ตอนนี้เราท้องได้แปดเดือนแล้วค่ะ ใจจริงๆไม่อยากจะมานั่งเครียดหรือรู้สึกเกลียดชังใครเลย แต่ทุกๆวันเราจะนั่งคิดเรื่องของพ่อกะแฟนใหม่เขา เรายอมรับว่าไม่พอใจในการกระทำของพ่อ
และเกลียดผู้หญิงคนนี้เข้าไส้เลยค่ะ
คือก่อนอื่น ต้องอธิบายก่อนว่า ตัวเราอยู่กรุงเทพกับสามี
เรามีน้องชายสองคน ซึ่งพักอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อ อยู่บ้านหลังเดียวกัน
ทีนี้เมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคมอ่ะค่ะ พ่อเราโทรมาคุยกะเราว่า คือพ่อเจอผู้หญิงที่จะใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว
เราอึ้ง เพราะแม่เราพึ่งจะเสีย แล้วเราสนิทกะแม่มากค่ะ คือตัวเรายังไม่หายเศร้าเลย เรายังคิดถึงแม่อยู่ทุกวัน
แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรพ่อนะ เพราะเข้าใจว่าพ่อคงจะเหงา อยากมีคนมาอยู่เป็นเพื่อน เราก็บอกพ่อว่าถ้าพ่อทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไปเราไม่ว่าหรอก
แต่ปัญหามาเกิดตอนน้องชายเราโทรมาหาเรา แล้วถามว่ารู้เรื่องพ่อมีแฟนใหม่ยัง
เราบอกเรารู้แล้ว เราบอกน้องว่าก็ปล่อยให้พ่อทำอะไรที่เขาอยากทำ เขาโตแล้ว
น้องเราบอกว่า ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะผู้หญิงคนนี้อ่ะเค้าติดการพนันนะ แล้วยังมีหนี้เงินกู้นอกระบบอีกตั้งเกือบล้าน โดยกู้มาจากเจ้าหนี้หลายๆคน
แล้วพ่อเราก็เริ่มขายของสิ่งนึงที่เราลงทุนซื้อให้เค้าอ่ะค่ะ
คือจำได้ว่าพ่อเราใช้เงินเก้าหมื่นภายในหนึ่งอาทิตย์ เงินจำนวนนี้คือเอาไปใช้หนี้และลงทุนขายของให้เธอคนนี้
คือชื่อเสียงด้านการพนันเธอดังมาก คนทั้งตำบลรู้จักเธอ
แล้วตอนนี้คือพ่อเราทะเลาะกับน้องชายเรา เพราะน้องชายเราไม่ยอมรับผู้หญิงคนนี้
พ่อเราไล่น้องชายเราออกจากบ้านค่ะ พ่อเราบอกเราว่าถ้าน้องชายย้ายออกไปก็ดี เขาจะได้พาเมียเขามาอยู่ด้วย
คือตัวเรากลัวว่าพ่อจะเอาบ้านไปจำนองใช้หนี้ให้เธอคนนี้ เพราะพ่อมาหาฉโนดบ้าน ครอบครัวเราไม่รวยอะไร บ้านคือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มีอยู่ค่ะ
ตัวเราไม่คิดกลับไปอยู่บ้าน แต่เราสงสารน้องชายค่ะ ถ้าพ่อไล่น้องออกไป เขาจะไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร เราห่วง
คือตอนนี้พ่อกับน้องเราไม่คุยกันแล้วค่ะ ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูกกันเลย
พ่อเราก็โทรมาหาเราทุกวัน แต่เราไม่รับ คือเราไม่พร้อมจะคุย และยอมรับว่าผิดหวังกับการกระทำของพ่อค่ะ
เราคิดว่าพ่อรักคนอื่นมากกว่ารักลูกตัวเอง
คือต้องบอกว่าเรากับน้องชายทำงานส่งตัวเองเรียนมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ เพราะที่บ้านจนมาก ถ้าอยากเรียนก็ต้องทำงาน อยากได้อะไร อยากไปไหนก็ต้องเก็บเงินเอาเอง คือเราไม่เคยขอเงินพ่อใช้ตั้งแต่อายุ 13 แล้วค่ะ แต่เราไม่คิดว่านี่คือปมด้อยนะคะ เราคิดว่ามันทำให้เราเป็นคนเข้มแข็ง
คือเราน้อยใจค่ะ คิดว่าพ่อไม่เคยช่วยพวกเราเลย ทั้งที่เราเป็นลูก คืออยากได้อะไรเราก็ส่งเงินให้ซื้อ อยากให้เขาสบาย
แต่กับคนอื่น ที่เพิ่งรู้จัก ทำไมเขากล้าทุ่มทุนสร้างขนาดนั้น แล้วยังเอาของที่เราลงทุนซื้อให้ไปขายใช้หนี้ให้เขาอีก
เราเพลียค่ะ
ไม่รู้จะทำยังไงดี ตอนนี้คือรู้สึกไม่ดีกับพ่อเลย เราคิดว่าว่าถ้าพ่อพาคนนี้เข้าบ้าน ถ้าไล่น้องชายเราไปอยู่ที่อื่น ตัวเราจะหายไปเลยค่ะ จะไม่กลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว เรารับไม่ได้ค่ะ
คือเราสับสนน่ะค่ะ เลยมาระบายให้เพื่อนๆได้ฟัง คือตอนนี้ที่เราทำอยู่ไม่รู้ถูกหรือผิด คือเราไม่รู้จะคุยกับใครน่ะค่ะ
เครียดค่ะ แม่เราเสียได้สี่เดือน ตอนนี้พ่อมีภรรยาใหม่ และเธอเป็นคนติดการพนันค่ะ
และเกลียดผู้หญิงคนนี้เข้าไส้เลยค่ะ
คือก่อนอื่น ต้องอธิบายก่อนว่า ตัวเราอยู่กรุงเทพกับสามี
เรามีน้องชายสองคน ซึ่งพักอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อ อยู่บ้านหลังเดียวกัน
ทีนี้เมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคมอ่ะค่ะ พ่อเราโทรมาคุยกะเราว่า คือพ่อเจอผู้หญิงที่จะใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว
เราอึ้ง เพราะแม่เราพึ่งจะเสีย แล้วเราสนิทกะแม่มากค่ะ คือตัวเรายังไม่หายเศร้าเลย เรายังคิดถึงแม่อยู่ทุกวัน
แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรพ่อนะ เพราะเข้าใจว่าพ่อคงจะเหงา อยากมีคนมาอยู่เป็นเพื่อน เราก็บอกพ่อว่าถ้าพ่อทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไปเราไม่ว่าหรอก
แต่ปัญหามาเกิดตอนน้องชายเราโทรมาหาเรา แล้วถามว่ารู้เรื่องพ่อมีแฟนใหม่ยัง
เราบอกเรารู้แล้ว เราบอกน้องว่าก็ปล่อยให้พ่อทำอะไรที่เขาอยากทำ เขาโตแล้ว
น้องเราบอกว่า ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะผู้หญิงคนนี้อ่ะเค้าติดการพนันนะ แล้วยังมีหนี้เงินกู้นอกระบบอีกตั้งเกือบล้าน โดยกู้มาจากเจ้าหนี้หลายๆคน
แล้วพ่อเราก็เริ่มขายของสิ่งนึงที่เราลงทุนซื้อให้เค้าอ่ะค่ะ
คือจำได้ว่าพ่อเราใช้เงินเก้าหมื่นภายในหนึ่งอาทิตย์ เงินจำนวนนี้คือเอาไปใช้หนี้และลงทุนขายของให้เธอคนนี้
คือชื่อเสียงด้านการพนันเธอดังมาก คนทั้งตำบลรู้จักเธอ
แล้วตอนนี้คือพ่อเราทะเลาะกับน้องชายเรา เพราะน้องชายเราไม่ยอมรับผู้หญิงคนนี้
พ่อเราไล่น้องชายเราออกจากบ้านค่ะ พ่อเราบอกเราว่าถ้าน้องชายย้ายออกไปก็ดี เขาจะได้พาเมียเขามาอยู่ด้วย
คือตัวเรากลัวว่าพ่อจะเอาบ้านไปจำนองใช้หนี้ให้เธอคนนี้ เพราะพ่อมาหาฉโนดบ้าน ครอบครัวเราไม่รวยอะไร บ้านคือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มีอยู่ค่ะ
ตัวเราไม่คิดกลับไปอยู่บ้าน แต่เราสงสารน้องชายค่ะ ถ้าพ่อไล่น้องออกไป เขาจะไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร เราห่วง
คือตอนนี้พ่อกับน้องเราไม่คุยกันแล้วค่ะ ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูกกันเลย
พ่อเราก็โทรมาหาเราทุกวัน แต่เราไม่รับ คือเราไม่พร้อมจะคุย และยอมรับว่าผิดหวังกับการกระทำของพ่อค่ะ
เราคิดว่าพ่อรักคนอื่นมากกว่ารักลูกตัวเอง
คือต้องบอกว่าเรากับน้องชายทำงานส่งตัวเองเรียนมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ เพราะที่บ้านจนมาก ถ้าอยากเรียนก็ต้องทำงาน อยากได้อะไร อยากไปไหนก็ต้องเก็บเงินเอาเอง คือเราไม่เคยขอเงินพ่อใช้ตั้งแต่อายุ 13 แล้วค่ะ แต่เราไม่คิดว่านี่คือปมด้อยนะคะ เราคิดว่ามันทำให้เราเป็นคนเข้มแข็ง
คือเราน้อยใจค่ะ คิดว่าพ่อไม่เคยช่วยพวกเราเลย ทั้งที่เราเป็นลูก คืออยากได้อะไรเราก็ส่งเงินให้ซื้อ อยากให้เขาสบาย
แต่กับคนอื่น ที่เพิ่งรู้จัก ทำไมเขากล้าทุ่มทุนสร้างขนาดนั้น แล้วยังเอาของที่เราลงทุนซื้อให้ไปขายใช้หนี้ให้เขาอีก
เราเพลียค่ะ
ไม่รู้จะทำยังไงดี ตอนนี้คือรู้สึกไม่ดีกับพ่อเลย เราคิดว่าว่าถ้าพ่อพาคนนี้เข้าบ้าน ถ้าไล่น้องชายเราไปอยู่ที่อื่น ตัวเราจะหายไปเลยค่ะ จะไม่กลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว เรารับไม่ได้ค่ะ
คือเราสับสนน่ะค่ะ เลยมาระบายให้เพื่อนๆได้ฟัง คือตอนนี้ที่เราทำอยู่ไม่รู้ถูกหรือผิด คือเราไม่รู้จะคุยกับใครน่ะค่ะ