สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ขออนุญาตเตือนและว่า ในฐานะเด็กทุนคนนึงที่เรียนทุนมาเกิน 10 ปี ทั้งในและนอกประเทศ และตอนนี้รับราชการอยู่หน่วยงานหนึ่ง
การให้ทุนรัฐบาล สิ่งที่รัฐบาลคาดหวัง คือบุคคลากรที่จะกลับมาทำงานให้เค้า ไม่ได้คาดหวังจะให้นร.หนีทุน หรือชดใช้เป็นตัวเงิน ไม่ว่าเงิน ไม่ว่าคุณจะเกิดปัญหาใดใดขึ้นก็ตาม คุณสามารถคุย ขอทางเลือกในการทำงาน การใช้ทุน แต่ไม่ใช่การ"หนี"
นร.ทุน เรียนแล้วไม่ชอบ จะลาออกกลับมาก่อนก็ได้ แต่ก็ต้องทำงานใช้คืนตามระยะเวลาที่ได้รับไป เงินที่คุณใช้ไป คุณรู้ไม๊ว่า ภาษีของคนทำงานในประเทศจำนวนเท่าไหร่
ผมเพิ่งตามเด็กทุนกลับมาใช้ทุนในหน่วยงานผมได้คนนึง จะหนีเหมือนกัน ผมไล่ถามทั้งกพ. ทั้งหน่วยงาน ไม่ยอม ยังไงก็ต้องให้กลับมาทำงาน ไม่งั้นจะฟ้องตามกฏหมาย สุดท้ายก็ต้องกลับมา
บอกเค้าให้กลับมา นร.ทุน มีหน้าที่ที่ต้องทำตั้งแต่วันแรกที่ได้รับทุนคือ ศึกษาความรู้ นำความรู้ที่มีอยู่มาพัฒนาประเทศ ตามสาขาที่ตัวเองเรียน คุณต้องมีความรับผิดชอบ ผมรู้จักนร.หลายคนที่เรียนไม่จบ เรียนไม่ไหว แต่เค้ากลับมาทำงานตามปกติ และทำงานได้ดีซะด้วย จนใช้ทุนหมด ไปทำงานตามที่ตัวเองต้องการ หรืออย่างน้อย ทำงานใช้ทุนไปซักพัก ค่อยลาออกแล้วใช้เป็นเงิน หรือโอนย้ายหน่วยงาน ก็ว่ากันไป
ขอร้องครับ กลับมา บอกเค้าว่าเงินที่รับ เพื่อไปร่ำเรียนนั้น มาจากภาษีคนไทย ญาติพี่น้องของเราเองทั้งนั้นครับ ต้องมีความรับผิดชอบด้วย
ขอบคุณครับ
การให้ทุนรัฐบาล สิ่งที่รัฐบาลคาดหวัง คือบุคคลากรที่จะกลับมาทำงานให้เค้า ไม่ได้คาดหวังจะให้นร.หนีทุน หรือชดใช้เป็นตัวเงิน ไม่ว่าเงิน ไม่ว่าคุณจะเกิดปัญหาใดใดขึ้นก็ตาม คุณสามารถคุย ขอทางเลือกในการทำงาน การใช้ทุน แต่ไม่ใช่การ"หนี"
นร.ทุน เรียนแล้วไม่ชอบ จะลาออกกลับมาก่อนก็ได้ แต่ก็ต้องทำงานใช้คืนตามระยะเวลาที่ได้รับไป เงินที่คุณใช้ไป คุณรู้ไม๊ว่า ภาษีของคนทำงานในประเทศจำนวนเท่าไหร่
ผมเพิ่งตามเด็กทุนกลับมาใช้ทุนในหน่วยงานผมได้คนนึง จะหนีเหมือนกัน ผมไล่ถามทั้งกพ. ทั้งหน่วยงาน ไม่ยอม ยังไงก็ต้องให้กลับมาทำงาน ไม่งั้นจะฟ้องตามกฏหมาย สุดท้ายก็ต้องกลับมา
บอกเค้าให้กลับมา นร.ทุน มีหน้าที่ที่ต้องทำตั้งแต่วันแรกที่ได้รับทุนคือ ศึกษาความรู้ นำความรู้ที่มีอยู่มาพัฒนาประเทศ ตามสาขาที่ตัวเองเรียน คุณต้องมีความรับผิดชอบ ผมรู้จักนร.หลายคนที่เรียนไม่จบ เรียนไม่ไหว แต่เค้ากลับมาทำงานตามปกติ และทำงานได้ดีซะด้วย จนใช้ทุนหมด ไปทำงานตามที่ตัวเองต้องการ หรืออย่างน้อย ทำงานใช้ทุนไปซักพัก ค่อยลาออกแล้วใช้เป็นเงิน หรือโอนย้ายหน่วยงาน ก็ว่ากันไป
ขอร้องครับ กลับมา บอกเค้าว่าเงินที่รับ เพื่อไปร่ำเรียนนั้น มาจากภาษีคนไทย ญาติพี่น้องของเราเองทั้งนั้นครับ ต้องมีความรับผิดชอบด้วย
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 22
เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลคนนึงที่เรียนจบและกลับมาใช้ทุนที่หน่วยงานราชการค่ะ
อยากจะบอกว่า ชีวิตราชการที่เตรียมใจไว้ก่อนกลับ พอกลับมานี่ ขนาดเตรียมใจไว้แล้วก็ยังทนแทบไม่ไหว
ราชการไทย เป็นระบบที่คนเก่งอยู่ไม่ได้ค่ะ เพราะ seniority สูง และไม่ได้วัดกันที่ competency
ตอนเรากลับมารับราชการ ทุกคนเล็งเห็น competency นะคะ แต่ความที่เราเป็นคนตรงให้ความเห็นแบบตรงๆ ก็เหมือนว่าก้าวร้าว
ต้องปรับทัศนคติประมาณนึง
หลังจากปรับตัวได้ ที่นี้เริ่มโดนหมั่นไส้ เตะตัดขา มันมีจริงๆค่ะ คนที่ทำงานไม่ได้ดี แต่เก่งประจบนาย นายรัก
นายเราก็นักเรียนนอกหัวก้าวหน้านะ แต่คนโปรดก็อุ้มกันไป เรานี่โดนแทงข้างหลัง ตัดขาตลอดค่ะ
ทำงานไม่ดี ประจบนายเก่งก็เจริญก้าวหน้าได้ค่ะ
ระบบที่คนเก่งอยู่ไม่ได้ คืออะไร ...
ตามประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ มีอยู่ประมาณนี้ค่ะ
1. เก่งนักใช่ไหม ทำงานดี เอางานไปทำเพิ่ม แต่มองไปข้างๆ ที่วันๆไม่ทำอะไร ก็นั่งว่างๆ ไม่ต้องทำอะไรต่อไป
คนทำงานเก่งมักได้งานเพิ่ม คนไม่ทำงาน...สบายกว่าค่ะ
2. ซ่อนความผิด ความ บกพร่อง ไว้ใต้พรม ... องค์กรที่ดีจะวิเคราะห์จุดอ่อน ข้อบกพร่องของตนเพื่อนำมาสร้างระบบ หรือพัฒนาให้
จุดอ่อนเปลี่ยนเป็นจุดแข็ง ที่แข็งก็แข็งยิ่งขึ้นใช่ไหมคะ ...
แต่ราชการไทยไม่ใช่ค่ะ... เรื่องไม่ดี ผิดพลาด ล้าหลัง เราซ่อนไว้ใต้พรม อย่าได้หยิบยกมาพูดค่ะ เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว ได้แค่นี้แหล่ะ
และอยู่กับความสำเร็จเก่าๆเมื่อสิบยี่สิบปีที่แล้วค่ะ เทคโนโลยีอะไรอย่างได้พูด เราไม่มีเงินซื้อหรือปรับปรุงค่ะ เรามีแต่งบสร้างตึก งบดูงานสำหรับผู้บริหารค่ะ
3. การประชุมที่ไม่เคยหาสาระได้ ... ทุกครั้งที่ประชุม เป็นการรับทราบค่ะ ไม่ใช่ brainstorming หรือ ขอความเห็น
ประธานจะคิดมาแล้ว ห้ามใครบังอาจเห็นต่างค่ะ หรือไม่ถ้าประธานไม่ได้คิดมา คนที่เสียงดังที่สุดในที่ประชุมจะชนะค่ะ
แม้ว่า ไอเดียนั้นจะโบราณเต่าล้านปีแค่ไหน แต่มันฟังดูดี และเขียนเอาคะแนนง่ายก็พอค่ะ
4. ระบบสนับสนุนที่ดีแต่สร้างปัญหา ทุกวันนี้บันทึกราชการ หนังสือนำส่ง บลาๆๆๆ เยอะมากค่ะ ทำมันทุกวันทุกเรื่อง น่าจะมีคนทำสถิติว่าเราเสียต้นไม้ไปกับเอกสารไร้สาระเหล่านี้มากแค่ไหน และรัฐน่าจะประหยัดได้มาแค่ไหนถ้าปรับเปลี่ยน ระบบเอกสารโบราณๆนี่ซะ
มีอีกเยอะค่ะ แต่ที่ว่ามานี่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ระบบมันกลืนเราได้จริงๆค่ะ
จากเดิมที่มีอุดมการณืจะไม่เป็นข้าราชการที่ไม่ดี ที่เราเห็นตัวอย่างมามากมาย
ตอนนี้ชักไม่แน่ใจค่ะ ยิ่งทำงานมาก ยิ่งอยากพัมนางาน กลายเป็นแกะดำ แถมได้งานไร้สาระมาเพิ่มขึ้นๆ
แถมทำพลาดโดนด่าประหนึ่งมีคนตายเสียอีก ทั้งๆที่เป็นงานส่วนกลาง
แต่มองไปรอบตัว คนที่ไม่ทำอะไรสบายกว่า เพราะไม่เคยโดนด่า ทั้งที่ไม่ทำงานอะไร
แบบนี้ มันกลืนเราค่ะ ให้กลายเป็นคนไม่ทำอะไรซะยังจะดีกว่า ....
ใครที่คิดจะรับทุน ต้องคิดให้หนักค่ะ สัญญาทาสในองค์กรที่ไม่มีวันเจริญก้าวหน้า คุรรับความเสี่ยงไหวหรือเปล่า
อยากจะบอกว่า ชีวิตราชการที่เตรียมใจไว้ก่อนกลับ พอกลับมานี่ ขนาดเตรียมใจไว้แล้วก็ยังทนแทบไม่ไหว
ราชการไทย เป็นระบบที่คนเก่งอยู่ไม่ได้ค่ะ เพราะ seniority สูง และไม่ได้วัดกันที่ competency
ตอนเรากลับมารับราชการ ทุกคนเล็งเห็น competency นะคะ แต่ความที่เราเป็นคนตรงให้ความเห็นแบบตรงๆ ก็เหมือนว่าก้าวร้าว
ต้องปรับทัศนคติประมาณนึง
หลังจากปรับตัวได้ ที่นี้เริ่มโดนหมั่นไส้ เตะตัดขา มันมีจริงๆค่ะ คนที่ทำงานไม่ได้ดี แต่เก่งประจบนาย นายรัก
นายเราก็นักเรียนนอกหัวก้าวหน้านะ แต่คนโปรดก็อุ้มกันไป เรานี่โดนแทงข้างหลัง ตัดขาตลอดค่ะ
ทำงานไม่ดี ประจบนายเก่งก็เจริญก้าวหน้าได้ค่ะ
ระบบที่คนเก่งอยู่ไม่ได้ คืออะไร ...
ตามประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ มีอยู่ประมาณนี้ค่ะ
1. เก่งนักใช่ไหม ทำงานดี เอางานไปทำเพิ่ม แต่มองไปข้างๆ ที่วันๆไม่ทำอะไร ก็นั่งว่างๆ ไม่ต้องทำอะไรต่อไป
คนทำงานเก่งมักได้งานเพิ่ม คนไม่ทำงาน...สบายกว่าค่ะ
2. ซ่อนความผิด ความ บกพร่อง ไว้ใต้พรม ... องค์กรที่ดีจะวิเคราะห์จุดอ่อน ข้อบกพร่องของตนเพื่อนำมาสร้างระบบ หรือพัฒนาให้
จุดอ่อนเปลี่ยนเป็นจุดแข็ง ที่แข็งก็แข็งยิ่งขึ้นใช่ไหมคะ ...
แต่ราชการไทยไม่ใช่ค่ะ... เรื่องไม่ดี ผิดพลาด ล้าหลัง เราซ่อนไว้ใต้พรม อย่าได้หยิบยกมาพูดค่ะ เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว ได้แค่นี้แหล่ะ
และอยู่กับความสำเร็จเก่าๆเมื่อสิบยี่สิบปีที่แล้วค่ะ เทคโนโลยีอะไรอย่างได้พูด เราไม่มีเงินซื้อหรือปรับปรุงค่ะ เรามีแต่งบสร้างตึก งบดูงานสำหรับผู้บริหารค่ะ
3. การประชุมที่ไม่เคยหาสาระได้ ... ทุกครั้งที่ประชุม เป็นการรับทราบค่ะ ไม่ใช่ brainstorming หรือ ขอความเห็น
ประธานจะคิดมาแล้ว ห้ามใครบังอาจเห็นต่างค่ะ หรือไม่ถ้าประธานไม่ได้คิดมา คนที่เสียงดังที่สุดในที่ประชุมจะชนะค่ะ
แม้ว่า ไอเดียนั้นจะโบราณเต่าล้านปีแค่ไหน แต่มันฟังดูดี และเขียนเอาคะแนนง่ายก็พอค่ะ
4. ระบบสนับสนุนที่ดีแต่สร้างปัญหา ทุกวันนี้บันทึกราชการ หนังสือนำส่ง บลาๆๆๆ เยอะมากค่ะ ทำมันทุกวันทุกเรื่อง น่าจะมีคนทำสถิติว่าเราเสียต้นไม้ไปกับเอกสารไร้สาระเหล่านี้มากแค่ไหน และรัฐน่าจะประหยัดได้มาแค่ไหนถ้าปรับเปลี่ยน ระบบเอกสารโบราณๆนี่ซะ
มีอีกเยอะค่ะ แต่ที่ว่ามานี่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ระบบมันกลืนเราได้จริงๆค่ะ
จากเดิมที่มีอุดมการณืจะไม่เป็นข้าราชการที่ไม่ดี ที่เราเห็นตัวอย่างมามากมาย
ตอนนี้ชักไม่แน่ใจค่ะ ยิ่งทำงานมาก ยิ่งอยากพัมนางาน กลายเป็นแกะดำ แถมได้งานไร้สาระมาเพิ่มขึ้นๆ
แถมทำพลาดโดนด่าประหนึ่งมีคนตายเสียอีก ทั้งๆที่เป็นงานส่วนกลาง
แต่มองไปรอบตัว คนที่ไม่ทำอะไรสบายกว่า เพราะไม่เคยโดนด่า ทั้งที่ไม่ทำงานอะไร
แบบนี้ มันกลืนเราค่ะ ให้กลายเป็นคนไม่ทำอะไรซะยังจะดีกว่า ....
ใครที่คิดจะรับทุน ต้องคิดให้หนักค่ะ สัญญาทาสในองค์กรที่ไม่มีวันเจริญก้าวหน้า คุรรับความเสี่ยงไหวหรือเปล่า
ความคิดเห็นที่ 23
ตอบค่ะ
ญาติเราเอง ที่คิดหนีทุน พ่อเราเซ็นต์ค้ำ ภาระหนี้ประมาณ 50 ล้านเช่นกัน
ตอนนั้นกลุ้มมากค่ะ
เราแก้ไขโดย เขียนจดหมายบอกกพ.ถึงที่อยู่ของเค้าที่อเมริกาค่ะ ให้ดำเนินการเรียกตัวกลับ
เราไม่รู้ว่ากพ.ใข้วิธีไหนนะคะ แต่ลูกพี่ลูกน้องเราก็กลับค่ะ ก็ยื้ออยู่ต่ออีก 5-6 ปีเหมือนกันค่ะ
เค้าบอกว่าอยู่จนลูกเข้าประถมค่ะ (มีสามีจึงหนีทุน)
ปัจจุบัน จบ doctor แต่อยู่ไทยก็ไม่ได้อยู่เมกาก็ไม่ได้ สามีก็จะทิ้ง ลูกสองคน
สร้างหนี้ให้ครอบครัวตัวเอง 10 กว่าล้าน เพราะกลับมาแต่ไม่อยากทำงานใช้หนี้ อยากอยู่อเมริกา
ไปเมกาอยู่เป็นแม่บ้าน สามีบ่นเรื่องเงินที่ต้องใช้หนี้ ไม่ทำงานช่วยครอบครัว
นี่ก็บอกว่าจะกลับไทยอีกล่ะ สามีไม่ตามมาด้วย
ชีวิตเละค่ะ
ผิดกับเรา เรียนจบปั๊บ กลับมาใช้ทุนทันที ตามสัญญาค่ะ
บอกเลยว่า แค้นแทนประเทศชาติค่ะ ต้องช่วยกพ.ตามล่าหาคนหนีทุน
ญาติเราเอง ที่คิดหนีทุน พ่อเราเซ็นต์ค้ำ ภาระหนี้ประมาณ 50 ล้านเช่นกัน
ตอนนั้นกลุ้มมากค่ะ
เราแก้ไขโดย เขียนจดหมายบอกกพ.ถึงที่อยู่ของเค้าที่อเมริกาค่ะ ให้ดำเนินการเรียกตัวกลับ
เราไม่รู้ว่ากพ.ใข้วิธีไหนนะคะ แต่ลูกพี่ลูกน้องเราก็กลับค่ะ ก็ยื้ออยู่ต่ออีก 5-6 ปีเหมือนกันค่ะ
เค้าบอกว่าอยู่จนลูกเข้าประถมค่ะ (มีสามีจึงหนีทุน)
ปัจจุบัน จบ doctor แต่อยู่ไทยก็ไม่ได้อยู่เมกาก็ไม่ได้ สามีก็จะทิ้ง ลูกสองคน
สร้างหนี้ให้ครอบครัวตัวเอง 10 กว่าล้าน เพราะกลับมาแต่ไม่อยากทำงานใช้หนี้ อยากอยู่อเมริกา
ไปเมกาอยู่เป็นแม่บ้าน สามีบ่นเรื่องเงินที่ต้องใช้หนี้ ไม่ทำงานช่วยครอบครัว
นี่ก็บอกว่าจะกลับไทยอีกล่ะ สามีไม่ตามมาด้วย
ชีวิตเละค่ะ
ผิดกับเรา เรียนจบปั๊บ กลับมาใช้ทุนทันที ตามสัญญาค่ะ
บอกเลยว่า แค้นแทนประเทศชาติค่ะ ต้องช่วยกพ.ตามล่าหาคนหนีทุน
ความคิดเห็นที่ 37
ไม่ใช่เรื่องยังเด็ก หรือกลับมาไม่ชอบงานราชการอะไรหรอก นี่พูดเลย
เรียนจะจบคงรู้แล้วว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง หาเงินได้เท่าไร่ หรือมีบริษํทมาทาบทาม เห็นตัวเลข ลองคำนวณแล้วคงนึกภาพออกนะ
รถ บ้านเอย อนาคต จะถอยบีเอ็มดีหรือเบ๊นซ์ดี คงอยากได้เงินเยอะๆมากกว่าต้องไปทำงานราชการคืนทุนรับเงินไม่มากไปวันๆนะ ตอบแทนให้เลย จากใจ
เรียนจะจบคงรู้แล้วว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง หาเงินได้เท่าไร่ หรือมีบริษํทมาทาบทาม เห็นตัวเลข ลองคำนวณแล้วคงนึกภาพออกนะ
รถ บ้านเอย อนาคต จะถอยบีเอ็มดีหรือเบ๊นซ์ดี คงอยากได้เงินเยอะๆมากกว่าต้องไปทำงานราชการคืนทุนรับเงินไม่มากไปวันๆนะ ตอบแทนให้เลย จากใจ
ความคิดเห็นที่ 38
ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะถูกใจเราทุกอย่าง แต่เมื่อมันเป็นหน้าที่ที่คนรับทุนก็ยอมรับตั้งแต่แรก มันก็ปฏิเสธไม่ได้ค่ะ
เจอมาเยอะกับ นร.ที่คิดจะหนีทุน เพราะพี่ก็รับทุนมาตั้งแต่เรียน ป.ตรี คลุกคลีกับวงการนี้มานาน
มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกว่าความเป็นจริง ไม่เหมือนสิ่งที่เคยวาดไว้ คิดว่าทำงานนี้คงดี แต่พอทำจริงๆ อาจไม่ถูกใจ
แต่ นร.ทุนรัฐบาล ไม่สามารถตัดสินใจโดยคิดถึงแค่ตัวเองได้หรอกค่ะ คุณมีวันนี้ได้เพราะสังคมให้โอกาส ควรใช้ทุนซะไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
อุปสรรคมีไว้ให้หัดก้าวผ่านไป ถ้าความรับผิดชอบแค่นี้ยังทำไม่ได้ เรื่องอื่นๆในชีวิตก็พังค่ะ
ฝากถึง น้องๆ ที่คิดจะหนี หรือ พยายามหนีอยู่ด้วยค่ะ มันจะเป็นตราบาปที่ทำให้ชีวิตไม่เจริญอย่างที่คนอื่นเค้าพูดแหละ
เพราะการฉ้อโกงไม่เคยให้ผลดีกับใคร อย่าเห็นความสบายส่วนตัว
ใครๆก็อยากสบายค่ะ อยู่เมืองนอก อะไรก็ได้ อากาศก็ดี บ้านเมืองก็ดี
แต่ถึงจะดีแค่ไหน มันก็ไม่ใช้บ้านเรา กลับมาปัดกวาดบ้านเราให้สะอาดดีกว่าค่ะ
พี่ทำงานใช้ทุนมา 3 ปีแล้ว เจอเรื่องงี่เง่ากับระบบราชการมาเยอะ แต่เราเอางานเป็นที่ตั้งค่ะ ใช้ไม้เหวี่ยงบ้าง ใช้เจรจาดีๆบ้าง
คนทำงานราชการทุกคน ก็อยากเปลี่ยนกฏงี่เง่าบางกฏค่ะ และเค้าก็พร้อมจะร่วมมือถ้าเราฉลาดพอที่จะเจรจา
อย่าโทษแต่คนอื่น มองตัวเองให้เยอะๆ จากการพูดคุยกับ นร.ทุนที่ไม่พอใจนู้นนี่ เพราะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งทั้งนั้น
ถ้าน้องๆคนไหน ไม่มั่นใจว่าจะกลับมาใช้ทุนได้ พี่แนะนำให้หนูหาทุนฟรีที่ไม่ผูกมัดนะคะ สมัยนี้มีเยอะไปหมด
แต่เมื่อหนูจรดปากกาเซ็นรับทุนที่มีข้อผูกมัดแล้ว ข้ออ้างไม่มีค่ะ มันคือความรับผิดชอบที่หนูรู้อยู่แล้ว
พี่เป็นกำลังใจให้หนูฝ่าฟันอุปสรรคไปได้นะคะ ถ้าเครียดจากการเรียนก็ออกกำลังกาย ไปเที่ยวผ่อนคลายบ้าง แล้วกลับมาลุยใหม่
ยังงัยประเทศไทยก็ต้องการคนกลับมาช่วยพัฒนาร่วมกันค่ะ
เจอมาเยอะกับ นร.ที่คิดจะหนีทุน เพราะพี่ก็รับทุนมาตั้งแต่เรียน ป.ตรี คลุกคลีกับวงการนี้มานาน
มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกว่าความเป็นจริง ไม่เหมือนสิ่งที่เคยวาดไว้ คิดว่าทำงานนี้คงดี แต่พอทำจริงๆ อาจไม่ถูกใจ
แต่ นร.ทุนรัฐบาล ไม่สามารถตัดสินใจโดยคิดถึงแค่ตัวเองได้หรอกค่ะ คุณมีวันนี้ได้เพราะสังคมให้โอกาส ควรใช้ทุนซะไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
อุปสรรคมีไว้ให้หัดก้าวผ่านไป ถ้าความรับผิดชอบแค่นี้ยังทำไม่ได้ เรื่องอื่นๆในชีวิตก็พังค่ะ
ฝากถึง น้องๆ ที่คิดจะหนี หรือ พยายามหนีอยู่ด้วยค่ะ มันจะเป็นตราบาปที่ทำให้ชีวิตไม่เจริญอย่างที่คนอื่นเค้าพูดแหละ
เพราะการฉ้อโกงไม่เคยให้ผลดีกับใคร อย่าเห็นความสบายส่วนตัว
ใครๆก็อยากสบายค่ะ อยู่เมืองนอก อะไรก็ได้ อากาศก็ดี บ้านเมืองก็ดี
แต่ถึงจะดีแค่ไหน มันก็ไม่ใช้บ้านเรา กลับมาปัดกวาดบ้านเราให้สะอาดดีกว่าค่ะ
พี่ทำงานใช้ทุนมา 3 ปีแล้ว เจอเรื่องงี่เง่ากับระบบราชการมาเยอะ แต่เราเอางานเป็นที่ตั้งค่ะ ใช้ไม้เหวี่ยงบ้าง ใช้เจรจาดีๆบ้าง
คนทำงานราชการทุกคน ก็อยากเปลี่ยนกฏงี่เง่าบางกฏค่ะ และเค้าก็พร้อมจะร่วมมือถ้าเราฉลาดพอที่จะเจรจา
อย่าโทษแต่คนอื่น มองตัวเองให้เยอะๆ จากการพูดคุยกับ นร.ทุนที่ไม่พอใจนู้นนี่ เพราะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งทั้งนั้น
ถ้าน้องๆคนไหน ไม่มั่นใจว่าจะกลับมาใช้ทุนได้ พี่แนะนำให้หนูหาทุนฟรีที่ไม่ผูกมัดนะคะ สมัยนี้มีเยอะไปหมด
แต่เมื่อหนูจรดปากกาเซ็นรับทุนที่มีข้อผูกมัดแล้ว ข้ออ้างไม่มีค่ะ มันคือความรับผิดชอบที่หนูรู้อยู่แล้ว
พี่เป็นกำลังใจให้หนูฝ่าฟันอุปสรรคไปได้นะคะ ถ้าเครียดจากการเรียนก็ออกกำลังกาย ไปเที่ยวผ่อนคลายบ้าง แล้วกลับมาลุยใหม่
ยังงัยประเทศไทยก็ต้องการคนกลับมาช่วยพัฒนาร่วมกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถามเรื่องหนีทุน กพ. ใครมีความรู้เข้ามาตอบด้วยค่ะ
ถ้าแม่เราเป็นคนเซ็นต์ค้ำประกันโดยที่แม่เกษียรแล้ว เงินเก็บไม่มี
บ้านและรถเป็นชื่อพ่อ (พ่อกับแม่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย) จะโดนด้วยไหมคะ
ตีราคาแล้วน่าจะได้ไม่เยอะ นอกจากนั้นไม่มีทรัพย์สินอย่างอื่นเลย
ส่วนที่ต้องจ่ายน่าจะประมาณ 50 ล้านนี่คิดดอกเบี้ยยังไง
ผ่อนเป็นงวดได้ไหมขั้นต่ำงวดละเท่าไหร่ เค้าให้ผ่อนได้กี่ปี
ที่ต้องมาตั้งกระทู้ถามเพราะว่าไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆเราจะได้เตรียมตัวได้ทัน
เราเองตอนนี้เงินเก็บก็ไม่มี ยังไม่เคยส่งให้ทางบ้านสักนิดเดียวเพราะปกติก็อยู่กันได้ไม่ลำบาก แต่ถ้าเกิดขึ้นก็คงลำบากแน่
กรุณาอย่าบอกเลยว่าง่ายสุดคืออย่าให้เค้าหนีเพราะถ้าทำได้ทำไปแล้ว นอกจากจังเค้าขังและล่ามไว้ T T
ใครทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทุนกพ หรือเกี่ยวกับการติดตามใช้ทุนช่วยแนะนำด้วยค่ะ
หรือใครเคยมีเพื่อนพี่น้องญาติคนรู้จักเคยหนีทุน ช่วยแชร์ด้วยค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเค้าบ้าง
ตอนนี้ที่บ้านเครียดมากเราเป็นห่วงแม่กับพ่อท่านแก่แล้วเราไม่อยากให้เครียดเลยแต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง