เพิ่งเก็บเงินได้ 2 แสนบาท พ่อแม่จะขอเงินไปต่อเติมบ้านเพื่อรับมือกับหน้าฝนที่อาจจะเจอน้ำท่วม จะให้ท่านเท่าไหร่ดี

ทำงานมา 7 ปีกว่าๆ เงินเดือนเริ่มต้นจาก 7,630 ปัจจุบัน 13,000
เพิ่งมีเงินเก็บครบ 200,000 บาท เล่าให้พ่อแม่ฟังเมื่อวานนี้

พอท่านรู้ว่าเราพอจะมีเงินบ้าง ท่านก็เลยจะขอเงินไปต่อเติมบ้านโดยการยกพื้นให้สูงขึ้น
แก้ปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเจอในหน้าฝนที่กำลังจะมาถึงนี้
(จริงๆแล้ว พ่อกับแม่ก็อยากเอาเงินของท่านมาจ่ายเองแต่ตอนนี้ท่านไม่มีเงินจริงๆ)

พูดตรงๆ ในใจก็เสียดายกว่าจะเก็บเงินมาได้ขนาดนี้ต้องประหยัด อดออมมาตลอด แต่ก็สงสารพ่อกับแม่
ก็เลยกำลังตัดสินใจว่าจะให้ท่านไปกี่บาทดี
ถ้าเป็นเพื่อนๆ ในพันทิปจะให้ท่านไปเท่าไหร่ดีคะ

สอบถามเพิ่มเติม ท่านใดมีประสบการณ์ในการยกพื้นบ้านบ้างคะ ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะ
เฉพาะค่าช่างประมาณเท่าไหร่คะ ถ้าทราบกรุณาบอกข้อมูลด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ทำงานมา 7 ปีกว่าๆ เงินเดือนเริ่มต้นจาก 7,630 ปัจจุบัน 13,000 บาท
แต่มีเงินเก็บถึง 200,000 บาท เฉลี่ยเก็บสองพันกว่าบาท/เดือน เก็บเก่งมากเกือบ 15-20% ของเงินเดีอน
คงจะประหยัดน่าดู ชื่นชมครับ

และดูเหมือนถ้าคุณมีปัญหาก็คงไม่มีใครมาช่วย รวมถึงที่บ้านด้วย เพราะไม่มีเงินเก็บเหมือนกัน
ดังนั้นคุณเปรียบเสมือนยืนอยู่ตรงหน้าผา คนอื่นล้มใส่คุณคุณยังด้วยประคอง แต่ถ้าคุณล้ม คุณล้มเลย
ดังนั้นใช้ในแบบที่คุณไม่เดือดร้อนดีกว่าครับ ไม่ถึงต้องให้จนหมด ไม่เหลือเก็บไว้ใช้ตอนยอมฉุกเฉินเลยครับ

ชีวิตเกิดมาวุ่นวายและซับซ้อน คุณรู้ดีที่สุด แค่คุณคิดดี ทำดี เป็นคนดีของสังคม ของครอบครัว ก็ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณบุพการี
และแผ่นดินเกิดแล้วครับ คุณก็เหนือยแล้ว เงินเดือนประมาณนี้เก็บเงินได้เท่านี่ คงเป็น 7 ปีแห่งการอดทน และปีต่อๆไปคงจะต้องอดทน
ไปเรื่อยๆ ขอให้มีสักวันที่คุณประสบความสำเร็จ เอาใจช่วยครับ
ความคิดเห็นที่ 16
เห็นใจ จขกท ครับ คนที่บอกว่ามีเท่าไหร่ให้พอ่แม่ หมดเนี้ย แสดงว่า ยังไม่เคยให้เงิน พ่อแม่ หมดแน่ๆครับ หรือมีแค่นิดๆหน่อยๆก็ให้ผม
เหมือนอย่าง คห 10 บอกครับ เงินเก็บนี้คงเป็นเงิน ฉุกเฉินด้วยแน่ๆ ลองมีเท่านี้ กว่าจะเก็บได้ ถ้าล้ม ซํกครั้งนี้ลุกยากเลยนะครับ

ลองถามท่านดูครับว่าใช้เท่าไหร่ ถ้าเรื่องนี้ไม่เดือนร้อนมาก แบ่งให้ ซัก แสน ครับ เก็บไว้เพื่อฉุกเฉินซักแสน ครับ

เรื่องเงินเก็บเนี้ย อยากบอกใครครับ โดยเฉพาะ พ่อแม่ ถึงเราจะให้ท่านทุกเดือน ถ้าท่านรู้ว่าเรามีเงินเท่าไหร่ พ่อแม่บางคน ภูมิใจในตัวลูกครับ แล้วเอาไปอวด ญาติ ที่นี้หล่ะ ญาติๆ จะเดือนร้อนกันใหญ่
ความคิดเห็นที่ 25
ทุกอย่างมันมีจุดที่เหมาะสม  แต่ละคนจุดพอดีมันไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง  

เรื่องยกบ้านควรช่วย  แต่จะเท่าไหร่ก็อีกเรื่องนึง  ที่แน่ๆไม่ใช่หลับหูหลับตามีเท่าไหร่ให้ไปหมด  มันคนละเรื่องกัน

อ่านดู จขกท เงินเดือนน้อยเก็บจนได้สองแสนนี่ถือว่าเก่งพอสมควร  แบ่งให้พ่อให้แม่บ้างบางส่วนก็พอดีๆแล้ว

ที่เหลือเก็บไว้ยามจำเป็นก็เป็นเรื่องสำคัญ  ใครจะไปรู้อีกหน่อยอาจจะต้องมีเรื่องที่สำคัญกว่านี้ที่จำเป็นต้องใช้เงินก้ได้


อีกอย่างนะ อย่าไปใส่ใจคำพูดหลอนๆที่ว่าคุณงก  ทำไมไม่ให้หมด ทำไมต้องคิดโน่นคิดนี่ คำพูดพวกนี้ฟังดูดีแต่ไม่มีประโยชน์

ยกบ้านไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย  ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพพ่อแม่แล้ว จขกท คิดมากแบบนี้สิเรียกว่างก  ความจำเป็นมันต่างกัน

คนกตัญญูเป็นกันได้ทั้งนั้น  แต่ให้เป็นเป็นคนกตัญญูที่ฉลาด อย่าไปเป็นคนกตัญญูโง่ๆ  กตัญญูเอาหน้าอะไรพวกนี้ ไร้สาระมากครับ
ความคิดเห็นที่ 5
การบอกว่ามีเงินเท่าไหร่ แปลว่า มาช่วยใช้หน่อยสิ มีเงินเหลือเท่านี้เชียวนะ

วันหลังมีเงินเก็บได้เท่าไหร่ ห้ามบอกใครค่ะ พ่อแม่ โดยเฉพาะแม่นี่แหละตัวดี เพราะจะมีการบอกต่อ เม้ามอยอวดญาติอวดเพื่อนฝูง ต่อให้พวกท่านไม่ใช้ เดี๋ยวก็มีคนโผล่มาหาเรื่องใช้เอง ถ้าอยากจะบอกใครจริงๆ ให้เอาศูนย์ออกอย่างน้อยสองตัวขึ้นไป ...คิดว่าไม่ได้เป็นงี้ทุกคนหรอกค่ะ แต่เจอมากะตัวมักอารมณ์นี้

กรณีนี้ไหนๆ ก็พลาดไปแล้ว ถ้าเป็นเราจะบอกไปว่า อุ๊ย คำนวณผิดไป ยังไม่ได้หักค่าภาษีกับประกันปีนี้เลย เหลือแค่แสนเดียวเองง่ะ หนูช่วยห้าหมื่นนะๆ ที่เหลือขอเก็บไว้ยามฉุกเฉิน
ความคิดเห็นที่ 73
ความกตัญญูกับการวางแผนทางการเงินควรไปด้วยกันครับ ไม่ใช่ว่าให้จนหมดจนสิ้นไม่เหลือเผื่ออะไรเลย

คุณเองต้องดูสถานะทางการเงินของตัวเอง ความมั่นคงของการงาน สถานะการเงินทางบ้าน ความเสี่ยงในการเกิดน้ำท่วม ประกอบกันทั้งหมด เพื่อวิเคราะห์ออกมาว่าควรทำหรือไม่ และควรจะใช้งบเท่าไหร่ให้พอทำได้ และไม่เดือดร้อนเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน

ถ้าเงินสองแสนนั่นเป็นเงินสดก้อนเดียวที่คุณมี และทางครอบครัวคุณไม่ได้มีสมบัติอื่นใดที่เทียบเท่าเงินสดมากกว่านี้ การทุ่มเงินไปทำบ้านทั้งหมดถือเป็นความเสี่ยงมาก ถ้าเกิดคุณตกงาน หรือป่วย หรือพ่อแม่เข้า รพ. จะเอาเงินที่ไหนใช้ พ่อแม่เราแทนที่จะได้รับการรักษาดีๆ อยู่โรงพยาบาลดีๆ ต้องมานอนโรงพยาบาลตำบลห้องพัดลมรวมกันคนอื่น คุณยังจะได้ชื่อว่ากตัญญูอีกรึเปล่า

อย่าคิดแค่ว่าเห้ย เรากตัญญู เราต้องให้หมด ให้พ่อแม่เอาไปทำอะไรก็ได้ ขอให้ท่านมีความสุขก็พอ เรากัดก้อนเกลือกินแค่ไหนก็ยอม เรากตัญญูแบบนี้ไม่เจอเรื่องร้ายหรอก ต้องมีแต่เรื่องดีๆเข้ามา .............บอกเลย นี่มันความคิดโลกสวยโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โลกแห่งความจริงมันไม่สวยขนาดนั้นหรอก อย่างบางคนที่ผมรู้จัก มาจากต่างจังหวัด ทำงานหาเงินแทบตายส่งกลับบ้านหมด ตัวเองไม่มีเงินเก็บ วันนึงตกงาน เลยเก็บกระเป๋ากลับบ้าน หวังว่าคงมีบ้านมีพ่อแม่ให้พักอาศัยสักพัก ปรากฏบ้านถูกยึดไปแล้วเพราะเอาบ้านไปจำนองแล้วโดนโกง เงินที่ส่งไปไม่เหลือโดนญาติพี่น้องเอาไปหมด สุดท้ายต้องไปเช่าเขาอยู่ แล้วต้องรีบกลับมาหางานทำเพราะไม่งั้นก็อดตายทั้งบ้าน

การให้เงินพ่อแม่ไปทำอะไรต้องให้อย่างชาญฉลาด ดูเหตุผลและความเหมาะสม มีการคุยปรึกษากันก่อนว่าจะใช้อะไร ไม่ใช่ตะพึดตะพือให้ๆๆๆอย่างเดียว เหมือนสมัยที่เรายังเด็กท่านก็ไม่ได้เลี้ยงเราแบบตามใจ ประเคนทุกอย่างให้เรา แต่ท่านก็ดูความเหมาะสมด้วยเหมือนกัน พ่อแม่รักเรา เราก็รักพ่อแม่ แต่ความรักต้องตั้งอยู่บนเหตุผลและความเหมาะสมด้วยทั้งสองฝ่าย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่