แนะนำตัว ลูกสาว ชื่อ น้องพีญ่า อายุจะ 2.2 ขวบ วันที่ 25 นี้
เริ่มไปเรียนเตรียมอนุบาล ช่วงซัมเมอร์ ได้ประมาณ 2 อาทิตย์
วันแรกที่ไปส่ง คุณแม่ คุณพ่อ และ คุณอาม่า (ไปกันทั้งบ้าน)
วันนี้ ดูเธอตื่นเต้นดีใจมาก ลงรถ ลากกระเป๋า เดินไปห้องเรียน
พอถึงห้องเรียน ยกมือไหว้สวัสดี คุณครู แล้ว รีบเข้าไปในห้องเรียนเลย
ปล่อยให้ คุณพ่อ คุณแม่ พูดคุย สอบถามกับคุณครูอยู่หน้าห้อง โดยไม่สนใจเลย
ในขณะที่ตัวเธอ เดินสำรวจ ของเล่นภายในห้องเรียน หยิบของเล่นมาถือ และ มองดูเด็กคนอื่นๆ ที่ร้องไห้กันโยเย
วันแรกนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ต่างแอบดูลูกๆของตัวเองกันทั้งนั้น จนคุณครูต้องบอกให้ไปรอที่โรงอาหารแทน
วันนี้ วันแรก เลิกเร็วหน่อย พอคุณพ่อคุณแม่ไปรับ ดูท่าทางเธอไม่อยากกลับ เหมือนกับว่า เพิ่งมาเล่นได้แป๊บเดียวเอง
แต่ก็ต้องกลับ โดยบอกกับลูกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้พามาใหม่ พร้อมกับถามอีกครั้งว่า...พรุ่งนี้ลูกอยากมาโรงเรียนอีกไหม
พอลูกตอบว่า อยากมาอีก เราก็ชวนลูกคุยเรื่องโรงเรียน ว่า สนุกดีเน๊อะ เพื่อนเยอะดีนะ คุณครูใจดีจัง มีของเล่นเยอะเลย
พร้อมกับพาลูกเดินชมโรงเรียน นั่นไงเครื่องเล่น อยากเล่นไหม เดี๋ยววันหลังจะพามาเล่นนะ....
โอ้โห...ที่โรงเรียน มีร้านค้าด้วย มีขนมขายด้วย ลูกอยากกินอะไรคะ...วันหลังมาโรงเรียน เรียนเสร็จแล้ว จะพามาซื้ออีกนะ ชอบมั้ย...
วันต่อมา ดูเธอสนใจที่จะมาโรงเรียนอีก เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน เราถามว่าวันนี้ใครจะไปโรงเรียนอีกน๊า...เธอจะตอบว่า พีญ่า....
มีบางวันที่ ตื่นมาอยากดูการ์ตูน แล้วบอกว่า ไม่ไปโรงเรียน เราก็บอกว่า ไม่เป็นไร...อย่างงั้น ให้อาม่า ไปโรงเรียนแทน เอากระเป๋าไปให้อาม่าดีกว่า
ยังไม่ทันขาดคำ เธอรีบพูดทันทีว่า พีญ่าจะไปโรงเรียน (กลัวโดนอาม่าแย่ง)
พอไปถึง โรงเรียน เธอก็ลากกระเป๋า เข้าห้องเรียน เป็นแบบนี้ทุกวัน ดูเธอมีความสุขดี
วันต่อๆมาเริ่มมีเพื่อน เริ่มสนใจของเล่นใหม่ๆและเพื่อนคนอื่นๆ มีวันนึง คุณครูเล่าให้ฟังว่า ลูกสาว ถามเพื่อนๆที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุดว่า ร้องทำไม...ไม่ร้องนะ
คงสงสัยว่าเค้าร้องกันทำไม เรื่องนี้เราก็คุยกับลูกว่า วันนี้ พีญ่าร้องไห้แบบเพื่อนรึเปล่า ลูกตอบ:ไม่ร้อง เราชมว่าเก่งจังเลย
และถามลูกอีกว่า แล้วเพื่อนละร้องมั้ย ลูกตอบว่า: ร้อง เราเลยบอกลูกว่า พีญ่าเก่งกว่าเน๊าะ พีญ่าไม่ร้อง...(ลูกสาวพยักหน้า พอใจ)
และทุกๆวันที่เราไปส่งลูกจะบอกกับลูกว่า มาโรงเรียนสนุกกับเพื่อนๆและคุณครู กินข้าว นอนหลับ พอตื่นมา คุณพ่อ คุณแม่ จะมารับ
หรือ พอเลิกเรียนแล้ว คุณครูจะโทรบอก ให้คุณพ่อ คุณแม่ มารับ
และทุกๆวัน เราจะถามและชวนลูกคุย ถึงสิ่งที่สนุกสนาน กิจกรรมต่างๆ ที่ลูกทำที่โรงเรียน ชอบไหม สนุกไหม คุณครูใจดีไหม
ตบท้ายด้วยคำว่า สนุกจังเลย พรุ่งนี้มาอีกนะ...
ที่กล่าวมาก็พอมีเกล็ดเล็กๆน้อยๆบ้าง...ที่ทำให้ลูกรู้สึกได้ว่า โรงเรียนคือสถานที่ ที่มาสนุกสนานได้อีกที่นึง ที่อาจดูแตกต่างจากสวนสนุก
แต่มีสิ่งใหม่ๆ ให้ทำ ให้เล่น คนละรูปแบบกัน
ต่อมาถึงเคล็ดลับเล็กๆ ที่ทำให้ลูก ไปโรงเรียนโดยไม่ร้อง งองแง
สำหรับลูกสาวผม ตั้งแต่เธอเริ่มฟังคำพูดของเรารู้เรื่องและเธอเริ่มพูดโต้ตอบได้บ้าง ประมาณ ขวบกว่าๆ
พอเราเห็นเด็ก (เด็กเล็กและเด็กโต) ที่ใส่ชุดนักเรียนเดินผ่าน เราชี้ให้ลูกดู พร้อมกับพูดว่า ดูสิพี่ๆใส่ชุด นักเรียน สวยจังเลยนะ
และถามลูกว่า สวยมั้ย :สวย ลูกอยากใส่ชุดนักเรียนเหมือนพี่มั้ย :อยาก งี้นกินข้าวเยอะๆนะ พอโตขึ้น คุณพ่อ คุณแม่ จะพาไปโรงเรียน
อยากไปมั้ย :อยากไป ขั้นแรกปลูกฝังแบบนี้ก่อน พร้อมกับเล่าว่า ที่โรงเรียนมีอะไร น่าสนใจบ้าง
เช่น ที่โรงเรียนมี ธงชาติไทย (เด็กบางคนชอบเคารพธงชาติ)
มีเพื่อนๆเยอะเลย มีของเล่นเยอะ มีสวนสนุก มีคุณครูใจดี มี ก.ไก่ มี Abc มีคุณครูใจดี คุณครูจะสอนวาดรูป จะสอนระบายสี จะสอนเต้น จะสอนร้องเพลง
เมื่อลูกเกิดความสนใจ ก็ถามว่า อยากไปไหมล่ะโรงเรียน ลูกจะตอบว่า : อยากไป (แบบตั้งตารอคอย ว่าเมื่อไหร่จะได้ไป)
จะไปโรงเรียน ต้องหัดพูด และ ทำท่า สวัสดีคุณครูให้ได้ก่อนนะ ไม่งั้นคุณครูไม่ให้ไปโรงเรียนด้วยนะ (พยายามปลูกฝังและหัดให้พูด บ่อยๆ)
ต่อมาเด็กจะรู้สึกดีกับโรงเรียน เพราะมีความอยากไปเป็นทุนอยู่แล้ว พอได้ไปเค้าก็จะรับรู้ว่าสิ่งที่เราเล่ามามันมีจริง หมั่นถามจะทบทวนความสนุกจากที่โรงเรียนให้ลูกฟังบ่อยๆ ลูกจะไม่กลัวการไปโรงเรียน....
แนะนำคุณพ่อ คุณแม่ เวลาไปส่ง
ให้คุณลูกเป็นคนเดินพาไปห้องของเขาเอง (อย่าอุ้มไปส่งเด็ดขาด) โดยอาจจะพูดว่า ไหนพาไปซิ ลูกอยู่ห้องไหน จำได้มั้ย (ผิดมั่ง ถูกมั่ง เดี๋ยวก็ถูกเอง)
พอมาถึงห้องให้เค้าเข้าห้องไปเลย ไม่ต้องร่ำลาอาลัยมาก เปรียบเหมือนว่าพาลูกมาเล่นบ้านบอลลูน ให้เค้าเข้าไปเองแล้วกลับเลย(แอบดูนิดๆได้ แต่อย่านานเดี๋ยวลูกเห็น) ที่ว่าไม่ให้อุ้มนั้น ธรรมชาติของเด็ก พออยู่ในอ้อมอก พ่อแม่ จะรู้สึกปลอดภัย พอเราอุ้มมาแล้วมายกให้คนอื่นอุ้มต่อ หรือวางเพื่อส่งต่อให้กับคนอื่น(คุณครู) จะทำให้เด็ก รู้สึกว่ากำลังโดนแยกจาก ความอุ่นใจและปลอดภัย และต้องพรากออกจากสิ่งที่เป็นที่รัก ส่วนมากจุดนี้ เด็กจะร้อง
บางคนอาจจะร้องแล้วลืม หยุดเองได้ แต่บ้างคน เซ้นซิทีพหน่อย ก็ร้องๆ หยุดๆ กันทั้งวันเลยทีเดียว
คุณพ่อแม่ส่วนมาก ไม่ค่อยเตรียมพร้อมให้ลูก ก่อนที่จะให้ลูกเข้าเรียน พอนึกจะเอาเข้าก็เอาเข้าเลย โดยไม่ถามความสมัครใจของนู๋ซักคำ
ขอให้ คุณพ่อแม่ ทุกท่าน โชคดีนะครับ หวังว่าความคิดเห็นนี้ จะพอมีประโยชน์บ้าง นะครับ
ลูกเริ่มไปโรงเรียน (summer) ครั้งแรก ในชีวิต...ดูเธอ มีความสุขดีนะครับ (พร้อมเคล็ดลับเล็กๆ ที่ทำให้เธอไม่ร้อง)
แนะนำตัว ลูกสาว ชื่อ น้องพีญ่า อายุจะ 2.2 ขวบ วันที่ 25 นี้
เริ่มไปเรียนเตรียมอนุบาล ช่วงซัมเมอร์ ได้ประมาณ 2 อาทิตย์
วันแรกที่ไปส่ง คุณแม่ คุณพ่อ และ คุณอาม่า (ไปกันทั้งบ้าน)
วันนี้ ดูเธอตื่นเต้นดีใจมาก ลงรถ ลากกระเป๋า เดินไปห้องเรียน
พอถึงห้องเรียน ยกมือไหว้สวัสดี คุณครู แล้ว รีบเข้าไปในห้องเรียนเลย
ปล่อยให้ คุณพ่อ คุณแม่ พูดคุย สอบถามกับคุณครูอยู่หน้าห้อง โดยไม่สนใจเลย
ในขณะที่ตัวเธอ เดินสำรวจ ของเล่นภายในห้องเรียน หยิบของเล่นมาถือ และ มองดูเด็กคนอื่นๆ ที่ร้องไห้กันโยเย
วันแรกนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ต่างแอบดูลูกๆของตัวเองกันทั้งนั้น จนคุณครูต้องบอกให้ไปรอที่โรงอาหารแทน
วันนี้ วันแรก เลิกเร็วหน่อย พอคุณพ่อคุณแม่ไปรับ ดูท่าทางเธอไม่อยากกลับ เหมือนกับว่า เพิ่งมาเล่นได้แป๊บเดียวเอง
แต่ก็ต้องกลับ โดยบอกกับลูกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้พามาใหม่ พร้อมกับถามอีกครั้งว่า...พรุ่งนี้ลูกอยากมาโรงเรียนอีกไหม
พอลูกตอบว่า อยากมาอีก เราก็ชวนลูกคุยเรื่องโรงเรียน ว่า สนุกดีเน๊อะ เพื่อนเยอะดีนะ คุณครูใจดีจัง มีของเล่นเยอะเลย
พร้อมกับพาลูกเดินชมโรงเรียน นั่นไงเครื่องเล่น อยากเล่นไหม เดี๋ยววันหลังจะพามาเล่นนะ....
โอ้โห...ที่โรงเรียน มีร้านค้าด้วย มีขนมขายด้วย ลูกอยากกินอะไรคะ...วันหลังมาโรงเรียน เรียนเสร็จแล้ว จะพามาซื้ออีกนะ ชอบมั้ย...
วันต่อมา ดูเธอสนใจที่จะมาโรงเรียนอีก เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน เราถามว่าวันนี้ใครจะไปโรงเรียนอีกน๊า...เธอจะตอบว่า พีญ่า....
มีบางวันที่ ตื่นมาอยากดูการ์ตูน แล้วบอกว่า ไม่ไปโรงเรียน เราก็บอกว่า ไม่เป็นไร...อย่างงั้น ให้อาม่า ไปโรงเรียนแทน เอากระเป๋าไปให้อาม่าดีกว่า
ยังไม่ทันขาดคำ เธอรีบพูดทันทีว่า พีญ่าจะไปโรงเรียน (กลัวโดนอาม่าแย่ง)
พอไปถึง โรงเรียน เธอก็ลากกระเป๋า เข้าห้องเรียน เป็นแบบนี้ทุกวัน ดูเธอมีความสุขดี
วันต่อๆมาเริ่มมีเพื่อน เริ่มสนใจของเล่นใหม่ๆและเพื่อนคนอื่นๆ มีวันนึง คุณครูเล่าให้ฟังว่า ลูกสาว ถามเพื่อนๆที่ร้องไห้ไม่ยอมหยุดว่า ร้องทำไม...ไม่ร้องนะ
คงสงสัยว่าเค้าร้องกันทำไม เรื่องนี้เราก็คุยกับลูกว่า วันนี้ พีญ่าร้องไห้แบบเพื่อนรึเปล่า ลูกตอบ:ไม่ร้อง เราชมว่าเก่งจังเลย
และถามลูกอีกว่า แล้วเพื่อนละร้องมั้ย ลูกตอบว่า: ร้อง เราเลยบอกลูกว่า พีญ่าเก่งกว่าเน๊าะ พีญ่าไม่ร้อง...(ลูกสาวพยักหน้า พอใจ)
และทุกๆวันที่เราไปส่งลูกจะบอกกับลูกว่า มาโรงเรียนสนุกกับเพื่อนๆและคุณครู กินข้าว นอนหลับ พอตื่นมา คุณพ่อ คุณแม่ จะมารับ
หรือ พอเลิกเรียนแล้ว คุณครูจะโทรบอก ให้คุณพ่อ คุณแม่ มารับ
และทุกๆวัน เราจะถามและชวนลูกคุย ถึงสิ่งที่สนุกสนาน กิจกรรมต่างๆ ที่ลูกทำที่โรงเรียน ชอบไหม สนุกไหม คุณครูใจดีไหม
ตบท้ายด้วยคำว่า สนุกจังเลย พรุ่งนี้มาอีกนะ...
ที่กล่าวมาก็พอมีเกล็ดเล็กๆน้อยๆบ้าง...ที่ทำให้ลูกรู้สึกได้ว่า โรงเรียนคือสถานที่ ที่มาสนุกสนานได้อีกที่นึง ที่อาจดูแตกต่างจากสวนสนุก
แต่มีสิ่งใหม่ๆ ให้ทำ ให้เล่น คนละรูปแบบกัน
ต่อมาถึงเคล็ดลับเล็กๆ ที่ทำให้ลูก ไปโรงเรียนโดยไม่ร้อง งองแง
สำหรับลูกสาวผม ตั้งแต่เธอเริ่มฟังคำพูดของเรารู้เรื่องและเธอเริ่มพูดโต้ตอบได้บ้าง ประมาณ ขวบกว่าๆ
พอเราเห็นเด็ก (เด็กเล็กและเด็กโต) ที่ใส่ชุดนักเรียนเดินผ่าน เราชี้ให้ลูกดู พร้อมกับพูดว่า ดูสิพี่ๆใส่ชุด นักเรียน สวยจังเลยนะ
และถามลูกว่า สวยมั้ย :สวย ลูกอยากใส่ชุดนักเรียนเหมือนพี่มั้ย :อยาก งี้นกินข้าวเยอะๆนะ พอโตขึ้น คุณพ่อ คุณแม่ จะพาไปโรงเรียน
อยากไปมั้ย :อยากไป ขั้นแรกปลูกฝังแบบนี้ก่อน พร้อมกับเล่าว่า ที่โรงเรียนมีอะไร น่าสนใจบ้าง
เช่น ที่โรงเรียนมี ธงชาติไทย (เด็กบางคนชอบเคารพธงชาติ)
มีเพื่อนๆเยอะเลย มีของเล่นเยอะ มีสวนสนุก มีคุณครูใจดี มี ก.ไก่ มี Abc มีคุณครูใจดี คุณครูจะสอนวาดรูป จะสอนระบายสี จะสอนเต้น จะสอนร้องเพลง
เมื่อลูกเกิดความสนใจ ก็ถามว่า อยากไปไหมล่ะโรงเรียน ลูกจะตอบว่า : อยากไป (แบบตั้งตารอคอย ว่าเมื่อไหร่จะได้ไป)
จะไปโรงเรียน ต้องหัดพูด และ ทำท่า สวัสดีคุณครูให้ได้ก่อนนะ ไม่งั้นคุณครูไม่ให้ไปโรงเรียนด้วยนะ (พยายามปลูกฝังและหัดให้พูด บ่อยๆ)
ต่อมาเด็กจะรู้สึกดีกับโรงเรียน เพราะมีความอยากไปเป็นทุนอยู่แล้ว พอได้ไปเค้าก็จะรับรู้ว่าสิ่งที่เราเล่ามามันมีจริง หมั่นถามจะทบทวนความสนุกจากที่โรงเรียนให้ลูกฟังบ่อยๆ ลูกจะไม่กลัวการไปโรงเรียน....
แนะนำคุณพ่อ คุณแม่ เวลาไปส่ง
ให้คุณลูกเป็นคนเดินพาไปห้องของเขาเอง (อย่าอุ้มไปส่งเด็ดขาด) โดยอาจจะพูดว่า ไหนพาไปซิ ลูกอยู่ห้องไหน จำได้มั้ย (ผิดมั่ง ถูกมั่ง เดี๋ยวก็ถูกเอง)
พอมาถึงห้องให้เค้าเข้าห้องไปเลย ไม่ต้องร่ำลาอาลัยมาก เปรียบเหมือนว่าพาลูกมาเล่นบ้านบอลลูน ให้เค้าเข้าไปเองแล้วกลับเลย(แอบดูนิดๆได้ แต่อย่านานเดี๋ยวลูกเห็น) ที่ว่าไม่ให้อุ้มนั้น ธรรมชาติของเด็ก พออยู่ในอ้อมอก พ่อแม่ จะรู้สึกปลอดภัย พอเราอุ้มมาแล้วมายกให้คนอื่นอุ้มต่อ หรือวางเพื่อส่งต่อให้กับคนอื่น(คุณครู) จะทำให้เด็ก รู้สึกว่ากำลังโดนแยกจาก ความอุ่นใจและปลอดภัย และต้องพรากออกจากสิ่งที่เป็นที่รัก ส่วนมากจุดนี้ เด็กจะร้อง
บางคนอาจจะร้องแล้วลืม หยุดเองได้ แต่บ้างคน เซ้นซิทีพหน่อย ก็ร้องๆ หยุดๆ กันทั้งวันเลยทีเดียว
คุณพ่อแม่ส่วนมาก ไม่ค่อยเตรียมพร้อมให้ลูก ก่อนที่จะให้ลูกเข้าเรียน พอนึกจะเอาเข้าก็เอาเข้าเลย โดยไม่ถามความสมัครใจของนู๋ซักคำ
ขอให้ คุณพ่อแม่ ทุกท่าน โชคดีนะครับ หวังว่าความคิดเห็นนี้ จะพอมีประโยชน์บ้าง นะครับ