เรื่องที่จะเล่านี้มี 2 เหตุการณ์นะค่ะ ซึ่งเกิดขึ้นภายในอาทิตย์เดียวกัน
1. ในเรื่องของการจอดรถกีดขวางหน้ารถ โดยเฉพาะบริเวณที่สาธารณะเช่นตามที่จอดรถตามห้างต่างๆ นะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา แฟนเลิกงานและไปรอรับที่ห้างเีซียร์รังสิต โดยจอดรถไว้ที่ชั้น GC ตัวเองมาถึงเซียร์ก็น่าจะประมาณ 1 ทุ่ม ซื้อกับข้าวที่ตลาดนัดด้านล่างเสร็จก็จะกลับบ้านกัน ก็เดินมาที่รถและเห็นรถคันหนึ่งจอดขวางอยู่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา พอเราจะออกก็ต้องไปเข็นรถคันอื่นๆ ก่อน และพอจะมาเข็นรถคันนี้ ปรากฏว่า...... เข็นไม่ไปอะ (งานงอกแล้วดิ) แฟนเราก็พยายามโยกซ้ายโยกขวารถตัวเองเพื่อจะออก ก็ออกไม่ได้ (ก็รถเรามันคันใหญ่อะ เป็นพี่มิว ไม่ใช่รถเล็ก อุตสาห์ช่วยตัวเองก่อนแล้วนะ...) สุดท้ายแฟนบอกไปบอกพี่ รปภ. เถอะ
เราก็เดินหาพี่ รปภ. จนถึงชั้นใต้ดินไม่พบเลยต้องไปแจ้งกับทางหัวหน้าเค้าที่ด้านล่าง เค้าก็วอ. บอกกันว่ารถอยู่ตรงไหน พอเราเดินขึ้นมาก็เจอพี่ รปภ. มา 2 คน พร้อมเครื่องมือมาถึงพอดี

เป็นประมาณนี้ แล้วเค้าก็สอดไปใต้ท้องรถ อีกคนก็มาดันหลังรถ เราก็ไปช่วยพี่เค้าดัน ไม่ถุงสองนาทีรถโดนย้ายจากจุดเดิมไปประมาณ 100 ม. ได้ เย้ กลับบ้านได้แล้ว เราก็ขอบคุณพี่รปภ. ทั้งสองคนพร้อมสินน้ำใจเล็กน้อย แล้วพี่เค้าก็บอกว่าน้องเขียนด่ามันไปเลยไอ้พวกไม่มีมารยาทพวกนี้ เราก็เลยจัดให้ (จริงๆก็อยากอยู่แล้วละ) และท่านผู้เป็นเจ้าของรถ
ซูซูกิ ทะเบียน 6ว-65xx 
ถ้าท่านไปจอดที่ไหนกรุณาปลดเกียร์ว่างด้วยนะค่ะ เมื่อท่านจอดขวางคนอื่นเค้าอยู่
2. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3/5/57) ครอบครัวเรา มีแฟน มีเรา และมีลูกอีก 2 คน จะไปเที่ยวทะเลกัน จุดหมายของเราคือ หาดน้ำใส ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เราก็วิ่งมอร์เตอร์เวย์ไปตามปกติ และไปที่ถนนที่เลี่ยงทางที่จะไปพัทยา ออกไปทางเส้นที่ไประยองและไปกลับรถเข้ามาทางด้านหลังวิหารเซียน (ไม่รู้เรียกว่าถนนอะไรค่ะปกตินั่งอย่างเีดียว เป็นถนนเลนสวน ไปออกประมาณสัตหีบได้) แฟนเราก็ขับรถตามปกติวิ่งประมาณ 100 - 120 และถนนเส้นนี้ก็อารมณ์ประมาณว่าขึ้นลงตามเขาประมาณนี้
ขับไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีอะไร พอจังหวะึ้ทางเราขึ้นเขากำลังลง อีกเลนก็เป็นทางขึ้นเขามาเหมือนกัน และมีรถวิ่ง อยู่ทางสวนประมาณ 4-5 คันเค้าก็ขับต่อๆ กันไม่มีใครแซง ยกเว้น รถเก๋งสีดำ (ไม่ได้ใจว่าสีนี้ไหมแต่ลูกคนเล็กบอกสีนี้ มันเร็วมา) แซงเส้นทึบออกมา

(ไอ้รถเวร) เราเห็นแว๊ปเดียวบอก....ระวัง (ดังมาก) แฟนก็หักหลบ รถก็แซ ยังโชคดีที่แฟนประคองรถไว้ได้ไม่ ไปชนกับฝั่งที่สวนขึ้นมา พอประคองรถได้แล้วก็จอดรถดูความเสียหาย ปรากฏว่ารถเรากระจกมองข้างด้านคนขับแตกหัก และเราก็ไม่ได้ย้อนรถตามไปด้วย (ซวยจริงๆ กำลังจะไปเที่ยว หมดสนุกเลย)
หลังจากดูความเสียหายรถ ก็ขับรถไปเรื่อยๆ หาร้านค้าเพื่อจะซ่อมแซมกระจกรถไว้ชั่วคราว มาเจอโลตัสที่ทางลงพอดี แฟนก็ไปซื้อเทปมาพันไว้ และอีกฝั่งก็มีร้านกระจก ก็เลยใช้กระจกเงาติดไว้ก่อน (แฟนบอกไม่มีกระจกมองข้างเหมือนคนตาบอด และเจ้าของร้านกระจกก็เป็นห่วงพี่กระจกเงามันหลอกตานะ ไม่เหมือนกระจกรถจริงๆ ขอบคุณค่ะพี่ แต่พอดีรถหนูโดนชนเลยขอติดไว้ชั่วคราว แกบอกชั่วคราวจริงๆ นะ ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ แกเป็นห่วงจริงๆ) จากนั้นเราก็ไปหาดน้ำใสต่อ
เลยขอประนามเจ้าของรถคันนั้นหน่อยค่ะ ว่าถ้ามีคนแบบคุณที่ไม่เคารพกฏจารจร ก็คงเกิดอุบัติเหตุทุกวัน ถ้าเราบอกแฟนไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้น และถึงหลบคุณทัน แต่เราไปชนกับกันที่สวนมา หรือตกข้างทางไป หรือ
ไม่เราก็คงไม่อยู่วัดหรือ รพ. ที่ไหน ซักที่ เราคงไม่ได้ประนามคุณในนี้หรอกนะ
ขอบคุณทุกคนนะค่ะที่เข้ามาอ่าน (และฟังเราระบาย)

ปล.ขอแท็ก 2 ห้องนะค่ะ บลูแพลนเน็ต กับรัชดา
ขอประนามผู้ที่จอดรถกีดขวางหน้ารถโดยเข้าเกียร์ไว้และผู้ขับรถที่ไม่รักษากฏวินัยการจารจร
1. ในเรื่องของการจอดรถกีดขวางหน้ารถ โดยเฉพาะบริเวณที่สาธารณะเช่นตามที่จอดรถตามห้างต่างๆ นะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา แฟนเลิกงานและไปรอรับที่ห้างเีซียร์รังสิต โดยจอดรถไว้ที่ชั้น GC ตัวเองมาถึงเซียร์ก็น่าจะประมาณ 1 ทุ่ม ซื้อกับข้าวที่ตลาดนัดด้านล่างเสร็จก็จะกลับบ้านกัน ก็เดินมาที่รถและเห็นรถคันหนึ่งจอดขวางอยู่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา พอเราจะออกก็ต้องไปเข็นรถคันอื่นๆ ก่อน และพอจะมาเข็นรถคันนี้ ปรากฏว่า...... เข็นไม่ไปอะ (งานงอกแล้วดิ) แฟนเราก็พยายามโยกซ้ายโยกขวารถตัวเองเพื่อจะออก ก็ออกไม่ได้ (ก็รถเรามันคันใหญ่อะ เป็นพี่มิว ไม่ใช่รถเล็ก อุตสาห์ช่วยตัวเองก่อนแล้วนะ...) สุดท้ายแฟนบอกไปบอกพี่ รปภ. เถอะ
เราก็เดินหาพี่ รปภ. จนถึงชั้นใต้ดินไม่พบเลยต้องไปแจ้งกับทางหัวหน้าเค้าที่ด้านล่าง เค้าก็วอ. บอกกันว่ารถอยู่ตรงไหน พอเราเดินขึ้นมาก็เจอพี่ รปภ. มา 2 คน พร้อมเครื่องมือมาถึงพอดี
2. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3/5/57) ครอบครัวเรา มีแฟน มีเรา และมีลูกอีก 2 คน จะไปเที่ยวทะเลกัน จุดหมายของเราคือ หาดน้ำใส ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เราก็วิ่งมอร์เตอร์เวย์ไปตามปกติ และไปที่ถนนที่เลี่ยงทางที่จะไปพัทยา ออกไปทางเส้นที่ไประยองและไปกลับรถเข้ามาทางด้านหลังวิหารเซียน (ไม่รู้เรียกว่าถนนอะไรค่ะปกตินั่งอย่างเีดียว เป็นถนนเลนสวน ไปออกประมาณสัตหีบได้) แฟนเราก็ขับรถตามปกติวิ่งประมาณ 100 - 120 และถนนเส้นนี้ก็อารมณ์ประมาณว่าขึ้นลงตามเขาประมาณนี้
ขับไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีอะไร พอจังหวะึ้ทางเราขึ้นเขากำลังลง อีกเลนก็เป็นทางขึ้นเขามาเหมือนกัน และมีรถวิ่ง อยู่ทางสวนประมาณ 4-5 คันเค้าก็ขับต่อๆ กันไม่มีใครแซง ยกเว้น รถเก๋งสีดำ (ไม่ได้ใจว่าสีนี้ไหมแต่ลูกคนเล็กบอกสีนี้ มันเร็วมา) แซงเส้นทึบออกมา
หลังจากดูความเสียหายรถ ก็ขับรถไปเรื่อยๆ หาร้านค้าเพื่อจะซ่อมแซมกระจกรถไว้ชั่วคราว มาเจอโลตัสที่ทางลงพอดี แฟนก็ไปซื้อเทปมาพันไว้ และอีกฝั่งก็มีร้านกระจก ก็เลยใช้กระจกเงาติดไว้ก่อน (แฟนบอกไม่มีกระจกมองข้างเหมือนคนตาบอด และเจ้าของร้านกระจกก็เป็นห่วงพี่กระจกเงามันหลอกตานะ ไม่เหมือนกระจกรถจริงๆ ขอบคุณค่ะพี่ แต่พอดีรถหนูโดนชนเลยขอติดไว้ชั่วคราว แกบอกชั่วคราวจริงๆ นะ ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ แกเป็นห่วงจริงๆ) จากนั้นเราก็ไปหาดน้ำใสต่อ
เลยขอประนามเจ้าของรถคันนั้นหน่อยค่ะ ว่าถ้ามีคนแบบคุณที่ไม่เคารพกฏจารจร ก็คงเกิดอุบัติเหตุทุกวัน ถ้าเราบอกแฟนไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้น และถึงหลบคุณทัน แต่เราไปชนกับกันที่สวนมา หรือตกข้างทางไป หรือไม่เราก็คงไม่อยู่วัดหรือ รพ. ที่ไหน ซักที่ เราคงไม่ได้ประนามคุณในนี้หรอกนะ
ขอบคุณทุกคนนะค่ะที่เข้ามาอ่าน (และฟังเราระบาย)
ปล.ขอแท็ก 2 ห้องนะค่ะ บลูแพลนเน็ต กับรัชดา