จุดหมายของฉันคือ " บ้าน "

กระทู้สนทนา
เป็นเวลา 4 ปีแล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน  ความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ชีวิตดิ้นรนในกรุงเทพ อยากจะกลับแต่เงินก็ไม่พอ กลับไปทั้งทีก็อยากมีเงินไปให้พ่อแม่ใช้ พาไปกินไปเที่ยว แบบคนอื่นเขาบ้าง ปีแล้ว ปีเล่า ที่ได้แต่โทรศัพท์ไปบอก ถึงแม้เสียงที่ปลายสายจะคอยย้ำเตือนเสมอ " ว่าไม่เป็นไรลูก เงินไม่สำคัญ เท่าลูกๆพากันกลับบ้าน " นึกขึ้นมากี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็ อดน้ำตาซึมไม่ได้ แม้กะทั่งตอนนั้งพิมพ์กระทู้นี้ ..............กลับ!! ปีนี้ยังใงก็ต้องกลับ ผมร้องอุทานขึ้นมาแบบไม่มีปี่ ไม่มีขลุย ทำเอาภรรยาและลูกๆ ที่กำลังอร่อยกับมื้อเย็นต้องนิ่งไป ทุกคนจ้องนิ่งผมอยู่พักใหญ่  ผมมองเข้าไปในตาของภรรยาที่กำลังหยุดการป้อนกล้วยน้ำหว้าบดให้กับลูกสาวคนเล็ก วัยห้าเดือนเศษ  ไม่ต้องมีบทสนทนาใดใดเกิดขึ้น ผมก็รู้ได้โดยทันที  ภาพและข้อความที่สะท้อนจากในตาออกมามันหมายถึง  = แล้วกลับมาจะเอาเงินใหนกินกัน?...ลูกสาวคนโตก็จะเปิดเทอม?...ค่าใช้จ่ายของลูกสาวคนเล็กหละ?....ค่าเดินทางเท่าไหร่?...จะรบกวนพ่อกับแม่ใหม?        แต่!!..    ผมคิดผิดถนัด    เสียง...เย้ๆๆๆ เราจะได้ไปเที่ยวหาปู่กับย่ากันแล้ว
เมื่อภรรยาผม นำทีมลูกๆดีใจกันยกใหญ่    กลับกลายเป็นผมแทน ที่กังวลกับสิ่งต่างๆ เหล่านั้น แต่ก็ไม่สามารถซ่อนมันจากสายตาภรรยาผมได้
     เธอเอามือมาตบที่ไหล่ผมเบาๆ แล้วพูดว่า " ไปกันเถอะพี่ ไม่ต้องห่วงไรทั้งนั้น กลับมาค่อยหากันใหม่ พ่อกับแม่คงคิดถึงพวกเรากันมาก สี่ปีแล้วที่เราไม่ไปกัน  ครั้งสุดท้ายที่ไปกัน น้องยังจำได้ เป็นปีที่พี่ รดน้ำ ดำหัว ขอขมาพ่อและแม่ ปีนั้นปลื้มปิติกันมาก พี่ยังกลัวๆ กล้าๆ ที่จะกอดพ่อกับแม่   พี่ยังกลั้นน้ำตาใว้ไม่ได้ ในขณะที่ล้างเท้าให้พ่อ เพียงแค่คำพูดสั้นๆ ว่า " พ่อ ผมขอโทษ " แล้วพี่ก็ฟูมฟาย ทั้งยิ้ม ทั้งร้องให้!!!......น้องก็พลอยร้องให้ไปด้วย "

ผมหยุดฟังด้วยความตั้งใจ พร้อมกับดวงตาที่สุกใส ร้อยยิ้มที่จริงใจ ของภรรยาที่อยู่ตรงหน้า   ตอนนี้ผมรู้สึกโล่งใจที่สุด และรู้แล้วว่าสงกรานต์นี้จะไปใหน ปีนี้ขอกลับไปกอดพ่อกับแม่ ให้ชื่นใจ.....อีกครั้ง!!! ไม่มีที่ใด สุขใจเท่าบ้านเรา................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่