สวัสดีค่ะ เราตั้งใจเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อแชร์ประสบการณ์เรื่องงานของเราเองค่ะ เราเพิ่งเคยตั้งกระทู้เป็นครั้งแรก ถ้ามีข้อผิดพลาด ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ
เราจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเอกชนย่านบางนาค่ะ (คงจะพอเดากันได้นะคะ) เราเริ่มงานที่แรกกับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งย่านสาทร เนื่องจากเราคิดว่าเราจบด้าน Finance มาอยากลองทำงานในสายงานที่เกี่ยวกับตลาดหุ้นดูเราจึงเริ่มด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือ Marketing ซึ่งลักษณะงานจะคล้ายๆกับ sale ค่ะ รับ order ลูกค้า ทำคำสั่งซื้อ/ขาย ติดต่อลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ เราได้ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 10k ซึ่งหากมีจำนวนซื้อขายมากก็จะได้เป็นค่า commission ค่ะ หลังจากที่เราทำมาได้ประมาณ 3 เดือน เราคิดว่าไม่ใช่ลักษณะงานที่เราต้องการเราจึงลาออกครั้งที่ 1
แล้วก็มาเริ่มงานที่ใหม่ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันสัญชาติอเมริกันค่ะ เป็นที่ๆใครๆต่างก็อยากเข้ามาทำงานที่นี่ เราเข้ามาได้อย่างง่ายดายเพราะตำแหน่งที่สมัครมาเป็น contractor หรือพนักงานสัญญาจ้างซึ่งไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรมากมาย เงินเดือนที่ได้อยู่ที่ประมาณ 15K สวัสดิการแทบจะไม่มีซึ่งแตกต่างกับพนักงานประจำเป็นอย่างมาก เราถือว่าองค์กรนี้ดูแลพนักงานของเค้าเป็นอย่างดีเลยค่ะ สภาพแวดล้อมที่ทำงานน่าอยู่ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า น่ารัก เป็นกันเอง culture ขององค์กรจะเป็นสไตล์อเมริกัน ถึงแม้จะเป็นหัวหน้าก็ไม่มีห้องทำงานของตัวเองค่ะ จะนั่งเป็นคอกๆรวมกับพนักงานคนอื่น เวลามี meeting ทุกคนสามารถแชร์ไอเดียกันได้เต็มที่เลยค่ะ ที่นี่จะมีการเบรกเพื่อยืดเส้นยืดสายทั้งเช้าและบ่ายเนื่องจากการนั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ซึ่งกิจกรรมนี้ดีมากๆ แสดงให้เห็นว่าองค์กรห่วงใยพนักงานมากๆ นอกจากนี้องค์กรยังเน้นเรื่อง safety เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการทำงานด้วยค่ะ เราแฮปปี้กับการทำงานที่นี่มาก เราอยู่ด้วยความคาดหวังที่จะมีโอกาสได้เปลี่ยนเป็นพนักงานประจำ แต่เนื่องจากส่วนที่เราอยู่นั้นมันมีโอกาสค่อยข้างยาก แถมยังมี contractor คนที่เข้ามาก่อนเราเรียงคิวกันอีกหลายคน เราจึงตัดสินใจลาออกครั้งที่ 2 ค่ะ อ่อเราอยู่ที่นี่มาได้ประมาณปีครึ่งค่ะ
บริษัทต่อไปเป็น 1 ใน Big 4 เราทำงานเป็น consultant คราวนี้ได้เริ่มเรทเงินเดือนที่ 25k สวัสดิการเหมือนบริษัททั่วๆไป ทีมที่เราอยู่มีหัวหน้าเป็นคนต่างชาติ สิ่งที่ได้แน่ๆคือภาษา รวมถึงงานต่างๆที่ส่งออกให้ลูกค้าก็เป็นภาษาอังกฤษค่ะ เลิกงานประมาณ 6 โมงยกเว้นช่วงพีคก็จะประมาณ 4 ทุ่มค่ะ โชคดีอีกเหมือนเดิมที่ได้เจอเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ดีอีกแล้ว ที่นี่จะมีเด็กๆอายุคราวๆเดียวกับเราเยอะเลยค่อนข้างเฮฮา สนุกสนาน บริษัทก็มักจะจัดกิจกรรมเสมอซึ่งทำให้ได้รู้จักเพื่อนจากแผนกต่างๆเพิ่ม รวมถึงมี training ตลอด ได้รับความรู้ใหม่ๆอยู่สม่ำเสมอเลยค่ะ โดยรวมเราแฮปปี้กับหลายๆอย่างที่นี่ แต่ก็อีกนั่นแหละค่ะ เนื่องจากเราได้โอกาสไปสัมภาษณ์กับองค์กรใหญ่ระดับประเทศ ธุรกิจปิโตเลียม บริษัทที่มีโบนัสให้ถึง 6 เดือน แล้วเราก็ได้มันเป็นใครจะไม่เอาละค่ะ ด้วยเงินที่ได้ถึง 36k เราก็ตัดสินใจลาออกครั้งที่ 3 กับบริษัท consultant ค่ะ
สิ่งที่เราคาดว่าจะเจอก็เกิดขึ้นค่ะ เงินเยอะ งานเยอะตามค่ะ แทบจะเอาชีวิตไม่รอด เราเป็นคนไม่เก่งบวกกับเนื้องานที่โค-ตรยาก เพื่อนร่วมงานแต่ละคนก็จะยุ่งตลอดค่ะไม่ค่อยมีใครว่างมาสอนงานเราเท่าไร ทักษะการเอาตัวรอดต้องมา งานงมต้องมา ยอมรับว่า suffer มากทีเดียวค่ะ ที่นี่ seniority ค่อนข้างสูง เราเป็นเด็กน้อยไปเลยค่ะ เดือนๆนึงเลิกงานเฉลี่ยซัก 3-4 ทุ่มได้ บางทีทำถึงเช้าอีกวันก็มีค่ะ ข้อดีหรอคะ โอทีบานค่ะรวมเงินเดือนแล้วเกือบ 50k เลยค่ะ แต่ข้อเสียมีมากเหลือเกิน ซึ่งนั่นทำให้เรารู้สึกหมดความอดทนแล้วก็ตัดสินใจลาออกครั้งที่ 4 ค่ะ
มาถึงตอนนี้เราขอสรุปโดยรวมนะคะ ในช่วงที่เป็นเด็กจบใหม่เราไม่ค่อยคิดมากเท่าไรหรอกค่ะ ขอให้ได้งานสักที่อย่างที่แรกออกเพราะไม่ชอบพอมาที่ที่ 2 ออกเพราะสวัสดิการไม่ค่อยดี เงินเดือนน้อย พอมาที่ที่ 3 ออกเพราะอยากอยู่ในองค์กรที่

ใครได้อยู่ที่โค-ตรเทห์เลย เงินเดือนเยอะ สวัสดิการเยี่ยมแล้วเป็นไงคะ ทนไม่ไหวกับหลายๆอย่างก็เลยต้องขอบาย หลายๆคนอาจจะมองว่าเราเป็นคนไม่อดทนรึปล่าว เรายอมรับค่ะว่ามีส่วนแต่เราได้ไตร่ตรองดูอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงตัดสินใจลงไป กับที่ที่ 4 ชีวิตเราหายไปเลยค่ะ ร่างกายก็อ่อนล้า ไม่มีกำลังใจในการไปทำงานที่สำคัญเราไม่มีความสุขเลยซึ่งแตกต่างจากตอนที่เราอยู่ที่ที่ 3 อย่างชัดเจน ปัจจุบันว่างงานมา 2 เดือนแล้วค่ะและกำลังจะเริ่มงานใหม่เดือนหน้า…สุดท้ายขอฝากถึงน้องๆที่อยากทำงานที่ได้เงินเดือนมากๆ ซึ่งในมุมมองเราสิ่งที่สำคัญสุดคือเพื่อนร่วมงานค่ะ ทำงานด้วยแล้วแฮปปี้ เงินเป็นปัจจัยรองมา ขอบคุณที่อ่านกันนะคะ ยาวไปหน่อย ยินดีรับคำติเตือนต่างๆค่ะ ^^
ปล. ประสบการณ์ด้านสัมภาษณ์งานเราผ่านมาอย่างโชกโชนค่ะ ปรึกษาได้นะ
อายุ 25 กับการลาออกครั้งที่ 4
เราจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเอกชนย่านบางนาค่ะ (คงจะพอเดากันได้นะคะ) เราเริ่มงานที่แรกกับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งย่านสาทร เนื่องจากเราคิดว่าเราจบด้าน Finance มาอยากลองทำงานในสายงานที่เกี่ยวกับตลาดหุ้นดูเราจึงเริ่มด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือ Marketing ซึ่งลักษณะงานจะคล้ายๆกับ sale ค่ะ รับ order ลูกค้า ทำคำสั่งซื้อ/ขาย ติดต่อลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ เราได้ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 10k ซึ่งหากมีจำนวนซื้อขายมากก็จะได้เป็นค่า commission ค่ะ หลังจากที่เราทำมาได้ประมาณ 3 เดือน เราคิดว่าไม่ใช่ลักษณะงานที่เราต้องการเราจึงลาออกครั้งที่ 1
แล้วก็มาเริ่มงานที่ใหม่ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันสัญชาติอเมริกันค่ะ เป็นที่ๆใครๆต่างก็อยากเข้ามาทำงานที่นี่ เราเข้ามาได้อย่างง่ายดายเพราะตำแหน่งที่สมัครมาเป็น contractor หรือพนักงานสัญญาจ้างซึ่งไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรมากมาย เงินเดือนที่ได้อยู่ที่ประมาณ 15K สวัสดิการแทบจะไม่มีซึ่งแตกต่างกับพนักงานประจำเป็นอย่างมาก เราถือว่าองค์กรนี้ดูแลพนักงานของเค้าเป็นอย่างดีเลยค่ะ สภาพแวดล้อมที่ทำงานน่าอยู่ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า น่ารัก เป็นกันเอง culture ขององค์กรจะเป็นสไตล์อเมริกัน ถึงแม้จะเป็นหัวหน้าก็ไม่มีห้องทำงานของตัวเองค่ะ จะนั่งเป็นคอกๆรวมกับพนักงานคนอื่น เวลามี meeting ทุกคนสามารถแชร์ไอเดียกันได้เต็มที่เลยค่ะ ที่นี่จะมีการเบรกเพื่อยืดเส้นยืดสายทั้งเช้าและบ่ายเนื่องจากการนั่งทำงานมาเป็นเวลานาน ซึ่งกิจกรรมนี้ดีมากๆ แสดงให้เห็นว่าองค์กรห่วงใยพนักงานมากๆ นอกจากนี้องค์กรยังเน้นเรื่อง safety เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการทำงานด้วยค่ะ เราแฮปปี้กับการทำงานที่นี่มาก เราอยู่ด้วยความคาดหวังที่จะมีโอกาสได้เปลี่ยนเป็นพนักงานประจำ แต่เนื่องจากส่วนที่เราอยู่นั้นมันมีโอกาสค่อยข้างยาก แถมยังมี contractor คนที่เข้ามาก่อนเราเรียงคิวกันอีกหลายคน เราจึงตัดสินใจลาออกครั้งที่ 2 ค่ะ อ่อเราอยู่ที่นี่มาได้ประมาณปีครึ่งค่ะ
บริษัทต่อไปเป็น 1 ใน Big 4 เราทำงานเป็น consultant คราวนี้ได้เริ่มเรทเงินเดือนที่ 25k สวัสดิการเหมือนบริษัททั่วๆไป ทีมที่เราอยู่มีหัวหน้าเป็นคนต่างชาติ สิ่งที่ได้แน่ๆคือภาษา รวมถึงงานต่างๆที่ส่งออกให้ลูกค้าก็เป็นภาษาอังกฤษค่ะ เลิกงานประมาณ 6 โมงยกเว้นช่วงพีคก็จะประมาณ 4 ทุ่มค่ะ โชคดีอีกเหมือนเดิมที่ได้เจอเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ดีอีกแล้ว ที่นี่จะมีเด็กๆอายุคราวๆเดียวกับเราเยอะเลยค่อนข้างเฮฮา สนุกสนาน บริษัทก็มักจะจัดกิจกรรมเสมอซึ่งทำให้ได้รู้จักเพื่อนจากแผนกต่างๆเพิ่ม รวมถึงมี training ตลอด ได้รับความรู้ใหม่ๆอยู่สม่ำเสมอเลยค่ะ โดยรวมเราแฮปปี้กับหลายๆอย่างที่นี่ แต่ก็อีกนั่นแหละค่ะ เนื่องจากเราได้โอกาสไปสัมภาษณ์กับองค์กรใหญ่ระดับประเทศ ธุรกิจปิโตเลียม บริษัทที่มีโบนัสให้ถึง 6 เดือน แล้วเราก็ได้มันเป็นใครจะไม่เอาละค่ะ ด้วยเงินที่ได้ถึง 36k เราก็ตัดสินใจลาออกครั้งที่ 3 กับบริษัท consultant ค่ะ
สิ่งที่เราคาดว่าจะเจอก็เกิดขึ้นค่ะ เงินเยอะ งานเยอะตามค่ะ แทบจะเอาชีวิตไม่รอด เราเป็นคนไม่เก่งบวกกับเนื้องานที่โค-ตรยาก เพื่อนร่วมงานแต่ละคนก็จะยุ่งตลอดค่ะไม่ค่อยมีใครว่างมาสอนงานเราเท่าไร ทักษะการเอาตัวรอดต้องมา งานงมต้องมา ยอมรับว่า suffer มากทีเดียวค่ะ ที่นี่ seniority ค่อนข้างสูง เราเป็นเด็กน้อยไปเลยค่ะ เดือนๆนึงเลิกงานเฉลี่ยซัก 3-4 ทุ่มได้ บางทีทำถึงเช้าอีกวันก็มีค่ะ ข้อดีหรอคะ โอทีบานค่ะรวมเงินเดือนแล้วเกือบ 50k เลยค่ะ แต่ข้อเสียมีมากเหลือเกิน ซึ่งนั่นทำให้เรารู้สึกหมดความอดทนแล้วก็ตัดสินใจลาออกครั้งที่ 4 ค่ะ
มาถึงตอนนี้เราขอสรุปโดยรวมนะคะ ในช่วงที่เป็นเด็กจบใหม่เราไม่ค่อยคิดมากเท่าไรหรอกค่ะ ขอให้ได้งานสักที่อย่างที่แรกออกเพราะไม่ชอบพอมาที่ที่ 2 ออกเพราะสวัสดิการไม่ค่อยดี เงินเดือนน้อย พอมาที่ที่ 3 ออกเพราะอยากอยู่ในองค์กรที่
ปล. ประสบการณ์ด้านสัมภาษณ์งานเราผ่านมาอย่างโชกโชนค่ะ ปรึกษาได้นะ