เมื่อวานพาลูกไปดูหนัง Rio 2 โรง 3D ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ ผู้ปกครองพาลูกเล็กเด็กแดงไปดูกันแทบจะเต็มโรง
หนังก็พื้นๆเรื่อยๆไม่มีอะไร มาตื่นเต้นเอาตอนจบนี่ล่ะ
ตอนหนังใกล้จะจบ เห็นพนักงานสาวก็เอากล่องมาวางไว้ปากทางออก
พอหนังจบ ทุกคนก็กรูกันออกประตู และก้มมองที่กล่องที่ว่างเปล่า ทุกคนตั้งคำถามว่า จะให้คืนแว่นตรงไหน ? พนักงานก็ไม่อยู่ ในกล่องก็ไม่มีป้ายบอก
ผมก็ไม่รู้ว่าต้องคืนตรงนี้รึเปล่า ทุกคนก็เลยเดินออกไปเลยพร้อมกับแว่น เพราะเข้าใจว่าพนักงานคนจะดักรอให้คืนด้านนอกอีกทีนึง
ที่ไหนได้ โผล่ออกไปก็ไม่เจอพนักงานซักคน ต่างคนต่างงง พร้อมกับเสียงลอยมาว่า เอากลับไปวางไว้ในกล่องค่าาาา
อนิจจา.....
ผู้หญิงท้วมๆ คนนึง พร้อมกับเสียงแว่วว่า เก็บกลับบ้านไปเลย จะเอากลับไปคืนทำไม
ผมเดินย้อนกลับเอาไปวางไว้ในกล่อง พร้อมๆกับอีกหลายๆคนเดินย้อนกลับไปวางคืนในกล่อง
ส่วนอีกหลายๆคน ก็เก็บกลับบ้านไปเลย
กลับไปถึงที่กล่อง ขอบอกว่ากล่องนั้นยังไม่มีแว่นซักอัน เข้าใจว่าเพราะข้างหลังก็เห็นว่าข้างหน้าไม่มีใครคืนตรงนี้ เลยเข้าใจว่าคืนกันข้างนอก
"คืนแว่นตรงนี้นะครับ" ผมบอกไป เท่านั้นล่ะ คนที่อยู่แถวนั้นก็ทะยอยวางแว่นลงกล่อง
แต่ก็มีอีกเยอะที่เอาแว่นกลับบ้านไปเลย
คำถามคือ พนักงานไปไหน
ทำไมไม่เขียนป้ายบอกให้เรียบร้อย จะบอกว่ากล่องนั้นคือที่คืนแว่น แล้วคนไม่เข้าใจก็คงไม่ได้ เพราะมันไม่เข้าใจกันทั้งโรง ผมออกจากโรงหนังเป็นกลุ่มกลางๆ กลุ่มด้านหน้าไม่มีใครวางกันซักคน
พนักงานคนนั้นโดนโรงหนังปรับตังค์ค่าแว่นบานแน่ๆ
แต่ที่หนักกว่านั้นคือ ผู้ปกครองที่พาเด็กๆไปดูหนังแล้วเชิดแว่นกลับบ้าน เขาได้สอนลูกสอนหลานของเขาไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องสามัญสำนึกเล็กๆนี้ กะแค่แว่น แว่นราคาไม่กี่ตังค์ บางคนไม่มีทีวีสามมิติด้วยซ้ำ จะเอาไปทำไม
แต่น้องพนักงานที่สะเพร่านั่นล่ะ จะต้องจ่ายค่าแว่นคืนโรงหนังเท่าไหร่ ถ้าโรงหนังไม่ปรับตังค์ก็แล้วไป แต่มันยังไม่หนักเท่าความมักง่าย การขาดสามัญสำนึก และความเห็นแก่ตัวของคนหลายๆคนที่ไปดูหนังรอบนั้น
เหตุการณ์ที่โรง14 โรงหนัง เดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อวานนี้
หนังก็พื้นๆเรื่อยๆไม่มีอะไร มาตื่นเต้นเอาตอนจบนี่ล่ะ
ตอนหนังใกล้จะจบ เห็นพนักงานสาวก็เอากล่องมาวางไว้ปากทางออก
พอหนังจบ ทุกคนก็กรูกันออกประตู และก้มมองที่กล่องที่ว่างเปล่า ทุกคนตั้งคำถามว่า จะให้คืนแว่นตรงไหน ? พนักงานก็ไม่อยู่ ในกล่องก็ไม่มีป้ายบอก
ผมก็ไม่รู้ว่าต้องคืนตรงนี้รึเปล่า ทุกคนก็เลยเดินออกไปเลยพร้อมกับแว่น เพราะเข้าใจว่าพนักงานคนจะดักรอให้คืนด้านนอกอีกทีนึง
ที่ไหนได้ โผล่ออกไปก็ไม่เจอพนักงานซักคน ต่างคนต่างงง พร้อมกับเสียงลอยมาว่า เอากลับไปวางไว้ในกล่องค่าาาา
อนิจจา.....
ผู้หญิงท้วมๆ คนนึง พร้อมกับเสียงแว่วว่า เก็บกลับบ้านไปเลย จะเอากลับไปคืนทำไม
ผมเดินย้อนกลับเอาไปวางไว้ในกล่อง พร้อมๆกับอีกหลายๆคนเดินย้อนกลับไปวางคืนในกล่อง
ส่วนอีกหลายๆคน ก็เก็บกลับบ้านไปเลย
กลับไปถึงที่กล่อง ขอบอกว่ากล่องนั้นยังไม่มีแว่นซักอัน เข้าใจว่าเพราะข้างหลังก็เห็นว่าข้างหน้าไม่มีใครคืนตรงนี้ เลยเข้าใจว่าคืนกันข้างนอก
"คืนแว่นตรงนี้นะครับ" ผมบอกไป เท่านั้นล่ะ คนที่อยู่แถวนั้นก็ทะยอยวางแว่นลงกล่อง
แต่ก็มีอีกเยอะที่เอาแว่นกลับบ้านไปเลย
คำถามคือ พนักงานไปไหน
ทำไมไม่เขียนป้ายบอกให้เรียบร้อย จะบอกว่ากล่องนั้นคือที่คืนแว่น แล้วคนไม่เข้าใจก็คงไม่ได้ เพราะมันไม่เข้าใจกันทั้งโรง ผมออกจากโรงหนังเป็นกลุ่มกลางๆ กลุ่มด้านหน้าไม่มีใครวางกันซักคน
พนักงานคนนั้นโดนโรงหนังปรับตังค์ค่าแว่นบานแน่ๆ
แต่ที่หนักกว่านั้นคือ ผู้ปกครองที่พาเด็กๆไปดูหนังแล้วเชิดแว่นกลับบ้าน เขาได้สอนลูกสอนหลานของเขาไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องสามัญสำนึกเล็กๆนี้ กะแค่แว่น แว่นราคาไม่กี่ตังค์ บางคนไม่มีทีวีสามมิติด้วยซ้ำ จะเอาไปทำไม
แต่น้องพนักงานที่สะเพร่านั่นล่ะ จะต้องจ่ายค่าแว่นคืนโรงหนังเท่าไหร่ ถ้าโรงหนังไม่ปรับตังค์ก็แล้วไป แต่มันยังไม่หนักเท่าความมักง่าย การขาดสามัญสำนึก และความเห็นแก่ตัวของคนหลายๆคนที่ไปดูหนังรอบนั้น