ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย "โนเบิล" มั่นใจยื่นล้มแผนเพิ่มทุนแบบ "พีพี" สำเร็จ หลังรวบรวมเสียงผู้ไม่เห็นด้วยได้ครบตามกฎหมายกำหนด
นายสุวัฒน์ พฤกษ์เสถียร ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย ของบริษัท โนเบิล ดิเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รวมตัวกันครบตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยื่นขอเพิกถอนมติประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2557 ในวาระพิเศษเรื่องการเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 200 ล้านหุ้น โดยกลุ่มผู้ถือได้มีการรวบรวมข้อมูลและเอกสารพร้อมยื่นต่อศาลแพ่งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรอเพียงคำยืนยันจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 1 รายที่จะเข้าร่วมยื่นฟ้องเพิ่มเติม โดยจะฟ้องร้องในกรณีขอให้เพิกถอนมติพิเศษในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด
โดยเฉพาะกรณีผู้ถือหุ้นที่เสนอวาระเพิ่มทุน มีการถือครองหุ้นเพียง 3% จากที่กฎหมายกำหนดจะต้องมีสัดส่วนถือหุ้น 1 ใน 3 ขณะเดียวกันจะฟ้องร้องกรณีที่ผู้บริหารรายงานข้อมูลเท็จ ซึ่งจากการที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเพิ่มทุน ได้ชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้แจ้งไว้ในรายงานว่ามีผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ และไม่ได้มีการบันทึกลงในรายงานการประชุมด้วย
อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รวบรวมกันมา ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ แม้ว่าการสิ้นสุดของคดีความจะออกมาในรูปแบบไหน ก็น่าจะเอาผิดตามกฎหมายได้ และการเอาผิดตามกฎหมายในครั้งนี้ไม่ได้เฉพาะคดีความทางแพ่ง แต่สามารถแตกย่อยเป็นคดีความอาญาได้หลายคดี
"ตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการที่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งผู้บริหารได้ระบุว่าจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้นให้กับผู้ลงทุนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการเสนอขายครั้งนี้จะได้รับเงิน 2.4 พันล้านบาท รวมทั้งนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวจะได้รับสิทธิ์ในการรับเงินปันผลในงวดปี 2556 ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิ์ปันผลให้วันที่ 6 พ.ค.นี้"
เขากล่าวว่าเหตุผลของการคัดค้านและยื่นฟ้องร้องในครั้งเพราะต้องการชี้ให้เห็นว่าผู้บริหารไม่ควรเอาเปรียบผู้ลงทุนรายย่อย และการจะเพิ่มทุนก็ควรที่จะใช้วิธีแจกแจงเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งการที่บริษัทมีหนี้สินต่อทุนในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 เท่านั้น ไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้องเพราะสัดส่วนหนี้ต่อทุนดังกล่าวเป็นการรวมหนี้สินทั้งหมด แต่ถ้าพิจารณาหนี้ที่มีดอกเบี้ยสัดส่วนหนี้ต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 1.5 เท่า จึงยังไม่ใช่ภาระที่หนักเกินไปสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ส่วนกรณีการเพิ่มทุนเพื่อไม่ต้องการถูกเทคโอเวอร์นั้น มองว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจริง ผู้บริหารก็ควรชี้แจงให้ผู้ถือหุ้นรับทราบและหาแนวทางที่ไม่ต้องทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับผลกระทบ ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า หากมีกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัทจริง กลุ่มที่สนใจซื้อก็สามารถยื่นขอซื้อหุ้นในราคาที่สูงกว่ากลุ่มนักลงทุนที่ผู้บริหารจะจัดสรรให้ได้ ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริหารดำเนินการถือว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยถูกเอาเปรียบ
ทั้งนี้ กลุ่มตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยได้เดินทางไปพบหน่วยงานต่างๆ เพื่อยื่นขอให้พิจารณาเพิกถอนมติการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 โดยได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายทะเบียนบริษัทมหาชน
อนึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ โนเบิล ชี้แจงกรณีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจํากัด ตามที่คณะกรรมการบริษัทหรือกรรมการผู้มีอํานาจกระทําแทนบริษัทโดยระบุวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนในครั้งนี้ว่าเพื่อขยายธุรกิจของบริษัทฯ และชําระคืนหนี้
นอกจากนี้ทําให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลง รายละเอียดปรากฏตามข่าวบริษัทในระบบ SETSMART เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2557 นั้น เนื่องจากวาระการเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของ ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน โดยบริษัทจดทะเบียนควรแจ้งให้ผู้ถือหุ้นได้ทราบล่วงหน้าก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้ ผู้ถือหุ้นได้มีเวลาพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance)
ดังนั้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ โนเบิล ชี้แจงข้อมูลในประเด็นต่างๆ เพื่อเผยแพร่ต่อผู้ลงทุนผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 6 พ.ค. 2557 ดังนี้
1.ขอให้บริษัทชี้แจงว่าคณะกรรมการบริษัทหรือฝ่ายบริหารของบริษัทได้ทราบเรื่องการขอเพิ่มวาระการเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดล่วงหน้าก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นหรือไม่ อย่างไร 2. ข้อมูลของกลุ่มผู้ถือหุ้นที่เสนอให้เพิ่มวาระการเพิ่มทุน และเหตุผลที่กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าวเสนอให้บริษัทเพิ่มทุนในลักษณะดังกล่าว 3. สาเหตุที่กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าวเสนอให้บริษัทเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด และข้อมูลสนับสนุนของ กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าว รวมถึงเหตุผลที่ไม่ได้ขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 4. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ เกี่ยวกับการเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดดังกล่าว และแผนการใช้เงินทุนในอนาคต 5. อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด
แหล่งที่มาของข่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20140506/580168/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88.html 
มั่นใจล้มแผนเพิ่มทุน'โนเบิล'สำเร็จ
นายสุวัฒน์ พฤกษ์เสถียร ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย ของบริษัท โนเบิล ดิเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รวมตัวกันครบตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยื่นขอเพิกถอนมติประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2557 ในวาระพิเศษเรื่องการเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 200 ล้านหุ้น โดยกลุ่มผู้ถือได้มีการรวบรวมข้อมูลและเอกสารพร้อมยื่นต่อศาลแพ่งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรอเพียงคำยืนยันจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 1 รายที่จะเข้าร่วมยื่นฟ้องเพิ่มเติม โดยจะฟ้องร้องในกรณีขอให้เพิกถอนมติพิเศษในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด
โดยเฉพาะกรณีผู้ถือหุ้นที่เสนอวาระเพิ่มทุน มีการถือครองหุ้นเพียง 3% จากที่กฎหมายกำหนดจะต้องมีสัดส่วนถือหุ้น 1 ใน 3 ขณะเดียวกันจะฟ้องร้องกรณีที่ผู้บริหารรายงานข้อมูลเท็จ ซึ่งจากการที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเพิ่มทุน ได้ชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้แจ้งไว้ในรายงานว่ามีผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ และไม่ได้มีการบันทึกลงในรายงานการประชุมด้วย
อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รวบรวมกันมา ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ แม้ว่าการสิ้นสุดของคดีความจะออกมาในรูปแบบไหน ก็น่าจะเอาผิดตามกฎหมายได้ และการเอาผิดตามกฎหมายในครั้งนี้ไม่ได้เฉพาะคดีความทางแพ่ง แต่สามารถแตกย่อยเป็นคดีความอาญาได้หลายคดี
"ตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการที่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งผู้บริหารได้ระบุว่าจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้นให้กับผู้ลงทุนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการเสนอขายครั้งนี้จะได้รับเงิน 2.4 พันล้านบาท รวมทั้งนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวจะได้รับสิทธิ์ในการรับเงินปันผลในงวดปี 2556 ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิ์ปันผลให้วันที่ 6 พ.ค.นี้"
เขากล่าวว่าเหตุผลของการคัดค้านและยื่นฟ้องร้องในครั้งเพราะต้องการชี้ให้เห็นว่าผู้บริหารไม่ควรเอาเปรียบผู้ลงทุนรายย่อย และการจะเพิ่มทุนก็ควรที่จะใช้วิธีแจกแจงเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งการที่บริษัทมีหนี้สินต่อทุนในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 เท่านั้น ไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้องเพราะสัดส่วนหนี้ต่อทุนดังกล่าวเป็นการรวมหนี้สินทั้งหมด แต่ถ้าพิจารณาหนี้ที่มีดอกเบี้ยสัดส่วนหนี้ต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 1.5 เท่า จึงยังไม่ใช่ภาระที่หนักเกินไปสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ส่วนกรณีการเพิ่มทุนเพื่อไม่ต้องการถูกเทคโอเวอร์นั้น มองว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจริง ผู้บริหารก็ควรชี้แจงให้ผู้ถือหุ้นรับทราบและหาแนวทางที่ไม่ต้องทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับผลกระทบ ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่า หากมีกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัทจริง กลุ่มที่สนใจซื้อก็สามารถยื่นขอซื้อหุ้นในราคาที่สูงกว่ากลุ่มนักลงทุนที่ผู้บริหารจะจัดสรรให้ได้ ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริหารดำเนินการถือว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยถูกเอาเปรียบ
ทั้งนี้ กลุ่มตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยได้เดินทางไปพบหน่วยงานต่างๆ เพื่อยื่นขอให้พิจารณาเพิกถอนมติการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 โดยได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายทะเบียนบริษัทมหาชน
อนึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ โนเบิล ชี้แจงกรณีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจํากัด ตามที่คณะกรรมการบริษัทหรือกรรมการผู้มีอํานาจกระทําแทนบริษัทโดยระบุวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนในครั้งนี้ว่าเพื่อขยายธุรกิจของบริษัทฯ และชําระคืนหนี้
นอกจากนี้ทําให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลง รายละเอียดปรากฏตามข่าวบริษัทในระบบ SETSMART เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2557 นั้น เนื่องจากวาระการเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของ ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน โดยบริษัทจดทะเบียนควรแจ้งให้ผู้ถือหุ้นได้ทราบล่วงหน้าก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้ ผู้ถือหุ้นได้มีเวลาพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance)
ดังนั้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ โนเบิล ชี้แจงข้อมูลในประเด็นต่างๆ เพื่อเผยแพร่ต่อผู้ลงทุนผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 6 พ.ค. 2557 ดังนี้
1.ขอให้บริษัทชี้แจงว่าคณะกรรมการบริษัทหรือฝ่ายบริหารของบริษัทได้ทราบเรื่องการขอเพิ่มวาระการเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดล่วงหน้าก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นหรือไม่ อย่างไร 2. ข้อมูลของกลุ่มผู้ถือหุ้นที่เสนอให้เพิ่มวาระการเพิ่มทุน และเหตุผลที่กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าวเสนอให้บริษัทเพิ่มทุนในลักษณะดังกล่าว 3. สาเหตุที่กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าวเสนอให้บริษัทเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด และข้อมูลสนับสนุนของ กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าว รวมถึงเหตุผลที่ไม่ได้ขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 4. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ เกี่ยวกับการเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดดังกล่าว และแผนการใช้เงินทุนในอนาคต 5. อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด
แหล่งที่มาของข่าว http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20140506/580168/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88.html