11 เมษายน 2557 เลขาธิการ กสทช.ฐากร ระบุ"เบอร์สวย"10.32 ล้านเลขหมาย แต่อยู่ระหว่างการหาวิธีดำเนินการที่เหมาะสม ในการจัดสรรหมายเลข โดยจะจ้างบริษัทเอกชนหรือมหาวิทยาลัย
ประเด็นหลัก
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำนักงาน กสทช.จะเดินหน้าจัดสรรเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภท "เบอร์สวย" ที่ดึงเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2553 รวมแล้ว กว่า 10.32 ล้านเลขหมายด้วยวิธีประมูล แต่อยู่ระหว่างการหาวิธีดำเนินการที่เหมาะสม คาดว่าจะเริ่มได้หลังจัดการประมูลคลื่นความถี่สำหรับ 4G เรียบร้อยภายในไตรมาส 3 โดยจะจ้างบริษัทเอกชนหรือมหาวิทยาลัยมาประเมินราคากลางก่อน และต้องหารือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ให้ได้ข้อสรุปชัดเจนก่อนที่จะเริ่มยกร่างประกาศหลักเกณฑ์วิธีการประมูล
"เรียกว่าสำนักงาน กสทช.ถอยไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ต้องจัดประมูลเพราะถ้าจัดสรรไปให้ค่ายมือถือด้วยวิธีการปกติภาครัฐเสียหายแน่นอน ไม่มีทางจะไปบอกว่าเป็นของไม่มีมูลค่า เพราะตอนนี้เบอร์เรียง 5 หลัก ก็ขายกันเป็นเงินหลักแสนบาทแล้ว ส่วนวิธีการยังต้องดูกันอีกทีว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาประมูลโดยตรงผ่านเว็บไซต์เหมือนการประมูลทะเบียนรถ หรือให้ค่ายมือถือเป็นตัวกลางรับลงทะเบียนผู้ที่ต้องการได้เบอร์สวย แล้วให้ค่ายมือถือเข้าประมูลแทน หรือให้ค่ายมือถือที่ต้องการเลขในแต่ละหมวดจ่ายเงินเท่ากับมูลค่าที่ประเมินแล้ว ได้รับจัดสรรยกหมวดไปเลย"
สำหรับรายได้จากการประมูลเบอร์สวย ได้สอบถามไปยังฝ่ายกฎหมายแล้วได้ข้อสรุปว่า เป็นเงินที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.จึงเหมือนรายได้ที่เกิดจากการเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ถ้า กสทช.นำไปใช้จ่ายแล้วเหลือต้องส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป แต่การนำไปใช้ต้องทำโครงการมารองรับให้ชัดเจน และต้องเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ใช่เป็นรายได้ที่จะเอาไปฟุ่มเฟือยได้ เช่น นำไปใช้สำหรับสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งกำลังให้บริษัทที่เป็นผู้ออกแบบตึกรัฐสภาแห่งใหม่ออกแบบ คาดว่าราวเดือน มิ.ย.นี้จะเห็นแบบทั้งหมด โดยจะออกแบบพื้นที่สวนด้านหน้าให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เชื่อหากดำเนินการตามแนวทางนี้จะทำให้ไม่โดนครหา"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1397106298
______________________________________
กสทช.พร้อมเปิดประมูลเบอร์สวย ตั้งโครงการรอใช้เงินเข้มงบฯ"พี.อาร์.-ดูงานตปท."
"กสทช." ยืนยันเปิดประมูล "เบอร์สวย" หลังเสร็จประมูลคลื่น 4G ภายในปลายปีนี้ ย้ำดำเนินการได้ไม่ขัดกฎหมาย เปรียบเป็นรายได้เช่นเดียวกับการเก็บ "ค่าธรรมเนียม" เล็งตั้งโครงการสร้างสำนักงานแห่งใหม่รองรับการใช้เงิน ทั้งเตรียมกดปุ่มเดินหน้ากระบวนการเปลี่ยนผ่านวิทยุเข้าสู่โหมด "ดิจิทัล" และเร่งมือกำจัดสารพัดจุดอ่อนพุ่งเป้าการใช้เงินทั้ง "พี.อาร์.-ดูงานต่างประเทศ"
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำนักงาน กสทช.จะเดินหน้าจัดสรรเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภท "เบอร์สวย" ที่ดึงเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2553 รวมแล้ว กว่า 10.32 ล้านเลขหมายด้วยวิธีประมูล แต่อยู่ระหว่างการหาวิธีดำเนินการที่เหมาะสม คาดว่าจะเริ่มได้หลังจัดการประมูลคลื่นความถี่สำหรับ 4G เรียบร้อยภายในไตรมาส 3 โดยจะจ้างบริษัทเอกชนหรือมหาวิทยาลัยมาประเมินราคากลางก่อน และต้องหารือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ให้ได้ข้อสรุปชัดเจนก่อนที่จะเริ่มยกร่างประกาศหลักเกณฑ์วิธีการประมูล
"เรียกว่าสำนักงาน กสทช.ถอยไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ต้องจัดประมูลเพราะถ้าจัดสรรไปให้ค่ายมือถือด้วยวิธีการปกติภาครัฐเสียหายแน่นอน ไม่มีทางจะไปบอกว่าเป็นของไม่มีมูลค่า เพราะตอนนี้เบอร์เรียง 5 หลัก ก็ขายกันเป็นเงินหลักแสนบาทแล้ว ส่วนวิธีการยังต้องดูกันอีกทีว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาประมูลโดยตรงผ่านเว็บไซต์เหมือนการประมูลทะเบียนรถ หรือให้ค่ายมือถือเป็นตัวกลางรับลงทะเบียนผู้ที่ต้องการได้เบอร์สวย แล้วให้ค่ายมือถือเข้าประมูลแทน หรือให้ค่ายมือถือที่ต้องการเลขในแต่ละหมวดจ่ายเงินเท่ากับมูลค่าที่ประเมินแล้ว ได้รับจัดสรรยกหมวดไปเลย"
สำหรับรายได้จากการประมูลเบอร์สวย ได้สอบถามไปยังฝ่ายกฎหมายแล้วได้ข้อสรุปว่า เป็นเงินที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.จึงเหมือนรายได้ที่เกิดจากการเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ถ้า กสทช.นำไปใช้จ่ายแล้วเหลือต้องส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป แต่การนำไปใช้ต้องทำโครงการมารองรับให้ชัดเจน และต้องเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ใช่เป็นรายได้ที่จะเอาไปฟุ่มเฟือยได้ เช่น นำไปใช้สำหรับสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งกำลังให้บริษัทที่เป็นผู้ออกแบบตึกรัฐสภาแห่งใหม่ออกแบบ คาดว่าราวเดือน มิ.ย.นี้จะเห็นแบบทั้งหมด โดยจะออกแบบพื้นที่สวนด้านหน้าให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เชื่อหากดำเนินการตามแนวทางนี้จะทำให้ไม่โดนครหา"
นายฐากรกล่าวต่อว่า งานหลักสำหรับปีนี้ของสำนักงาน กสทช. คือ การเร่งรัดจัดประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 4G โดยเร็วที่สุด ซึ่งได้กำชับให้ทั้งทรูมูฟและดีพีซีดำเนินการเคลียร์ลูกค้าเดิมออกให้หมดภายในเดือน เม.ย. คาดว่าในการประชุมบอร์ด กสทช.วันที่ 23 เม.ย.นี้จะทราบเกี่ยวกับราคาตั้งต้นประมูลและจำนวนใบอนุญาตที่จะประมูล ส่วนบริษัทที่จะจัดการประมูลอาจใช้เจ้าเดิมที่จัดประมูล 3G (บริษัทพาวเวอร์ อ็อคชั่น) เพราะดำเนินการได้เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องมีการเปิดซองเสนอราคากันตามขั้นตอน
ส่วนเรื่องการแจกคูปองส่วนลดสำหรับ "ทีวีดิจิทัล" น่าจะได้ข้อสรุปเรื่องมูลค่าคูปองในวันเดียวกัน แต่กระบวนการพิมพ์และการแจกต้องหาวิธีที่ไม่ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือปลอมคูปอง ขณะเดียวกัน ต้องไม่ทำให้ผู้บริโภคยุ่งยาก และไม่ให้มีผู้ผลิตอุปกรณ์เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน และราวต.ค. นี้จะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่วิทยุดิจิทัล เริ่มยกร่างประกาศหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตและแผนการประมูล หากได้ตามกรอบเวลาดังกล่าวประมาณปี 2558 จะได้เห็นการจัดประมูลวิทยุดิจิทัล
นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช.จะพยายามปรับปรุงจุดอ่อนที่โดนหลายฝ่ายตำหนิมามาก ทั้งเรื่องการให้ความสำคัญกับผู้บริโภค, การใช้งบฯประชาสัมพันธ์ และงบประมาณในการดูงานต่างประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้าจะให้เป็นปีแห่งความใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ เพราะที่ผ่านมาโดนตำหนิเยอะว่าอยู่ห่างไกลประชาชน ทำตัวเข้าถึงยากจึงจะพยายามปรับปรุงส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทีวีดิจิทัล หรือบริการ 3G กสทช.จะพยายามเข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ขณะที่เมื่อปีที่ผ่านมาได้ประกาศให้เป็นปีทองของการคุ้มครองผู้บริโภค แต่ทำได้ระดับหนึ่งเพราะมีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น กสทช.พยายามใช้กฎหมายบังคับ
ในบางเรื่อง แต่โอเปอเรเตอร์ไม่ยอมจึงต้องเข้าสู่กระบวนการทางปกครอง และไปสู้กันในศาลก็มี "การใช้งบฯประชาสัมพันธ์ของ กสทช.จะไม่มีการตั้งงบฯเพิ่มขึ้น แต่จะใช้การส่งข้อมูลง่าย ๆ ผ่านโครงการรณรงค์เพื่อแก้ปัญหาผู้บริโภคที่ต้องทำอยู่แล้ว เช่น การกดปิดโรมมิ่ง กด *137 ยกเลิก SMS กวนใจ หรือปิดเน็ตก่อนไปนอก *106# แล้วกดโทร.ออก"
รวมถึงปีนี้จะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ กสทช.ตั้งมา 2 ปีแล้ว การใช้งบฯพัฒนาบุคลากรมาถึงจุดที่น่าจะเรียนรู้ และพัฒนามาพอสมควรแล้ว ฉะนั้น ควรลดงบฯ ส่งบุคลากรไปอบรมหรือดูงานต่างประเทศให้น้อยลงอย่างน้อย 50% ให้เหลือเฉพาะงบฯที่ใช้สำหรับไปประชุมเท่านั้น
"ก่อนนี้ก็ต้องเห็นใจด้วยว่าแต่ละเรื่องที่ กสทช.ทำเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องไปดูงาน ทั้งทีวีดิจิทัล ทั้งประมูลคลื่น ถ้าไม่ได้งานประมูลคงไม่ออกมาประสบความสำเร็จแบบนี้ เพราะกฎเกณฑ์การกำกับดูแล การออกแบบการประมูล ต้องดูประสบการณ์จากต่างประเทศมาทั้งนั้น"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1397106298
เลขาธิการ กสทช.ฐากร ระบุ"เบอร์สวย"10.32 ล้านเลขหมาย แต่อยู่ระหว่างการหาวิธีดำเนินการที่เหมาะสม จ้างบริษัทเอกชนหรือมหาลัย
ประเด็นหลัก
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำนักงาน กสทช.จะเดินหน้าจัดสรรเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภท "เบอร์สวย" ที่ดึงเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2553 รวมแล้ว กว่า 10.32 ล้านเลขหมายด้วยวิธีประมูล แต่อยู่ระหว่างการหาวิธีดำเนินการที่เหมาะสม คาดว่าจะเริ่มได้หลังจัดการประมูลคลื่นความถี่สำหรับ 4G เรียบร้อยภายในไตรมาส 3 โดยจะจ้างบริษัทเอกชนหรือมหาวิทยาลัยมาประเมินราคากลางก่อน และต้องหารือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ให้ได้ข้อสรุปชัดเจนก่อนที่จะเริ่มยกร่างประกาศหลักเกณฑ์วิธีการประมูล
"เรียกว่าสำนักงาน กสทช.ถอยไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ต้องจัดประมูลเพราะถ้าจัดสรรไปให้ค่ายมือถือด้วยวิธีการปกติภาครัฐเสียหายแน่นอน ไม่มีทางจะไปบอกว่าเป็นของไม่มีมูลค่า เพราะตอนนี้เบอร์เรียง 5 หลัก ก็ขายกันเป็นเงินหลักแสนบาทแล้ว ส่วนวิธีการยังต้องดูกันอีกทีว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาประมูลโดยตรงผ่านเว็บไซต์เหมือนการประมูลทะเบียนรถ หรือให้ค่ายมือถือเป็นตัวกลางรับลงทะเบียนผู้ที่ต้องการได้เบอร์สวย แล้วให้ค่ายมือถือเข้าประมูลแทน หรือให้ค่ายมือถือที่ต้องการเลขในแต่ละหมวดจ่ายเงินเท่ากับมูลค่าที่ประเมินแล้ว ได้รับจัดสรรยกหมวดไปเลย"
สำหรับรายได้จากการประมูลเบอร์สวย ได้สอบถามไปยังฝ่ายกฎหมายแล้วได้ข้อสรุปว่า เป็นเงินที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.จึงเหมือนรายได้ที่เกิดจากการเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ถ้า กสทช.นำไปใช้จ่ายแล้วเหลือต้องส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป แต่การนำไปใช้ต้องทำโครงการมารองรับให้ชัดเจน และต้องเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ใช่เป็นรายได้ที่จะเอาไปฟุ่มเฟือยได้ เช่น นำไปใช้สำหรับสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งกำลังให้บริษัทที่เป็นผู้ออกแบบตึกรัฐสภาแห่งใหม่ออกแบบ คาดว่าราวเดือน มิ.ย.นี้จะเห็นแบบทั้งหมด โดยจะออกแบบพื้นที่สวนด้านหน้าให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เชื่อหากดำเนินการตามแนวทางนี้จะทำให้ไม่โดนครหา"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1397106298
______________________________________
กสทช.พร้อมเปิดประมูลเบอร์สวย ตั้งโครงการรอใช้เงินเข้มงบฯ"พี.อาร์.-ดูงานตปท."
"กสทช." ยืนยันเปิดประมูล "เบอร์สวย" หลังเสร็จประมูลคลื่น 4G ภายในปลายปีนี้ ย้ำดำเนินการได้ไม่ขัดกฎหมาย เปรียบเป็นรายได้เช่นเดียวกับการเก็บ "ค่าธรรมเนียม" เล็งตั้งโครงการสร้างสำนักงานแห่งใหม่รองรับการใช้เงิน ทั้งเตรียมกดปุ่มเดินหน้ากระบวนการเปลี่ยนผ่านวิทยุเข้าสู่โหมด "ดิจิทัล" และเร่งมือกำจัดสารพัดจุดอ่อนพุ่งเป้าการใช้เงินทั้ง "พี.อาร์.-ดูงานต่างประเทศ"
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำนักงาน กสทช.จะเดินหน้าจัดสรรเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภท "เบอร์สวย" ที่ดึงเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2553 รวมแล้ว กว่า 10.32 ล้านเลขหมายด้วยวิธีประมูล แต่อยู่ระหว่างการหาวิธีดำเนินการที่เหมาะสม คาดว่าจะเริ่มได้หลังจัดการประมูลคลื่นความถี่สำหรับ 4G เรียบร้อยภายในไตรมาส 3 โดยจะจ้างบริษัทเอกชนหรือมหาวิทยาลัยมาประเมินราคากลางก่อน และต้องหารือกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ให้ได้ข้อสรุปชัดเจนก่อนที่จะเริ่มยกร่างประกาศหลักเกณฑ์วิธีการประมูล
"เรียกว่าสำนักงาน กสทช.ถอยไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ต้องจัดประมูลเพราะถ้าจัดสรรไปให้ค่ายมือถือด้วยวิธีการปกติภาครัฐเสียหายแน่นอน ไม่มีทางจะไปบอกว่าเป็นของไม่มีมูลค่า เพราะตอนนี้เบอร์เรียง 5 หลัก ก็ขายกันเป็นเงินหลักแสนบาทแล้ว ส่วนวิธีการยังต้องดูกันอีกทีว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาประมูลโดยตรงผ่านเว็บไซต์เหมือนการประมูลทะเบียนรถ หรือให้ค่ายมือถือเป็นตัวกลางรับลงทะเบียนผู้ที่ต้องการได้เบอร์สวย แล้วให้ค่ายมือถือเข้าประมูลแทน หรือให้ค่ายมือถือที่ต้องการเลขในแต่ละหมวดจ่ายเงินเท่ากับมูลค่าที่ประเมินแล้ว ได้รับจัดสรรยกหมวดไปเลย"
สำหรับรายได้จากการประมูลเบอร์สวย ได้สอบถามไปยังฝ่ายกฎหมายแล้วได้ข้อสรุปว่า เป็นเงินที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.จึงเหมือนรายได้ที่เกิดจากการเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ถ้า กสทช.นำไปใช้จ่ายแล้วเหลือต้องส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป แต่การนำไปใช้ต้องทำโครงการมารองรับให้ชัดเจน และต้องเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ใช่เป็นรายได้ที่จะเอาไปฟุ่มเฟือยได้ เช่น นำไปใช้สำหรับสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งกำลังให้บริษัทที่เป็นผู้ออกแบบตึกรัฐสภาแห่งใหม่ออกแบบ คาดว่าราวเดือน มิ.ย.นี้จะเห็นแบบทั้งหมด โดยจะออกแบบพื้นที่สวนด้านหน้าให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เชื่อหากดำเนินการตามแนวทางนี้จะทำให้ไม่โดนครหา"
นายฐากรกล่าวต่อว่า งานหลักสำหรับปีนี้ของสำนักงาน กสทช. คือ การเร่งรัดจัดประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 4G โดยเร็วที่สุด ซึ่งได้กำชับให้ทั้งทรูมูฟและดีพีซีดำเนินการเคลียร์ลูกค้าเดิมออกให้หมดภายในเดือน เม.ย. คาดว่าในการประชุมบอร์ด กสทช.วันที่ 23 เม.ย.นี้จะทราบเกี่ยวกับราคาตั้งต้นประมูลและจำนวนใบอนุญาตที่จะประมูล ส่วนบริษัทที่จะจัดการประมูลอาจใช้เจ้าเดิมที่จัดประมูล 3G (บริษัทพาวเวอร์ อ็อคชั่น) เพราะดำเนินการได้เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องมีการเปิดซองเสนอราคากันตามขั้นตอน
ส่วนเรื่องการแจกคูปองส่วนลดสำหรับ "ทีวีดิจิทัล" น่าจะได้ข้อสรุปเรื่องมูลค่าคูปองในวันเดียวกัน แต่กระบวนการพิมพ์และการแจกต้องหาวิธีที่ไม่ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือปลอมคูปอง ขณะเดียวกัน ต้องไม่ทำให้ผู้บริโภคยุ่งยาก และไม่ให้มีผู้ผลิตอุปกรณ์เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน และราวต.ค. นี้จะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่วิทยุดิจิทัล เริ่มยกร่างประกาศหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตและแผนการประมูล หากได้ตามกรอบเวลาดังกล่าวประมาณปี 2558 จะได้เห็นการจัดประมูลวิทยุดิจิทัล
นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช.จะพยายามปรับปรุงจุดอ่อนที่โดนหลายฝ่ายตำหนิมามาก ทั้งเรื่องการให้ความสำคัญกับผู้บริโภค, การใช้งบฯประชาสัมพันธ์ และงบประมาณในการดูงานต่างประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้าจะให้เป็นปีแห่งความใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ เพราะที่ผ่านมาโดนตำหนิเยอะว่าอยู่ห่างไกลประชาชน ทำตัวเข้าถึงยากจึงจะพยายามปรับปรุงส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทีวีดิจิทัล หรือบริการ 3G กสทช.จะพยายามเข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ขณะที่เมื่อปีที่ผ่านมาได้ประกาศให้เป็นปีทองของการคุ้มครองผู้บริโภค แต่ทำได้ระดับหนึ่งเพราะมีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น กสทช.พยายามใช้กฎหมายบังคับ
ในบางเรื่อง แต่โอเปอเรเตอร์ไม่ยอมจึงต้องเข้าสู่กระบวนการทางปกครอง และไปสู้กันในศาลก็มี "การใช้งบฯประชาสัมพันธ์ของ กสทช.จะไม่มีการตั้งงบฯเพิ่มขึ้น แต่จะใช้การส่งข้อมูลง่าย ๆ ผ่านโครงการรณรงค์เพื่อแก้ปัญหาผู้บริโภคที่ต้องทำอยู่แล้ว เช่น การกดปิดโรมมิ่ง กด *137 ยกเลิก SMS กวนใจ หรือปิดเน็ตก่อนไปนอก *106# แล้วกดโทร.ออก"
รวมถึงปีนี้จะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ กสทช.ตั้งมา 2 ปีแล้ว การใช้งบฯพัฒนาบุคลากรมาถึงจุดที่น่าจะเรียนรู้ และพัฒนามาพอสมควรแล้ว ฉะนั้น ควรลดงบฯ ส่งบุคลากรไปอบรมหรือดูงานต่างประเทศให้น้อยลงอย่างน้อย 50% ให้เหลือเฉพาะงบฯที่ใช้สำหรับไปประชุมเท่านั้น
"ก่อนนี้ก็ต้องเห็นใจด้วยว่าแต่ละเรื่องที่ กสทช.ทำเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องไปดูงาน ทั้งทีวีดิจิทัล ทั้งประมูลคลื่น ถ้าไม่ได้งานประมูลคงไม่ออกมาประสบความสำเร็จแบบนี้ เพราะกฎเกณฑ์การกำกับดูแล การออกแบบการประมูล ต้องดูประสบการณ์จากต่างประเทศมาทั้งนั้น"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1397106298