คุณเคยมีชีวิตที่พร้อมเกินไปแล้วทำให้คุณขาดแรงจูงใจในชีวิตหรือไม่?
ผมขอยกตัวอย่าง ถ้าคุณเป็นผู้ชาย อายุ 30 กลางๆ โสด เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เกิดมาไม่เคยลำบาก พอคุณเรียนจบ พ่อแม่ก็ยกกิจการให้คุณทำต่อทันที ธุรกิจของคุณมีกำไรประมาณ 100K ต่อเดือนและมีทรัพย์สินที่รอคุณอยู่ประมาณ 100M ซึ่งทรัพย์สินสร้างรายได้ให้คุณประมาณ 300K ต่อเดือน มีเงินสดให้คุณไว้ใช้อย่างต่ำ 30M
ธุรกิจที่คุณทำเป็นงานที่สบายๆ แต่ต้องทำงานจันทร์-เสาร์ ตื่นเช้าและเลิกเย็น ต้องอยู่ออฟฟิศตลอดเวลา ปีนึงมีวันหยุดไม่ถึง 10 วัน ไม่มีใครทำงานแทนคุณได้ เรียกได้ว่า ห้ามป่วย-ห้ามตาย
พอคุณทำงานมาได้สัก 10 ปี คุณเริ่มรู้สึกว่าขาดเป้าหมายในชีวิต ชีวิตไม่สุขมาก ไม่ทุกข์มาก อยู่ไปวันๆ งานที่ทำก็ไม่ใช่งานที่รัก (จริงๆก็ไม่รู้หรอกว่ารักที่จะทำอะไร) ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหนยังไม่เคยเจอ
คุณเคยคิดว่าความสุขอยู่ที่ตัวเงิน คุณเลยตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน เอาเงินไปลงทุน ทำให้คุณมีเงินเก็บส่วนตัวเกิน 10M แต่คุณก็ไม่กล้าใช้และไม่มีโอกาสได้ใช้ คุณเคยคิดว่าความสุขอยู่ที่วัตถุ คุณเลยซื้อรถตราดาวคันละ 3-4 ล้านมาขับ ซื้อนาฬิกาปาเต๊กเรือนละล้านมาใส่ แต่สุดท้ายคุณก็รู้ว่าวัตถุเหล่านี้ให้ความสุขแค่ตอนที่คุณตามหาแต่พอได้มาแล้วความสุขก็ลดลงตามกาลเวลา ทำให้คุณรู้ว่าเงินและวัตถุไม่ใช่เรื่องสำคัญ
สังคมของคุณเริ่มแคบลงเนื่องจากทำงานทุกวัน คุณไม่ใช่คนชอบเที่ยว เลิกงานก็ไม่อยากไปไหน ยกเว้นไปออกกำลังกายบ้าง ชีวิตส่วนใหญ่เริ่มเหมือนอยู่ในกระปุกออมสิน มีเงินแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้
หากคุณมีชีวิตตามที่ผมยกตัวอย่าง คุณจะหาแรงจูงใจจากไหนและคุณจะดำเนินชีวิตอย่างไรครับ
ชีวิตที่พร้อมเกินไป ทำให้คุณขาดแรงจูงใจในชีวิตหรือไม่
ผมขอยกตัวอย่าง ถ้าคุณเป็นผู้ชาย อายุ 30 กลางๆ โสด เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เกิดมาไม่เคยลำบาก พอคุณเรียนจบ พ่อแม่ก็ยกกิจการให้คุณทำต่อทันที ธุรกิจของคุณมีกำไรประมาณ 100K ต่อเดือนและมีทรัพย์สินที่รอคุณอยู่ประมาณ 100M ซึ่งทรัพย์สินสร้างรายได้ให้คุณประมาณ 300K ต่อเดือน มีเงินสดให้คุณไว้ใช้อย่างต่ำ 30M
ธุรกิจที่คุณทำเป็นงานที่สบายๆ แต่ต้องทำงานจันทร์-เสาร์ ตื่นเช้าและเลิกเย็น ต้องอยู่ออฟฟิศตลอดเวลา ปีนึงมีวันหยุดไม่ถึง 10 วัน ไม่มีใครทำงานแทนคุณได้ เรียกได้ว่า ห้ามป่วย-ห้ามตาย
พอคุณทำงานมาได้สัก 10 ปี คุณเริ่มรู้สึกว่าขาดเป้าหมายในชีวิต ชีวิตไม่สุขมาก ไม่ทุกข์มาก อยู่ไปวันๆ งานที่ทำก็ไม่ใช่งานที่รัก (จริงๆก็ไม่รู้หรอกว่ารักที่จะทำอะไร) ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหนยังไม่เคยเจอ
คุณเคยคิดว่าความสุขอยู่ที่ตัวเงิน คุณเลยตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน เอาเงินไปลงทุน ทำให้คุณมีเงินเก็บส่วนตัวเกิน 10M แต่คุณก็ไม่กล้าใช้และไม่มีโอกาสได้ใช้ คุณเคยคิดว่าความสุขอยู่ที่วัตถุ คุณเลยซื้อรถตราดาวคันละ 3-4 ล้านมาขับ ซื้อนาฬิกาปาเต๊กเรือนละล้านมาใส่ แต่สุดท้ายคุณก็รู้ว่าวัตถุเหล่านี้ให้ความสุขแค่ตอนที่คุณตามหาแต่พอได้มาแล้วความสุขก็ลดลงตามกาลเวลา ทำให้คุณรู้ว่าเงินและวัตถุไม่ใช่เรื่องสำคัญ
สังคมของคุณเริ่มแคบลงเนื่องจากทำงานทุกวัน คุณไม่ใช่คนชอบเที่ยว เลิกงานก็ไม่อยากไปไหน ยกเว้นไปออกกำลังกายบ้าง ชีวิตส่วนใหญ่เริ่มเหมือนอยู่ในกระปุกออมสิน มีเงินแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้
หากคุณมีชีวิตตามที่ผมยกตัวอย่าง คุณจะหาแรงจูงใจจากไหนและคุณจะดำเนินชีวิตอย่างไรครับ