ขออนุญาต ดราม่านิสสส ตอนนี้ตกงานได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว
จริง ๆ ก้อมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 10 ตัว
ทค่เป็นรายได้ให้เราอยู่ในตอนนี้ แต่เรารู้สึกว่าง
อยากทำอะไรแล้ว แต่ไม่อยากเป็นลูกน้องใครอีกแล้ว เป็นมานานจนเอียน อยากเป็นเจ้านายตัวเอง
ประเด็น คือ คิดจะทำอะไร ที่บ้าน พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ ไม่เคยสนับสนุน (ลงทุนด้วยเงินเก็บของตัวเอง) คำว่าสนับสนุนนี่ คือ เราขอแค่กำลังใจ และขอแค่คำปรึกษา เท่านี้เอง แต่พวกเค้า ไม่เคยมีให้เราเลย
มีแต่บอกว่าจะไหวเหรอ ได้เหรอ ทำไม่ไหวหรอก
พ่อแม่เรา ไม่สนับสนุนทำอะไรเลย กลัวเราเจ๊ง
กลัวเราเงินหมดแล้วจะไปขอเงินท่านใช้ (มั้ง)
พี่ชายเรา ไม่สนันสนุน บอกเราจะทำเกินตัว
พี่สะใภ้ อันนี้ดีกว่าคนอื่นหน่อย ตรงที่คอยให้คำปรึกษา แต่เนื่องจากเจ๊แกก้อมีร้านของแกใหญ่โต เลยมองเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปหน่อย (แต่เจ๊แกก้อเก่งจริง ๆ อันนี้ยอมรับ) คือถ้าเราอธิบายในมุมมองของเราเจ๊ แกนึกภาพไม่ออก เลยกลายเป็นว่าเรารั้น
ที่เราเข้ามาถามเนี้ย เพราะเราสนใน 2 ธุรกิจ คือ
1. ทำร้านรับซักผ้า แบบที่ต้องลงเครื่องแบบอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการต่อยอดจากเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่เรามีอยู่แล้ว เฉลี่ยเงินลงทุนเบื้องต้น 200,000 บาท ยังไม่รวมเงินหมุนเวียนรายเดือน
ลูกค้ากลุ่มแรก ของเรา ก้อกลุ่มที่ใช้เครี่องซักผ้าหยอดเหรียญของเรานี่แหละ ต่อยอดด้วยการบริการรับส่งซักรีด ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม แล้วค่อยโฆษณาขยายต่อภปเรื่อย ๆ
2. ร้านสเต๊ก และขนมเค้ก (แนวสเต๊กห้องแถว)
เราอุตสาไปเรียนมา หมดไปหลายหมื่นแล้วรวมอุปกรณ์ จริง ๆ ก้อทำเป็นอยู่ แต่ไปเรียนเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
แต่รดชาต หน้าตาอาหาร ยังไม่ค่อยคงที่
แต่เราเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว กะลังฝึกไปเรีอย ๆ เงินลงทุนประมาณ 150,000
กลุ่มลูกค้าต้องทำการโฆษณาร้าน เป็นลูกค้าใหม่ ๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้ก้อยังหาทำเลที่ถูกเงิน กับถูกใจยังไม่ได้
ทั้ง 2 อย่าง ต้องจ้างลูกน้อง แต่เราก้อทำเป็นทั้ง 2 อย่างอยู่แล้ว และตัวหลักคงเป็นเรานี่แหละ
ย้ำ ไม่ว่าจะเปิดร้านอะไร ครอบครัวเราก้อไม่สนับสนุนอยู่ดี
ถ้าเป็นคุณจะลงทุนทำอะไรดี ระหว่าง
จริง ๆ ก้อมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 10 ตัว
ทค่เป็นรายได้ให้เราอยู่ในตอนนี้ แต่เรารู้สึกว่าง
อยากทำอะไรแล้ว แต่ไม่อยากเป็นลูกน้องใครอีกแล้ว เป็นมานานจนเอียน อยากเป็นเจ้านายตัวเอง
ประเด็น คือ คิดจะทำอะไร ที่บ้าน พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ ไม่เคยสนับสนุน (ลงทุนด้วยเงินเก็บของตัวเอง) คำว่าสนับสนุนนี่ คือ เราขอแค่กำลังใจ และขอแค่คำปรึกษา เท่านี้เอง แต่พวกเค้า ไม่เคยมีให้เราเลย
มีแต่บอกว่าจะไหวเหรอ ได้เหรอ ทำไม่ไหวหรอก
พ่อแม่เรา ไม่สนับสนุนทำอะไรเลย กลัวเราเจ๊ง
กลัวเราเงินหมดแล้วจะไปขอเงินท่านใช้ (มั้ง)
พี่ชายเรา ไม่สนันสนุน บอกเราจะทำเกินตัว
พี่สะใภ้ อันนี้ดีกว่าคนอื่นหน่อย ตรงที่คอยให้คำปรึกษา แต่เนื่องจากเจ๊แกก้อมีร้านของแกใหญ่โต เลยมองเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปหน่อย (แต่เจ๊แกก้อเก่งจริง ๆ อันนี้ยอมรับ) คือถ้าเราอธิบายในมุมมองของเราเจ๊ แกนึกภาพไม่ออก เลยกลายเป็นว่าเรารั้น
ที่เราเข้ามาถามเนี้ย เพราะเราสนใน 2 ธุรกิจ คือ
1. ทำร้านรับซักผ้า แบบที่ต้องลงเครื่องแบบอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการต่อยอดจากเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่เรามีอยู่แล้ว เฉลี่ยเงินลงทุนเบื้องต้น 200,000 บาท ยังไม่รวมเงินหมุนเวียนรายเดือน
ลูกค้ากลุ่มแรก ของเรา ก้อกลุ่มที่ใช้เครี่องซักผ้าหยอดเหรียญของเรานี่แหละ ต่อยอดด้วยการบริการรับส่งซักรีด ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม แล้วค่อยโฆษณาขยายต่อภปเรื่อย ๆ
2. ร้านสเต๊ก และขนมเค้ก (แนวสเต๊กห้องแถว)
เราอุตสาไปเรียนมา หมดไปหลายหมื่นแล้วรวมอุปกรณ์ จริง ๆ ก้อทำเป็นอยู่ แต่ไปเรียนเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
แต่รดชาต หน้าตาอาหาร ยังไม่ค่อยคงที่
แต่เราเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว กะลังฝึกไปเรีอย ๆ เงินลงทุนประมาณ 150,000
กลุ่มลูกค้าต้องทำการโฆษณาร้าน เป็นลูกค้าใหม่ ๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้ก้อยังหาทำเลที่ถูกเงิน กับถูกใจยังไม่ได้
ทั้ง 2 อย่าง ต้องจ้างลูกน้อง แต่เราก้อทำเป็นทั้ง 2 อย่างอยู่แล้ว และตัวหลักคงเป็นเรานี่แหละ
ย้ำ ไม่ว่าจะเปิดร้านอะไร ครอบครัวเราก้อไม่สนับสนุนอยู่ดี