Jazz Hybrid กับ Jazz SV/AT ... วางเงินฝั่งไหนดีครับ

ตัดตัวเลือกไปมา เหลือแค่ 2 ตัวนี้แล้วครับ  Jazz Hybrid กับ Jazz 1.5 SV/AT  วางเงินตัวไหนดีครับ ข้อดีข้อเสีย  เน้นขับในเมือง ขับออก ตจว ปีละไม่เกิน 4 ครั้ง  เส้นทาง  ระนอง ( บ้าน ) .. ไป ชุมพร , สุราษฎร์ธานี , นครฯ , กรุงเทพ  วิ่งอยู่แถวๆนี้แหละครับ  ตจว  กรุงเทพคงไม่ค่อยได้ไปนัก ตีซะปีละไม่เกิน 1 ครั้ง  นอกนั้นวิ่ง  ระนอง-ชุมพร   ระนอง-สุราษฎร์ธานี   ระนอง-นครฯ

พรุ่งนี้ต้องเข้าไปวางเงินจองยื่นเอกสารแล้วครับ ......อ่อ new Jazz 2014 คงไม่รอครับ ใช้รถปีนี้คงไม่รอเปิดตัวกว่าจะได้รถสิ้นปีไรงี้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
ส่วนตัวขับ Jazz Hybrid อยู่
ก่อนตัดสินใจซื้อ อ่านในเวบ มีลังเลเหมือนกัน จนไปทดลองขับ พบกว่าความจริงหลายๆข้อ เลยตัดสินใจซื้อ ก็พบว่า

- เวลาขึ้นเนิน ก่อนออกตัว ให้เหยียบเบรคลงไปให้สุด รถจะเบรคค้างต่อนิง ทันเครื่องติด จะออกตัวได้โดยไม่ไหล
- เวลาลงเนิน เครื่องจะไม่ดับ
- เวลาต่อแถวรอกลับรถ ถ้าต้องรีบไป อาจจะต้องรีบปล่อยเบรค เพื่อให้เครื่องติดล่วงหน้าสัก 1 วินาที หรือ ถอนเบรคให้เครื่องติดก่อน แล้วเบรคใหม่ (แต่ปรกติไม่เคยทำ เพราะเครื่องติดไวมาก)
- การสตาร์ทเครื่องบ่อยๆ ใช้มอเตอร์ไฮบริดสตาร์ท ไม่ต้องห่วงเรื่องสตาร์ทพัง เสียงสตาร์ทเงียบ และไม่สั่นตัวรถ
- ถ้าแบตไฮบริทหมด (เพราะรถติด ต้องสตาร์ทเครื่องบ่อยๆ) ถ้าหมุนกุญแจดับเครื่องยนต์ แล้วสตาร์ทใหม่ จะเป็นไดสตาร์ททำงาน(ยังไม่เคยเจอเหมือนกัน)
- เวลาถอนคันเร่งสุด มอเตอร์จะปั่นเก็บไฟเข้าแบต ทำให้ชลอรถได้ดีขึ้น (ถ้าไม่อยากให้รถชลอ ก็ให้เลียคันเร่งนิดๆ มอเตอร์จะสานต่อความเร็วให้เอง)
- เวลาเบรคก่อนเข้าจ่ายเงิน แตะเบรคนิดๆ มอเตอร์จะชาร์จไฟอย่างหนัก ทำให้รถชลอได้มาก ประหยัดผ้าเบรคไปอีกหน่อยนึง และได้ไฟมาใช้ขับรถต่ออีก
- อัตราเร่งดีมาก ไม่ต้องใช้รอบสูงตอนออกตัว หรือเร่งแซง
- ประหยัดมากสุด ถ้าวิ่งความเร็ว 40-80 กม./ชม. เพราะมอเตอร์ได้ทำงานร่วมด้วย (23-24ก.ม.ต่อลิตร วิ่งระยะทาง 80 ก.ม. ไปกลับรามอินทรา-บางบัวทอง เส้นรัตนาฯ)
- ถ้ารถติดนิ่งสนิทหลังเลิกงาน ก็เหลือแค่ 12-14 ก.ม./ลิตร
- ขับปรกติ ทั่วๆไป ใน กทม. รถไหล สลับหยุดนิ่ง ในวันธรรมดา 17-19 ก.ม./ลิตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่