90 บาท
ถือว่าคุ้มค่าครับทริปนี้ ประทับมากถึงมากที่สุด
จบแล้วครับทริปเที่ยวทริปแรกที่ปมนำมารีวิว ยังไงก็อย่าลืมติชมกันได้นะครับ
[CR] -Review- เดินริมหาด เตะน้ำทะเล แอบส่องป่าโกงกาง @AWAY เกาะกูด ตอนที่ 2
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดู แล้วสนใจก็สามารถเข้าไปดูกันได้ที่ลิงค์ตามด้านล่างนี้เลย
http://pantip.com/topic/32053190
เช้าวันที่ 2 ณ. AWAY RESORT ที่เดิมเช่นเคยครับ
วันนี้ตื่นเช้ากันหน่อยเพราะว่าเราจะพายเรือไปน้ำตกคลองเจ้ากันครับ
พี่พนักงานเค้าบอกมาว่าพายตอนเช้าๆ บรรยากาศจะดีมากมีไอหมอกและแถมไม่ร้อนอีกต่างหาก
แล้วถ้าพายไปจนสุดเราก็จะเจอน้ำตกด้วย แต่ตอนนี้เป็นหน้าแล้ง น้ำจะไม่ค่อยเยอะนักนะครับ
พวกเราเลยต้องรีบมาทานอาหารเช้ากันตั้งแต่ 7 โมงเลย ส่วนอาหารเช้าจะเก็บตอน 10 โมงครับ
และนี่คือมื้อเช้าของพวกเราครับ เป็นบุพเฟ่ต์ ใครชอบอะไรก็ตักกินกันได้เลย
วันนี้มีผัดซีอิ๋ว แบคอน ข้าวต้ม กุนเชียง และยำไข่ดาวครับ
ส่วนมุมนี้จะมีเซฟคอยทำออมเลตและไข่ดาวร้อนๆให้ทานกัน
ถัดมาก็เป็นพวกขนมปังแผ่น ปาท่องโก๋ และครัวซองค์
พวกสลัดจะอยู่อีกด้านนึงครับ
แล้วก็โซนผลไม้
แล้วก็มีโซนน้ำครับ มีชาด้วยครับ
เดินดูกันสักพักก็ได้ของมาทานกันตามนี้ครับ
ส่วนออมเลต ผมว่ามันเลี่ยนเนยไปหน่อยครับ
เมื่อทานกันเสร็จก็ดิ่งไปที่ท่าเรือกันเลยครับ
ค่อยๆพายกันไปตามลำคอง ตอนนี้แดดก็เริ่มร้อนแล้วครับ
แนะนำให้ทาครีมกันแดดมากันด้วยครับ ขนาดออกมากันตั้งแต่เช้าแดดยังค่อนข้างแรงเลย
เริ่มเหนื่อยละครับ เวลาที่ใช้พายไปจนถึงน้ำตกก็น่าจะสักประมาณ 40 นาที
พายไปเรื่อยๆตามลำคลองเจ้าครับ
ถ้าเริ่มเห็นแอ่งลำคลองกว้างๆ ก็แปลว่าใกล้ถึงจุดหมายของเราแล้ว
พายไปจนสุดเลยครับ จะเห็นสะพานไม้พังๆอยู่ฝั่งขวามือครับ จากนั้นผูกเรือไว้ตรงแถวสะพาน
แล้วเดินไปตามทาง (สัญชาติญาณ ประมาณห้านาทีจะเจอน้ำตกครับ)
แต่ตอนที่ผมกับแฟนไปน่าจะเรียกว่าลำธารมากกว่า น้ำน้อยจริงอย่างที่เค้าบอกมาครับ
แหะๆ แต่ก็เป็นธรรมชาติดีครับ ถ้าใครจะลงเล่นก็ระวังปลิงด้วยนะครับ เพราะปลิงค่อนข้างเยอะ
ส่วนใครที่ไปช่วงแล้งน้ำแบบผม ระวังพายเรือไปติดโขดหินครับ ผมว่าอันนี้อันตรายมากๆ
เพราะผมเองติดมาแล้ว มีโอกาสที่เรือจะคว่ำสูงครับ
พอได้มาเห็นน้ำตกกันสมใจแล้วก็พายกลับทางเดิม พอกลับมาถึงก็ได้เวลากินข้าวกลางวันกันพอดีเลยครับ
กำลังหิวๆ เพราะใช้พลังงานไปเยอะพอดีเลย
สักพัก พี่พนักงานก็ยกกับข้าวจานแรกออกมาเป็นผัดพริกแกงทะเลที่ค่อนข้างเผ็ดแต่อร่อยครับ
จานที่สอง ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ
และต่อมาก็เป็นปลาสามรส
และปิดท้ายของหวานเช่นเคยกับ เงาะในน้ำเชื่อมครับ
หลังจากทานกันอิ่มก็เดินไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆที่พักกันครับ
ค่อยๆเดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอเจ้าชิงช้าตัวนี้ครับ
จากนั้นก็จะเจอพื้นที่สำหรับเล่นวอลเล่ย์บอลชายชาด
แล้วก็จุดเช่าเรือแคนนู
ส่วนดอกนี้เห็นสวยดีครับ ถ่ายมาซะเลย
พอเดินชมกันสักพักก็กลับมาพักผ่อนก่อนครับ เพราะวันนี้หนักกันตั้งแต่เช้าเลย
จนเวลาล่วงเลยมาถึง ทุ่มนึงงงง แล้วครับ ได้เวลาไปทานอาหารเย็นของวันนี้
ซึ่งจะเรียกว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ครับ
ระหว่างนั่งรออาหาร แฟนผมก็จัดโซเซียวไปแปปนึงครับ
สำหรับมื้อเย็นมื้อนี้ทางรีสอร์ท จะจัดอาหารเลี้ยงส่งครับ พูดง่ายคือจัดเต็ม
จานแรกคือ ทะเลเผา มีกุ้ง ปู หมึก ครับ
ต่อมาก็จะเป็นปลาเผา
และก็ ผัดผัก เช่นเคยครับ (จานนี้แฟนผมชอบมาก)
ส่วนจานนี้ ผัดฉ่าทะเล
และสุดท้าย ต้มยำทะเล
ปิดท้ายด้วย ผลไม้ 3 อย่างครับ
กับข้าว มันโอ้ม้ายก๊อดดดด มากครับ แต่พวกเราก็ทานกันหมด
ต่อมาแฟนผม สั่งคอกเทลมาลองชิมกันหน่อยครับ ไหนๆก็คืนสุดท้ายกันแล้ว
แก้วแรกเป็นคอกเทลสไตส์สเปน รสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน นุ่มครับ ถือว่ารสชาติดี
แล้วอีกแก้ว คือ พั้นซ์ปั่นครับ ส่วนตัวผมว่าแบบไม่ปั่นอร่อยกว่า
พอนั่งชิวๆ ไปด้สักพัก ก็ขอเดินออกไปเก็บภาพบรรยากาศแบบกลางคืนหน่อยกันหน่อยครับ แชะ แชะ แชะ
วิวตรงนี้พลาดไม่ได้เลยครับสะพานที่ทอดออกไปในทะเล ตากลม ชมดาว สวยมากๆครับ
หลังจากเดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยแล้วก็กลับที่พักครับ
คืนนี้คงต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันแล้ว บอกตรงๆไม่อยากกลับเลยครับ
เช้ามาก็มาทานบุพเฟ่ต์กันเหมือนเดิมครับ
แล้วก็ได้เวลานั่งรถคันนี้ไปที่ท่าเรือ
เมื่อไปถึงท่าเรือก็ประมาณ 10 โมงครับ ได้เวลาเรือออกพอดี
ขากลับผมแนะนำว่าให้จองรถตู้กับ บขส ไว้เลยครับ หรือถ้าไม่ได้จองก็ให้บอกคนขับรถจากท่าเรือว่าไปท่ารถตู้ที่ปั้ม ปตท ครับ
ถ้าคนขับแนะนำว่ามีท่ารถที่กลับกรุงเทพ แล้วออกเร็วกว่า ให้ปฎิเสธไปครับ ต้องไปขึ้นที่ปั๊ม ปตท อย่างเดียว
ไม่งั้นจะโดนหลอกเหมือนผมครับ โดนหลอกมาที่นี่ครับ
เป็นอู่รถ จากตอนแรกที่สอบถามเค้าบอกว่ารถจะวิ่งเข้ามอเตอร์เวย์ตรงยาวถึงกรุงเทพครับ
แต่เอาเข้าจริงให้เราขึ้นรถคันแรกมาลงที่ท่าที่จันทรบุรีครับ
แล้วต่อรถตู้อีกคันซึ่งแวะจอดทุกที่ ที่สามารถจอดได้เลยครับ
รถจะวนเข้าเมืองไปจอดรับ-ส่ง คนเรื่อยๆ แถมไม่ขึ้นมอเตอเวย์ด้วย เสียเวลาสุดๆ แถมรถก็ร้อนมากๆ
แบบรถออกเที่ยงครึ่ง ถึงกรุงเทพเกือบทุ่มกันเลย
จึงอยากเตือนเพื่อนๆ สมาชิกว่าอย่าไปหลงเชื่อคนขับนะครับ
เพิ่มเติม
1. พนักงานที่นี่ ถ้ามีเกณฑ์ ห้าดาว ผมให้ หกครับ ตั้งแต่คนยกกระเป๋า ล๊อบบี้ บริการอาหาร บริการกิจกรรมต่างๆ ประทับใจมากๆครับ
2. มีข้อสงสัยอะไรพนักงานที่นี่ตอบได้ ช่วยเหลือได้หมดครับ ให้คำแนะนำดีมาก
3. อาหารบอกตรงๆว่า ไม่ค่อยสด รสชาติทานได้ ไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่โดยรวม ปริมาณกับบริการแล้วผมว่าดีครับ
รวมค่าเสียหาย
- แพคเกจ คนละ 5300 บาท
- ค่ารถตู้ คนละ 600 บาท (ไป-กลับ)
- ค่าดูหิ่งห้อย คนละ 150 บาท
- ค่าคอกเทล 180 บาท
- ค่าน้ำพันชปั่น 90 บาท
ถือว่าคุ้มค่าครับทริปนี้ ประทับมากถึงมากที่สุด
จบแล้วครับทริปเที่ยวทริปแรกที่ปมนำมารีวิว ยังไงก็อย่าลืมติชมกันได้นะครับ