สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
วิวัฒนาการเกิดขึ้นตลอดเวลา
แต่ทีละเล็กละน้อย และเป็นแบบสุ่ม การผ่าเหล่าหายากมากและมักเป็นกับพวกแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส
เน้นหน่อย ว่าการวิวัฒนาการเป็นแบบสุ่ม และทีละเล็กละน้อย
ดังนั้นเราจะคุมวิวัฒนาการไม่ได้ หากมันบังเอิญเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมก็จะเกิดการสืบทอดลักษณะขึ้น
ตัวอย่างเช่น ดีเอ็นเอเพี้ยนจนทำให้หางสั้นลง 1 มิล (เกิดจากการสุ่ม)
เกิดในยุคที่อาหารหายาก แต่การที่หางสั้นลง 1 มิล มีแนวโน้มที่จะทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่านิดหน่อยคือแค่ องุ่น 1 ลูก
แต่การที่ทำให้กินองุ่นน้อยลง 1 ลูก ทำให้อิ่มท้องมากขึ้น จนทำให้มีแรงมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นในเผ่าพันธุ์
ทำให้มีโอกาศได้ครอบครองตัวเมียมากกว่า และทำให้มีทายาทสืบสายพันธุ์ได้มากกว่า
ซึ่งทำให้สายพันธุ์ของหางสั้น 1 มิล เริ่มมีประชากรมากขึ้นเรื่อย ๆ
และยิ่งหางสั้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งประหยัดอาหารมากขึ้นเท่านั้น ลูกหลานออกมาหางหางสั้นก็จะอยู่รอดมาแพร่เผ่าพันธุ์ได้สูงขึ้น
ทว่าการที่หางสั้นนี้ไม่ต่อเนื่อง บางรุ่นอาจจะไม่มีหางที่สั้นกว่าเดิมโผล่มาเลย แต่เป็นเล็บยาวไว้ต่อสู้ได้ดีแทน
ซึ่งทำให้วิวัฒนาการเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก ๆ
ทว่าเมื่อถึงยุคหนึ่ง หางสั้นไม่มีผลเนื่องจากอาหารอุดมสมบูรณ์ เรื่องของหางสั้นก็จะหยุดลงเท่านั้น
ทีนี้ก็เป็นแบบสุ่มอย่างสิ้นเชิง คือ ถ้าบังเอิญลูกหลานออกมาดีเอ็นเอเพี้ยนจนหางสั้นมีมาก หรือบังเอิญมีลูกได้มากกว่า (จากสาเหตุอื่น)
ค่าเฉลี่ยของหางในสายพันธุ์นั้นก็อาจสั้นลงไปอีก
แต่หากดีเอ็นเอเพี้ยนจนหางยาวมีมากกว่า หรือบังเอิญมีลูกได้มากกว่า (จากสาเหตุอื่น) ค่าเฉลี่ยของหางในสายพันธุ์นั้นก็จะยาวแทน
ทว่าเนื่องจากมันไม่มีความเกี่ยวข้องกับความเหมาะสมในการดำรงเผ่าพันธุ์ จึงมีโอกาสยากและช้ากว่าที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
สำหรับมนุษย์จะมีหางเป็นปลาและหายใจในน้ำได้ คิดว่ายากและใช้เวลายาวนานมาก
เพราะการวิวัฒนาการอย่างเจาะจงมันไม่มี
และมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะวิวัฒนาการไปในทิศทางอื่นแทนแต่ทำให้สามารถอยู่ในน้ำได้นานมากขึ้น
เช่นมีมือเท้าที่แบน ลำตัวที่เพรียว ปอดที่ใหญ่ เป็นต้น
แต่ทีละเล็กละน้อย และเป็นแบบสุ่ม การผ่าเหล่าหายากมากและมักเป็นกับพวกแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส
เน้นหน่อย ว่าการวิวัฒนาการเป็นแบบสุ่ม และทีละเล็กละน้อย
ดังนั้นเราจะคุมวิวัฒนาการไม่ได้ หากมันบังเอิญเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมก็จะเกิดการสืบทอดลักษณะขึ้น
ตัวอย่างเช่น ดีเอ็นเอเพี้ยนจนทำให้หางสั้นลง 1 มิล (เกิดจากการสุ่ม)
เกิดในยุคที่อาหารหายาก แต่การที่หางสั้นลง 1 มิล มีแนวโน้มที่จะทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่านิดหน่อยคือแค่ องุ่น 1 ลูก
แต่การที่ทำให้กินองุ่นน้อยลง 1 ลูก ทำให้อิ่มท้องมากขึ้น จนทำให้มีแรงมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นในเผ่าพันธุ์
ทำให้มีโอกาศได้ครอบครองตัวเมียมากกว่า และทำให้มีทายาทสืบสายพันธุ์ได้มากกว่า
ซึ่งทำให้สายพันธุ์ของหางสั้น 1 มิล เริ่มมีประชากรมากขึ้นเรื่อย ๆ
และยิ่งหางสั้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งประหยัดอาหารมากขึ้นเท่านั้น ลูกหลานออกมาหางหางสั้นก็จะอยู่รอดมาแพร่เผ่าพันธุ์ได้สูงขึ้น
ทว่าการที่หางสั้นนี้ไม่ต่อเนื่อง บางรุ่นอาจจะไม่มีหางที่สั้นกว่าเดิมโผล่มาเลย แต่เป็นเล็บยาวไว้ต่อสู้ได้ดีแทน
ซึ่งทำให้วิวัฒนาการเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก ๆ
ทว่าเมื่อถึงยุคหนึ่ง หางสั้นไม่มีผลเนื่องจากอาหารอุดมสมบูรณ์ เรื่องของหางสั้นก็จะหยุดลงเท่านั้น
ทีนี้ก็เป็นแบบสุ่มอย่างสิ้นเชิง คือ ถ้าบังเอิญลูกหลานออกมาดีเอ็นเอเพี้ยนจนหางสั้นมีมาก หรือบังเอิญมีลูกได้มากกว่า (จากสาเหตุอื่น)
ค่าเฉลี่ยของหางในสายพันธุ์นั้นก็อาจสั้นลงไปอีก
แต่หากดีเอ็นเอเพี้ยนจนหางยาวมีมากกว่า หรือบังเอิญมีลูกได้มากกว่า (จากสาเหตุอื่น) ค่าเฉลี่ยของหางในสายพันธุ์นั้นก็จะยาวแทน
ทว่าเนื่องจากมันไม่มีความเกี่ยวข้องกับความเหมาะสมในการดำรงเผ่าพันธุ์ จึงมีโอกาสยากและช้ากว่าที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
สำหรับมนุษย์จะมีหางเป็นปลาและหายใจในน้ำได้ คิดว่ายากและใช้เวลายาวนานมาก
เพราะการวิวัฒนาการอย่างเจาะจงมันไม่มี
และมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะวิวัฒนาการไปในทิศทางอื่นแทนแต่ทำให้สามารถอยู่ในน้ำได้นานมากขึ้น
เช่นมีมือเท้าที่แบน ลำตัวที่เพรียว ปอดที่ใหญ่ เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
ต้องใช้เวลานานแค่ไหน หากเราจะต้องวิวัฒนาการอีกครับ