สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว "Transcendence" ก็เหมือนอินเตอร์เน็ท ข้อมูลเพียบ แต่ไม่มีฟีลลิ่ง

Transcendence ดร. วิล คาสเตอร์ เชื่อมั่นว่าการพัฒนา A.I หรือปัญญาประดิษฐ์โดยการรวมข้อมูลทุกอย่างบนโลกใบนี้แล้วประมวลผลด้วยเทคโนโลยี จะสามารถพัฒนาความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้ดีขึ้น แต่เมื่อเขาถูกลอบยิงและกำลังจะเสียชีวิต ภรรยาของเขาได้อัพโหลดสมองของเขาเข้ากับระบบ A.I. ที่ล้ำหน้าที่สุด เพื่อถ่ายทอดสติของเขาเข้ากับคอมพิวเตอร์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือระบบ A.I. ที่มีความนึกคิดของตัวเองที่ตัดสินทุกอย่างด้วยเหตุผล โดยไม่คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์

แม้จะมีเนื้อเรื่องที่ดูน่าสนใจและน่าขบคิดหลายอย่าง เช่น เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากๆจะทำให้ชีวิตมนุษย์ดีขึ้นหรือเปล่า อะไรสำคัญมากกว่ากัน เหตุผลหรือความรู้สึก หรือรักแท้เกิดขึ้นหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ แต่ว่าหนังเรื่องนี้ยังขาดทักษะการเล่าเรื่องที่ดี ตัวหนังดูยืดยาวเกินไป และไม่มีการเร้าอารมณ์คนดูในจุดที่ควรจะเป็น

ตัวหนังอาจจะใส่ใจกับการตั้งคำถามยากๆให้กับคนดูมากเกินไป จนลืมให้ความสำคัญกับตัวละคร ทั้งๆที่ได้นักแสดงระดับท็อพๆหลายคนมาอยู่ในหนัง แต่ตัวหนังกลับไม่สามารถดึงศักยภาพของนักแสดงแต่ละคนมาใช้ได้อย่างเต็มที่ คู่พระเอกนางเอกก็ดูเล่นไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไร จอห์นนี่ เด็พ แสดงแบบเหมือนเล่นคนเดียว โดยที่ไม่ค่อยมีเคมีกับ นางเอก รีเบ็คก้า ฮอลล์ เลยสักนิด นักแสดงชื่อดังคนอื่นๆก็ไม่ได้แสดงฝีมืออะไรมาก นอกจากเล่นตามบทให้มันจบๆไป หลายๆคนดูรับบทแบบผิดที่ผิดทางหรือสลับขั้วกันอยู่ เช่น คิลเลียน เมอร์ฟี่ ที่แสดงเป็น FBI ที่ดูทั้งเรื่องแล้วก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีบทเป็นตำรวจที่ตรงไหน

โดยรวมแล้ว เป็นหนังที่มีแนวความคิดที่น่าสนใจ วัตถุดิบเพียบ แต่ว่าประมวลผลช้า และยังขาดฟีลลิ่งอยู่เยอะ

2 ดาว