ทำยังไงถึงจะหยุดสะสมเครื่องสำอางค์ได้.....???

มันเป็นคำถามที่วอแวอยู่ในความคิดของ จขกท. เสมอ เวลาที่ จขกท. เพิ่งจะกิเลสแตกจ่ายเงินซื้อเครื่องสำอางค์ที่ทั้งราคาธรรมดาไปจนถึงแสนแพง
(เพื่อเป็นข้อมูลประกอบคือ คสอ ที่มักจะดูดทรัพย์ออกจากกระเป๋าของ จขกท. ได้ ก็มีตั้งแต่หลักร้อยในร้านอย่าง Boots Watson YvesRocher
ไปจนถึง เคาท์เตอแบรนด์ในห้าง และแบรนด์ที่ดูดทรัพย์ออกจากกระเป๋า จขกท. ได้อย่างง่ายดายเหลือเกินก็คือเมคอัพค่ายญี่ปุ่นอย่างลุงชู)

เหตุการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาก็คือ เมื่อ จขกท. เกิดต่อมกิเลสแตก ได้สัมผัสเมคอัพที่มีแพจเกจสุดแสนจะงดงาม
หรือ มีโปรโมชันส่งมาใน email ว่ามีลด 20 30 40% ตามแต่เทศกาลต่างๆ
และเมื่อไปซื้อในสิ่งที่คิดว่าฉันจะซื้อแค่อะไรที่ใช้อยู่และใกล้จะหมด เพราะมันกำลังลดราคา!!!
มันคุ้มนะเพราะยังไงเราก็ได้ใช้ ถ้ารอมันหมดแล้วค่อยซื้อ แล้วดันเป็นช่วงที่ไม่มีโปรโมชั่นล่ะ เราก็จะต้องจ่ายในราคาเต็มอันแสนแพง
นี่คือเหตุผลที่จริงๆ มันก็ดูมีเหตุผลดีนะในการซื้อ(รึเปล่า) แต่เมื่อถึงเวลาจะจ่ายเงินจริงๆ ก็มักจะถูกพนักงานหลอกล่อด้วยประโยคที่ว่า
'ซื้อครบ x,xxx ได้.............แถมด้วยนะคะ' เอาล่ะสิ ประโยคเด็ด 'เอร้ยมันได้ฟรีอ๊ะ' ความคิดนี้จะเด้งขึ้นมาในบัดดล
หรือไม่ถ้าเป็น Gift Set ที่มักจะมาพร้อมกระเป๋า คสอ. ใบเล็กน่ารัก มันก็มักจะน่ารักจนไม่อาจต้านทานได้
พาพันเศร้าพาพันเศร้าพาพันเศร้า

และด้วยเหตุผลอื่นๆอีกต่างๆนาๆ สารพัดที่จะถูกหลอกล่อด้วยโปรโมชั่น หรือของแถม ที่แม้จะไม่ชายตาแลของแถมที่เอามาก็ไม่ได้ใช้แล้ว
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเป็นผล เพราะดันใช้มันทุกอย่าง เลยกลายเป็นว่าจะแถมอะไร ก็จะมีข้ออ้างกับตัวเองเสมอว่ามันเป็นของที่เราได้ใช้ อิอิ

กลายเป็นว่า ปัจจุบันเรามี คสอ ทั้ง Make Up ทั้ง Skin Care อยู่เต็มตู้ไปหมด
ชนิดที่ต่อให้เกิดสงครามกลางเมืองซัก 3 ปี(ไม่สามารถหาซื้อ คสอ ได้) ก็ยังหน้าเด้งได้อยู่
และทุกครั้งที่เปิดคลังแสงเพื่อเก็บบรรดาสรรพสิ่งที่ถูกหลอกล่อให้เสียเงินกลับมาบ้าน ก็จะเกิดความคิดเช่นนี้ว่า
'ชั้นจะต้องหยุดซื้อ จงใช้ให้หมดๆ' แต่ก็จะกลับไปวงจรอุบาทตรงที่พอเจอโปรโมชั่นต่างๆก็จะกิเลสแตก
แล้วกลับมานั่งจิตตกตอนที่เห็นบรรดาสมบัติในตู้หลังจากจ่ายตังไปแล้ว

เลยอยากถามความเห็นเพื่อนๆว่ามีวิธีการจัดการกับพฤติกรรมแบบนี้ยังไงดี อย่าให้ต้องถึงกับไปบำบัดที่ถ้ำกระบอกกันเลย
พาพันเศร้าพาพันเศร้าพาพันเศร้า

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ทำสเปซจำกัดไว้  เช่น มี กล่องอยู่ 1 กล่อง  

หากของยังเต็มอยู่   ก็ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

หมดไปหนึ่ง ค่อยซื้อมาเติมใหม่  

เอากล่องนี้แหละ มีตัวกำหนดปริมาณของที่เราพึงจะมีได้  

หรือก่อนซื้อ   เพ่งพินิจ สักนิสนุง  ของที่กองพะเนินเทินทึก  เราใช้บ้างหรือเปล่า  มีเยอะไปหรือเปล่า  แบบไม่เข้าข้างตนเองจนเกินไป

หรือจะทำลิสต์  แปะไว้หน้ากล่องหน้าตู้ ก็ดี  เอาไว้อ่านเตือนใจ  ก่อนใจไว้ ไปซื้อมาอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่