*LIFE CHANGING* ชีวิตเปลี่ยนหลังมาอยู่เมกา

เรามาอยู่ที่อเมริกา รัฐ NY ได้ประมาณเกือบ 6 ปีแล้ว มาตั้งแต่ตอนอยู่ ม. 3 มาเริ่ม HS ที่นี้

ตอนอยู่ที่ไทย ที่บ้านฐานะถือว่าดีพอสมควร
ผู้ปกครองให้เงินใช้เดือนละ 6000 บาท บ้านและโรงเรียนเราไกลกันมาก ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมง บางครั้งก็ชั่วโมงกว่า
งานบ้านไม่เคยต้องทำเอง อาจจะมีซักผ้าบ้างนานๆที แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องทำอะไร
เราเป็นคนที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก มี 6000 ใช้หมดทุกเดือนไม่มีเก็บ
ไปโรงเรียนมีคนไปส่งทุกเช้า แต่หลังเลิกเรียนต้องเราต้องกลับเอง รถบัสรถตู้เราไม่ขึ้นเพราะมันต้องต่อหลายต่อ ส่วนใหญ่เลยขึ้น Taxi
หลังเลิกเรียนเกือบทุกวันเราจะไปห้าง ไปกินนู้นกินนี้ หรือว่าดูหนังกับเพื่อน บางทีก็นั่งเล่นกับเพื่อนจนถึง 5-6 โมงเย็น
เสื้อผงเสื้อผ้านี้ก็ซื้อใหม่ตลอด ไปห้างที่ไรช๊อปกระจายทุกที่  
เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือมากก โดยเฉพาะนิยาย เข้าร้านหนังสือแต่ละที หมดเป็นพัน
วันๆไม่ค่อยทำอะไรที่มีสาระสักเท่าไร (รู้สึกเสียดายเวลาตอนนั้นมาก)
แน่นอนว่าพ่อแม่เราต้องมีบ่นบาง เราก็ฟังแต่ก็ไม่ได้อะไร  ก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิม
ดีหน่อยที่ว่าเราเป็นคนเรียนดีอยู่แล้ว พ่อแม่เลยไม่ค่อยกังวลเรื่องเรียน

จนกระทั่งเราต้องย้ายมาอยู่ที่เมกา อยู่ที่นี้เราต้องช่วยที่บ้านทำงานเพราะถึงแม้เราค่อยข้างจะมีฐานะที่ไทย
พอมาอยู่นี้ฐานะเราก็ต้องน้อยกว่าเดิม เพราะข้าวของที่นี้ก็แพงกว่าเมืองไทยเยอะ
จากเงินเดือนละ 6000 เป็น 0 เราไม่ได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนสักเหรียญ ที่นี้ทุกอย่างฟรีหมด ค่ารถ หรือ อาหารกลางวัน
ไปโรงเรียนตอนเช้า เลิกเรียนต้องกลับบ้านมาช่วยงานที่ร้านอาหารจนสามทุ่มทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์และเสาร์ที่ช่วยเต็มวัน
จากที่เที่ยวทุกวันเป็นไม่ได้เที่ยว เพื่อนนี้แทบไม่คบ เรียนก็คือเรียน ทำกิจกรรมเสร็จ (เราอยู่ใน choir) ก็ตรงกลับร้าน
สักพักผู้ปกครองเราก็ให้เป็นอาทิตย์ละ 100 เหรียญสำหรับช่วยงานที่ร้าน
ที่ช่วยนี้ไม่ใช้แค่ช่วยนั้งเฉยๆนะคะ แพ็คของรับโทรศัพท์ รับลูกค้า ช่วยในครัว ทำหมด
บางครั้งต้องไปช่วยส่งของให้ลูกค้า ตอนนั้นพึ่งอายุแค่ 14 เราต้องช่วยทำงานแล้วก็เรียน การบ้านเราก็นั่งทำในร้านตอนที่ร้านไม่ค่อยยุ่ง
แรกๆก็ยังใช้เงินฟุ่มเฟือยอยู่บ้าง เริ่มมีเงินก็เริ่มซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้า(NIKE คู่เป็น $100กว่า10คู่) ซื้อโทรศัพท์ smart phone
ที่ดีขึ้นหน่อยคือมันเป็นเงินเก็บของเราเอง เมื่อก่อนตอนอยู่ไทยอยากโทรศัพท์หรือคอมก็แค่ขอแล้วก็ได้ ตอนนี้ต้องทำงานเก็บเงินเอง
ซื้อผ้าเราแทบไม่ซื้อ โทรศัพท์กว่าจะเปลี่ยนนี้ต้องรอให้เจ๊งหรือว่า contract หมดเพราะราคามันจะถูกกว่า ค่าโทรศัพท์ก็ต้องจ่ายเอง
จำได้ว่าเงินเก็บหมดไปกับการซื้อ Macbook pro สำหรับมหาลัย จากนั้นก็ต้องเริ่มเก็บเงินใหม่
อยู่ที่นี้ไม่มีคนคอยทำอะไรให้เราแล้ว ซักผ้าก็ต้องซักเอง(ซักเครื่อง) ทำความสะอาด ล้างจาน

ตอนนี้เรามาอยู่ที่มหาลัยซึ่งห่างไกลจากบ้านมากๆ งานที่ร้านก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่คุ้มค่ารถบัสกลับมาบ้าน
ผู้ปกครองเราจึงเปลี่ยนว่าให้มาทำงานเต็มตัวแค่ตอน Breaks หรือ Summer
แต่ก่อนเราเป็นแค่ผู้ช่วยของพี่ๆที่ทำงานในร้าน ตอนนี้ต้องทำเองแถมไม่มีผู้ช่วยอีกตั้งหาก
ก็เป็นว่าได้เงินเมื่อทำงานเท่านั้น ก็ประมาณวันละ $100 อาจดูเหมือนเยอะ แต่ยืนทั้งวัน เต็มวัน จากร้านปิดถึงเปิด มาลองดูแล้วคุณจะรู้
แน่นอนร้านอาหาร ย่อมมีลูกค้าที่ดีและไม่ดี ไอ้ดีก็ดีไป แต่ไอ้ที่ไม่ดีนี้ชวนปวดเฮดมากๆ อยากจะเอาระเบิดปา
ตอนแรกๆภาษาไม่ค่อยแข็งเลยเถียงกลับไม่ค่อยได้ ตอนนี้ภาษาแน่น ถ้าเราไม่ผิดอย่างหวังว่าจะได้
ลูกค้าบางคนนี้หาเรื่องกินฟรีได้น่าไม่อายมากๆ กินไปแล้วเกือบครึ่งบอกฉันไม่ได้สักอันนี้ เธอเอามาผิด ค่ะผิดค่ะ แล้วกินไปทำไหมคะ?

จบๆเรื่องลูกค้า

เพราะว่าไม่ค่อยได้มีเวลาทำงานช่วง breaks หรือวันหยุด (แต่ละทีก็ แค่อาทิตย์หนึ่ง ถ้า winter break ก็เดือนหนี่ง)
เราก็ต้องทำงานแล้วเก็บออมเงินไว้ใช้ระหว่างอยู่มหาลัย
เงินนี้แทบไม่แตะเพราะอยู่มหาลัย 3 เดือน เราต้องใช้ให้พอ
เราไม่ได้ทำงานที่มหาลัย เนื่องจากเราเป็นเด็กกิจกรรมตัวแม่คนหนึ่ง อยู่ใน fraternity, hall government, แล้วก็คลับต่างๆ
วันหยุดของเราคือการไปทำอาสาสมัคร วันธรรมดาก็มีมีทติ้งเกือบทุกวัน เวลาว่างก็แทบไม่ไปไหน นอนเล่นอยู่ในหอ


ตอน Summer ได้มีโอกาสกลับไปที่ไทยเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาที่เมกา
มันเป็นอะไรที่เราเห็นได้ชัดมากว่า เราเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
จากที่นั่งแต่ taxi เปลี่ยนมาเป็นรถบัสหรือรถตู้เปลี่ยนหลายต่อหน่อยแต่ราคาถูกกว่ามาก แถมถึงในเวลาที่พร้อมกันอีก
โดยเฉพาะรถไฟฟ้านี้ของโปรดเลย
จะซื้อของแต่ละทีที่เมืองไทยต้องใช้เครื่องคิดเลขบนมือถือ convert ค่าเงิน เพื่อเทียบราคากับเงินดอล
เราไม่เคยคิดที่จะซื้อของแบรนเนม หรืออะไรที่เป็นกระแสในเมืองไทยเราไม่สน เพราะเราคิดว่าแฟชั่นผู้หญิงเปลี่ยนตลอดเวลา
วันนี้อันนี้ฮิต อีกหน่อยก็เอาท์ เสื้อผ้าซื้อแต่ถูกๆ 199 บาท หรือ 100 ตามจตุจัตร พอมันเอาท์ก็ทิ้งได้
เพื่อนเราที่เมกานี้จะอิจฉาเราตลอด ชอบบอกว่าเราแต่งตัวดี เสื้อผ้าสวย พอเราบอกราคาเท่านั้นแหละ ตาโตกันเชียว
เสื้อผ้า หรือกระเป๋าเรา ไม่มีทางเกิน $30  (ถ้าซื้อเอง) จนเพื่อนต้องมาขอคำแนะนำว่าควรซื้อที่ไหน ฮ่าๆๆ
อาหาร จากทำไม่เคยเป็นสักอย่าง ตอนนี้ อาหารคาวอาหารหวานนี้ทำกินเองได้ ไม่ต้องซื้อกิน
เพื่อนเราที่ไทยหลายคนตกใจมากที่เห็นเราเปลี่ยนไปขนาดนี้
เพื่อนผู้ปกครองเรานี้ปลื้มมาก เราสามารถนั่งคุยกับผู้ใหญ่ได้ทุกเรื่อง
เขาจะบอกว่าเราดูเป็นผู้ใหญ่มาก พูดจามีความคิด ไม่ได้ไร้สาระไปวันๆเหมือนเด็กไทยสมัยนี้ ที่วันๆเอาแต่แต่งหน้าแต่งตัว

5 ปีกว่าในเมกา ทำให้เด็กคนหนึ่งกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และอดทน สอนให้เรารู้จักสู้ชีวิต รู้จักให้ และมองสิ่งต่างๆในมุมที่เปลี่ยนไป
อยากให้ทุกคนเห็นว่า การมาอยู่ต่างประเทศไม่ใช่อะไรที่ง่าย หรือ สบายๆ  ถ้าคุณไม่มีความอดทนและขยันมากพอคุณจะไม่สามารถอยู่ที่นี้ได้
ถ้าอยากจะสบายก็อยู่ที่ไทยเถอะ

ยาวไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่