ไม่มีอะไรที่ได้มาแล้วไม่เสียไป สุริยาวดีรู้สัจธรรมนี้ดีกว่าใคร เพราะเธอเคยเสียมันมาแล้ว เสียหัวใจรักของตัวเองเพื่อแลกกับบางสิ่งบางอย่างที่เธอจัดลำดับแล้วว่าสำคัญมากกว่าตัวเอง เธอคิดว่าเธอรับได้ เธอคิดว่าเธอมีความสุขตามอัตภาพกับสิ่งนี้ที่เลือกแล้ว แต่เบื้องลึกในหัวใจที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครฟังแม้กระทั่งคนในครอบครัวก็รู้ดีว่า มีความหลังที่มีแต่เธอที่รู้มีแต่เธอเก็บมันไว้เสมอมาไม่เคยลืม รูปถ่าย ดอกไม้ และ แหวนวงน้อยที่ด้อยราคาค่างวด หากเปี่ยมด้วยความหมายให้ระลึกถึง อดีตที่ปากบอกว่าก้าวข้ามผ่านแต่กลับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเสมอมาและคงจะตลอดไป
หากสุริยาวดีก็ไม่ใช่คนที่ไม่ยอมรับความจริง เธอรู้ว่าโอกาสของเธอคงจะหมดลงไปตั้งแต่หันจาก "เขา" มา แต่ว่าเธอก็ผิดใช่ไหมล่ะ ที่ไม่เคยให้คำอธิบายใดๆ ไม่ได้ดูแลหัวใจและความรักที่เขามอบให้อย่างที่เคยบอกไว้ ณ ครั้งอดีตยังดี นับแต่บัดนี้เธอคงเป็นเพียงผู้หญิงที่เห็นแก่เงินคนหนึ่ง ขายตัวเอง ขายศักดิ์ศรีเพื่อความสุขสบาย แต่ "ท่าน" ก็จุดประกายให้เห็น ให้วดีได้ตระหนักว่า หากเธอคิดดี ทำดี ใช้ความอดทนเข้าแลกและพิสูจน์ เนื้อแท้ในใจของเธอก็ต้องมีคนที่เห็นและเข้าใจเข้าสักวัน แต่อาจจะนานมากน้อยไม่เท่ากัน "เรา" คงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ "เรา" ก็จะไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน ในเมื่อ "กฎ" ที่ท่านบอกใช้ได้ผลกับ "ท่าน" และ "คุณเอื้อ" แล้วเหตุใดมันจะใช้ไม่ได้ผล "เขา" คนนั้นด้วย อย่างน้อยให้โอกาสเขาได้เป็นคนปล่อยมือหันหลังลาจากเราไปก็ยังดี จะได้นับว่า "หนี้" ได้ใช้ให้หมดสิ้นต่อกัน
ผิดแต่ว่าเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน
ซึ่ง "เธอ" หยั่งไม่ถึงว่า "เขา" เปลี่ยนไปแค่ไหน
เธอรู้ว่าเขาเจ็บแต่ก็ไม่นึกว่าความเจ็บในครั้งนั้น
จะยั่งรากลึกในใจของเขาขนาดนี้
เบื้องหน้าเธอมองเห็นสถานการณ์ไม่สงบ แต่ในความไม่สงบเธอมองเขาในลักษณะเด็กชายช่างพาลคนหนึ่ง ตีโพยตีพาย ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก็สมควรที่เขาจะต้องโกรธ ก็สมควรที่เขาจะพาลใส่ เมื่อเธอทำเขาไว้ขนาดนั้นนี่นะ อธิบายอะไรไปคงสูญเปล่า เธอจึงเลือกรับมือด้วยความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ยึดคำสอนของท่านเป็นที่ตั้ง งานไม่ให้เสีย อดทน อดกลั้น พิสูจน์ตัวเอง การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด ตั้งการ์ดเอาไว้เสมอ ถ้ารักษาระยะห่างไว้ได้ ทำอย่างที่เคยทำ เป็นอย่างที่เคยเป็น มันคงได้ผลก็เมื่อมันเคยได้ผลกับคนอื่นมาแล้วเรื่องหนักหนากว่านี้มากมาย ขนาด "แต่งงานใช้หนี้" คนอื่นที่เคยรังเกียจอย่างคุณเอื้อ ยังเข้าใจได้ เขมชาติก็ไม่น่าจะเป็นข้อยกเว้น
แต่เธอผิด ในคำพูดนิ่งสงบไม่กี่คำ ... เพื่อจะอธิบายว่าเหตุใดเธอทำเรื่องที่เขาไม่ชอบ เธอเลือกที่จะอธิบายความจริง ความจริงที่แตะจุดเจ็บที่ลึกที่สุดจนทำให้เขาคลั่งถึงขนาดก่อสงครามชนิดไร้ความปราณี ไม่เหลือที่ไว้ให้แม้กระทั่งตัวเอง เรียกว่าแผนครั้งนี้ถ้าพลาดขึ้นมาคนที่ตายก่อนคือเขมชาติ จะเลือดเย็นก็ต้องให้ถึงขนาด เขมชาติหุบปีกหุบหางซ่อนกรงเล็บ ขุดอดีตที่เป็นจุดอ่อนของเธอเข้ามาต่อรอง เอาหน้ากากอันเข้าอกเข้าใจแห่งการให้อภัยเข้ามาบังหน้า ทำเอาเธอคิดดีใจไปว่าได้ผลแล้วสินะ สิ่งที่ทำมาทั้งหมด .. ในที่สุดก็เป็นเหมือนที่ท่านเจ้าสัวว่า กำแพงของเขาสิ้นไป กำแพงใจของเธอก็พังทลาย
ถึงเวลาที่จะยินดีกับเขาจริง ๆ แล้วล่ะ เขามีคุณเกนอยู่ข้าง ๆ และ บอกอยู่เสมอว่าไม่สนเธอ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าล็อค เข้าล็อค ... เกินไป อดีตในใจงอกงามโดยไม่รู้ตัว พ่อกับแม่บอกว่าเธอควรจะหาความสุขให้ชีวิตบ้าง บนนิ้วเธอควรจะมีแหวนแต่งงานจากคนที่เธอรักและรักเธอ เธอรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร แต่เขาก็ไม่มีวันหันกลับมาแล้ว เธอควรจะจากไป และ เตรียมพร้อมจะจากไปนานแล้ว แต่ทุกครั้งมันต้องมีสถานการณ์อะไรที่ทำให้เธอต้อง "อยู่" เสมอ ก็ทำไมล่ะ เขาก็ให้อภัยเธอแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็แสนดี มันคงไม่มีอะไร แต่สุดท้ายมันก็มี
ถึงความทุกข์จะสอนให้เธอรู้จักชีวิต แต่คนเราก็มีจุดอ่อน หากจุดอ่อนของเขมชาติคือสุริยาวดี จุดอ่อนของสุริยาวดีในทางกลับกันก็คือเขมชาติ ในความนิ่งและเฉยนั้น เธอพยายามทุกวิถีทางไม่ให้เขมชาติต้องเจ็บและทุกข์ร้อนแต่บางทีมันได้ผลตรงกันข้าม ในความนิ่งความเฉยเมื่อเห็นเขาเจ็บ ทุกครั้งเช่นกันที่เธอจะต้องกลับมาน้ำตาคลอ แต่ใครเลยจะรู้เมื่อเธอเก็บงำทุกอย่างไว้อย่างเงียบงัน เลือกอยู่ความเจ็บและชินไปเอง เลือกเพื่อคนอื่นเหมือนที่เลือกมาแล้วในอดีต
ดังนั้นในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะต้องจากกันไป มันผิดใช่ ... เธอรู้ ถึงอย่างไรก็ตัดสินใจแล้วว่าจะลาออก เวลาก็งวดเข้ามาทุกที อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจจริงที่พอจะทำให้ได้ ก็ทำเสียตั้งแต่วันนี้ ก่อนจะลาจากกันตลอดกาล "สุขสันต์วันเกิดค่ะ" คำนี้คำเดียว เธอรู้ว่ามันมีความหมายต่อเขาเธอก็ไม่ลังเลที่จะให้ เขาดีใจเธอรู้ มันก็เป็นความสุขเล็ก ๆ ของเธอเช่นกัน แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ คือ เขาต้องการมากกว่านั้น และ เลือดเย็นมากกว่าที่เธอคิด
เพียงเสี้ยววินาทีที่เธอลดความระวังตัวลง ... มันอาจกลายเป็นจุดจบในทันที
เพียงแค่เสี้ยววินาที ... เธออาจต้องจ่ายราคาค่าควรเมือง
มันจะเป็นอย่างไรต่อไป ... น่าติดตามด้วยความระทึกในฤทัยพลัน !!
อย่าลืมฉัน(กึ่งรีวิว)ภาคพิเศษ : Once she let her guard down ...
หากสุริยาวดีก็ไม่ใช่คนที่ไม่ยอมรับความจริง เธอรู้ว่าโอกาสของเธอคงจะหมดลงไปตั้งแต่หันจาก "เขา" มา แต่ว่าเธอก็ผิดใช่ไหมล่ะ ที่ไม่เคยให้คำอธิบายใดๆ ไม่ได้ดูแลหัวใจและความรักที่เขามอบให้อย่างที่เคยบอกไว้ ณ ครั้งอดีตยังดี นับแต่บัดนี้เธอคงเป็นเพียงผู้หญิงที่เห็นแก่เงินคนหนึ่ง ขายตัวเอง ขายศักดิ์ศรีเพื่อความสุขสบาย แต่ "ท่าน" ก็จุดประกายให้เห็น ให้วดีได้ตระหนักว่า หากเธอคิดดี ทำดี ใช้ความอดทนเข้าแลกและพิสูจน์ เนื้อแท้ในใจของเธอก็ต้องมีคนที่เห็นและเข้าใจเข้าสักวัน แต่อาจจะนานมากน้อยไม่เท่ากัน "เรา" คงไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ "เรา" ก็จะไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน ในเมื่อ "กฎ" ที่ท่านบอกใช้ได้ผลกับ "ท่าน" และ "คุณเอื้อ" แล้วเหตุใดมันจะใช้ไม่ได้ผล "เขา" คนนั้นด้วย อย่างน้อยให้โอกาสเขาได้เป็นคนปล่อยมือหันหลังลาจากเราไปก็ยังดี จะได้นับว่า "หนี้" ได้ใช้ให้หมดสิ้นต่อกัน
ซึ่ง "เธอ" หยั่งไม่ถึงว่า "เขา" เปลี่ยนไปแค่ไหน
เธอรู้ว่าเขาเจ็บแต่ก็ไม่นึกว่าความเจ็บในครั้งนั้น
จะยั่งรากลึกในใจของเขาขนาดนี้
เบื้องหน้าเธอมองเห็นสถานการณ์ไม่สงบ แต่ในความไม่สงบเธอมองเขาในลักษณะเด็กชายช่างพาลคนหนึ่ง ตีโพยตีพาย ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก็สมควรที่เขาจะต้องโกรธ ก็สมควรที่เขาจะพาลใส่ เมื่อเธอทำเขาไว้ขนาดนั้นนี่นะ อธิบายอะไรไปคงสูญเปล่า เธอจึงเลือกรับมือด้วยความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ยึดคำสอนของท่านเป็นที่ตั้ง งานไม่ให้เสีย อดทน อดกลั้น พิสูจน์ตัวเอง การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด ตั้งการ์ดเอาไว้เสมอ ถ้ารักษาระยะห่างไว้ได้ ทำอย่างที่เคยทำ เป็นอย่างที่เคยเป็น มันคงได้ผลก็เมื่อมันเคยได้ผลกับคนอื่นมาแล้วเรื่องหนักหนากว่านี้มากมาย ขนาด "แต่งงานใช้หนี้" คนอื่นที่เคยรังเกียจอย่างคุณเอื้อ ยังเข้าใจได้ เขมชาติก็ไม่น่าจะเป็นข้อยกเว้น
แต่เธอผิด ในคำพูดนิ่งสงบไม่กี่คำ ... เพื่อจะอธิบายว่าเหตุใดเธอทำเรื่องที่เขาไม่ชอบ เธอเลือกที่จะอธิบายความจริง ความจริงที่แตะจุดเจ็บที่ลึกที่สุดจนทำให้เขาคลั่งถึงขนาดก่อสงครามชนิดไร้ความปราณี ไม่เหลือที่ไว้ให้แม้กระทั่งตัวเอง เรียกว่าแผนครั้งนี้ถ้าพลาดขึ้นมาคนที่ตายก่อนคือเขมชาติ จะเลือดเย็นก็ต้องให้ถึงขนาด เขมชาติหุบปีกหุบหางซ่อนกรงเล็บ ขุดอดีตที่เป็นจุดอ่อนของเธอเข้ามาต่อรอง เอาหน้ากากอันเข้าอกเข้าใจแห่งการให้อภัยเข้ามาบังหน้า ทำเอาเธอคิดดีใจไปว่าได้ผลแล้วสินะ สิ่งที่ทำมาทั้งหมด .. ในที่สุดก็เป็นเหมือนที่ท่านเจ้าสัวว่า กำแพงของเขาสิ้นไป กำแพงใจของเธอก็พังทลาย
ถึงเวลาที่จะยินดีกับเขาจริง ๆ แล้วล่ะ เขามีคุณเกนอยู่ข้าง ๆ และ บอกอยู่เสมอว่าไม่สนเธอ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าล็อค เข้าล็อค ... เกินไป อดีตในใจงอกงามโดยไม่รู้ตัว พ่อกับแม่บอกว่าเธอควรจะหาความสุขให้ชีวิตบ้าง บนนิ้วเธอควรจะมีแหวนแต่งงานจากคนที่เธอรักและรักเธอ เธอรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร แต่เขาก็ไม่มีวันหันกลับมาแล้ว เธอควรจะจากไป และ เตรียมพร้อมจะจากไปนานแล้ว แต่ทุกครั้งมันต้องมีสถานการณ์อะไรที่ทำให้เธอต้อง "อยู่" เสมอ ก็ทำไมล่ะ เขาก็ให้อภัยเธอแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็แสนดี มันคงไม่มีอะไร แต่สุดท้ายมันก็มี
ถึงความทุกข์จะสอนให้เธอรู้จักชีวิต แต่คนเราก็มีจุดอ่อน หากจุดอ่อนของเขมชาติคือสุริยาวดี จุดอ่อนของสุริยาวดีในทางกลับกันก็คือเขมชาติ ในความนิ่งและเฉยนั้น เธอพยายามทุกวิถีทางไม่ให้เขมชาติต้องเจ็บและทุกข์ร้อนแต่บางทีมันได้ผลตรงกันข้าม ในความนิ่งความเฉยเมื่อเห็นเขาเจ็บ ทุกครั้งเช่นกันที่เธอจะต้องกลับมาน้ำตาคลอ แต่ใครเลยจะรู้เมื่อเธอเก็บงำทุกอย่างไว้อย่างเงียบงัน เลือกอยู่ความเจ็บและชินไปเอง เลือกเพื่อคนอื่นเหมือนที่เลือกมาแล้วในอดีต
ดังนั้นในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะต้องจากกันไป มันผิดใช่ ... เธอรู้ ถึงอย่างไรก็ตัดสินใจแล้วว่าจะลาออก เวลาก็งวดเข้ามาทุกที อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจจริงที่พอจะทำให้ได้ ก็ทำเสียตั้งแต่วันนี้ ก่อนจะลาจากกันตลอดกาล "สุขสันต์วันเกิดค่ะ" คำนี้คำเดียว เธอรู้ว่ามันมีความหมายต่อเขาเธอก็ไม่ลังเลที่จะให้ เขาดีใจเธอรู้ มันก็เป็นความสุขเล็ก ๆ ของเธอเช่นกัน แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ คือ เขาต้องการมากกว่านั้น และ เลือดเย็นมากกว่าที่เธอคิด
เพียงแค่เสี้ยววินาที ... เธออาจต้องจ่ายราคาค่าควรเมือง