ขอแชร์เรื่องราวประทับใจต่อประเทศสิงคโปร์ : ทำโทรศัพท์หายที่คาสิโน ได้คืนภายใน 1 ชั่วโมง

กลางเดือนมีนาที่ผ่านมา เราไปเที่ยวสิงคโปร์มาค่ะ แล้วคืนสุดท้ายเราได้มีโอกาสไปคาสิโนที่ Marina Bay Sands
ไปเพราะความอยากรู้ข้างในเป็นยังไง ข้างในก็ใหญ่โต มีตู้พนันสีสันสดใสเรียงกันเยอะมาก รวมถึง โต๊ะพนันต่างๆ
เราก็ไปเดินดูมาทุกอย่าง ทั้งไฮโล รูเลท โป๊กเกอร์ ทีนี้อยากลองเสี่ยงเลยไปนั่งเล่น Slot machine
คือเล่นไม่เป็นหรอก ก็กดๆ ถ้ามันชนะเงินมันจะบวกให้เอง ก็ใส่เงินไป 2 เหรียญ นั่งกดไปเรื่อยๆ
ทีนี้เบื่อก็เลยไปลองเล่นตู้อื่นบ้าง เปลี่ยนมา 2 ตู้ แล้วเรื่องเกิดที่ตู้สุดท้าย คือตู้นี้ดวงดีมาก จาก 2 เหรียญ ได้มาเป็น 5 เหรียญ
ก็เลยจะหยิบโทรศัพท์ (iPhone 5 ) มาถ่ายรูปส่งไปอวดเพื่อน ... เอ๊ะ !!  โทรศัพท์ชั้นอยู่ไหนฟร๊ะ? ใจเริ่มไม่ดีแระ
ก็ค้นๆ เท่าไหร่ก็ไม่เจอ เรากับเพื่อนเลยรีบเดินไปหา รปภ.บอกว่า โทรศัพท์เราหาย เค้าเลยให้เราไปที่เค้าท์เตอร์ ตรงทางออก มีเจ้าหน้าที่อยู่ที่นั่น

เราก็แจ้งจนท.ที่เค้าท์เตอร์ ผู้ชายแขกๆ สูงๆ ว่า เราทำโทรศัพท์หาย .. เค้าก็บอกว่า คุณแน่ใจนะ ลองหาดีๆ ก่อน
เราก็บอกว่า หาดีแล้ว หายจริงๆ แล้วเค้าก็ถามว่า โทรศัพท์รุ่นไหน ลักษณะเป็นยังไง เราก็บอกว่า iphone 5 สีขาวใส่เคสสีชมพู
เค้าก็จดข้อมูล แล้วเค้าก็วอไปหาเจ้าหน้าที่อีกคน ซึ่งสักพักก็มี จนท.ผู้หญิง หน้าตาแขกๆ สูงๆ คิดว่าคงเป็น รปภ.เดินมา
เค้าก็ให้เราหาให้ดีๆ อีกครั้ง เราก็บอกหาแล้วค่ะ ไม่มี เค้าก็บอกว่า คุณไม่ได้ทำหายในห้องน้ำใช่ไหม ถ้าใช่ มันจะตามยากมากๆ
(คือที่คาสิโนกล้องวงจรปิดติดทุกฝีก้าวค่ะ ยกเว้นห้องน้ำ) เราก็บอกว่า เราไม่ได้เดินไปห้องน้ำเลย แล้วเค้าก็เอามือถือเค้าพยายามโทรหาเครื่องเรา
เพราะว่าเราใช้ซิมส์ของที่นั่นแต่บังเอิญตังเราหมดเค้าเลยโทรไม่ติด เค้าก็โอเคไม่เป็นไร พาฉันไปทุกที่ที่คุณไป (คือนึกออกไหม คาสิโนมันใหญ่มาก)  แล้วระบุเวลาด้วย ว่าอยู่ที่ไหน ตอนเวลาไหน ขอเป็นเวลาที่ใกล้เคียงที่สุด เพราะมันเป็นข้อมูลที่จำเป็นมากๆ

เราก็เดินนำเค้าไปไกลพอสมควร และแต่ละที่มันก็ห่างกันมาก พามาที่ตู้สลอทแมชชีนตู้แรกที่เราไป .. เพราะเราจำได้ว่า เราหยิบมันขึ้นมาแชทกับเพื่อน  เราก้บอกเค้าว่า เราหยิบมาครั้งสุดท้ายที่นี่ประมาณ สี่ทุ่ม เค้าก็หยิบกระดาษมาจด สักพักเราก็พาไปตู้ที่ 2 เค้าก็จด
แล้วเราก็บอกว่า เราแวะมายืนดูเค้าเล่นตรงโต๊ะนี้แป๊บนึง เค้าก็จด แล้วเราก็เดินไปตู้สุดท้าย ที่เรารู้ตัวว่าเราทำหาย แล้วก็พากันเดินกลับไปที่เค้าเตอร์

ทีนี้เจ้าหน้าที่ก็ขอพาสปอร์ตเราไปถ่ายเอกสาร แล้วถามว่าเราจะกลับวันไหน เราบอกว่าเราต้องกลับพรุ่งนี้แล้ว
เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เราจะช่วยคุณอย่างเต็มที่ แต่เราไม่รับปากนะว่าจะตามได้หรือเปล่า
ถ้ามีคนขโมยไป แล้วเค้ากลับไปแล้ว เราจะเช็คจากกล้องวงจรปิด ถ้าครั้งหน้าเค้ามาที่นี่อีก เราจะจับเค้า และติดต่อหาคุณที่ไทย
แล้วเค้าก็ขอที่อยู่ในไทย กับเบอร์โทรศัพท์ ระหว่างนั้นเค้าก็โทรศัพท์คุยกับ จนท.คนอื่นๆ แล้วเค้าก็บอกเรา ให้เราแหงนหน้ามองกล้องตัวนั้นหน่อย
เพราะมีจนท.เค้าจะจำใบหน้าเราไว้ แล้วแกะรอยเรา ในทุกๆที่ที่เราไป พอเสร็จแล้วเค้าบอกว่า ขอเวลาให้เราตรวจสอบหน่อยนะ แล้ว 5 ทุ่มมาเจอกันที่นี่ ระหว่างนี้ คุณจะไปเล่นอะไรรอก่อนก็ได้ หรือจะกลับไปรอที่โรงแรมแล้วมาใหม่พรุ่งนี้ แต่ตอนนั้นแบบ ร้องไห้ด้วย เสียดาย เสียใจ คิดว่าหาไม่ได้แน่ๆ
นอยด์มาก แล้วก็รู้สึกผิดที่หาภาระมาให้จนท.ที่เค้าเต็มใจช่วยเราอย่างดี ใครจะมีอารมณ์เล่น ... คิดว่าเราจะกลับโรงแรมใช่ปะ เปล่าเลย
เราก็ไปนั่งเล่น 5555 (ยังมีหน้า) ไอ้เงินที่เล่นได้มา 5 เหรียญตอนแรก กดๆ ไปเสียหมดเลย ไม่น่าหาเรื่องเลย

เราเลยเดินกลับมาที่เค้าท์เตอร์แบบนอยด์ ก็มายืนรอจนท. แต่เราไม่เห็นพี่รปภ.หญิงคนนั้นแล้ว  ตอนนั้นเราก็รู้สึกเสียใจ ยืนร้องไห้กับเพื่อน
เพราะเราซื้อด้วยเงินตัวเอง รูปภาพที่เราไปเที่ยวก็อยู่ในนั้นเยอะแยะ เสียดายจนร้องไห้ออกมา ผ่านไปสัก 20 นาทีได้ มีจนท.ผู้ชายเดินมา
ในมือเห็นอะไรแว๊บๆ สีชมพูๆ ... เห้ยนี่มันมือถือช้านนนน ดีใจบอกเพื่อน แกๆ เห็นไหม ใช่มั้ยน่ะ มันบอกไม่ใช่ เป็นปากกา บอกเราอยากได้คืนจนเพ้อ
เราแบบ.. เห้อออ นอยด์อีกรอบ สักพักเราก็มองตาม จนท.ไปที่เค้าท์เตอร์มีมือถือหน้าตาคุ้นๆ วางอยู่ มันใช่ นั่นมันของชั้นจริงๆ
เพื่อนมันก็หัวเราะมันบอกมันแกล้งเรา (น่าตบมาก - -') เราก็รีบเดินไปหา แล้วยิ้มหน้าบานใส่ จนท.เลยค่ะ
แต่เค้ายังไม่ให้เราแตะ เค้าก็จดๆ อะไรสักพักไม่รู้เค้าก็ถาม ใช่ของคุณไหม เราก็บอกว่าใช่ค่ะ (ณ ตอนนั้นอยากกระโดดกอดเค้ามาก)  
เค้าก็ให้เราเปิดรูปในมือถือให้ดู ว่ามีรูปเราจริงไหม เราก็เปิดให้เค้าดูก็มีรูปเราจริงๆ เราก็เลยถามเค้าไปว่า เจอได้ยังไง
เค้าไม่ตอบเรา บอกแค่ว่าเรื่องเล็กน้อยสำหรับเรา เป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยคุณอยู่แล้ว เราก็เลยไม่รู้เลยอะ แต่ตอนนั้นคือช่างมันเหอะ ได้คืนแล้ว
แต่เรามาลองเดาคือ เราน่าจะทำตก แล้วมีคนเก็บได้ แต่คงไม่คิดจะคืน  เค้าก็แกะรอยตามไปหาให้จนเจอ แต่เค้าไม่บอกเรา
เพราะคนนั้นคงเป็นลูกค้า กลัวว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โต กลัวเราเอาเรื่อง อะไรแบบนี้มั้ง เดานะ ..

แล้วเค้าก็เอากระดาษมาให้เราเขียน feedback ให้เล่าว่าเกิดไรขึ้น ตอนนั้นเราดีใจจนนึกคำที่จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษไม่ออก
เค้าก็บอกว่าเขียนเป็นไทยก็ได้ แล้วก็ยิ้มขำๆ ใส่เรา แล้วก็ถามว่าเรามาเที่ยวหรอ มาอยู่นานรึยัง แล้วก็พูด สวัสดีครับ ขอบคุณครับเป็นภาษาไทย
(ประทับใจค่ะ) เรายิ้มให้เค้าทั้งคราบน้ำตาเลยค่ะ แล้วก็เขียนบรรยายไป ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกระดาษที่เค้าให้มา
เล่าถึงความประทับใจที่จนท.ช่วยเหลืออย่างดีมากๆ เสร็จแล้วเราก็ขอบคุณพวกเค้าไปหลายที ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
แต่เสียดายพี่รปภ.ผู้หญิงที่ช่วยเราตอนแรกเค้าไม่อยู่ตรงนั้น  เราเลยไม่ได้ขอบคุณเค้าเลย แต่ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสไปอีก
เราว่าจะเอาของฝากจากไทยไปฝากเค้า พอทุกอย่างจบลง เราก็รีบกลับโรงแรมเลยค่ะ เข็ด 5555

มันเป็นความประทับใจมากๆ ที่เรามีต่อประเทศนี้ และคิดว่าต้องกลับไปอีก  เราได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากพวกเค้า
เราเจอปัญหาในที่ต่างบ้านต่างเมือง ภาษาอังกฤษก็ไม่พูดไม่ค่อยจะคล่อง พอสื่อสารได้
แต่พวกเค้าไม่มีทีท่ารำคาญ หรืออารมณ์เสียใส่เราเลย ช่วยเต็มที่ และละเอียด จริงจังมากๆ จนเราได้มันคืนมาภายใน 1 ชั่วโมง
คือคิดว่าคงไม่ได้คืน คิดว่าคนเอาไปคงกลับไปแล้ว แต่โชคก็ยังเข้าข้างเราอยู่ ที่ทำให้เราเจอมือถือที่เราซื้อมันมาด้วยเงินของเราเอง ..
จากนี้คงต้องระมัดระวังตัวมากๆ เข็ดค่ะ เรายังมานั่งๆ นึกอยู่เลยนะ ดีนะที่มันหายที่นั่น ถ้าไปหายที่อื่นคงไม่ได้คืนแล้ว
หรือมาหายที่ไทย ตำรวจก็คงแค่ลงบันทึกประจำวันให้เรา กล้องวงจรปิดก็อาจเป็นกล้องดัมมี่อะไรแบบนี้ เพราะเราเคยทำบีบีสมัยที่มันกำลังบูมหายไปเครื่องหนึ่งแล้ว แล้วก็ไม่ได้คืน ครั้งนี้เราเลยเสียใจมากเป็นพิเศษ T_T

จบแล้วค่ะ ซะยาวเลย