ยิ่งลักษณ์ ยิ้มเย้ยยุทธจักร ตอน ความอ่อนโยน คือ ดาบเล่มหนึ่ง ( 3 ) บูรพาพยัคฆ์

ท่านที่เคารพรักครับ  เหมือนแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าทุกดวงอับแสงลงชั่วขณะ

ยามเมื่อหลิวเดินเข้ามาจากด้านหน้าของที่พักหรูที่อยู่ริมโขงสามเหลี่ยมทองคำ  หลิวในชุดแซคสีครีมรัดรูปเผยผิวขาวพ้นเข่าก็เพียงนิด
แต่นวลเนื้อนั้นเห็นได้ถึงเข่ากลมกลึง และเรียวน่องได้รูปที่เปี่ยมด้วยแรงดีดสะท้อน  ตามสำนวนท่านโกวเล้ง

" ดอกจันทร์กระพ้อน่ะค่ะเล้ง  เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมยามกลางคืน  มิน่าล่ะ หลิวถึงว่า มีกลิ่นหอมมาก ตรงรั้วด้านโน้นออกดอกเต็มเลย "

หลิววางดอกไม้ลงดอกหนึ่งทับปกหนังสือที่ผมติดมือมานั่งอ่าน เป็นช่วงที่เฉินพูดขึ้นว่า

" แม่ทัพภาค 4 คนก่อนคือ พล.ท.สกล ได้เสนอชื่อ พล.ต.ปราการ รองแม่ทัพภาคที่ 4  (ตท.15 ) ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน โดย พล.ต.ปราการ เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา และเป็นนายทหารที่ได้รับการยอมรับด้านความรู้ความสามารถ

แต่ประยุทธ์แต่งตั้งวลิต ลงไปเป็นแม่ทัพภาค 4 นี่คือการเล่นพรรคเล่นพวกในกองทัพ  ประยุทธ์บอกว่า ที่ให้วลิตไปเป็นแม่ทัพ เพราะมีสัญญาใจตอบแทน

สังเกตตรงนี้นะเล้ง คุณจะแต่งตั้งโยกย้ายก็ต้องเรื่องของความเหมาะสม ที่ผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรด้วย ต้องผ่านว่าการกลาโหม ผ่านระดับต่างๆจนโปรดเกล้าลงมา  

" เหตุผล " ต้องเหมาะสมเรื่องงาน  ไม่ใช่เรื่องพิศวาท  ( ฮา )

ไม่ใช่ไม่มีหลักอะไรในการแต่งตั้งเลย จะอ้างตามแต่ใจตนเองไม่ได้    

ยิ่งพื้นที่ภาคใต้ ต้องการคนทำงานในพื้นที่ ที่รับรู้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง  เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาระยะยาว  ไม่ใช่เอารองแม่ทัพภาค 1 ไปเป็นแม่ทัพภาค 4
ที่เป็นพื้นที่มากมีปัญหา แล้วอ้างว่าเพื่อตอบแทนที่เคยไปรบกับคนเสื้อแดง จนโดนระเบิดขาหักสองท่อน หรือไข่หาย

แต่คุณต้องรู้ว่า  ที่พวกคุณออกมาซุ่มโปงดักทำร้ายประชาชนนั้น เพราะพวกทหารเองก็โดนผังล้มเจ้ากำมะลอหลอกเอา  คุณไม่สมควรได้รับความดีความชอบอะไรเลย ก็คุณเป็นข้าราชการที่โดนหลอกออกมาทำงาน ออกมาฆ่าประชาชน

แล้วยังมีหน้ามาถามหา ความดี ความชอบ ( ฮา )

หากจะตอบแทนน้ำใจ ทำไมไม่เอาของส่วนตัวประยุทธ์หรือของประวิตร พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ให้ล่ะ นี่มันเรื่องบ้านเรื่องเมือง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวสักหน่อย   อย่างนี้นี่ไงเล้ง  มีศัพท์คำๆหนึ่งที่พวกทหารมักใช้เรียกกันคือ น้องเลิฟ  ใครเป็นน้องเลิฟใคร ก็จะได้เลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งกันแบบรวดเร็วทุกๆปี  

ภาษาวงในเรียกกันว่า  Fast Track ที่ขึ้นมายศละปี อดีตก็เช่น อาทิตย์ บิ๊กจิ๋ว ใต้ร่มเงาเปรม แต่ปัจจุบันพวกบูรพาพยัคฆ์วางทายาทยาวมาก


เอาล่ะผมว่าเราจับตาตรงว่า ทำไมประยุทธ์ต้องออกมาย้ำคำว่า " สัญญาใจ " เมื่อให้วลิตไปนั่งเก้าอี้ใหญ่คุมภาคใต้  ข้อนี้ผมมองว่า "    เฉินนิ่งยกเครื่องดื่มขึ้นจิบแล้วพูดต่อว่า  

" ผมมองว่า กลุ่มบูรพาพยัคฆ์กำลังทำให้สังคมกองทัพมองว่า พวกตนเองมีพาวเวอร์และใครที่ทำอะไรให้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน
เพื่อตอกย้ำถึงบารมีพี่ใหญ่ประวิตร แต่ประยุทธ์ก็ซ้อนแผนไปด้วย ด้วยการหาคนทำงานแทน "

" ทำงานอะไรแทนหรือค่ะเฉิน ? "

" อาจจะเป็นรัฐประหารแทนก็เป็นได้ อยู่ที่ว่าทหารคนไหนจะโง่ งับเหยื่อ โดยมีตำแหน่งล่อ เพราะประยุทธ์ทำทางไว้ให้ดูแล้วนี่ว่า ใครทำงานที่เสนอ จะได้รับการสนองคืนอย่างวลิต  นั่นหมายความว่า ประยุทธ์ไม่รัฐประหาร แต่มีคนอื่นออกมาทำตามแผนแทน

เพราะการมีบังเกอร์เกือบ 200 จุด มันก็คือพิมพ์เขียวการรัฐประหารที่สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว

ที่เหลือคือคุมตัวนายกฯและยึดสื่อ   แต่เวลานี้ ทหารคนไหนล่ะที่จะโดนหลอกให้ออกมารัฐประหาร เหมือนนายบังสนธิปี 49 คุณเคยเห็นทหารประเทศไหน บัดซะรบเท่านี้มั๊ย  รัฐประหารแท้ๆ มีรูปภาพหลักฐานชัดเจน แต่ไม่กล้าพูด  กล้ายอมรับ

รัฐประหารปี 49 ที่อ้างนัก อ้างหนาว่าดี  แต่ทำไม ไม่มีใครกล้าแอ่นอกรับว่าเป็นคนต้นคิด หรือรับว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลัง  " ( ฮา )

ผมและหลิวนิ่งฟังอย่างตั้งใจ  เฉินจิบเครื่องดื่ม ลุกขึ้นยืน ก่อนเดินออกไป เฉินพูดทิ้งไว้ว่า

" ไม่ว่าสื่อใดๆก็มักประโคมข่าวว่า ประวิตร พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์มากด้วยบารมี และยังพยายามมีบทบาทในกองทัพ ซึ่งผมจะไล่รายละเอียดการจัดวางให้เราดู มันวางคนยาวไปจนถึงปี 62 โน้น ไหนจะ ตู่เล็ก ไหนจะน้องเลิฟประยุทธ์  คุณจะเห็นว่า ตารางมันยาวเป็นหางว่าว  

หากดูจากการแต่งตั้งวลิต ที่ใช้หลักสัญญาใจ คุณคิดภาพออกนะว่า กองทัพบ้านเราจะ อ่อนปวกเปียกเป็นเครื่องมืออำมาตย์ไปอีกนานขนาดไหน  
บูรพาพยัคฆ์เป็นผู้นำทหารทีไร  ทหารออกมายืนตามรถไฟฟ้า  เพ่นพล่านเต็มเมืองทุกนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง หรือไม่ก็ตั้งบังเกอร์ หรือไม่ก็จะจัดซื้อจัดจ้าง จะรบกับเขมร    ผมว่าปัญหามันอยู่ที่พวกนี้มากกว่า  ที่ไม่มีสำนึกเป็นประชาธิปไตย เข้ากับรัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่ได้

ทหารที่ไม่เป็นทหารอาชีพ ทหารที่ไม่รู้จักหน้าที่ของตนเอง "  

เฉินเดินจากไป ผมยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ  เฉินเดินไปได้สองสามก้าว ก็ย้อนกลับมาใหม่ ผมคิดว่า เขาคงจะไปห้องน้ำนี่นา   เฉินเดินตรงมาแล้วพูดขึ้นอีกว่า


" คุณรู้มั๊ย  อิชิตันของคุณตัน โดนม็อบสุเทพโจมตีในเดือน พฤจิกายน โจมตีบนเวทีเลย ข่าวออกไปเสียหายทั่วประเทศ สุเทพประกาศไม่กินชาเขียวอิชิตัน   ทั้งๆที่วงการหุ้นก็รู้ว่า อิชิตันตั้งใจจะเข้าเทรดวันที่ 11 เดือน 12 ปี 13 เวลา 09.10 น. จนสุดท้าย ก็ต้องเลื่อนออกไป

  แล้วคุณไปดูรายชื่อท่อน้ำเลี้ยงม็อบนกหวีดสิ  ไล่ดูรายชื่อจะเห็นว่า มี " คู่แข่ง " อิชิตันเป็นท่อน้ำเลี้ยงด้วย  นี่คือการทำลายล้างกันด้วยม็อบ แบบเนียนๆ จากนั้นมา คุณตันก็โดนมาอีกเรื่อยๆ " เฉินพูดแล้วก็เดินจากไปห้องน้ำจริงๆ


" เล้งอ่านอะไรคะ ?" หลิวมองหนังสือที่วางข้างหน้าผม เธอเอื้อมมาถือไปวางที่ตักแล้วพลิกช้าๆทีละแผ่น " เล้งยังไม่เปลี่ยนเลยนะ อ่านแต่หนังสือเก่าๆ " หลิวพลิกอ่านพลางยกดอกจันทร์กระพ้อมาแตะที่จมูก

" THE CATCHER IN THE RYE...."  หลิวอ่านช้าๆ

  " ชั่วชีวิตของผม "   สำนวนแปลของ คำรวี ใบเตย น่ะหลิว  เรื่องนี้ดีมาก เป็นวรรณกรรมเก่า  มีอีกสำนวนแปลคือ " ทุ่งฝัน " ที่แปลโดยศาสนิก
และล่าสุด ปราบดา หยุ่น เอามาแปลในชื่อ " จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น "  ผมอธิบาย

" แล้วคุณจะทราบว่า ทำไมผมจึงฆ่า จอห์น เลนนอน  หากคุณได้อ่าน เรื่อง   THE CATCHER IN THE RYE  ( ชั่วชีวิตของผม )
จากคำพูดของ เดวิด แชปแมน ฆาตกรคนยิง จอห์น เลนนอนตาย "    หลิวอ่านข้อความในหนังสือ

" ยุคสมัยหนึ่ง  หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือต้องห้ามน่ะหลิว ในอเมริกาห้ามอ่าน  ในบ้านเราก็ห้าม พูดแล้วคิดถึงหนังเรื่องหนึ่ง  เรื่อง Conspiracy Theory   พระเอก เมล กิ๊บสัน บ้าหนังสือเรื่องนี้มาก เข้าร้านหนังสือร้านไหน  พบเจอหนังสือเรื่องนี้ ก็จะซื้อดะ จนมากองพะเนินเทินทึกที่บ้าน


" ทฤษฏีสมคบคิดหรือคะเล้ง ? "

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่