หนังรำลึกชาติ(สมัยยังโดดเรียนไปดูก็อดซิลล่าปะทะกาเมล่า ม็อธร่า ก็อดซิลล่าเหล็ก)ที่รับประกันความพึงพอใจโดยคะแนน IMDB และกระทู้อวย
พล็อตเรื่องก็คือสัตว์ประหลาดบุกเมืองเหยียบคนเหมือนขี้ไก่ คนกลุ่นหนึ่งเลยหาทางไล่สัตว์ประหลาดให้ไปที่ชอบๆ(เหมือนทุกภาค) โชคดีหน่อยที่แม้พล็อตเรื่องจะธรรมดาแต่ได้ไปอยู่ในมือผู้กำกับฝือมือดี ความน่าสนใจของเรื่องถูกปูแล้วก็สอดแทรกมาอยู่ตลอดตั้งการค้นพบเหมืองยักษ์
โรงพลังงานนิวเคลียร์ถล่ม ไปถึงนักวิทยาศาสตร์ยอดนักสืบไล่ล่าหาความจริงไปจนถึงการเปิดตัวสัตว์ประหลาด ผู้กำกับก็นำเสนอได้จริงจังพอให้ เหตุการณ์พวกนี้ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนดู บวกกับช่วงแรกมีการแสดงชั้นดีของ Bryan Cranston ด้วยยิ่งน่าติดตามเข้าไปใหญ่
พอหลังความแตกสัตว์ประหลาด Muto หนีไปก็ถึงคราวก็อดซิลล่าที่ต้องเปิดกะโหลดตบกะบานให้รู้ว่าใครกันแน่ที่ใหญ่ในหมู่ไคจู ช่วงนี้ยังทำได้ดี
แต่บางอย่างอ่อนลงไป การปูเนื้อเรื่องในส่วนของก็อดซิลล่าน้อยมากๆ ผู้กำกับคงอนุมานว่าแฟนๆรู้กันอยู่แล้ว แต่มันทำให้เหมือนนี้เป็ดหนังของ Muto
มากกว่าก็อดซิลล่าพอฉากเปิดตัวก็อดซิลล่าที่ฮาวายความขลังจึงลดลงไป แถมยังตัดภาพก็อดซิลล่าให็แค่ในทีวีไม่สมศักดิ์พี่ใหญ่ขนาดไซส์บึ้มเลย
มาช่วงที่สามนกเลงก็เริ่มหาเรื่องอย่างจริงจัง เมื่อ Muto เริ่มบุกเมืองผมรู้สึกว่ามันน่าตึกตามน้อยลง ความรู้อยากหนึ่งมาจากตัวละครไม่น่าเอาใจช่วย
พระเอกนอกจากหน้าหล่อๆและปัญหาที่ว่าลูกเมียอาจจะโดนก็อดซิลล่าเหยียบตายก็ไม่รู้สึกว่าเขาเหมือนจุดศูนย์กลางของเรื่องเลย สำหรับผมเขาไม่มี
สเน่ห์ดึงดูด คิดอยู่ว่า Bryan Cranston น่าจะเป็นพระเอกมากกว่าเพราะมีปมรูสึกผิดในใจและเป็นนักวิทยาศาสตร์ขั้นเทพ ทุกครั้งที่ Bryan โผล่มา
ฉากนั้นจะเขาโหมดหนังชีวิตทันที ถ้าปรับบทให้เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ภาคสนามหาทางหยุดสัตว์ประหลาดจะเขาท่ากว่าผู้เชี่ยวชาญทำระบิดหน้าหล่อ
และน่าเสียดายมากกว่าเดิมเพราะบทของ Bryan ในหนังมีน้อยมากสะจนไม่หน้าให้อภัย
ส่วนนางเอกนั้น อลิซาเบธ โอลเซ่น แม้จะสวยหน้ารักแต่บทเธอก็ไม่ทำอะไรมากกว่าดูแลลูกแล้ววิ่งหนีตอนถึงกำลังจะถล่ม ตัวละครแห่งความหวัง
ที่เหลืออยู่คือตัวละครของ Ken Watanabe กับ Sally Hawkins สองนักวิทยาศาสตร์ที่หาทางหยุดยั้งเหตุการณ์ร้ายเป็นตัวละครที่แสดงให้เห้นว่า
มนุษย์เป็นแค่ส่วนหนึ่งของธรรมชาติ การก้าวก่ายของมนุษย์ด้วยความเชื่อที่ว่าตนสามารถควบคุมทุกอย่างได้ความฉลดและความรุนแรง
ตามมาด้วยหายนะเสมอ ทั้งฉากนาฬิกาที่สื่อถึงเหตุการณ์ระเบิดในฮิโรชิม่า การพยายามที่จะทิ้งระเบิดแม้จะรู้ดีว่าทำอะไรก็ไม่ได้แต่ก็ดั้นด้นเพิ่มแรงระเบิด
สิ่งที่ตามมาก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ในทางกลับกันก็อดซิลล่าเป็นตัวแทนของธรรมชาติที่หาทางคืนสมดุลให้กับสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวมันเอง จากที่เห็น
ก็อดซิลล่าเป็นคนแก้ปัญหาทุกอย่างแล้วคนก็ทำให้ทุกอย่างแย่ลง (แต่สองคนนี้ส่วนใหญ่อยู่ในฐานที่ปล่อยภัยไม่ต้องเสียเวลาเอาใจช่วยให้เหนื่อย)
ปัญหาคงมาจากตัวบท แต่ก็เห็นศักยภาพผู้กำกับว่าถึงบทจะอ่อนแต่แกเอาอยู่ ความสนุกจริงๆก็คือการได้เห็นก็อดซิลล่าปล่อยแสงพิฆาตตีกับมูโต้
และซีจีอลังการเตะตาพร้อมกับฉากจบอย่างสวยงามด้วยการคำราม (มุมกล้องนี่ตั้งใจอวยมากๆ)จากนั้นก็อดซิลล่าก็เดินลงน้ำไปสวยๆ ให้รู้ว่า "นี่คือหนังของข้า ข้าคือจอมสัตว์ประหลาดตลอดกาลและตลอดไป ใครคิดจะเทียบชั้นจุดจบมันต้องอนาจเหมือนไอ้มูโต้"
รวมๆแล้วก็เป็นหนังที่ใช้ได้ อาจจะมีข้อบกพร่องบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด ยังไงก็เป็นการใช้ก็อดซิลล่าของคนอเมริกันได้ดีกว่าปี 1998..........(7/10)

รังลับก็อดซิลล่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/pages/Ghymflomarip/1451560688411809
Godzilla ที่รัก อร๊องงงงง!!! รีวิวบวกชวนคุย Spoiled
พล็อตเรื่องก็คือสัตว์ประหลาดบุกเมืองเหยียบคนเหมือนขี้ไก่ คนกลุ่นหนึ่งเลยหาทางไล่สัตว์ประหลาดให้ไปที่ชอบๆ(เหมือนทุกภาค) โชคดีหน่อยที่แม้พล็อตเรื่องจะธรรมดาแต่ได้ไปอยู่ในมือผู้กำกับฝือมือดี ความน่าสนใจของเรื่องถูกปูแล้วก็สอดแทรกมาอยู่ตลอดตั้งการค้นพบเหมืองยักษ์
โรงพลังงานนิวเคลียร์ถล่ม ไปถึงนักวิทยาศาสตร์ยอดนักสืบไล่ล่าหาความจริงไปจนถึงการเปิดตัวสัตว์ประหลาด ผู้กำกับก็นำเสนอได้จริงจังพอให้ เหตุการณ์พวกนี้ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนดู บวกกับช่วงแรกมีการแสดงชั้นดีของ Bryan Cranston ด้วยยิ่งน่าติดตามเข้าไปใหญ่
พอหลังความแตกสัตว์ประหลาด Muto หนีไปก็ถึงคราวก็อดซิลล่าที่ต้องเปิดกะโหลดตบกะบานให้รู้ว่าใครกันแน่ที่ใหญ่ในหมู่ไคจู ช่วงนี้ยังทำได้ดี
แต่บางอย่างอ่อนลงไป การปูเนื้อเรื่องในส่วนของก็อดซิลล่าน้อยมากๆ ผู้กำกับคงอนุมานว่าแฟนๆรู้กันอยู่แล้ว แต่มันทำให้เหมือนนี้เป็ดหนังของ Muto
มากกว่าก็อดซิลล่าพอฉากเปิดตัวก็อดซิลล่าที่ฮาวายความขลังจึงลดลงไป แถมยังตัดภาพก็อดซิลล่าให็แค่ในทีวีไม่สมศักดิ์พี่ใหญ่ขนาดไซส์บึ้มเลย
มาช่วงที่สามนกเลงก็เริ่มหาเรื่องอย่างจริงจัง เมื่อ Muto เริ่มบุกเมืองผมรู้สึกว่ามันน่าตึกตามน้อยลง ความรู้อยากหนึ่งมาจากตัวละครไม่น่าเอาใจช่วย
พระเอกนอกจากหน้าหล่อๆและปัญหาที่ว่าลูกเมียอาจจะโดนก็อดซิลล่าเหยียบตายก็ไม่รู้สึกว่าเขาเหมือนจุดศูนย์กลางของเรื่องเลย สำหรับผมเขาไม่มี
สเน่ห์ดึงดูด คิดอยู่ว่า Bryan Cranston น่าจะเป็นพระเอกมากกว่าเพราะมีปมรูสึกผิดในใจและเป็นนักวิทยาศาสตร์ขั้นเทพ ทุกครั้งที่ Bryan โผล่มา
ฉากนั้นจะเขาโหมดหนังชีวิตทันที ถ้าปรับบทให้เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ภาคสนามหาทางหยุดสัตว์ประหลาดจะเขาท่ากว่าผู้เชี่ยวชาญทำระบิดหน้าหล่อ
และน่าเสียดายมากกว่าเดิมเพราะบทของ Bryan ในหนังมีน้อยมากสะจนไม่หน้าให้อภัย
ส่วนนางเอกนั้น อลิซาเบธ โอลเซ่น แม้จะสวยหน้ารักแต่บทเธอก็ไม่ทำอะไรมากกว่าดูแลลูกแล้ววิ่งหนีตอนถึงกำลังจะถล่ม ตัวละครแห่งความหวัง
ที่เหลืออยู่คือตัวละครของ Ken Watanabe กับ Sally Hawkins สองนักวิทยาศาสตร์ที่หาทางหยุดยั้งเหตุการณ์ร้ายเป็นตัวละครที่แสดงให้เห้นว่า
มนุษย์เป็นแค่ส่วนหนึ่งของธรรมชาติ การก้าวก่ายของมนุษย์ด้วยความเชื่อที่ว่าตนสามารถควบคุมทุกอย่างได้ความฉลดและความรุนแรง
ตามมาด้วยหายนะเสมอ ทั้งฉากนาฬิกาที่สื่อถึงเหตุการณ์ระเบิดในฮิโรชิม่า การพยายามที่จะทิ้งระเบิดแม้จะรู้ดีว่าทำอะไรก็ไม่ได้แต่ก็ดั้นด้นเพิ่มแรงระเบิด
สิ่งที่ตามมาก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ในทางกลับกันก็อดซิลล่าเป็นตัวแทนของธรรมชาติที่หาทางคืนสมดุลให้กับสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวมันเอง จากที่เห็น
ก็อดซิลล่าเป็นคนแก้ปัญหาทุกอย่างแล้วคนก็ทำให้ทุกอย่างแย่ลง (แต่สองคนนี้ส่วนใหญ่อยู่ในฐานที่ปล่อยภัยไม่ต้องเสียเวลาเอาใจช่วยให้เหนื่อย)
ปัญหาคงมาจากตัวบท แต่ก็เห็นศักยภาพผู้กำกับว่าถึงบทจะอ่อนแต่แกเอาอยู่ ความสนุกจริงๆก็คือการได้เห็นก็อดซิลล่าปล่อยแสงพิฆาตตีกับมูโต้
และซีจีอลังการเตะตาพร้อมกับฉากจบอย่างสวยงามด้วยการคำราม (มุมกล้องนี่ตั้งใจอวยมากๆ)จากนั้นก็อดซิลล่าก็เดินลงน้ำไปสวยๆ ให้รู้ว่า "นี่คือหนังของข้า ข้าคือจอมสัตว์ประหลาดตลอดกาลและตลอดไป ใครคิดจะเทียบชั้นจุดจบมันต้องอนาจเหมือนไอ้มูโต้"
รวมๆแล้วก็เป็นหนังที่ใช้ได้ อาจจะมีข้อบกพร่องบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด ยังไงก็เป็นการใช้ก็อดซิลล่าของคนอเมริกันได้ดีกว่าปี 1998..........(7/10)
รังลับก็อดซิลล่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้