*****ขอบคุณทุกคน ทุกกำลังใจค่ะ ตอนนี้ขึ้นกระทู้แนะนำแล้ว เราจะพยายามค่ะ
กลายเป็นกระทู้เรียกน้ำตาไปซะแล้ว

ขอบคุณทุกๆคนอีกครั้ง เราอาจตอบไม่ครบทุกคน แต่เราได้อ่านทุกข้อความจากเพื่อนๆค่ะ******
ต่อจากกระทู้ที่เราตั้งเรื่องเขียนจดหมายหากันล่าสุดเมื่อไร เราเลยไปค้นจดหมายที่ลูกชายคนโตส่งมาให้เมื่อหลังวันแม่ปีที่แล้วมาดู น้ำตาก็รื้นขึ้นอีกครั้ง.......
จดหมายฉบับนี้อาจดูธรรมดาสำหรับใครๆหลายคน
แต่สำหรับเรา นี่เป็นจดหมายที่มีค่ามากๆ ครั้งแรกที่ได้อ่านมัน น้ำตาไหลหยดลงมาบนโต๊ะทำงานจนลูกน้องมองกันตาปริบๆๆ
เป็นจดหมายจากลูกชายคนโต ที่เรียนอยู่ชั้นป. 4 รร.นึงในจังหวัดเชียงใหม่
เราหย่าร้างกับสามีเก่า เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ด้วยปัญหามือที่สาม เราพยายามประคองชีวิตครอบครัวจนสุดมือ วันนึงยื้อไม่ไหว มาถึงวันที่ต้องแยกทางกัน
เราซมซานกลับมาอยู่บ้านเกิดที่กทม. พร้อมลูกชายอีก 3 คน (อ่านไม่ผิดนะคะ เรามีลูกชายทั้งหมด 4 คนค่ะ) ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง บ้าน รถ อาชีพการงาน ไม่มีอะไรติดตัวมาสักอย่างเดียว จะเรียกว่าโดนถีบหัวส่งก็คงได้ค่ะ มาตั้งต้นกันใหม่ที่กทม. เรื่องมันผ่านมานานแล้ว เราไม่ได้ใส่ใจและลืมความเจ็บปวดไปแล้วค่ะ
ส่วนลูกชายคนโต สาเหตุที่ไม่ได้เอามาด้วยเพราะว่าเป็นหลานคนแรกของทางบ้านสามี ย่าเค้าเลี้ยงของเค้ามาและรักหลานคนนี้มากๆ เลยตกลงให้อยู่กับทางนั้นค่ะ แต่เราก็โทรคุยหรือไปเจอลูกเสมอช่วงปิดเทอม พาน้องๆไปเจอด้วย
แบงค์เป็นเด็กฉลาดมากๆค่ะ เรียนเก่งหัวดี มีความคิดความอ่านเกินเด็ก เค้าบ่นเสมอ ว่าอยากอยู่กับน้องๆ พร้อมหน้าพร้อมตา อยากมาอยู่กับแม่ด้วย แต่พ่อกับย่าไม่ให้มา เราก็บอกลูกว่า สักวันย่าจะต้องยอมลูก อยู่ดูแลย่าก่อน ตอนนี้ย่าต้องการแบงค์ เมื่อไรย่ายอมให้มา มาอยู่กับแม่ได้ทันที (สามีใหม่เราเค้าโอเคค่ะ เข้าใจว่าเรารักลูกมากๆแค่ไหน)
จดหมายสั้นๆจากลูกชายป. 4 ....ที่ทำให้คนเป็นแม่น้ำตาไหล
กลายเป็นกระทู้เรียกน้ำตาไปซะแล้ว
ขอบคุณทุกๆคนอีกครั้ง เราอาจตอบไม่ครบทุกคน แต่เราได้อ่านทุกข้อความจากเพื่อนๆค่ะ******
ต่อจากกระทู้ที่เราตั้งเรื่องเขียนจดหมายหากันล่าสุดเมื่อไร เราเลยไปค้นจดหมายที่ลูกชายคนโตส่งมาให้เมื่อหลังวันแม่ปีที่แล้วมาดู น้ำตาก็รื้นขึ้นอีกครั้ง.......
จดหมายฉบับนี้อาจดูธรรมดาสำหรับใครๆหลายคน
แต่สำหรับเรา นี่เป็นจดหมายที่มีค่ามากๆ ครั้งแรกที่ได้อ่านมัน น้ำตาไหลหยดลงมาบนโต๊ะทำงานจนลูกน้องมองกันตาปริบๆๆ
เป็นจดหมายจากลูกชายคนโต ที่เรียนอยู่ชั้นป. 4 รร.นึงในจังหวัดเชียงใหม่
เราหย่าร้างกับสามีเก่า เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ด้วยปัญหามือที่สาม เราพยายามประคองชีวิตครอบครัวจนสุดมือ วันนึงยื้อไม่ไหว มาถึงวันที่ต้องแยกทางกัน
เราซมซานกลับมาอยู่บ้านเกิดที่กทม. พร้อมลูกชายอีก 3 คน (อ่านไม่ผิดนะคะ เรามีลูกชายทั้งหมด 4 คนค่ะ) ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง บ้าน รถ อาชีพการงาน ไม่มีอะไรติดตัวมาสักอย่างเดียว จะเรียกว่าโดนถีบหัวส่งก็คงได้ค่ะ มาตั้งต้นกันใหม่ที่กทม. เรื่องมันผ่านมานานแล้ว เราไม่ได้ใส่ใจและลืมความเจ็บปวดไปแล้วค่ะ
ส่วนลูกชายคนโต สาเหตุที่ไม่ได้เอามาด้วยเพราะว่าเป็นหลานคนแรกของทางบ้านสามี ย่าเค้าเลี้ยงของเค้ามาและรักหลานคนนี้มากๆ เลยตกลงให้อยู่กับทางนั้นค่ะ แต่เราก็โทรคุยหรือไปเจอลูกเสมอช่วงปิดเทอม พาน้องๆไปเจอด้วย
แบงค์เป็นเด็กฉลาดมากๆค่ะ เรียนเก่งหัวดี มีความคิดความอ่านเกินเด็ก เค้าบ่นเสมอ ว่าอยากอยู่กับน้องๆ พร้อมหน้าพร้อมตา อยากมาอยู่กับแม่ด้วย แต่พ่อกับย่าไม่ให้มา เราก็บอกลูกว่า สักวันย่าจะต้องยอมลูก อยู่ดูแลย่าก่อน ตอนนี้ย่าต้องการแบงค์ เมื่อไรย่ายอมให้มา มาอยู่กับแม่ได้ทันที (สามีใหม่เราเค้าโอเคค่ะ เข้าใจว่าเรารักลูกมากๆแค่ไหน)