เข้าเรื่องเลยนะคะ ตอนนี้เราเรียนอยู่เมืองนอกค่ะ มีแฟนเป็นชาวต่างชาติ คบกันได้ปีกว่าจนเราได้มาทุนมาเรียน1ปีที่ประเทศที่แฟนอยู่ เราเลยตัดสินใจอยู่ด้วยกันค่ะ พ่อแม่ฝั่งเค้ารู้ค่ะก็ไม่ได้ว่าอะไร(ค่านิยมชาวต่างชาติก็ไม่ได้ละเอียดอ่อนในเรื่องนี้อยู่แล้ว) แต่พ่อแม่ฝั่งเราไม่รู้เพราะเค้าค่อนข้างหัวโบราณ จนกระทั่งตอนนี้เราใกล้หมดสัญญาทุนแล้วค่ะ กำลังจะกลับไทยในอีกไม่กี่เดือน แฟนเลยตัดสินใจจะมาด้วย เค้ากะไว้ว่าจะอยู่กะเราที่ไทยซัก2เดือนแล้วค่อยกลับ
ที่นี้ปัญหาใหญ่เลยคือจะบอกที่บ้านเรายังไงไม่ให้เค้ารู้สึกแย่ หลายครั้งเวลาเราlineกับพ่อแม่ เราก็บอกเค้าอ้อมๆค่ะว่าแฟนจะมาไทยด้วย แต่ไม่ได้บอกตรงๆว่าเราจะอยู่ด้วยกัน จนวันนี้สบโอกาสเหมาะ เราเลยตัดสินใจบอกค่ะ ผลคือ แม่โกรธเรามาก ตัดพ้อว่า "แล้วแม่จะบอกย่ายังไง ว่าหนูจะอยู่กับผู้ชาย ย่าได้ยินคงเป็นลมแน่ สำหรับแม่ก็คงได้แต่ยอมรับ คิดไปก็เครียดเปล่าๆทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คงได้แต่หวังให้ดูแลตัวเองแล้วก็เรียนให้จบ"
ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากๆเลยค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อดี ที่บ้านเรามีค่านิยมที่ว่าต้องแต่งก่อนถึงจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ของต่างชาติคือต้องอยู่ด้วยกันเพื่อเรียนรู้กันก่อนถึงค่อยแต่ง ซึ่งเราค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดนี้ค่ะ เราไม่อยากแต่งงานกับใครโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้มั๊ย ถึงแม้เราจะอยู่ด้วยกันมาปีนึงแล้วและก็อยู่ด้วยกันได้ดี แต่ก็ยังอยากได้เวลาศึกษากันต่ออีกซักระยะน่ะค่ะ
เพื่อนๆคิดว่าเราจะสามารถเปลี่ยนทัศนคติค่านิยมคนรุ่นย่ารุ่นแม่ได้มั๊ยคะ หรือเป็นบ้านเราบ้านเดียวที่ที่บ้านยังหัวโบราณอยู่
ปล.เราอายุ27แล้วค่ะ เรียนปริญญาโทอยู่ แอบแท็กความรักวัยรุ่น 27ก็ยังวัยรุ่นนะ แหะๆ
เพิ่มเติมข้อความอีกนิดค่ะ เราก็บอกแฟนเรื่องวัฒนธรรมไทยนี่แล้วล่ะค่ะ แฟนก็เข้าใจ แต่เราคบกันมาแค่สองปีเอง จะให้หมั้นกันก็ยังไม่พร้อมค่ะ เค้าก็เสนอนะคะว่าให้ผมไปอยู่บ้านคุณมั๊ยจะได้อยู่ในสายตาของพ่อแม่คุณ เราก็ไม่อยากค่ะเกรงใจเค้า ห้องน้ำบ้านเราเป็นแบบตักราดไม่ใช่ชักโครก คนต่างชาติเวลาทำธุระเสร็จต้องใช้ทิชชู่ถ้าทิ้งทิชชู่ในส้วมแบบตักราดคงตันแหงๆเลย อีกอย่างบ้านเราไม่มีแอร์ด้วยค่ะ เค้าอยู่ไม่ได้แน่ๆ เฮ้อ
ค่านิยมอยู่ก่อนแต่งหรือแต่งก่อนอยู่
ที่นี้ปัญหาใหญ่เลยคือจะบอกที่บ้านเรายังไงไม่ให้เค้ารู้สึกแย่ หลายครั้งเวลาเราlineกับพ่อแม่ เราก็บอกเค้าอ้อมๆค่ะว่าแฟนจะมาไทยด้วย แต่ไม่ได้บอกตรงๆว่าเราจะอยู่ด้วยกัน จนวันนี้สบโอกาสเหมาะ เราเลยตัดสินใจบอกค่ะ ผลคือ แม่โกรธเรามาก ตัดพ้อว่า "แล้วแม่จะบอกย่ายังไง ว่าหนูจะอยู่กับผู้ชาย ย่าได้ยินคงเป็นลมแน่ สำหรับแม่ก็คงได้แต่ยอมรับ คิดไปก็เครียดเปล่าๆทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คงได้แต่หวังให้ดูแลตัวเองแล้วก็เรียนให้จบ"
ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากๆเลยค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อดี ที่บ้านเรามีค่านิยมที่ว่าต้องแต่งก่อนถึงจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ของต่างชาติคือต้องอยู่ด้วยกันเพื่อเรียนรู้กันก่อนถึงค่อยแต่ง ซึ่งเราค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดนี้ค่ะ เราไม่อยากแต่งงานกับใครโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้มั๊ย ถึงแม้เราจะอยู่ด้วยกันมาปีนึงแล้วและก็อยู่ด้วยกันได้ดี แต่ก็ยังอยากได้เวลาศึกษากันต่ออีกซักระยะน่ะค่ะ
เพื่อนๆคิดว่าเราจะสามารถเปลี่ยนทัศนคติค่านิยมคนรุ่นย่ารุ่นแม่ได้มั๊ยคะ หรือเป็นบ้านเราบ้านเดียวที่ที่บ้านยังหัวโบราณอยู่
ปล.เราอายุ27แล้วค่ะ เรียนปริญญาโทอยู่ แอบแท็กความรักวัยรุ่น 27ก็ยังวัยรุ่นนะ แหะๆ
เพิ่มเติมข้อความอีกนิดค่ะ เราก็บอกแฟนเรื่องวัฒนธรรมไทยนี่แล้วล่ะค่ะ แฟนก็เข้าใจ แต่เราคบกันมาแค่สองปีเอง จะให้หมั้นกันก็ยังไม่พร้อมค่ะ เค้าก็เสนอนะคะว่าให้ผมไปอยู่บ้านคุณมั๊ยจะได้อยู่ในสายตาของพ่อแม่คุณ เราก็ไม่อยากค่ะเกรงใจเค้า ห้องน้ำบ้านเราเป็นแบบตักราดไม่ใช่ชักโครก คนต่างชาติเวลาทำธุระเสร็จต้องใช้ทิชชู่ถ้าทิ้งทิชชู่ในส้วมแบบตักราดคงตันแหงๆเลย อีกอย่างบ้านเราไม่มีแอร์ด้วยค่ะ เค้าอยู่ไม่ได้แน่ๆ เฮ้อ