ถึงแม้ว่าจะห้ามมิได้ แต่ก็เป็นคำเตือนอย่างเงียบๆ

แน่ล่ะจากสภาวะในปัจจุบัน ที่กำลังมุ่งเข้าสู่จุดแตกหักและความสูญเสียของทุกฝ่ายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆตามช่วงระยะของการต่อสู้ จนกว่าจะได้ข้อยุติที่เป็น ลักษณะบริหาร (ไม่ใช่ปกครอง) ประเทศด้วย ประชาธิปไตย บนความว่างเปล่า ของ ปชช. และก็จะเริ่มด้วย “การเลือกตั้ง” อันเป็นข้อพิพาทต่อกันในขณะนี้ ครับ

จากคำแถลง ๗ ข้อ ของท่าน ผบ.ทบ. เป็นความเก่งกล้า และทรงด้วยเกียรติยศ ในฐานะของท่าน อันคงไม่มีผู้ใดปฎิเสธได้ แต่ท่าน ผบ.ทบ. ครับ ในความเป็นจริง คำพูดก็คือลมปาก สัญญาก็คือเศษกระดาษ ถ้าไม่ตรงกับลักษณะในภาคปฎิบัติ นั่นเองครับ

ก่อนที่ท่านจะก้าวมาถึง ผบ.ทบ. ท่านก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาก่อน ท่านทราบดี คำสั่งก็คือคำสั่งให้ปฎิบัติ ไม่ใช่ให้ย้อนถามหรือมีความคิดหาเหตุผลของคำสั่งในทุกกรณี อันคำสั่งก็เสมือนกับการเหนี่ยวไกปืน โดยลูกกระสุนที่เป็นเสมือนผู้รับคำสั่งให้ปฎิบัติ ก็จะปฎิบัติตามขีดความสามารถของตน ถูกใหมครับ อย่างน้อยท่านมีผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาก็เพื่อให้สามารถออกคำสั่งให้ปฎิบัติได้ ความจำเป็นในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาก็คือ จนถึงจุดนี้ท่านสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องปกป้องรักษาประสิทธิภาพและระเบียบวินัยถึงความยินยอมพร้อมใจเพื่อปฎิบัติตามคำสั่งของท่าน จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา อย่างในกรณี นายทหารชั้นสัญญาบัตร์ ถูกทำร้าย และความเฉยเมยของท่านเป็นต้น ท่านเอาอะไร มาเป็นความแน่ใจของท่านในขณะนี้ ว่าผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของท่าน ยังจะพร้อมด้วยวินัยยินยอมปฎิบัติตามคำสั่งของท่านโดยสมบูรณ์แบบ ครับ

ท่าน ผบ.ทบ. ทราบดีอยู่มิใช่หรือ ว่าไม่มีกองกำลังของประเทศใด ที่สามารถปฎิบัติภาระกิจโดยโดดเดียวไม่มีกองกำลังพันธ์มิตรได้ ในเมื่อพันธ์มิตรได้แสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย ก็เป็นสัญญานที่แน่ชัดว่า ท่านอาจกระทำให้กำลังพลของท่านไม่เพียงโดดเดี่ยวเท่านั้น ยังอาจก้าวไปถึงการเปลียนแปลงจากมิตรเป็นสัตรูตามมาอีกด้วย อะไรครับ เกียรติยศ ของกองกำลังที่ตกอยู่ในความครอบคุมของ พันธมิตรกำลังพลนานาประเทศ กี่ประเทศแล้วครับ ที่ทนงหยิ่งผยองในการเป็นผู้บังคับบัญชาเฉพาะในประเทศ ขัดขืนกับความเข้าใจกับโลกสากล ที่ได้รับผลตอบสนองอย่างแสนสาหัส และสูญซึ่งศักดิ์ศรีในที่สุด ท่าน ผบ.ทบ. มีความเชื่อมั่นอย่างไร ว่าสิ่งนี้จะไม่สามารถบังเกิดขึ้นจาก การใช้คำสั่ง ของท่านได้ ครับ

ท่าน ผบ.ทบ. กล่าวเตือนอยู่เสมอว่า ทหารอยู่ข้าง ปชช. ในกรณีขัดแย้งทางการเมือง ขอให้กระทำโดยสันติวิธีปราศจากการใช้ความรุนแรง ถูกใหมครับ ท่านมีกำลังพล พร้อมยุโธปกรณ์สงคราม ที่สามารถและมีหน้าที่เพื่อปกป้อง ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อันนี้ใช่ใหม ที่ทำให้คำแน๊ะนำของท่าน มีความศักสิทธิ์และได้รับความเชื่อถือ อย่างน้อย ในเมื่อกระบวนการยุติธรรม ได้อนุมัติออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “ขบฎต่อแผ่นดิน” ถึงเวลาหรือยังครับ ที่ท่าน จะได้แสดงปฎิกริยา ถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของท่าน โดยมากกว่าการกล่าวเตือน หรือท่านจำเป็นต้องให้เกิดเป็นคำพิพากษา หรือการกระทำสำเหร็จผลเสียก่อน การเพิกเฉยอาจเป็นเหตุให้ ท่านจะได้รับทราบว่า คำเตือนของท่าน หมดความหมายลงไป ในขณะที่ ปชช. ใช้ขีดความสามารถได้เช่นเดียวกับกำลังพลของท่าน ครับ

จากประวัติความเป็นมาของท่าน อันที่ทำให้ท่านได้เข้ามารับปฎิบัติหน้าที่ ผบ.ทบ. นั้นเป็นสิ่งธรรมชาติ ที่มิได้เฉพาะตัวท่านเองเท่านั้น ที่ทราบถึงเหตุผลและวิถีแนวทาง อันก็เป็นทั้งคุณและโทษติดกับตัวของท่านมาจนบัดนี้ ถูกใหมครับ ผมยังจำซึ้งใจอยู่กับคำของ ท่านนายก ยิงลักษณ์ ว่า เมื่อ ทหารต้องตายในสนามรบ และท่านยินดีที่จะตายในสนามประชาธิปไตย ท่านนายกเป็นเพียง ปชช.ผู้หญิง คนหนึ่ง ผิดกับท่าน ตรงที่ท่านเป็นชายชาดทหาร ท่านเชื่อใหมครับว่า ไม่มีทหารด้วยใจและกายใดๆ ที่จะยินยอมจบสิ้นโดยทรยศต่อศักดิ์ศรีความเป็นทหารของตน หรือเพื่อแลกกับลาภยศ อย่างแน่นอน ครับ

ผมเชื่อครับ ว่า สิ่งที่ต้องเกิด ก็จะบังเกิดขึ้น อันเสมือนเพลิงใหม้ แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือการร่วมใจพยายามป้องกันส่วนที่ยังมิถูกเผาพลาญ โดยยึดหลักในเกียร์ติยศและศักดิ์ศรี การเป็น ผบ.ทบ. ของท่าน นั่นเอง ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่