คุณจะเลือกอะไรครับ ถ้าถามแล้วต้องเจ็บ กับ ไม่ถามแล้วสงสัยไปตลอดชีวิต เรื่องอย่างว่า

กระทู้คำถาม
ผมเลิกกับแฟนไป 2 เดือน แล้วผมกลับไปขอคืนดี เขาเล่าทุกอย่างให้ฟังว่าตอนนี้เขาลองคบคนใหม่ ผมเลยถามว่าถึงขั้นไหน
คำตอบคือ มีกอดจูบลูบคลำ ล้วงกันในรถครั้งนึง ไม่เกินกว่านี้ ตรงนี้ผมพอรับไหว เพราะเขาก็ไม่ผิดอะไร เกิดหลังจากเลิกกัน
ผมถามเขาจนถึงตรงนี้ เขาตอบไม่ไหวแล้ว ผมจึงไม่ซักเขาต่อ ผมค่อนข้างหัวโบราณกับเรืองแบบนี้ และเขาก็เช่นกัน (แต่เราก็เป็นของกันและกันแล้ว เพราะเกือบจะแต่งงานกัน ผมจึงรู้สึกเป็นเจ้าของเขา) และบ่อยครั้งที่เขาไม่ชอบให้ผมทำเรื่องนี้ก่อนแต่ง (ผมดูเห็นแก่ตัว ยอมรับครับ)
   ที่ผมอยากถามเขาก็คือ
-ครั้งนึงในรถนั้น เขาได้พยายามฝืน /ปัดป้องผช. เหมือนที่เขาทำกับผมบ่อยๆรึเปล่า
-หรือเขารู้สึกดีกับผช.คนนั้นมากกว่าผม ในตอนนั้นจึงจัดเต็ม (เพราะคำที่บอกว่าล้วงกัน ถ้าเผลอใจนิดหน่อย แล้วห้าม พยายามปัดป้อง เหมือนที่ทำกับผม ผมจะรับได้  แต่ถ้าถึงขั้นยาวเลย มีความสุข ล้วงจนแตก โมกคืนให้ด้วย ผมรับไม่ได้ครับ)

เข้าใจมั้ยครับ เราจะมโนไปตลอดชีวิต มันเจ็บมากครับ หรือถามให้รู้ไปเลย แม้จะเจ็บแต่ไม่ต้องมโน เผื่อได้คำตอบแรกจะได้สบายใจ ไม่มีข้อสงสัยคลางแคลงใจมาคอยรบกวน ถ้าเป็นข้อสอง จะได้เลิกไปเลย ไม่ต้องกลับไป ขอบคุณครับ

             -----
update 4วันให้หลังจากที่โพสกระทู้

   สรุปว่า วันนี้ผมเคลียร์ทุกอย่างแล้วครับ (ผมกลับมาเล่าเพื่อขอบคุณทุกคนที่มาให้ความเห็นครับ)
   ผมมีโอกาสได้ถามเขา และมีวิธีถามที่ไม่ได้ดูถูก หรือโกรธกันใดๆ ผมอธิบายเธอว่า มันจะทำให้ผมรู้ว่า เธอเป็นคนอย่างที่ผมเคยรู้จักมั้ย บลาๆๆ โอเคโชคดีครับ ผมได้คำตอบที่ผมพอใจ (ย้ำนะครับว่า ผมเชื่อความไม่โกหกของเธอ100%) คำตอบคือ ข้อ1ครับ และเธอยอมรับว่ามีความสุขครับ แต่พักเดียว พอเริ่มว่ามันจะเยอะเกินไป เธอก็ห้ามครับ ไม่ถึงกับเสร็จ และไม่ได้ไปยุ่งกับหนอนผช. ---ผมถือว่า เป็นแค่การลองครับ
   
    แต่ที่แย่ คือ เธอตัดสินใจไม่กลับมาหาผมครับ เธอเปิดโอกาสให้ตัวเอง ได้ลองดูต่อว่าจะไปกับคนนั้นได้มั้ย(ทั้งที่ยังไม่แน่ใจ) แต่กับผม เธอไม่ได้รู้สึกดีใจที่ผมกลับมาขอคืนดี เพียงแต่สงสาร ยังไม่อยากปฏิเสธแต่แรก เท่านั้นเอง ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขาครับ ชีวิตเขา และยังรู้สึกดี ที่เธอแฟร์ ไม่หลอกให้ความหวังผมต่อไปเพียงเพราะสงสาร ถ้าใจมันเลือกแล้ว ชัดเจนกันไป

    ด้วยความที่ผมไม่ค่อยมีเพื่อน และมีเขาคนเดียวเป็นทั้งเพื่อนทั้งแฟนมา 11ปี ผมจึงคิดได้ว่า ผมจะผ่านช่วงนี้ไปได้ ถ้าผมเสียแค่ความเป็นแฟนไป แต่เพื่อนยังอยู่ ผมยังโทรคุยกับเขาได้บ้าง ยังเจอกันได้บ้างแบบเพื่อน(เพราะคนใหม่ตอนนี้ยังไม่ได้ตำแหน่งแฟน งงมะ มีล้วงแล้ว เผลอใจน่ะครับ บางคนคงเข้าใจ) แล้วผมก็พยายามไปมีชีวิตใหม่ เพื่อนใหม่ สาวใหม่ อย่ายึดติดที่เขา ผมอาจจะดีขึ้น หวังว่าผมจะไม่คิดมากขนาดนี้ ทันเวลาก่อนที่เธอจะตัดสินใจคบเขาจริงๆ เพราะตอนนั้น ผช.จะมีสิทธิ์เต็มที่จะหึงหวง เธอคงต้องให้เกียรติคนนั้น และผมก็ไม่อยากเป็นตัวปัญหาของเขาครับ ถึงตอนนั้นผมคงต้องห่างหายไปเลย

    หวังว่าคงทันนะใจ   
(ขอบคุณทุกความเห็นครับ ถึงเป็นเพื่อนออนไลน์ที่ไม่รู้จัก แต่เป็นที่เดียวที่ผมถามเรื่องนี้ได้ มันจึงสำคัญกับผมจริงๆ ขอบคุณครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
เหมือนตอนแฟนเก่าเราเลยน่ะ
แฟนเก่าเราตอนคบกันไม่ดูแล ทิ้งๆขว้างๆ พอเรามีคนใหม่เข้ามาเราก็จะไป
แล้วแฟนเก่ามันก็เลยพยายามจะเอาเรากลับไป ตามง้อ .... แต่

สิ่งนึงที่แฟนเก่าเราพยายามจะถามจากเรามากที่สุดคือ 'มุง มี อะ ไร กับ มัน หรือ ยัง'
ถ้ามันโทรหาเราได้ มันก็จะถามเราอยู่แค่เนี่ย ซึ่งเรา ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ... เราเกลียดมากที่ถามแบบนี้ ...
จากที่เรายังอยากจะคุย เราเลยเกลียดและรังเกียจแฟนเก่าไปเลย ไม่ใช่แค่น่ารำคาน ขยะแขยงเลย

เราคบกับแฟนเก่ามา 4 ปีค่ะ .... เลิกกันใช้แค่วินาทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่