(88)*****มาต่อทริปอริสโซน่าตอนที่สองกันดีกว่าค่ะ*********

กระทู้สนทนา
ยังอยู่ที่สวนเดิมค่ะ วันแรกที่ไปถึง ป้าไปวันพฤหัส ก็คิดว่าวันทำงานคนคงไม่เยะ ที่ไหนได้ ล้นหลามค่ะ ส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซนต์คือซีเนียร์ซิติเซ่น ผู้อาวุโสทั้งหลาย เกษียณกันแล้วก็เที่ยวกัน มองไปทางไหนก็เห็นผมสีดอกเลาสลอนไปหมด ส่วนใหญ่แต่งตัวตามสบายแบบไม่กลัวหนามกระบองเพขร (เอหรือเค้าเรียกว่าตระบองเพชรคะ อิอิ) ป้าแต่งแบบยู่ท่าห์กันหนาว ล่อกางเกงขายาวเสื้อแขนยาว ร้อนมาก อากาศร้อนแบบจะบอกป้าว่ายินดีต้อนรับสู่ทะเลทรายย่ะหล่อน อิอิ

หลังจากที่ยืนรอญาติๆ ทั้งหลายกันจนเมื่อย ป้าก็ตัดสินฉายเดี่ยวไปเดินถ่ายรูปดนเดียว (กลัวหลงในดงตระบองเพชรเหมือนกันค่ะ) แต่แสงเริ่มอ่อนลง ป้ายังไม่ได้รูปที่ถูกใจเลยซักรูป ตอนที่มัวแต่กัมๆ เงย หมุนแบบรบกับสายตาตัวเอง หันไปเห็นลุงยืนอยู่ใกล้ๆ คุยโทรศัพท์ เอ้าตามเข้ามากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แล้วโทรคุยกับสาวที่ไหนล่ะนั่น ที่แท้เค้าพยายามโทรหาป้า แล้วป้าปิดมือถือตั้งแต่อยู่บนเครื่อง ก๊ากสสสสส์ ยืนจ่อยังไม่ไเห็นป้า ลุงนะลุง

เริ่มเดินไปตามจุดต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ มีแต่ป้าที่ยังรบกับการหมุนหาโฟกัส ลุงเริ่มเกเรเพราะหิว ป้าเลยได้บทเรียนว่าไปกับผู้สูงอายุก็เหมือนไปกับเด็ก เวลาหิวต้องรีบหาอะไรกินทันที เลยเดินหาที่ขายอาหาร ปรากฏว่าทุกคนใจตรงกัน หิวเวลาเดียวคิวเลยยาวเหยียด กว่าจะได้ซื้อเกือบได้หามลุง ก๊ากสสสสสส์

สัปดาห์ที่ป้าไป มีงานโชว์ศิลปะในสวนค่ะ ทุกชิ้นทำกับแก้ว รูปร่างต่างๆ กัน น่าสนใจดีค่ะ ป้าเลยหมุนมาบ้าง คนไปเยอะเพราะไปดูงานแสดงศิลปะนี้ล่ะค่ะ มองไปทางไหน ก็ถ่ายรูปกับมือถือกัน มีป้าเชยแบกกล้องตัวไหญ่ อิอิ

ถึงจะเป็นซีเนี่ยร์แต่ยังแต่งตัวกันหวือหวาดีแท้ๆ
ตอนมีแสงก็พอสู้ค่ะ
เค้าทำได้อลังการจริงๆ ค่ะศิลปินคนนี้
แบบซูมดูรายละเอียดหน่อยนึง อิอิ
แสงหมดก็ถอย แต่ก็หมุนมาเผื่อฟลุ๊ค
เรื่องมุมมองภาพไม่ต้องคำนึงถึงเลยค่ะ ป้าก็ไหลไปตามกระแสคนตามทางเดินจะแหวกแนวเดินรอบหามุมก้ไม่ได้ ป่าตระบองเพชรต้นสูงใหญ่ แถมมีการเขียนเตือนเรื่องงูทะเลทรายอีก เอาฟะ มุมมองน่าเบื่อก็ขอแค่รูปโฟกัสเข้าหน่อยนึงก็พอนาะ อย่างรูปนี้เน้นสี อิอิ
หลังจากตะวันตกดิน ป้ากับลุงไปค้างที่อพาร์ตเมนท์น้องชาย ทั้งๆ ที่ญาติคนอื่นๆ ชวนไปค้างที่บ้านหลังใหญ่ของเค้า อยากไปอยู่ที่สบายแต่ป้ากับลุงตั้งใจไปแล้วว่าจะค้างกับน้องชายลุง ถึงเป็นอพาร์ตเมนท์เล็กๆ แต่จะได้มีเวลาคุยกันมากขึ้น หน้าตาของที่พักเป็นแบบนี้ค่ะ รูปจากเวปนะคะ
เช้าวันใหม่ พากันนอนตื่นสายเพราะหลับๆ ตื่นๆ ไม่คุ้นเคยกับเตียงน้ำแบบโบราณที่น้องชายลุงใช้ เจ้าของบ้านนอนถุงนอน ตอนแรกป้าเล็งไว้แล้วว่าจะนอนถุงนอนเพราะไม่ถนัดเตียงน้ำ ใครเคยนอนเตียงน่ำมั้ยเอ่ย อิอิ เอาเป็นว่าป้านอนไม่หลับ คอยนับเสียงนาฬิกาเรือนไม้โบราณที่ขยันตีบอกว่าทุกชั่วโมง อยากให้เช้าเร็วๆ จะขยับก็เกรงใจเพราะขยับที่ไรน้ำกระเพื่อม ยิ่งเวลาลุงขยับตัว ป้าแทบกระดอนตกเตียง ก๊ากสสสส์ ทุลักทุเลแท้ๆ

โปรแกรมวันนี้จะไป บ้านญาติลุง สาวโสดอาชีพขับเครื่องบินสายการบินที่ป้าไป เลยได้โอกาสฟ้องเรื่องแอร์โฮตเตส ก๊ากสสสสส์ บ้านส่วนใหญ่มีสวนรอบบ้านแบบนี้ล่ะค่ะ ต้องประหยัดน้ำ เลยไม่ให้มีสนามหญ้ากัน ป้าว่าเก๋ดี สมกับเป็นเมืองทะเลทรายเนาะ
แผนวันนี้คือป้าจะทำผัดไทยเลี้ยงฝรั่งทั้งหลาย พอกินกันเสร็จเค้าคุยกันป้าก็เดินเก็บรูปมานิดหน่อยค่ะ อากาศร้อนมาก
ห้องนึงในบ้าน
หน้าบ้านค่ะ
ตกเย็นไปกินอาหารอีกบ้านนึง สรุปแล้ววันที่สองแล้วที่ป้ายังไม่มีข้าวตกถึงท้อง กลับดึกเลยค่ะเพราะหนุ่มๆ เหลือน้อยมีความหลังคุยเยอะจริงๆ อิอิแต่ยังไงป้าก็ไม่บ่นค่ะ นั่งฟังบ้าง ไม่ฟังฟังบ้าง จนได้เวลากลับไปนอนเตียงน้ำอีกแล้ว แงๆๆๆ

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ง่วงแล้วค่ะวันนี้ ตีหนึ่งอีกแล้ว ขอบคุณที่แวะมาค่ะ รักห้องมือหมุนเสมอค่ะหัวใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่