พลิกชีวิต จากมนุษย์เงินเดือนสู่เจ้าของกิจการ ขอบคุณข้อมูลความรู้จากพันทิพด้วยครับ

ก่อนอื่นครับ ขอออกตัวว่า ผมไม่ได้จะขายสินค้าที่ผมขายอยู่แต่อย่างใด ผมอยากเล่าเรื่องของผม หลังจากอ่านเรื่องของเจ้าของกิจการในพันทิพมาตลอด
ขอบอกว่าเป็นแรงบันดาลใจที่ดี และผมอยากขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆที่ตอบกระทู้ ให้ความรู้จนผมมาถึง และหวังว่าเรื่องของผมจะมีประโยชน์กับคนที่อยากเปลี่ยนชีวิตหรือกำลังหาจุดเปลี่ยอยู่ไม่มากก็น้อยครับ
เริ่มเลยดีกว่า......................ต้องขอเล่าแบคกราวตัวเองเล็กน้อย เพื่อความเข้าใจเนื้อเรื่อง
ผมเรียนจบและเริ่มทำงานเป็นเซลล์ส่งออกสินค้าทะเลแปรรูป ณ โรงงานแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานลูกค้า ขายของให้ได้เยอะๆตามเป้า(จริงๆก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง) ลูกค้ามาก็ต้องพาไปเลี้ยงต่างๆนานๆ ทำให้ผมมีโอกาสได้สนิทและคุ้นเคยกับลูกค้าพอสมควรเลย และนั่นเป็นที่มาของซัพพลายเออร์และสินค้าของผมครับ
ชีวิตการทำงานของผมถือว่าโอเคมากๆกับงานประจำที่เคยทำ เงินเดือนเริ่มต้นทำงานหมื่นต้นๆผมใช้เวลาไม่เกิน 3ปี เงินเดือนจากหนึ่งหมื่นบาทเพิ่มขึ้นมาเป็น 3หมื่น เจ้านายใจดีและเป็นคนดีมาก มากถึงมากที่สุดในโลก
ปีแรกผมทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่ลา ไม่หยุด กลับบ้านช้า ทำทุกอย่างเพื่อบริษัท
ระหว่างทำงานมีโอกาสได้ไปเยี่ยมลูกค้าต่างประเทศบ้าง ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนก็ไปปีละ 3-4ครั้ง เอาไกลๆอย่างยุโรปก็ได้มาหนึ่งทริป+ออส&นิว อีกทริป ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไปมาครบ ซึ่งมันอาจเป็นงานในฝันของหลายๆคน
ทุกอย่างเหมือนจะดี แต่ความคิดผมนี่แหละที่ไม่ดี
หลังจากทำงานมาเกือบ 4ปี ผมเริ่มขี้เกียจทำงาน6วัน และคิดว่าน่าจะเอาความบ้างพลังในการทำงานมาใช้กับตัวเองน่าจะดีกว่า
เริ่มมีความคิดเป็นพิษและต่อต้านต่อองกรมาขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่ผมเป็นคนขวางโลก เอาแต่ใจ เชื่อมันในตัวเอง เช่น
-ทำงานมนุษย์เงินเดือนไปก็ไม่รวยซักที ถึงขนาดถามเงินเดือนจีเอ็ม(แล้วคิดต่อว่ายังไงๆ กรูคงไม่ได้ไปถึงตำแหน่งนั้นแน่ๆ คงไม่ได้เงินเดือนสูงขนาดนั้นแน่ๆ) และเงินจีเอ็มก็ไม่ได้สูงมากเท่าที่ผมอยากได้ ผมคำนวนดูคร่าวๆอีก 10ปีผมยังไม่มีเงินดาวบ้านเลย
-ผมไม่เชื่อว่าประสิทธิภาพในการทำงานขึ้นอยู่กับเวลาในการทำงาน(ตอนนั้นต่อต้านการทำงาน6วันมาก วันเสาร์มานั่งเฉยๆจะให้มาทำไม) ด้วยความที่ผมเป็นคนทำงานเร็ว ทำแล้วต้องทำให้เสร็จทันใจตัวเองไม่ต้องมีใครมาบังคับ ผมถามตัวเองว่า งานหนึ่งงาน ถ้าผมทำเสร็จใน2ชมแล้วนั่งว่างๆ กับอีกคนที่นั่งเตะถ่วงทำไปเรื่อยๆจนเลยเวลาเลิกงาน แปลว่าคนที่2ขยันกว่าผมหรอ แต่ผมก็เข้าใจว่าทางบริษัทไม่รู้จะวัดความขยันหรือประสิธิภาพกันยังไง เลยต้องใช้เวลาในการทำงานมากำหนด
- ผมทะเยอทะยาน รอเลื่อนตำแหน่งไม่ได้ ด้วยความที่ผมยังไม่เกิน30 จะโปรโมทเป็นระดับสูงๆก็ดูเร็วไปหน่อย และในฝ่ายผม มีอีกแค่2ตำแหน่งที่จะขยับไปได้ คือผู้ช่วยผจก และ ผจก
- ผมอยากทำงานกับคนเก่งๆบ้าง ผมเบื่อการเทรนคน เพื่อนร่วมงานที่ทำงานกันมาจนเข้าขารู้ใจ ก็ลาออก โดนบริษัทอื่นซ้อตัวด้วยเงินเดือนที่สูงกว่า
เปรียบเทียบง่าย ถ้าคุณเล่นฟุตบอล คุณย่อมอยากเล่นกับคนเก่ง เพื่อพัฒนาตัวเอง และเล่นบอลอย่างเมามัน ไม่ใช่ต้องมาเล่นกับเยาวชนใหม่ๆตลอดเวลา พอเยาวชนเริ่มเก่ง ก็โดนซื้อตัวไปอีก ผมเลยคิดว่า พอกันทีกับวงจรแบบนี้
โอ้ววววแนะนำยาวไป หยุดไว้เท่านี้ดีกว่า จากนั้น ผมเลยตัดสินใจยื่นใบลาออก ด้วยเหตผลข้างต้น และมานอนอยู่บ้านเฉยๆ ใช้เงินเก็บไม่กี่หมื่น โดยไม่มีงานทำ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แค่อยู่เฉยๆ เที่ยวเล่นไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่