สงสัยผู้หญิงท้องสมัยนี้ค่ะ

ออกตัวก่อนนะคะว่าเราอายุ 21 เพิ่งจบ มหาลัย' และยังไม่เคยมีแฟน ชอบผชค่ะ แต่เราค่อนข้างเรื่องมาก* สิ่งที่เราจะพิมพ์บรรยายจากสิ่งที่เราพบเห็นและสังเกตไม่ได้หมายถึงผู้หญิงส่วนใดส่วนหนึ่ง คือ ประมาณปีที่แล้วเราเริ่มสังเกตุสิ่งรอบตัวหลายๆอย่าง(อย่างพิถึพิถันมากขึ้น) สังคมภายนอกรวมถึงคนหลายๆอาชีพจากทุกๆ ชนชั้นในสังคม ด้วยความที่ตระกูลเราทั้งหมด(จากทางทั้งฝั่งพ่อคือ อาโผ่) เรียกแบบคนจีนและฝั่งยายเรา(คนไทย) เวลาท้องก็คือจะทานเต็มที่ เวลาร่างกายออกก็จะออกทุกส่วน หน้าใหญ่ขึ้นประมาณ 2-3 เท่า แขนขาใหญ่ขึ้น ท้องนี่คือไ่ม่ต้องพูดถึง ใหญ่มากอยู่แล้วเพราะว่าเวลากินก็กินเต็มที่ไม่ได้กลัวหุ่นเสีย หรือว่ากลัวว่าอ้วนแล้วจะลดยาก นน.ก็จะขึ้นประมาณ 10 กว่าโล เกือบ 20 โล เลยทีเดียวค่ะ โดยอาหารส่วนใหญ่จากคำบอกเล่าของยาย รวมถึง แม่เรา ป้าเรา อาหารที่กินช่วงท้องคือ กินทุกอย่างที่อยากกิน เหมือนตอนก่อนท้อง ไม่ได้ลดลงมีแต่จะเพิ่มขึ้น กิน 3 มื้อ แต่ที่บ้านเราผู้ญ ไม่มีใครดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่อยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่มีอะไรมากระทบกับลูกในท้องมาก กินข้าว ขนม น้ำหวาน ตามปกติ แต่ของเราแม่จะอยากกินตับหมูมาก ทานเนื้อไม่ได้(แม่บอกว่าก่อนท้องชอบกินมากแต่พอท้องแล้วได้กลิ่นเนื้อแล้วจะอาเจียนเลยต้องเลิกกิน) นอกจากนั้นแม่เราก็จะดื่มน้ำมะพร้าว อันนี้เป็นความเชื่อของที่บ้านเรื่องเวลาคลอดออกมา ผิวจะใส สะอาด ก็เลยดื่มกันมาตลอด แม่เราเป็นคนอวบอยู่แล้วก่อนท้องหนัก 56 ตอนท้องหนักเกือบ 80 แต่แม่เราก็ลดได้ เพราะแม่บอกว่า คนที่บอกว่าลดยาก คือลดปากไม่ได้ ควบคุมปากไม่ได้ พอควบคุมไม่ได้มันก็เลยกลายเป็นว่าบอกว่านน ลดยาก ถ้าลดปากได้มันก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้วไม่ใช่หรือ ?!                                                                                                                                                                                          และสื่งที่เราไม่เข้าใจเลยคือ เมื่อปีที่แล้วด้วยความที่โตขึ้นเราเลยตั้งใจพินิจมองสิ่งรอบตัวมากขึ้น เราพบว่าผู้หญิงสมัยนี้โดยมากที่เราพบเห็น โดยที่เราเห็นคือผู้ญเหล่านั้นอยู่บนภาพลักษณ์แบบคนมีอันจะกิน คือแถววิลล่า เอ็มโพเรียม  อะไรแบบนี้ค่ะ เพราะเราสังเกตแล้วผุ้ญที่เข้าข่ายที่เราไม่เข้าใจอยู่ในประเภทนี้ค่ะ แต่เราไม่ได้เหมารวมนะคะ แค่จะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เพราะเราสังเกตแล้วที่เราเห็นคนชั้นกลาง หรือลงไป ก็จะเป็นปกติค่ะ อาจะมีบ้างแต่ไม่อินเท่ากลุ่มคนที่เราพูดถึง คือผญกลุ่มมีอันจะกิน(ส่วนหนึ่ง) ที่เราพูดถึงมักจะกลัวและมีความคิดที่เราพยายามจะเข้าใจแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี คือแม่เราบอกว่าผู้ญ แบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยแม่แล้ว แต่คงไม่อินเท่าสมัยนี้ คือเค้าจะคิดว่า เค้าไม่อยากน้ำหนักขึ้น เพราะกลัวจะลดยาก กลัวหุ่นเปลี่ยนแล้วสามีไม่รักเหมือนเดิม กลัวท้องลาย เพราะร่างกายขยายมาก(จากการมีลูก) กลัวไม่สวย อะไรประมาณนี้ บางคนไม่ให้ลูกกินนมจากเต้าจะให้กินนมผงแทน หรือไม่ก็ป็มเอา แบบแม่สมัยนี้ที่ทำๆกันใส่ตู้แช่เย็นไว้ สาเหตุหนึ่งเพราะไม่อยากให้ลูกดูดจากเต้ากลัวนมยาน สามีไม่ชอบ อะไรประมาณนั้น คือเราพยายามคิดแล้วว่าทำไม ในเมื่อ เด็กคือลูกของคุณเป็นสายเลือดของคุณ เอาง่ายๆ ถ้าเรารักใครเราก็อยากให้เค้ากินดีๆ อยู่ดีๆ สบายๆ อยู่แล้ว แล้วนี่ลูกคุณ คุณกิน นอกจากคุณจะอิ่มแล้วลูกคุณก็อิ่ม แล้วนั้นมันทำให้ลูกคุณสมบูรณ์ มีร่างกายที่แข็งแรงเพราะได้รับอาหารที่ดี เพียงพอจากแม่ที่ดี! แต่ที่เราเห็นจากพี่สาวเพื่อน ญาติห่างๆ พี่ของเพื่อน แล้ว เราก็วิตกและไม่เข้าใจ เพราะว่าผู้ญที่เราเห็น ทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีสายเลือดเชื่อมโยงไม่ได้ข้องเกี่ยวกัน แต่ความคิดและการกระทำแทบไม่ต่างกันคือ พอท้อง เดือนแรกทานปกติ พอเดือนที่2 เป็นต้นไปก็ กลับทานน้อยลง เราถามว่าทำไม เค้าบอกกลัวหุ่นเสีย มันลดยากนะ เราก็ถามต่อไปว่า อ่าววแล้วงี้ลูกออกมาก็ไม่แข็งแรงอ่ะดิ่ ไม่น่าหล่ะทำไมเด็กสมัยนี้ถึงเป็นนู่นเป็นนี่ หาเด็กนน. แรกเกิดเกิน 3 กก. นี่ยากเพราะแม่มันไม่ยอมกินอะไร เค้าก็ตอบเราว่าไม่เห็นเป็นไร เอามาเลี้ยงข้างนอกก็ได้ ตัวเล็กๆอ่ะดีนะ ตัวใหญ่ ไม่ดีหรอกอะไรแบบนี้ - - ฟังแล้วเราก็เอออ พอล่ะ อะไรอย่างงี้เลยคือมันฟังไม่ขึ้นจริงๆ แล้วอาหารที่แม่พวกนี้กินที่เราเห็นและถามจากปากเค้ามาคือ กินอาหารสำเร็จรูป กินของมันๆ ครีม เนย กาแฟจัดๆ ไม่เค็มสุดโต่งหรือหวานสุดโด่ง น้ำอัดลมบ้าง และพวกขนมหวาน เราเลยถามว่าบางวันกินไม่เห็นครบ 3 มื้อเลย เค้าก็ตอบเราว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวกินอาหารเสริมเอา?! เอ่อออ ไม่มีอาหารเสริมที่ไหนดีกว่าอาหารปกติ คือข้าวและอาหารครบ 5 หมู่ ทำไมไม่กินให้ลูก ?!! คือเราไม่เข้าใจจริงๆ เราว่าแม่ทุกคนต้องเสียสละเพื่อลูกพอๆกับเพื่อตัวเองไม่ใช่หรอ หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่พอมาเจอเรื่องไม่ยอมกินทั้งๆที่ในความจริงต้องเข้าใจว่าในเมื่อมีสิ่งมีชีวิตในร่างกายเราเพิ่มขึ้นมา เรายิ่งต้องกินเพิ่ม ไม่ใช่หรอ ?!
                แล้วก็มีผู้หญิงอีกประเภทที่เราก็คงคือผู้หญิงที่เวลาไปช้อปปิ้งหรือซื้อของในซุปเปอร์ แล้วให้ลูกนั่งในรถเข็นพอลูกเริ่มร้องงอแง ก็ส่งไอแพดในกระเป๋าให้ลูกเล่นไม่ก็ส่งให้พี่เลี้ยง แล้วตัวเองก็ช้อปต่อ คือเราเข้าใจนะทุกคนอยากพักผ่อนอยากมีเวลาส่วนตัว และมันก็ไม่ได้ผิดที่จะให้พี่เลี้ยงดูแลบ้างในบางครั้ง แต่ที่เราเห็นจนติดตาเลย คือที่วิลล่า พอลูกชายเค้าร้อง (อายุประมาณ 5 ขวบ) เค้าก็มองมาทางลูก แบบหงุดหงิดหน่อยๆ แล้วก็เอาไอแพดให้ลูก พร้อมกับพูดว่าเล่นไปๆ อย่าร้อง รำคาญ คือเราคิดว่าเค้าน่าจะมีวิธีจัดการหรือควบคุมลูกเค้าได้ดีกว่านี้ คือเราคิดว่าต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพวกเทคโนโลยี คือตัวช่วยของมนุษย์ ไม่ใช่ทุกอย่าง สิ่งสำคัญคือต้องใช้ประสิทธิภาพของมนุษย์ก่อนแล้วค่อยให้เทคโนโลยีช่วยก็ว่ากันไป แล้วไอแพดก็ไม่ใช่คำตอบ แล้วอย่างงี้เด็กโดไป ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี จนมากไปหรือ ในเมื่อตอนเด็กๆเค้าได้รับการแก้ปัญหาโดยไอแพดซึ่งเอาเข้าตามจริงๆ แล้ว ณ ขณะนั้นเราว่าแม่เด็กคงแค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของลูก ด้วยหน้าจอ สี แสงของจอไอแพด ก็คงจะเบี่ยงเบนความสนใจของเด็กได้บ้าง แต่เรากลับมองว่าทำไมแม่ไม่อุ้มลูก หรือบอกว่า แปปนึงนะ อะไรอย่างนี้ก็ว่าไป ถ้าเราบอกลูกว่า รำคาญ แล้วส่งอะไรก็ไม่รุ้ให้ลูก เราว่าเด็กมันรู้สึกได้นะ มันซึมชับได้  แค่นี้หล่ะ คุณแม่ท่านไหนตอบเราได้ว่าทำไมเราจะขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่