สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ขอรายงานการปลูกทานตะวันงอกครั้งแรก หลังจากแอบซุ่มส่องวิธีการจากแหล่งข้อมูลหลายๆแหล่ง รวมทั้งกระทู้ในพันทิปแห่งนี้ด้วย
จากการศึกษาหาความรู้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ทราบว่าวัสดุและอุปกรณ์ในการเพาะนั้นมีหลากหลาย สำหรับการลองเพาะของ จขกท. ครั้งแรกนี้ เลือกวิธี วัสดุและอุปกรณ์การเพาะดังจะแจงในรายละเอียดพร้อมภาพดังต่อไปนี้ค่ะ
1. เมล็ดทานตะวันพันธุ์ (อะไรไม่ทราบ) ลักษณะมน สีดำ ซื้อในร้านขายอาหารสัตว์ กิโลกรัมละ 50 บาท ... ล้างให้สะอาดสัก 2 รอบ แล้วแช่ด้วยน้ำอุ่นทิ้งไว้ข้ามคืน (แช่ช่วงค่ำๆ) พอเช้าก็ซาวขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำ
2. ดินที่ใช้คือดินถุงสำหรับปลูกต้นไม้ที่มีขายทั่วไป ประเภท 5-6 ถุง 100 บาท นั่นแหละค่ะ ผสมกับขุยมะพร้าว (แบบป่นละเอียด) ขุยมะพร้าว 6 ส่วน ดิน 9 ส่วน (ใช้พลั่วเล็กๆสำหรับตักดินเป็นตัวตวงค่ะ) จริงๆคือ จขกท. ใช้ความรู้สึกว่าเอาแค่นี้แหละ (- u -)
3. อุปกรณ์ในการปลูกก็เท่าที่หาได้ในบ้าน มีทั้งชนิดมีรูระบายน้ำด้านล่าง และแบบกะละมังไม่มีรู สำหรับแบบมีรูก็ใช้ถุงที่บรรจุดินตัดรองที่ก้นภาชนะ ... ในภาพคือลังพลาสติกสำหรับใส่ผลไม้
4. ตักดินลงในภาชนะ เกลี่ยให้เรียบ ให้ความสูงของดินประมาณ 1 ข้อนิ้ว แล้วโรยเมล็ดทานตะวันที่แช่แล้วลงไป ค่อยๆหยิบมาทีละนิดจะง่ายต่อการกระจายเมล็ด จากนั้นก็สะบัดๆดินกลบไปบนเมล็ดอีกชั้น ... ในภาพยังไม่กลบดินปิดหน้าค่ะ
5. เก็บไว้ในที่ปลอดแสง จขกท. เก็บไว้บริเวณโรงจอดรถ ใช้เสื่อคลุมทับ (ลืมถ่ายภาพขั้นตอนนี้ไว้) ... รดน้ำเช้า-เย็น โดยใช้ฟ็อกกี้ค่ะ ในภาพคือตอนค่ำของวันแรกที่ปลูก มีรากขาวๆงอกออกมาแล้ว แต่เจอปัญหานิดนึงคือมีมดขึ้นเต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรค่ะ นอกจากนำชอล์กขีดมดมาขีดรอบๆบริเวณ ... กะละมังนี้ไม่มีรูระบายน้ำค่ะ
6. วันที่ 4 ของการเพาะ นำต้นอ่อนออกมาจากที่มืดเพื่อมารับแสงแดดอ่อนๆยามเช้าค่ะ
7. จขกท. แช่เมล็ด 2 ถ้วยตวง จะปลูกได้ประมาณนี้ค่ะ 1 ลังใหญ่ 2 กระจาดเล็กๆ กับอีก 1 กะละมังเล็ก
8. วันที่ 6 ของการเพาะ ตั้งแต่วันที่ 4 เราจะไม่นำไปเก็บไว้ในที่อับแสงแล้วค่ะ จะวางไว้ใต้เก้าอี้ในสวน ซึ่งไม่โดนแสงแดดโดยตรง ต้นอ่อนจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเขียวอ่อน
9. วันที่ 7 ของการเพาะ ตอนเช้ารดน้ำก็ลังเลว่าจะเก็บเกี่ยวเลยดีไหม พอบ่ายๆออกไปสำรวจ ปรากฎว่าเขียวชะอุ่มไปหมด ควรแก่เวลาแล้วล่ะน่า
10. ยกออกมาจากภาชนะกันเลย ความสูงประมาณ 2-3 นิ้วค่ะ
11. วิธีการตัดของเราคือ รวบแล้วดึงขึ้นมาเป็นกระจุก แล้วตัดรากออกด้วยกรรไกรค่ะ ลองแบบตัดไถๆโดยไม่ดึงออกมาแล้วไม่สะดวก และส่วนของลำต้นหายไปพอสมควร ... ไม่ได้ถ่ายภาพเอาไว้ เพราะทำคนเดียว ไม่ทราบจะถ่ายยังไง แหะๆ ส่วนในภาพคือที่ตัดออกมาแล้วค่ะ
12. จากนั้นก็ทำการล้างๆ และล้าง เราล้างไป 4 รอบค่ะ
13. ล้างแล้วใส่ไว้ในกระจาดที่มีรูๆ เพื่อให้สะเด็ดน้ำ ก่อนจะบรรจุถุงแล้วเก็บในตู้เย็น
14. เนื่องจากยังกะปริมาณไม่ถูก การเพาะครั้งแรกจึงเยอะไปสักหน่อย เราจึงคิดว่าจะบรรจุถุงแล้วเขียนข้อความดีๆติดไว้ แล้วใช้เป็นของฝากให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ญาติๆ (เยอะเนาะ) ผลผลิตได้มาประมาณ 2 กะละมังเล็กๆสำหรับล้างผักในครัวเรือนค่ะ
สรุปการเพาะทานตะวันงอกแบบที่ 1 ได้ดังนี้
1. เราคิดว่าการผสมขุยมะพร้าวนั้นไม่จำเป็น
2. ไม่ควรกลบดินอีกชั้นหลังจากโรยเมล็ดแล้ว
3. จากข้อ 1 และข้อ 2 ทำให้เวลาที่เมล็ดงอกขึ้นมาจะมีดินและขุยมะพร้าวดินอยู่บนยอด ทำให้ลำบากในการล้างเป็นอย่างยิ่ง
4. การใช้ภาชนะแบบมีรูระบายน่าจะสะดวกกว่า เพราะเวลาที่เราฉีดน้ำรดเช้า-เย็น ในกะละมังที่ไม่มีรู เราจะยั้งๆมือ ด้วยกลัวว่ามันจะชุ่มไปแล้วน้ำจะขัง จึงทำให้ลำต้นผอมเพรียวไปหน่อยด้วยคงเพราะได้น้ำไม่เต็มอิ่ม
5. มีเมล็ดบางส่วนที่งอกช้ากว่าใครเพื่อน ไม่ทราบว่าเพราะอะไร ทำให้มีเมล็ดและต้นอ่อนเหลือค้างในดินเยอะพอสมควร เราคิดว่าจะนำไปหว่านตรงบริเวณนอกรั้วหน้าบ้านที่เป็นดินว่างเปล่า (บ้านเราอยู่หลังสุดท้าย) เผื่อฟลุคอาจจะได้ทุ่งทานตะวันไว้เชยชมอย่างไม่ได้ตั้งใจ (>u<)
6. รอบหน้าเราจะลองปลูกโดยไม่ใช้ดินดูบ้าง
เย็นนี้จะจัดการผัดน้ำมันหอย อยากรู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะมีบางแหล่งบอกว่ารสชาติและกลิ่นของต้นอ่อนจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ปลูก
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมนะคะ
เห็นใครๆก็งอก เราก็ของอกบ้าง ... ขั้นตอนการปลูกทานตะวันงอกแบบที่ 1
จากการศึกษาหาความรู้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ทราบว่าวัสดุและอุปกรณ์ในการเพาะนั้นมีหลากหลาย สำหรับการลองเพาะของ จขกท. ครั้งแรกนี้ เลือกวิธี วัสดุและอุปกรณ์การเพาะดังจะแจงในรายละเอียดพร้อมภาพดังต่อไปนี้ค่ะ
1. เมล็ดทานตะวันพันธุ์ (อะไรไม่ทราบ) ลักษณะมน สีดำ ซื้อในร้านขายอาหารสัตว์ กิโลกรัมละ 50 บาท ... ล้างให้สะอาดสัก 2 รอบ แล้วแช่ด้วยน้ำอุ่นทิ้งไว้ข้ามคืน (แช่ช่วงค่ำๆ) พอเช้าก็ซาวขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำ
2. ดินที่ใช้คือดินถุงสำหรับปลูกต้นไม้ที่มีขายทั่วไป ประเภท 5-6 ถุง 100 บาท นั่นแหละค่ะ ผสมกับขุยมะพร้าว (แบบป่นละเอียด) ขุยมะพร้าว 6 ส่วน ดิน 9 ส่วน (ใช้พลั่วเล็กๆสำหรับตักดินเป็นตัวตวงค่ะ) จริงๆคือ จขกท. ใช้ความรู้สึกว่าเอาแค่นี้แหละ (- u -)
3. อุปกรณ์ในการปลูกก็เท่าที่หาได้ในบ้าน มีทั้งชนิดมีรูระบายน้ำด้านล่าง และแบบกะละมังไม่มีรู สำหรับแบบมีรูก็ใช้ถุงที่บรรจุดินตัดรองที่ก้นภาชนะ ... ในภาพคือลังพลาสติกสำหรับใส่ผลไม้
4. ตักดินลงในภาชนะ เกลี่ยให้เรียบ ให้ความสูงของดินประมาณ 1 ข้อนิ้ว แล้วโรยเมล็ดทานตะวันที่แช่แล้วลงไป ค่อยๆหยิบมาทีละนิดจะง่ายต่อการกระจายเมล็ด จากนั้นก็สะบัดๆดินกลบไปบนเมล็ดอีกชั้น ... ในภาพยังไม่กลบดินปิดหน้าค่ะ
5. เก็บไว้ในที่ปลอดแสง จขกท. เก็บไว้บริเวณโรงจอดรถ ใช้เสื่อคลุมทับ (ลืมถ่ายภาพขั้นตอนนี้ไว้) ... รดน้ำเช้า-เย็น โดยใช้ฟ็อกกี้ค่ะ ในภาพคือตอนค่ำของวันแรกที่ปลูก มีรากขาวๆงอกออกมาแล้ว แต่เจอปัญหานิดนึงคือมีมดขึ้นเต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรค่ะ นอกจากนำชอล์กขีดมดมาขีดรอบๆบริเวณ ... กะละมังนี้ไม่มีรูระบายน้ำค่ะ
6. วันที่ 4 ของการเพาะ นำต้นอ่อนออกมาจากที่มืดเพื่อมารับแสงแดดอ่อนๆยามเช้าค่ะ
7. จขกท. แช่เมล็ด 2 ถ้วยตวง จะปลูกได้ประมาณนี้ค่ะ 1 ลังใหญ่ 2 กระจาดเล็กๆ กับอีก 1 กะละมังเล็ก
8. วันที่ 6 ของการเพาะ ตั้งแต่วันที่ 4 เราจะไม่นำไปเก็บไว้ในที่อับแสงแล้วค่ะ จะวางไว้ใต้เก้าอี้ในสวน ซึ่งไม่โดนแสงแดดโดยตรง ต้นอ่อนจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเขียวอ่อน
9. วันที่ 7 ของการเพาะ ตอนเช้ารดน้ำก็ลังเลว่าจะเก็บเกี่ยวเลยดีไหม พอบ่ายๆออกไปสำรวจ ปรากฎว่าเขียวชะอุ่มไปหมด ควรแก่เวลาแล้วล่ะน่า
10. ยกออกมาจากภาชนะกันเลย ความสูงประมาณ 2-3 นิ้วค่ะ
11. วิธีการตัดของเราคือ รวบแล้วดึงขึ้นมาเป็นกระจุก แล้วตัดรากออกด้วยกรรไกรค่ะ ลองแบบตัดไถๆโดยไม่ดึงออกมาแล้วไม่สะดวก และส่วนของลำต้นหายไปพอสมควร ... ไม่ได้ถ่ายภาพเอาไว้ เพราะทำคนเดียว ไม่ทราบจะถ่ายยังไง แหะๆ ส่วนในภาพคือที่ตัดออกมาแล้วค่ะ
12. จากนั้นก็ทำการล้างๆ และล้าง เราล้างไป 4 รอบค่ะ
13. ล้างแล้วใส่ไว้ในกระจาดที่มีรูๆ เพื่อให้สะเด็ดน้ำ ก่อนจะบรรจุถุงแล้วเก็บในตู้เย็น
14. เนื่องจากยังกะปริมาณไม่ถูก การเพาะครั้งแรกจึงเยอะไปสักหน่อย เราจึงคิดว่าจะบรรจุถุงแล้วเขียนข้อความดีๆติดไว้ แล้วใช้เป็นของฝากให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ญาติๆ (เยอะเนาะ) ผลผลิตได้มาประมาณ 2 กะละมังเล็กๆสำหรับล้างผักในครัวเรือนค่ะ
สรุปการเพาะทานตะวันงอกแบบที่ 1 ได้ดังนี้
1. เราคิดว่าการผสมขุยมะพร้าวนั้นไม่จำเป็น
2. ไม่ควรกลบดินอีกชั้นหลังจากโรยเมล็ดแล้ว
3. จากข้อ 1 และข้อ 2 ทำให้เวลาที่เมล็ดงอกขึ้นมาจะมีดินและขุยมะพร้าวดินอยู่บนยอด ทำให้ลำบากในการล้างเป็นอย่างยิ่ง
4. การใช้ภาชนะแบบมีรูระบายน่าจะสะดวกกว่า เพราะเวลาที่เราฉีดน้ำรดเช้า-เย็น ในกะละมังที่ไม่มีรู เราจะยั้งๆมือ ด้วยกลัวว่ามันจะชุ่มไปแล้วน้ำจะขัง จึงทำให้ลำต้นผอมเพรียวไปหน่อยด้วยคงเพราะได้น้ำไม่เต็มอิ่ม
5. มีเมล็ดบางส่วนที่งอกช้ากว่าใครเพื่อน ไม่ทราบว่าเพราะอะไร ทำให้มีเมล็ดและต้นอ่อนเหลือค้างในดินเยอะพอสมควร เราคิดว่าจะนำไปหว่านตรงบริเวณนอกรั้วหน้าบ้านที่เป็นดินว่างเปล่า (บ้านเราอยู่หลังสุดท้าย) เผื่อฟลุคอาจจะได้ทุ่งทานตะวันไว้เชยชมอย่างไม่ได้ตั้งใจ (>u<)
6. รอบหน้าเราจะลองปลูกโดยไม่ใช้ดินดูบ้าง
เย็นนี้จะจัดการผัดน้ำมันหอย อยากรู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะมีบางแหล่งบอกว่ารสชาติและกลิ่นของต้นอ่อนจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ปลูก
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมนะคะ