ผมกับแฟนได้ยื่นเรื่องกู้ซื้อตึกไว้กับ ธนาคารแห่งนึง โดยเป็นการยื่นกู้ร่วม (แฟนเป็นผู้กู้หลัก) ซึ่งผลอนุมัติออกมาผ่าน กว่าจะผ่านก็ยื่นเรื่องขอไปขอมาหลายทีเหมือนกัน
โดยการกู้แยกเป็น
กู้จากราคาประเมิน 90% = 2,47x,xxx บาท
กู้ตบแต่ง 10% ของราคาประเมิน = 27x,xxx บาท
โดยตอนสายๆ ของวันพฤหัสที่ผ่านมาทาง จนท. ธนาคารก็ได้โทรนัดเราไปจดจำนองที่ที่ดินในวันรุ่งขึ้น(ศุกร์) โดยแจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายในการจดจำนอง 32,xxx บาท
เราก็งงนิดๆ ว่าทำไมแพงจังปกติเท่าที่รู้มา มันจะอยู่ประมาณ 1% ของยอดจดจำนอง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเป็นค่าธรรมเนียมต่างๆ
ตกเย็น จนท. ที่เรายื่นกู้ไว้ ก็เอาเอกสารมาให้ผมเซ็นที่บ้าน โดยแจ้งยอดจดจำนองรวม 2,9xx,xxx บาท ซึ่งตอนนั้น ผมก็งงนิดๆ ว่าทำไมเยอะจัง
จนท.ก็แจ้งว่าเป็นค่าประกันอีกเล็กน้อย ส่งเพิ่มจากเดิมนิดหน่อย ต้องทำทั้งสองคนเลย สมควรทำนะเพราะถ้าใครคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไป อีกคนจะไม่ต้องส่งประมาณนั้น
ผมลองคำนวนดูเลยคิดว่า มันคงเป็น ยอดกู้ 90% (2,47x,xxx บาท) + ตบแต่ง 10% (27x,xxx บาท) ที่เหลือคงเป็นค่าประกันอีกคนละ "แสนบาท" มั้ง
เสร็จแล้วก็เซ็นไป ปกติเป็นคนอ่านเอกสารละเอียดก่อนที่จะเซ็น แต่วันนั้นยอมรับเลย งานยุ่งมาก เลยอ่านแบบผ่านๆ แล้วก็เซ็นๆ ไป
วันรุ่งขึ้นก็ไปจดจำนอง+โอน ที่ที่ดิน จ่ายเงินสามหมื่นกว่าบาทเรียบร้อย และก็รุดไปธนาคารเพื่อถอนเงินให้กับเจ้าของตึกที่ขายให้เรา
จนท. ก็ได้แจ้งเรทการส่งค่างวดให้กับเราแบ่งเป็น
ค่างวดปกติ 13,xxx บาท / เดือน
ค่างวดกู้ตบแต่ง 2,xxx บาท / เดือน
ค่าประกัน 3,600 บาท / เดือน
เบ็ดเสร็จ 19,xxx / เดือน
ผมเห้ย! ทำไมประกันแพงจังพี่ พอมาดูเบี้ยประกัน โห!! สองคนรวมกัน 52x,xxx บาท อะไรจะแพงขนาดนั้น
(แบ่งเป็นของแฟน 13x,xxx + ของผม 38x,xxx บาท) ขนาดพี่เจ้าของตึกที่ไปด้วยกันยังตกใจ ว่าทำไมอัดมาให้ตั้ง 30 ปี แค่ 10 ปีก็พอแล้ว
ซึ่งยอดรวมกู้ที่แท้จริงคือ กู้ 90% (2,47x,xxx บาท) บวกกับยอดกู้จากเบี้ยประกัน 30 ปี (52x,xxx บาท) ทำให้ยอดกู้รวมของเราเท่ากับ (2,9xx,xxx บาท)
โดยค่างวดที่ต้องส่งในแต่ละเดือนบวกกับค่าประกันที่เพิ่มมาเดือนละ 3,600 บาท เป็นเวลา 30 ปี ยอดรวมส่ง "ล้านกว่าบาท" ผมกับแฟนรับไม่ได้
เพราะก่อนหน้านั้นผมก็เพิ่งจะช่วยเค้าทำประกันเงินออมปีละ 5x,xxx ไป ซึ่งตรงนี้ผมก็ต้องเก็บอีกเดือนละ 4,xxx บาท เพื่อไว้ส่งประกันออมอยู่แล้ว
ผมกับแฟนยืนกราน ไม่เอาเอาประกันชีวิต 30 ปีเด็ดขาด ซึ่งทางพี่เจ้าของตึก ก็ได้แนะนำว่าให้แจ้งเขาไปว่าขอเปลี่ยนเป็น 10 ปี
เบี้ยน่าจะถูกลงเยอะ อาจจะตกเดือนละ 1,000 กว่าบาท และนำไปขอลดหย่อนภาษีได้
ซึ่งผมและแฟนก็ได้แจ้งทาง จนท. ของธนาคารไปเมื่อวันศุกร์ว่าให้แก้ไขในส่วนของประกันให้ด้วย
บ่ายวันนี้ (จันทร์) ทาง จนท. แจ้งมาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็น 10 ปีได้ โดยของแฟนคงเดิม 30 ปี ไม่สามารถเปลี่ยนได้
ส่วนของผมลดเหลือ 15 ปี โดยผมจะได้เป็นเงินเข้าบัญชี แสนกว่าบาท แต่เราสองคนก็ยังต้องส่งค่าประกันเดือนละ 3,600 บาท / 30 ปี เหมือนเดิม
แล้วผมจะเอามาทำไมเงินแสนกว่าบาทตรงนี้ ไม่ได้ต้องการ
ผมกับแฟนปรึกษากัน แล้วแจ้งกลับไปอีกครั้ง ยืนกรานที่ 10 ปี วันพรุ่งนี้จะเข้าไปคุยกับ จนท. โดยตรงครับ
ใครเคยเจอเคสแบบนี้บ้างครับ หรือเพื่อนๆ ท่านใดมีคำแนะนำบ้าง โคตรซีเรียสเลย
บอกตรงๆ เราไว้ใจ จนท. เกินไป คิดว่าเค้าจะดูแลเรา ประกันเงินออม เราก็ช่วยทำไปก่อนที่จะรู้ผลอนุมัติด้วยซ้ำ
มีเรื่องปรึกษาครับ เกี่ยวกับกู้สินเชื่อซื้อตึกแล้วโดนยัดประกันชีวิต 30 ปี
โดยการกู้แยกเป็น
กู้จากราคาประเมิน 90% = 2,47x,xxx บาท
กู้ตบแต่ง 10% ของราคาประเมิน = 27x,xxx บาท
โดยตอนสายๆ ของวันพฤหัสที่ผ่านมาทาง จนท. ธนาคารก็ได้โทรนัดเราไปจดจำนองที่ที่ดินในวันรุ่งขึ้น(ศุกร์) โดยแจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายในการจดจำนอง 32,xxx บาท
เราก็งงนิดๆ ว่าทำไมแพงจังปกติเท่าที่รู้มา มันจะอยู่ประมาณ 1% ของยอดจดจำนอง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเป็นค่าธรรมเนียมต่างๆ
ตกเย็น จนท. ที่เรายื่นกู้ไว้ ก็เอาเอกสารมาให้ผมเซ็นที่บ้าน โดยแจ้งยอดจดจำนองรวม 2,9xx,xxx บาท ซึ่งตอนนั้น ผมก็งงนิดๆ ว่าทำไมเยอะจัง
จนท.ก็แจ้งว่าเป็นค่าประกันอีกเล็กน้อย ส่งเพิ่มจากเดิมนิดหน่อย ต้องทำทั้งสองคนเลย สมควรทำนะเพราะถ้าใครคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไป อีกคนจะไม่ต้องส่งประมาณนั้น
ผมลองคำนวนดูเลยคิดว่า มันคงเป็น ยอดกู้ 90% (2,47x,xxx บาท) + ตบแต่ง 10% (27x,xxx บาท) ที่เหลือคงเป็นค่าประกันอีกคนละ "แสนบาท" มั้ง
เสร็จแล้วก็เซ็นไป ปกติเป็นคนอ่านเอกสารละเอียดก่อนที่จะเซ็น แต่วันนั้นยอมรับเลย งานยุ่งมาก เลยอ่านแบบผ่านๆ แล้วก็เซ็นๆ ไป
วันรุ่งขึ้นก็ไปจดจำนอง+โอน ที่ที่ดิน จ่ายเงินสามหมื่นกว่าบาทเรียบร้อย และก็รุดไปธนาคารเพื่อถอนเงินให้กับเจ้าของตึกที่ขายให้เรา
จนท. ก็ได้แจ้งเรทการส่งค่างวดให้กับเราแบ่งเป็น
ค่างวดปกติ 13,xxx บาท / เดือน
ค่างวดกู้ตบแต่ง 2,xxx บาท / เดือน
ค่าประกัน 3,600 บาท / เดือน
เบ็ดเสร็จ 19,xxx / เดือน
ผมเห้ย! ทำไมประกันแพงจังพี่ พอมาดูเบี้ยประกัน โห!! สองคนรวมกัน 52x,xxx บาท อะไรจะแพงขนาดนั้น
(แบ่งเป็นของแฟน 13x,xxx + ของผม 38x,xxx บาท) ขนาดพี่เจ้าของตึกที่ไปด้วยกันยังตกใจ ว่าทำไมอัดมาให้ตั้ง 30 ปี แค่ 10 ปีก็พอแล้ว
ซึ่งยอดรวมกู้ที่แท้จริงคือ กู้ 90% (2,47x,xxx บาท) บวกกับยอดกู้จากเบี้ยประกัน 30 ปี (52x,xxx บาท) ทำให้ยอดกู้รวมของเราเท่ากับ (2,9xx,xxx บาท)
โดยค่างวดที่ต้องส่งในแต่ละเดือนบวกกับค่าประกันที่เพิ่มมาเดือนละ 3,600 บาท เป็นเวลา 30 ปี ยอดรวมส่ง "ล้านกว่าบาท" ผมกับแฟนรับไม่ได้
เพราะก่อนหน้านั้นผมก็เพิ่งจะช่วยเค้าทำประกันเงินออมปีละ 5x,xxx ไป ซึ่งตรงนี้ผมก็ต้องเก็บอีกเดือนละ 4,xxx บาท เพื่อไว้ส่งประกันออมอยู่แล้ว
ผมกับแฟนยืนกราน ไม่เอาเอาประกันชีวิต 30 ปีเด็ดขาด ซึ่งทางพี่เจ้าของตึก ก็ได้แนะนำว่าให้แจ้งเขาไปว่าขอเปลี่ยนเป็น 10 ปี
เบี้ยน่าจะถูกลงเยอะ อาจจะตกเดือนละ 1,000 กว่าบาท และนำไปขอลดหย่อนภาษีได้
ซึ่งผมและแฟนก็ได้แจ้งทาง จนท. ของธนาคารไปเมื่อวันศุกร์ว่าให้แก้ไขในส่วนของประกันให้ด้วย
บ่ายวันนี้ (จันทร์) ทาง จนท. แจ้งมาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็น 10 ปีได้ โดยของแฟนคงเดิม 30 ปี ไม่สามารถเปลี่ยนได้
ส่วนของผมลดเหลือ 15 ปี โดยผมจะได้เป็นเงินเข้าบัญชี แสนกว่าบาท แต่เราสองคนก็ยังต้องส่งค่าประกันเดือนละ 3,600 บาท / 30 ปี เหมือนเดิม
แล้วผมจะเอามาทำไมเงินแสนกว่าบาทตรงนี้ ไม่ได้ต้องการ
ผมกับแฟนปรึกษากัน แล้วแจ้งกลับไปอีกครั้ง ยืนกรานที่ 10 ปี วันพรุ่งนี้จะเข้าไปคุยกับ จนท. โดยตรงครับ
ใครเคยเจอเคสแบบนี้บ้างครับ หรือเพื่อนๆ ท่านใดมีคำแนะนำบ้าง โคตรซีเรียสเลย
บอกตรงๆ เราไว้ใจ จนท. เกินไป คิดว่าเค้าจะดูแลเรา ประกันเงินออม เราก็ช่วยทำไปก่อนที่จะรู้ผลอนุมัติด้วยซ้ำ