ป้าไหมจอมอืดมาแล้วค่ะ ก็ว่าจะ ว่าจะ ตั้งกระทู้แต่ผลัดวัน ผลัดเดือน อยู่เลยเพิ่งได้มาตั้งค่ะ อิอิ
หลังจากใช้เวลานานมากกกก กว่าจะคิดหัวข้อกระทู้ได้ เลยเอาชื่อนี้ มีตอน 1 ก็ต้องมีตอนต่อไป แบบละครหลังข่าวละค่ะ ก๊ากสสสส์ ที่มีเป็นตอนๆ เพราะรูปเยอะแล้วคิดว่าควรจัดหมวดหมู่เป็นช่วงเวลาดีกว่า (ป้าก็คิดไปตามประสาล่ะค่ะ)
ช่วงนี้ป้าคิดว่าอาการเลนส์งอกของป้าชักทุเลาลงเยอะแล้วค่ะ (จริงๆ นา อิอิ) สาเหตุน่าจะมาจากข้อต่อไปนี้ล่ะค่ะ
--ตำแหน่งใหม่ (ว่าแบบโก้ อิอิ) คือป้าต้องรับผิดชอบเรื่องการใช้จ่ายในบ้านแต่เพียงผู้เดียว ช่วงที่ลุงเค้ารอทุนวิจัยก้อนใหม่ ไอ้ป้าจะงุบงิบ คอรัปชั่นก็ไม่เข้าทีเพราะเหมือนกับคอรัปชั่นเงินตัวเอง อิอิ
--สุขภาพ ข้อนี้ป้าเจอเต็มๆ ค่ะ ใช้ชีวิตแบบมีความสุขกับการกินมากไปหน่อย ตอนนี้เลยต้องดูแลตัวเองมากขึ้น เช่นออกกำลังกาย (อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ป้าออกกำลัง ก๊ากสสส์ นิดนึงทุกวัน แหม..ทำหน้าแบบไม่เชื่อกันนะ)
--งาน ข้อนี้ไม่รู้ว่าเป็นกรรม หรือเป็นบุญนะคะเพราะป้าได้ชั่วโมงการทำงานมากขึ้นทั้งๆ ที่คนอื่นโดนเลย์ออฟกันเป็นว่าเล่น บุญก็คือทำให้ป้ามีปัจจัยมาใช้จ่ายและดูแลคุณแม่ที่เมืองไทย กรรมก็คือเหนื่อยจังวุ้ย (โว้ยยยยย...อิอิ) แม่บอกว่าเป็นบุญแล้วลูก สาธุ...
จากสาเหตุข้างบนทำให้เวลาจะเข้าร้านอีเบย์หรือร้านขายเลนส์ทั้งหลายแทบไม่มี ถึงจะเข้าห้องมือหมุนแล้วเกิดกิเลสบ้างแต่ก็ดับได้ (แบบดำน้ำให้จิตใจสงบกันเลย ก๊ากสสสสส์) จากหลายอย่างในชีวิตป้าเลยมีเวลาหันไปมองข้างหลัง เลยเห็นเลนส์เป็นกระบุง ที่ป้าไม่ได้ใช้แต่ซื้อมาเพราะชอบ ลุงเค้าน่ารัก มีการบอกว่าไม่ว่าสถานการณ์ในชีวิตเป็นยังไง ลุงเค้าขอไม่ให้ป้าขายเลนส์หรือกล้อง ซึ้งเนาะ...
เหมือนที่ป้าเคยเขียนในกระทู้นึงว่า ไม่ว่าจะเจออะไรในชีวิต ป้าก็คิดเสมอว่าป้ามีสิ่งที่ดีเยอะแยะ ที่แน่ๆ คือป้ายังมีลมหายใจ ได้อยู่ในแวดวงของคนดี มีงานทำ มีสังคมดีๆ กับคนที่ป้ารัก ได้ถ่ายรูป มีรูปสวยที่ป้าชอบเต็มคอม อิอิ ตอนนี้ที่กำลังลุ้นคือ ขอให้สุขภาพดี แค่เนี๊ยะพอแล้วค่ะ
*******************************************************************************************************
เข้าเรื่องดีกว่า ป้าเห็นว่าเมืองไทยเราร้อนจังเลยเอารูปที่ดองไว้ช่วงหน้าหนาวมาลงให้ดูกันค่ะ
เดือนมกราคมเป็นเดือนที่อากาศบ้านป้าหนาวแบบสุดโหด แต่ป้าก็หาเรื่องถ่ายรูปจนได้ล่ะค่ะ ตื่นตอนเช้ามองออกไปนอกบ้าน ดูเทอร์โมมิเตอร์ที่แขวนไว้นอกหน้าต่าง ถ้าอุณหภูมิบอกว่า อากาศติดลบประมาณ -9 ถึง -11 องศาซี ป้าต้องแต่งกันหนาวเต็มที่ ออกไปนอกบ้านนั่งกับพื้นซีเมนต์เพื่อถ่ายรูปพวกนี้ เพื่อนบ้านคงคิดว่าป้าท่าจะติงต๊อง ก๊ากสสสส์ ที่นั่งเป่าพองสบู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ในอากาศหนาวมากๆ แบบนี้ กว่าจะได้ภาพมาเป่าเป็นหลายร้อยค่ะ
ตั้งแต่เป็นเด็กจนอายุเกินครึ่งร้อยมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ป้าเป่าลูกโป่งพองสบู่เพราะอ่านเจอว่าในอุณหภูมิที่ว่าจะทำให้พองสบู่มีลวดลายสวยๆ เป่าไปวันละเป็นร้อยๆ ครั้ง อาจจะมีซักลูกสองลูกที่ตกลงพื้นแบบไม่แตกซะก่อนและระยะเวลาประมาณไม่เกิน 10 วิ ที่ต้องหมุนให้ทันเพราะลวดลายจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มและแตกไปในที่สุด ที่ป้าชอบคือเป่าแต่ละครั้งจะได้ลวดลายที่ไม่เหมือนกัน
เป่าปั๊บถ้าโชคดีก็เป็นแบบนี้ คือไม่แตกค่ะ เห็นแบบนี้ต้องรีบหมุน หายครั้งที่พอตั้งท่าก็แตกซะแล้ว อิอิ
ภายใน1-2 วิก็เริ่มมีลวดลาย
โฟกัสด้านใน เวลาที่หมุนตั้งแต่ต้นจนแตกไม่ถึง 10 วิค่ะ
เต็มลูกแล้วเป็นแบบนี้ สีอาจเพื้ยนๆ นะคะ ป้าเพิ่มความเข้มมั่วๆ
เอ้าแตกซะแล้ว อิอิ
รอบเหมาเอากันค่ะคราวนี้
การจะเห็นลวดลายต้องคำนึงถึงแสง เป่าตกตรงไหนต้องนอนบนพื้นให้ได้ระดับเดียวกัน บนน้ำแข็งซะส่วนใหญ่
หลายลูกพร้อมกัน ต้องหมุนให้ทันค่ะ
รูปนี้แบบนอนบนน้ำแข็ง ลวดลายจากน้ำแข็งค่ะ
ได้แค่ครึ่งลูกตกบนใบไม้แห้ง
เป่าตกบนกระโปรงหน้ารถ กระจกรถ จอดไว้ได้ลวดลายแปลกดี
น้ำแข็งเกาะกระจกก็มีลวดลาย ตอนหมุนป้าไม่ได้สนใจพอมาดูรูปเลยเห็น น่าจะมาโครลวดลายพวกนี้มาด้วย แต่อากาศติดลบแบบนี้สมองไม่ค่อยทำงานค่ะ อิอิ
จากรูปข้างบนพอเต็มลูกก็เป็นแบบนี้ค่ะ
จบด้วยภาพนี้ค่ะ
ภาพจากกล้องตัวเดิม ดี700 และส่วนใหญ่เลนส์มาโครนิค 55/3.5 ค่ะ ป้าว่าเลนส์ตัวนี้ได้ภาพที่มีมิติดีมากเลยค่ะ
ชอบคุณที่แวะมาชมกระทู้ป้า ยังไงป้าจะมาลงภาพให้ดูอีกค่ะ รักห้องมือหมุนเสมอ ป้ายังตอบทุกกระทู้ ชอบดูรูป ตอนนี้งอกเลนส์ไม่ได้ก็ขอเกาะขอบจอ เชียร์อย่างเดียวล่ะค่ะ หมุนเข้าบ้างไม่เข้าบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ
ได้เวลาไปอาบน้ำนอนก่อนค่ะ ยังอยู่ในชุดทำงาน ขืนรอช้าไปเดี๋ยวเริ่มหาของกินจะยุ่งเกือบตีหนึ่ง อิอิ
(93)***********รูปเล่าเรื่องผ่านกาลเวลา ตอนที่ 1 ยังอยู่กับความหนาว***********
หลังจากใช้เวลานานมากกกก กว่าจะคิดหัวข้อกระทู้ได้ เลยเอาชื่อนี้ มีตอน 1 ก็ต้องมีตอนต่อไป แบบละครหลังข่าวละค่ะ ก๊ากสสสส์ ที่มีเป็นตอนๆ เพราะรูปเยอะแล้วคิดว่าควรจัดหมวดหมู่เป็นช่วงเวลาดีกว่า (ป้าก็คิดไปตามประสาล่ะค่ะ)
ช่วงนี้ป้าคิดว่าอาการเลนส์งอกของป้าชักทุเลาลงเยอะแล้วค่ะ (จริงๆ นา อิอิ) สาเหตุน่าจะมาจากข้อต่อไปนี้ล่ะค่ะ
--ตำแหน่งใหม่ (ว่าแบบโก้ อิอิ) คือป้าต้องรับผิดชอบเรื่องการใช้จ่ายในบ้านแต่เพียงผู้เดียว ช่วงที่ลุงเค้ารอทุนวิจัยก้อนใหม่ ไอ้ป้าจะงุบงิบ คอรัปชั่นก็ไม่เข้าทีเพราะเหมือนกับคอรัปชั่นเงินตัวเอง อิอิ
--สุขภาพ ข้อนี้ป้าเจอเต็มๆ ค่ะ ใช้ชีวิตแบบมีความสุขกับการกินมากไปหน่อย ตอนนี้เลยต้องดูแลตัวเองมากขึ้น เช่นออกกำลังกาย (อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ป้าออกกำลัง ก๊ากสสส์ นิดนึงทุกวัน แหม..ทำหน้าแบบไม่เชื่อกันนะ)
--งาน ข้อนี้ไม่รู้ว่าเป็นกรรม หรือเป็นบุญนะคะเพราะป้าได้ชั่วโมงการทำงานมากขึ้นทั้งๆ ที่คนอื่นโดนเลย์ออฟกันเป็นว่าเล่น บุญก็คือทำให้ป้ามีปัจจัยมาใช้จ่ายและดูแลคุณแม่ที่เมืองไทย กรรมก็คือเหนื่อยจังวุ้ย (โว้ยยยยย...อิอิ) แม่บอกว่าเป็นบุญแล้วลูก สาธุ...
จากสาเหตุข้างบนทำให้เวลาจะเข้าร้านอีเบย์หรือร้านขายเลนส์ทั้งหลายแทบไม่มี ถึงจะเข้าห้องมือหมุนแล้วเกิดกิเลสบ้างแต่ก็ดับได้ (แบบดำน้ำให้จิตใจสงบกันเลย ก๊ากสสสสส์) จากหลายอย่างในชีวิตป้าเลยมีเวลาหันไปมองข้างหลัง เลยเห็นเลนส์เป็นกระบุง ที่ป้าไม่ได้ใช้แต่ซื้อมาเพราะชอบ ลุงเค้าน่ารัก มีการบอกว่าไม่ว่าสถานการณ์ในชีวิตเป็นยังไง ลุงเค้าขอไม่ให้ป้าขายเลนส์หรือกล้อง ซึ้งเนาะ...
เหมือนที่ป้าเคยเขียนในกระทู้นึงว่า ไม่ว่าจะเจออะไรในชีวิต ป้าก็คิดเสมอว่าป้ามีสิ่งที่ดีเยอะแยะ ที่แน่ๆ คือป้ายังมีลมหายใจ ได้อยู่ในแวดวงของคนดี มีงานทำ มีสังคมดีๆ กับคนที่ป้ารัก ได้ถ่ายรูป มีรูปสวยที่ป้าชอบเต็มคอม อิอิ ตอนนี้ที่กำลังลุ้นคือ ขอให้สุขภาพดี แค่เนี๊ยะพอแล้วค่ะ
*******************************************************************************************************
เข้าเรื่องดีกว่า ป้าเห็นว่าเมืองไทยเราร้อนจังเลยเอารูปที่ดองไว้ช่วงหน้าหนาวมาลงให้ดูกันค่ะ
เดือนมกราคมเป็นเดือนที่อากาศบ้านป้าหนาวแบบสุดโหด แต่ป้าก็หาเรื่องถ่ายรูปจนได้ล่ะค่ะ ตื่นตอนเช้ามองออกไปนอกบ้าน ดูเทอร์โมมิเตอร์ที่แขวนไว้นอกหน้าต่าง ถ้าอุณหภูมิบอกว่า อากาศติดลบประมาณ -9 ถึง -11 องศาซี ป้าต้องแต่งกันหนาวเต็มที่ ออกไปนอกบ้านนั่งกับพื้นซีเมนต์เพื่อถ่ายรูปพวกนี้ เพื่อนบ้านคงคิดว่าป้าท่าจะติงต๊อง ก๊ากสสสส์ ที่นั่งเป่าพองสบู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ในอากาศหนาวมากๆ แบบนี้ กว่าจะได้ภาพมาเป่าเป็นหลายร้อยค่ะ
ตั้งแต่เป็นเด็กจนอายุเกินครึ่งร้อยมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ป้าเป่าลูกโป่งพองสบู่เพราะอ่านเจอว่าในอุณหภูมิที่ว่าจะทำให้พองสบู่มีลวดลายสวยๆ เป่าไปวันละเป็นร้อยๆ ครั้ง อาจจะมีซักลูกสองลูกที่ตกลงพื้นแบบไม่แตกซะก่อนและระยะเวลาประมาณไม่เกิน 10 วิ ที่ต้องหมุนให้ทันเพราะลวดลายจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มและแตกไปในที่สุด ที่ป้าชอบคือเป่าแต่ละครั้งจะได้ลวดลายที่ไม่เหมือนกัน
เป่าปั๊บถ้าโชคดีก็เป็นแบบนี้ คือไม่แตกค่ะ เห็นแบบนี้ต้องรีบหมุน หายครั้งที่พอตั้งท่าก็แตกซะแล้ว อิอิ
ภายใน1-2 วิก็เริ่มมีลวดลาย
โฟกัสด้านใน เวลาที่หมุนตั้งแต่ต้นจนแตกไม่ถึง 10 วิค่ะ
เต็มลูกแล้วเป็นแบบนี้ สีอาจเพื้ยนๆ นะคะ ป้าเพิ่มความเข้มมั่วๆ
เอ้าแตกซะแล้ว อิอิ
รอบเหมาเอากันค่ะคราวนี้
การจะเห็นลวดลายต้องคำนึงถึงแสง เป่าตกตรงไหนต้องนอนบนพื้นให้ได้ระดับเดียวกัน บนน้ำแข็งซะส่วนใหญ่
หลายลูกพร้อมกัน ต้องหมุนให้ทันค่ะ
รูปนี้แบบนอนบนน้ำแข็ง ลวดลายจากน้ำแข็งค่ะ
ได้แค่ครึ่งลูกตกบนใบไม้แห้ง
เป่าตกบนกระโปรงหน้ารถ กระจกรถ จอดไว้ได้ลวดลายแปลกดี
น้ำแข็งเกาะกระจกก็มีลวดลาย ตอนหมุนป้าไม่ได้สนใจพอมาดูรูปเลยเห็น น่าจะมาโครลวดลายพวกนี้มาด้วย แต่อากาศติดลบแบบนี้สมองไม่ค่อยทำงานค่ะ อิอิ
จากรูปข้างบนพอเต็มลูกก็เป็นแบบนี้ค่ะ
จบด้วยภาพนี้ค่ะ
ภาพจากกล้องตัวเดิม ดี700 และส่วนใหญ่เลนส์มาโครนิค 55/3.5 ค่ะ ป้าว่าเลนส์ตัวนี้ได้ภาพที่มีมิติดีมากเลยค่ะ
ชอบคุณที่แวะมาชมกระทู้ป้า ยังไงป้าจะมาลงภาพให้ดูอีกค่ะ รักห้องมือหมุนเสมอ ป้ายังตอบทุกกระทู้ ชอบดูรูป ตอนนี้งอกเลนส์ไม่ได้ก็ขอเกาะขอบจอ เชียร์อย่างเดียวล่ะค่ะ หมุนเข้าบ้างไม่เข้าบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ
ได้เวลาไปอาบน้ำนอนก่อนค่ะ ยังอยู่ในชุดทำงาน ขืนรอช้าไปเดี๋ยวเริ่มหาของกินจะยุ่งเกือบตีหนึ่ง อิอิ