ต้องเป็นแบบนี้ ผิดมั้ย
อายุ 29 ปี ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ที่ผ่านมา มีแต่ แอบรักและผิดหวังมาตลอดเพราะไม่เคยบอกใครคนนั้นว่าเรารู้สึกอย่างไร
พอเริ่มอยากมีคนรักอย่างคนอื่นบ้างก็ไม่รู้ต้องเริ่มต้นยังไง. หาที่ไหน และไม่เคยคบใครมาก่อน รุ่นเดียวกันก็มีครอบครัวกันหมด ที่เข้ามาทำท่าอยากจะชิดใกล้ด้วย ก็มีแต่พ่อหม้ายแก่คราวพ่อ. หรือไม่ก็สุภาพบุรุษเถื่อน จิ๊กโก๋ออกทางแนวหื่นกาม จนถึงมิจฉาชีพ
ก็มีคนแนะนำ เวบไซต์หาคู่เลยลองเข้าไปสมัครดู. เป็นตามคาด มีผู้สนใจหน้าตาบ้านๆอย่างเราหลายคน ได้ติดต่อ สนทนา รวมๆประมาณ สิบกว่าคน ภายในสามเดือน
แต่เรื่องเริ่มจาก คุยแค่คนเดียวที่เราเลือกและคิดว่าจะไม่คุยซ้อนกับให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก สุดท้ายไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้คนๆนั้นหายไป หลังจากเริ่มคุยได้แค่ อาทิตย์เดียว
ในช่วงท่ีคุยกันเค้าให้ความหวังเรามากมาย ด้วยความช่ำชอง คงไม่ยากกับผู้หญิงโง่ๆคนนึงที่ไม่เคยมีใครพูดภาษาดอกไม้ใส่ เชื่อสิ่งที่เค้าพูดทุกคำ วางใจ ไว้ใจ เชื่อใจ ทันทีราวกับโดนเสนห์ โดยลืมโลกของความเป็นจริงไปว่า นี่ไม่ใช่ละคร ความรักไม่ได้สวยงามอย่างที่ฝัน
แม้ว่าเค้าจะต้องการสิ่งที่ไม่ถูกต้องจากของรักของเรา. เราก็พร้อมที่จะให้เมื่อถึงเวลาเท่านั้น. เค้าคงไม่พอใจ เลยหายไปเพราะเราให้ในเวลาที่เค้าต้องการไม่ได้ เพียง อาทิตย์เดียวที่เค้าเอาใจเราไปแล้วก้หายไป มันเจ็บมากกับรักครั้งแรกที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนในชีวิต ไม่รู้ว่าใจง่ายขนาดนี้เลยหรือเรา ความรักจริงๆใช้เวลานานขนาดไหนจะรักได้
ความรู้สึกและสภาพจิตใจตอนนั้นมันแย่ มาก เมื่อคิดได้ก็เริ่มเข้าใจเอง ว่าในสภาวะแบบนี้ใครจะคุยแค่คนเดียวกัน มีคุยเผื่อเลือกกันทั้งนั้น เรามันเพ้อไปเอง อยากมีคู่ก็ต้องเลือกใช่หรือไม่. อยากไดัคู่ที่ดี รักเราจริงก็ต้องเลือกเยอะๆ ศึกษากันนานๆ. ใช่หรือไม่ ถ้าเจอคนที่ไม่ใช่ก็ต้องยุติทันทีใช่หรือไม่ ดังนั้นห้ามรักใคร ถูกใจ ให้ใจ จริงใจ จริงจังกับใครก่อนใช่หรือไม่ ด้วยเวลาเราที่เหลือมีไม่มาก อายุมากกว่านี้คงไม่ดีแน่ คงต้องคุยทีละหลายๆคน แล้วก็คัดคนไม่ใช่ออก. อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่นานเกินไป.....ใช่หรือไม่. คำตอบ คือ ใช่เพราะเราก็เคยเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ใช่. แม้ในเวลานั้นเค้าจะใช่สำหรับเราแต่เราไม่ใช่อย่างที่เค้าต้องการ...
จากวันนั้นเราใช้ เวลาเพียงสองสามวันในการคัดคนที่ไม่ใช่ออกไป เหมือนรายการ เรียลลิตี้ มีผู้สมัครเป็นสิบ มาประกวดพร้อมกัน เราก้แค่ตั้งโจทย์ใครไม่ใช่ก้ต้องยุติทันที. วันหนึ่งเคยคุยมากสุด เจ็ดคน ติดต่อกันสามวัน แล้วคัดผู้ชายจำพวกหื่นกาม มิจฉาชีพ โรคจิต มีเมียแล้วออกไปก่อน. จนหมดไม่เหลือใคร
เกือบสรุปแล้วว่า. เราผิดปกติหรือป่าวรึว่าสมัยนี้มีแต่คนแบบนี้กันหมดแล้วถ้าจะเป็นอย่างนี้ก็จะไม่คุยกับใครอีกแล้ว อยู่คนเดียวดีกว่า จนมีเหลืออีก สามคนสุดท้าย คัดผู้ชายนิสัยเห็นแก่ตัวมักมากออกไปหนึ่ง ก็ยังเหลือสองคนนี้ที่ตอนนี้ก็ยังคุยอยู่เกือบสามเดือนที่คุยพร้อมกันมา โดยที่ไม่ไดัเจอหน้ากันเลย
ทั้งสองคนเป็นคนดี ไม่หื่นกาม อาชีพมั่นคง มีบ้าน มีรถ สอาด ระเบียบ มีวินัยในการใช้ชีวิต ไม่ฟุ้มเฟ้อ เจียมตัวเจียมตน ขยันทำงาน ขยันเก็บเงิน มีอนาคต อายุไม่ห่างกันไม่มาก 4-9ปี เป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น แต่ต่างกันตรงที่อีกคนมีเวลาแต่อีกคนไม่ค่อยมีเวลา เคยผ่านการมีครอบครัว คนรัก ผิดหวังมามากแล้ว คงเลือกมาก. ไม่คุยมากมายเท่าไร ไม่มีสถานะให้แม้ว่าคุยกันมาร่วม 3 เดือนไม่รุ้จะคัดเราอยู่รึป่าว
แต่แล้วก้มาถึงทางแยกแล้ว. เมื่ออีกคนกำลังจะขอใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคตอันใกล้ เริ่มวางแผนการคบหากันจริงจัง แตกต่างกับอีกคนที่คุยไปวันๆ ไม่มีสถานะสะที แต่ก้โทรหาเราทุกวันแม้คุยได้ไม่กี่นาที
แต่รู้หรือไม่ เรากำลังผิดกฏตัวเอง เราชอบคนที่สอง อาจจะรักไปแล้วด้วยซ้ำ หลังนัดพบกัน กับคนแรกที่ขอแต่งเราแทบไม่รู้สึกอะไรเลย แต่กับคนที่สองเรารู้สึกมากมาย. ไม่รุ้ว่าเค้ารู้มั้ย เค้ารู้สึกเหมือนกันมั้ย รู้แค่ว่าเค้ารู้สึกดีกับเรา รู้แค่นั้น ทำไงดี......พอถึงตอนนี้ก็โง่เหมือนเดิม
แต่การคัดเลือกต้องเดินหน้าต่อ.....โจทย์ข้อสุดทัาย
จะพิสูจน์ว่า. เงื่อนไข ดูใจตัวเองสามเดือน ของเราสามคน จะเป็นอย่างไรเพราะไม่อยากยืดยื้อให้นานกว่านี้. สำหรับคนแรกเราขอเวลาเค้า 3 เดือนคุยกันเหมือนเดิมปกติแต่ให้ดูใจว่า เราใช่สำหรับเค้าจริงๆมั้ย ถ้าใช่ก็เดินต่อไป. แต่ถ้าไม่ใช่ต้องยุติโดยตัวเค้าเอง
สำหรับคนที่สอง เราให้เวลาเค้า สามเดือนรวมกับที่คุยกันมาแล้วระยะเวลา เกือบหัาเดือน ถ้าเค้าเปลี่ยนสถานะ ก็เดินหน้าต่อ แต่ถ้าไม่ ก็แปลว่า เค้าคงไม่คิดกับเรามากกว่าการรู้สึกดีๆ
แต่สำหรับเรา สามเดือนนี้จะพิสูจน์ให้เรารู้ว่าเราทนกับการไม่มีสถานะของคนที่สองไดัหรือไม่. เราทนกับการเฉยชา ไม่ใสใจของเค้าได้มั้ย ถ้าทนได้แล้วมีความสุขเราก้เลือกผู้ชายที่ชีวิตมีแต่งานคนนี้ ว่างกันอนเพราะเพลียจากงาน. หรือไม่ก็สรรหางานอื่นทำตลอดเวลา แต่มีอนาคต ไม่จน เอาใจใส่บัางนานครั้ง
แต่ถ้าทนไม่ได้ เราก้ตัองขอยุติทันทึ แล้วก้เลือกคนแรก ตอนนี้อาจไม่รัก แต่ไม่อยากเหนื่อยหาคนอื่นแล้ว ถ้าเค้ารักเราจริงเค้าดูแลเอาใจใส่เราเหมือนเดิม. เราก้รักเค้าได้ไม่ยาก
แต่มันไม่ยุติธรรมกับคนทั้งสองคนนี้ ถ้า สามเดือนนี้. คนที่สองเปลี่ยนสถานะระหว่างเราเปนแฟนกัน คบกัน แล้วคนแรกก้ยืนยันว่าเราใช่ เราจะทำอย่างไรดี....เพราะที่ผ่านมาเราสามารถคุยพร้อมกันได้หลายคน แต่ถ้าต้องเปลี่ยนสถานะเป็นแฟนกัน หรือคบกัน รักกัน ได้แค่คนเดียวเท่านั้น รู้แค่ว่า. สามเดือนที่ตกลงกับคนแรก ถ้าเราเปนฝ่ายไม่รุ้สึกอะไรกับเค้า คือสรุปว่าคตแรกไม่ใช่คนที่ใช่ เค้าคนนั้นก้ยอมรับถ้าเปนเช่นนั้น เค้าจะไม่เสียใจเลยเพราะทำเต็มที่แล้ว หกเดือนที่คุยกัน มันทำให้คนแรกเสียเวลาที่รู้จักเรามั้ย ถ้าเราสงสารคนแรกแล้วเลือกคนแรก คนที่สองเค้าจะต้องผิดหวังในความรักอีกครั้งเพราะเรา ทั้งที่เรารักคนที่สอง แล้วสุดท้ายเค้าก้รักเราเหมือนกับที่เรารอ
แต่สิ่งที่อยากใหัเกิดขึ้นสามเดือนข้างหน้า. คือ อยากให้คนที่สองถึงแม้จะรัก ไม่เปลี่ยนสถานะ และไม่ได้รักเรา คนที่เจ็บจะมีแค่เราคนเดียวเท่านั้น
ใครมีความคิดอื่นๆ อย่างไรบ้างช่วยแนะนำด้วยค่ะ
คบ ผช สองคน ผิดมั้ย ควรทำยังงัยดี
อายุ 29 ปี ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ที่ผ่านมา มีแต่ แอบรักและผิดหวังมาตลอดเพราะไม่เคยบอกใครคนนั้นว่าเรารู้สึกอย่างไร
พอเริ่มอยากมีคนรักอย่างคนอื่นบ้างก็ไม่รู้ต้องเริ่มต้นยังไง. หาที่ไหน และไม่เคยคบใครมาก่อน รุ่นเดียวกันก็มีครอบครัวกันหมด ที่เข้ามาทำท่าอยากจะชิดใกล้ด้วย ก็มีแต่พ่อหม้ายแก่คราวพ่อ. หรือไม่ก็สุภาพบุรุษเถื่อน จิ๊กโก๋ออกทางแนวหื่นกาม จนถึงมิจฉาชีพ
ก็มีคนแนะนำ เวบไซต์หาคู่เลยลองเข้าไปสมัครดู. เป็นตามคาด มีผู้สนใจหน้าตาบ้านๆอย่างเราหลายคน ได้ติดต่อ สนทนา รวมๆประมาณ สิบกว่าคน ภายในสามเดือน
แต่เรื่องเริ่มจาก คุยแค่คนเดียวที่เราเลือกและคิดว่าจะไม่คุยซ้อนกับให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก สุดท้ายไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้คนๆนั้นหายไป หลังจากเริ่มคุยได้แค่ อาทิตย์เดียว
ในช่วงท่ีคุยกันเค้าให้ความหวังเรามากมาย ด้วยความช่ำชอง คงไม่ยากกับผู้หญิงโง่ๆคนนึงที่ไม่เคยมีใครพูดภาษาดอกไม้ใส่ เชื่อสิ่งที่เค้าพูดทุกคำ วางใจ ไว้ใจ เชื่อใจ ทันทีราวกับโดนเสนห์ โดยลืมโลกของความเป็นจริงไปว่า นี่ไม่ใช่ละคร ความรักไม่ได้สวยงามอย่างที่ฝัน
แม้ว่าเค้าจะต้องการสิ่งที่ไม่ถูกต้องจากของรักของเรา. เราก็พร้อมที่จะให้เมื่อถึงเวลาเท่านั้น. เค้าคงไม่พอใจ เลยหายไปเพราะเราให้ในเวลาที่เค้าต้องการไม่ได้ เพียง อาทิตย์เดียวที่เค้าเอาใจเราไปแล้วก้หายไป มันเจ็บมากกับรักครั้งแรกที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนในชีวิต ไม่รู้ว่าใจง่ายขนาดนี้เลยหรือเรา ความรักจริงๆใช้เวลานานขนาดไหนจะรักได้
ความรู้สึกและสภาพจิตใจตอนนั้นมันแย่ มาก เมื่อคิดได้ก็เริ่มเข้าใจเอง ว่าในสภาวะแบบนี้ใครจะคุยแค่คนเดียวกัน มีคุยเผื่อเลือกกันทั้งนั้น เรามันเพ้อไปเอง อยากมีคู่ก็ต้องเลือกใช่หรือไม่. อยากไดัคู่ที่ดี รักเราจริงก็ต้องเลือกเยอะๆ ศึกษากันนานๆ. ใช่หรือไม่ ถ้าเจอคนที่ไม่ใช่ก็ต้องยุติทันทีใช่หรือไม่ ดังนั้นห้ามรักใคร ถูกใจ ให้ใจ จริงใจ จริงจังกับใครก่อนใช่หรือไม่ ด้วยเวลาเราที่เหลือมีไม่มาก อายุมากกว่านี้คงไม่ดีแน่ คงต้องคุยทีละหลายๆคน แล้วก็คัดคนไม่ใช่ออก. อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่นานเกินไป.....ใช่หรือไม่. คำตอบ คือ ใช่เพราะเราก็เคยเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ใช่. แม้ในเวลานั้นเค้าจะใช่สำหรับเราแต่เราไม่ใช่อย่างที่เค้าต้องการ...
จากวันนั้นเราใช้ เวลาเพียงสองสามวันในการคัดคนที่ไม่ใช่ออกไป เหมือนรายการ เรียลลิตี้ มีผู้สมัครเป็นสิบ มาประกวดพร้อมกัน เราก้แค่ตั้งโจทย์ใครไม่ใช่ก้ต้องยุติทันที. วันหนึ่งเคยคุยมากสุด เจ็ดคน ติดต่อกันสามวัน แล้วคัดผู้ชายจำพวกหื่นกาม มิจฉาชีพ โรคจิต มีเมียแล้วออกไปก่อน. จนหมดไม่เหลือใคร
เกือบสรุปแล้วว่า. เราผิดปกติหรือป่าวรึว่าสมัยนี้มีแต่คนแบบนี้กันหมดแล้วถ้าจะเป็นอย่างนี้ก็จะไม่คุยกับใครอีกแล้ว อยู่คนเดียวดีกว่า จนมีเหลืออีก สามคนสุดท้าย คัดผู้ชายนิสัยเห็นแก่ตัวมักมากออกไปหนึ่ง ก็ยังเหลือสองคนนี้ที่ตอนนี้ก็ยังคุยอยู่เกือบสามเดือนที่คุยพร้อมกันมา โดยที่ไม่ไดัเจอหน้ากันเลย
ทั้งสองคนเป็นคนดี ไม่หื่นกาม อาชีพมั่นคง มีบ้าน มีรถ สอาด ระเบียบ มีวินัยในการใช้ชีวิต ไม่ฟุ้มเฟ้อ เจียมตัวเจียมตน ขยันทำงาน ขยันเก็บเงิน มีอนาคต อายุไม่ห่างกันไม่มาก 4-9ปี เป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น แต่ต่างกันตรงที่อีกคนมีเวลาแต่อีกคนไม่ค่อยมีเวลา เคยผ่านการมีครอบครัว คนรัก ผิดหวังมามากแล้ว คงเลือกมาก. ไม่คุยมากมายเท่าไร ไม่มีสถานะให้แม้ว่าคุยกันมาร่วม 3 เดือนไม่รุ้จะคัดเราอยู่รึป่าว
แต่แล้วก้มาถึงทางแยกแล้ว. เมื่ออีกคนกำลังจะขอใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคตอันใกล้ เริ่มวางแผนการคบหากันจริงจัง แตกต่างกับอีกคนที่คุยไปวันๆ ไม่มีสถานะสะที แต่ก้โทรหาเราทุกวันแม้คุยได้ไม่กี่นาที
แต่รู้หรือไม่ เรากำลังผิดกฏตัวเอง เราชอบคนที่สอง อาจจะรักไปแล้วด้วยซ้ำ หลังนัดพบกัน กับคนแรกที่ขอแต่งเราแทบไม่รู้สึกอะไรเลย แต่กับคนที่สองเรารู้สึกมากมาย. ไม่รุ้ว่าเค้ารู้มั้ย เค้ารู้สึกเหมือนกันมั้ย รู้แค่ว่าเค้ารู้สึกดีกับเรา รู้แค่นั้น ทำไงดี......พอถึงตอนนี้ก็โง่เหมือนเดิม
แต่การคัดเลือกต้องเดินหน้าต่อ.....โจทย์ข้อสุดทัาย
จะพิสูจน์ว่า. เงื่อนไข ดูใจตัวเองสามเดือน ของเราสามคน จะเป็นอย่างไรเพราะไม่อยากยืดยื้อให้นานกว่านี้. สำหรับคนแรกเราขอเวลาเค้า 3 เดือนคุยกันเหมือนเดิมปกติแต่ให้ดูใจว่า เราใช่สำหรับเค้าจริงๆมั้ย ถ้าใช่ก็เดินต่อไป. แต่ถ้าไม่ใช่ต้องยุติโดยตัวเค้าเอง
สำหรับคนที่สอง เราให้เวลาเค้า สามเดือนรวมกับที่คุยกันมาแล้วระยะเวลา เกือบหัาเดือน ถ้าเค้าเปลี่ยนสถานะ ก็เดินหน้าต่อ แต่ถ้าไม่ ก็แปลว่า เค้าคงไม่คิดกับเรามากกว่าการรู้สึกดีๆ
แต่สำหรับเรา สามเดือนนี้จะพิสูจน์ให้เรารู้ว่าเราทนกับการไม่มีสถานะของคนที่สองไดัหรือไม่. เราทนกับการเฉยชา ไม่ใสใจของเค้าได้มั้ย ถ้าทนได้แล้วมีความสุขเราก้เลือกผู้ชายที่ชีวิตมีแต่งานคนนี้ ว่างกันอนเพราะเพลียจากงาน. หรือไม่ก็สรรหางานอื่นทำตลอดเวลา แต่มีอนาคต ไม่จน เอาใจใส่บัางนานครั้ง
แต่ถ้าทนไม่ได้ เราก้ตัองขอยุติทันทึ แล้วก้เลือกคนแรก ตอนนี้อาจไม่รัก แต่ไม่อยากเหนื่อยหาคนอื่นแล้ว ถ้าเค้ารักเราจริงเค้าดูแลเอาใจใส่เราเหมือนเดิม. เราก้รักเค้าได้ไม่ยาก
แต่มันไม่ยุติธรรมกับคนทั้งสองคนนี้ ถ้า สามเดือนนี้. คนที่สองเปลี่ยนสถานะระหว่างเราเปนแฟนกัน คบกัน แล้วคนแรกก้ยืนยันว่าเราใช่ เราจะทำอย่างไรดี....เพราะที่ผ่านมาเราสามารถคุยพร้อมกันได้หลายคน แต่ถ้าต้องเปลี่ยนสถานะเป็นแฟนกัน หรือคบกัน รักกัน ได้แค่คนเดียวเท่านั้น รู้แค่ว่า. สามเดือนที่ตกลงกับคนแรก ถ้าเราเปนฝ่ายไม่รุ้สึกอะไรกับเค้า คือสรุปว่าคตแรกไม่ใช่คนที่ใช่ เค้าคนนั้นก้ยอมรับถ้าเปนเช่นนั้น เค้าจะไม่เสียใจเลยเพราะทำเต็มที่แล้ว หกเดือนที่คุยกัน มันทำให้คนแรกเสียเวลาที่รู้จักเรามั้ย ถ้าเราสงสารคนแรกแล้วเลือกคนแรก คนที่สองเค้าจะต้องผิดหวังในความรักอีกครั้งเพราะเรา ทั้งที่เรารักคนที่สอง แล้วสุดท้ายเค้าก้รักเราเหมือนกับที่เรารอ
แต่สิ่งที่อยากใหัเกิดขึ้นสามเดือนข้างหน้า. คือ อยากให้คนที่สองถึงแม้จะรัก ไม่เปลี่ยนสถานะ และไม่ได้รักเรา คนที่เจ็บจะมีแค่เราคนเดียวเท่านั้น
ใครมีความคิดอื่นๆ อย่างไรบ้างช่วยแนะนำด้วยค่ะ