มีหนูอยู่ในห้องของผม
ถ้าจะว่าไป นี่นับเป็นครั้งที่สองที่ผมเจอหนูในห้องนี้
ครั้งแรกนั้น ผมเจอตอนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ แล้วมีความรู้สึกเหมือนอะไรวิ่งผ่านเท้าไป
ตอนนั้นคิดว่าตาฝาด เนื่องจากจ้องจอคอมเยอะไป แต่พอเห็นเจ้าสิ่งนั้นวิ่งย้อนกลับทางเดิมอีกรอบ
ถึงรู้ว่าชัดเลย หนูแน่ๆ ขนปุยๆตัวเล็กๆ ความยาวขณะนั่งไม่เกิน สามเซนฯ ขณะยืดตัวเต็มที่ไม่น่าเกิน เจ็ด เซนฯได้
พอเห็นแล้วแต่ยังไม่ทันทำอะไร หนูมันก็วิ่งหายไป แต่ผมยังได้ยินเสียงมันวิ่งจากในผนังอยู่
รุ่งเช้าเลยจัดการสำรวจห้อง จนเจอรูอยู่หลังตู้หนังสือ เลยจัดการอุดซะ
หลังจากนั้นก็ยังคงได้ยินเสียงวิ่งในผนังไปมา แต่ไม่สามารถเข้ามาในห้องได้เลยแอบสะใจเล็กๆ
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบราบเรียบ
จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ผมกำลังนั่งดูทีวีพร้อมอ่านหนังสือไปด้วยนั้น ผมเห็นเจ้าหนูตัวนั้นเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
แล้วมาหยุดอยู่หน้าทีวี ผมไม่แน่ใจว่ามันอยากดูหนังหรืออะไร แต่ในหัวตอนนั้นมีแต่คำถาม
หนูมันมาจากไหน มาทำไมและที่สำคัญมันเข้ามาได้อย่างไร
พอผมขยับตัวลุกจากเตียง มันก็วิ่งหายเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกรอบ
ผมเลยเข้าไปรื้อชั้นวางเสื้อกับพวกกล่องออกมาให้หมด จึงเห็นรู
รูเล็กๆที่เป็นช่องว่างระหว่างไม้บนพื้น รูแค่นี้ผมเคยอุดมาแล้วง่ายๆ ก็เลยจัดการอุดซะ
ผมใช้กระดาษลังแปะกับเทปกาวปิด พออุดเสร็จผมก็กลับไปนอนดูหนังอย่างสบายใจ
แต่หารู้ไม่ว่า นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของค่ำคืนนั้น.
เจ้าหนูตัวนั้นเดินออกมาตรงหน้าทีวีที่เดิมอีกรอบนึง
ท่าทางของมันดูงงๆเล็กน้อย เหมือนคนที่เพิ่งเข้าโรงหนังพลางมองหาที่นั่งตอนที่หนังฉายไปแล้ว 10 นาทีได้
ผมซึ่งคิดว่าปิดทางเข้าออกของเจ้าหนูเรียบร้อยแล้วนั้นได้แต่นั่งงงอยู่บนเตียง
ผมแน่ใจว่าได้เอาแผ่นไม้อุดรูอย่างแน่นหนาแล้วแน่นอน ดังนั้นมันไม่มีทางที่มันจะออกมาได้อีก
ซึ่งทำให้เหลือทางเป็นไปได้อีกทางหนึ่งคือ ตอนที่อุดรูนั้น หนูมันไปหลบอยู่ที่อื่น
พอมาทีนี้มันก็กลับไปทางเดิมไม่ได้แล้ว เพราะผมอุดรูไว้อย่างดิบดี
เจ้าหนูตัวนั้นก็เลยนั่งไม่รู้จะทำไงอยู่หน้าทีวี ผมเองก็นั่งไม่รู้จะทำยังไงอยู่บนเตียง
จะไปรื้อรูออก ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะยอมออกทางเดิมมั้ย แล้วเดี๋ยวมันหายไปอีก
ผมเลยตัดสินใจที่จะจับมัน
แต่แค่ขยับตัวเพียงนิดเดียว เจ้าหนูตัวนั้นก็วิ่งไปหลบอยู่หลังทีวีทันที
ผมอ้อมไปมอง เห็นเจ้าหนูพยายามทำตัวกลมกลืนไปกับสายไฟด้วยการนิ่งสยบความเคลื่อนไหว
แม้ผมจะฉายไฟใส่มันก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ก็เลยเอาไม้ไปแหย่ให้มันวิ่งออกมา
หนูมันก็วิ่งไปหลังตู้หนังสือที่เคยมีรูอยู่แต่โดนปิดไปแล้ว ผมเห็นหนูพยายามหาทางออกอย่างรุกรี้รุกรนอยู่นาน
เลยจัดการไล่ต้อนมันจนสุดท้ายเจ้าหนูไปจนมุมที่ห้องครัว ผมเลยเอาโต๊ะมากันทางให้เหลือทางออกแค่ทางเดียว
แล้วก็นั่งรอตรงทางออก แต่แน่นอนว่าหนูมันคงไม่โง่ขนาดที่จะยอมเดินออกมาให้ผมจับง่ายๆแบบนั้น
ผมเลยล้อมทางออกไว้อีกชั้นนึง กะว่าถึงหนูมันออกไปชั้นแรกได้มันก็ยังออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี
จากนั้นผมก็ปิดไฟแล้วเข้าไปนั่งบนเคาเตอร์ในครัวพร้อมถือไม้เทนนิสในมือ กับกล่องพลาสติกอีกในมือ
หลังจากนั่งรอในความมืดอยู่ราว 20 นาที เจ้าหนูก็ออกมา
เจ้าหนูยื่นหัวออกมาดมๆ ก่อนจะค่อยๆเขย่งตัวออกมาทีละก้าวแล้วก็ถอยกลับ แล้วก็เขย่งไปอีกก้าว
มันค่อยๆเลาะไปทางซ้ายเข้าทางผนังครัว ผมเองก็ค่อยๆจับกล่องพลาสติกในมือให้มั่น
ผมรอจังหวะจากนั้นก็เขวี้ยงเต็มแรง
โครม!
แต่ผมพลาดไป เจ้าหนูเลยวิ่งไปหลบหลังเตาอีกรอบ
ผมเลยต้องนั่งรอเจ้าหนูมันออกมาใหม่
20 นาทีผ่านไป คราวนี้เจ้าหนูออกมาจากทางด้านขวามือ
ผมเลยค่อยๆเบี่ยงตัวพร้อมกับย้ายกล่องพลาสติกมาที่อีกมือ
แต่เจ้าหนูนั่นดันเห็นผมก่อน มันเลยวิ่งไปหลบหลังเตาทันที
ตอนนั้นเป็นเวลาตีสองครึ่ง ผมทั้งเหนื่อยและง่วงเต็มที
เลยคิดว่าหรือไปยืมแมวของใครสักคนดีไหม
ไม่ก็เลี้ยงเจ้าหนูเป็นสัตว์เลี้ยงมันซะเลย เพราะยังไงก็จับมันไม่ได้สักที
แต่แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าไหนๆก็จับมันไม่ได้ อย่างนั้นให้มันเดินออกไปเองจะง่ายกว่ามั้ย
คิดได้ดังนั้น ผมเลยจัดการรวบรวมของที่มีอยู่ในห้อง แล้วเอามาเรียงต่อกันเป็นทางหนูผ่าน
ผมทำทางจากห้องครัวจนถึงประตูห้อง หลังจากนั่งรอสักพักผมก็เห็นเจ้าหนูวิ่งออกมา
แต่คราวนี้มันไม่สามารถวิ่งเปะปะไปมาได้ มันโดนบีบให้ต้องวิ่งตามทางที่ผมบังคับไว้เท่านั้น
ความรู้สึกเหมือนกำลังดูม้าแข่งอยู่เลย
ผมเห็นเจ้าหนูวิ่งเข้าโค้งก่อนที่จะพุ่งอย่างเร็วในทางตรง
ก่อนที่จะไปสุดอยุ่ที่ประตูทางออก ผมเลยเปิดประตูแง้มไว้นิดนึงแล้วเจ้าหนูก็มุดลอดใต้ประตูออกไป
แต่มันยังนั่งงงๆอยู่หน้าประตูห้อง ผมเลยวิ่งไล่มันไปตามโถง จนสุดท้ายมันก็วิ่งหายไปไหนความมืด
โชคดีเจ้าหนู และหวังว่าเราจะไม่พบกันอีก
ป.ล. แนบรูปประกอบเพื่อความเข้าใจตรงกันครับ
ป.ล.2 tag ไกลบ้าน เนื่องจากเหตุเกิดที่อเมริกานะครับ
ป.ล. 3 หลังจากวันก่อนที่ไล่หนูออกจากห้องได้
ก็ไปบอกคนดูแลตึกให้ช่วยมาติดไอ้ขอบยางกันฝุ่นที่ติดตรงใต้ประตูให้หน่อย
เผื่อหนูเหนอผ่านมา จะได้ไม่สามารถเข้ามานั่งเล่นในห้องอีก
คนดูแลตึกก็ให้ช่างมาติดให้เรียบร้อย ตอนไม่ได้เปิดประตูก็ดูดีเลยล่ะ ไม่มีอะไรลอดเข้ามาได้แน่นอน
แต่ทีนี้ตอนเปิดมันจะไปขูดกับพรม แบบฝืดมากๆเพราะไอ้ยางที่กันมันยาวไป
ก็ช่างมันเดี๋ยวมันคงชิน ผ่านไปสามวัน
กลับห้องมาเจอขอบยางหลุดออกมา ซึ่งผมก็ว่ามันน่าจะหลุดตั้งนานแล้วล่ะ
เลยไปบอกผู้ดูแลตึกว่า นี่นะ ยางมันยาวไปพอเปิดประตูแล้วมันจะไปลากกับพื้นมันเลยหลุดนะ
คนดูแลตึกก็รับคำ แล้วเดี๋ยวจะไปซ่อมให้ ก็โอเคดูกระตือรือล้นดี
วันนี้กลับมาถึงห้อง พบว่าคนดูแลตึกให้ช่างมาจัดการติดใหม่ให้เรียบร้อย
เปิดปิดประตูลื่นไม่มีปัญหา ไม่มีขูดหรือลากกับพื้น
ขอบยางเนียนเสมอกับขอบประตูเป๊ะๆ เนี๊ยบมาก
แต่..
เดี๋ยวนะ...
แล้วจะติดเพื่อ....
เรื่องหนูๆ
ถ้าจะว่าไป นี่นับเป็นครั้งที่สองที่ผมเจอหนูในห้องนี้
ครั้งแรกนั้น ผมเจอตอนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ แล้วมีความรู้สึกเหมือนอะไรวิ่งผ่านเท้าไป
ตอนนั้นคิดว่าตาฝาด เนื่องจากจ้องจอคอมเยอะไป แต่พอเห็นเจ้าสิ่งนั้นวิ่งย้อนกลับทางเดิมอีกรอบ
ถึงรู้ว่าชัดเลย หนูแน่ๆ ขนปุยๆตัวเล็กๆ ความยาวขณะนั่งไม่เกิน สามเซนฯ ขณะยืดตัวเต็มที่ไม่น่าเกิน เจ็ด เซนฯได้
พอเห็นแล้วแต่ยังไม่ทันทำอะไร หนูมันก็วิ่งหายไป แต่ผมยังได้ยินเสียงมันวิ่งจากในผนังอยู่
รุ่งเช้าเลยจัดการสำรวจห้อง จนเจอรูอยู่หลังตู้หนังสือ เลยจัดการอุดซะ
หลังจากนั้นก็ยังคงได้ยินเสียงวิ่งในผนังไปมา แต่ไม่สามารถเข้ามาในห้องได้เลยแอบสะใจเล็กๆ
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบราบเรียบ
จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ผมกำลังนั่งดูทีวีพร้อมอ่านหนังสือไปด้วยนั้น ผมเห็นเจ้าหนูตัวนั้นเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
แล้วมาหยุดอยู่หน้าทีวี ผมไม่แน่ใจว่ามันอยากดูหนังหรืออะไร แต่ในหัวตอนนั้นมีแต่คำถาม
หนูมันมาจากไหน มาทำไมและที่สำคัญมันเข้ามาได้อย่างไร
พอผมขยับตัวลุกจากเตียง มันก็วิ่งหายเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกรอบ
ผมเลยเข้าไปรื้อชั้นวางเสื้อกับพวกกล่องออกมาให้หมด จึงเห็นรู
รูเล็กๆที่เป็นช่องว่างระหว่างไม้บนพื้น รูแค่นี้ผมเคยอุดมาแล้วง่ายๆ ก็เลยจัดการอุดซะ
ผมใช้กระดาษลังแปะกับเทปกาวปิด พออุดเสร็จผมก็กลับไปนอนดูหนังอย่างสบายใจ
แต่หารู้ไม่ว่า นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของค่ำคืนนั้น.
เจ้าหนูตัวนั้นเดินออกมาตรงหน้าทีวีที่เดิมอีกรอบนึง
ท่าทางของมันดูงงๆเล็กน้อย เหมือนคนที่เพิ่งเข้าโรงหนังพลางมองหาที่นั่งตอนที่หนังฉายไปแล้ว 10 นาทีได้
ผมซึ่งคิดว่าปิดทางเข้าออกของเจ้าหนูเรียบร้อยแล้วนั้นได้แต่นั่งงงอยู่บนเตียง
ผมแน่ใจว่าได้เอาแผ่นไม้อุดรูอย่างแน่นหนาแล้วแน่นอน ดังนั้นมันไม่มีทางที่มันจะออกมาได้อีก
ซึ่งทำให้เหลือทางเป็นไปได้อีกทางหนึ่งคือ ตอนที่อุดรูนั้น หนูมันไปหลบอยู่ที่อื่น
พอมาทีนี้มันก็กลับไปทางเดิมไม่ได้แล้ว เพราะผมอุดรูไว้อย่างดิบดี
เจ้าหนูตัวนั้นก็เลยนั่งไม่รู้จะทำไงอยู่หน้าทีวี ผมเองก็นั่งไม่รู้จะทำยังไงอยู่บนเตียง
จะไปรื้อรูออก ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะยอมออกทางเดิมมั้ย แล้วเดี๋ยวมันหายไปอีก
ผมเลยตัดสินใจที่จะจับมัน
แต่แค่ขยับตัวเพียงนิดเดียว เจ้าหนูตัวนั้นก็วิ่งไปหลบอยู่หลังทีวีทันที
ผมอ้อมไปมอง เห็นเจ้าหนูพยายามทำตัวกลมกลืนไปกับสายไฟด้วยการนิ่งสยบความเคลื่อนไหว
แม้ผมจะฉายไฟใส่มันก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ก็เลยเอาไม้ไปแหย่ให้มันวิ่งออกมา
หนูมันก็วิ่งไปหลังตู้หนังสือที่เคยมีรูอยู่แต่โดนปิดไปแล้ว ผมเห็นหนูพยายามหาทางออกอย่างรุกรี้รุกรนอยู่นาน
เลยจัดการไล่ต้อนมันจนสุดท้ายเจ้าหนูไปจนมุมที่ห้องครัว ผมเลยเอาโต๊ะมากันทางให้เหลือทางออกแค่ทางเดียว
แล้วก็นั่งรอตรงทางออก แต่แน่นอนว่าหนูมันคงไม่โง่ขนาดที่จะยอมเดินออกมาให้ผมจับง่ายๆแบบนั้น
ผมเลยล้อมทางออกไว้อีกชั้นนึง กะว่าถึงหนูมันออกไปชั้นแรกได้มันก็ยังออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี
จากนั้นผมก็ปิดไฟแล้วเข้าไปนั่งบนเคาเตอร์ในครัวพร้อมถือไม้เทนนิสในมือ กับกล่องพลาสติกอีกในมือ
หลังจากนั่งรอในความมืดอยู่ราว 20 นาที เจ้าหนูก็ออกมา
เจ้าหนูยื่นหัวออกมาดมๆ ก่อนจะค่อยๆเขย่งตัวออกมาทีละก้าวแล้วก็ถอยกลับ แล้วก็เขย่งไปอีกก้าว
มันค่อยๆเลาะไปทางซ้ายเข้าทางผนังครัว ผมเองก็ค่อยๆจับกล่องพลาสติกในมือให้มั่น
ผมรอจังหวะจากนั้นก็เขวี้ยงเต็มแรง
โครม!
แต่ผมพลาดไป เจ้าหนูเลยวิ่งไปหลบหลังเตาอีกรอบ
ผมเลยต้องนั่งรอเจ้าหนูมันออกมาใหม่
20 นาทีผ่านไป คราวนี้เจ้าหนูออกมาจากทางด้านขวามือ
ผมเลยค่อยๆเบี่ยงตัวพร้อมกับย้ายกล่องพลาสติกมาที่อีกมือ
แต่เจ้าหนูนั่นดันเห็นผมก่อน มันเลยวิ่งไปหลบหลังเตาทันที
ตอนนั้นเป็นเวลาตีสองครึ่ง ผมทั้งเหนื่อยและง่วงเต็มที
เลยคิดว่าหรือไปยืมแมวของใครสักคนดีไหม
ไม่ก็เลี้ยงเจ้าหนูเป็นสัตว์เลี้ยงมันซะเลย เพราะยังไงก็จับมันไม่ได้สักที
แต่แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าไหนๆก็จับมันไม่ได้ อย่างนั้นให้มันเดินออกไปเองจะง่ายกว่ามั้ย
คิดได้ดังนั้น ผมเลยจัดการรวบรวมของที่มีอยู่ในห้อง แล้วเอามาเรียงต่อกันเป็นทางหนูผ่าน
ผมทำทางจากห้องครัวจนถึงประตูห้อง หลังจากนั่งรอสักพักผมก็เห็นเจ้าหนูวิ่งออกมา
แต่คราวนี้มันไม่สามารถวิ่งเปะปะไปมาได้ มันโดนบีบให้ต้องวิ่งตามทางที่ผมบังคับไว้เท่านั้น
ความรู้สึกเหมือนกำลังดูม้าแข่งอยู่เลย
ผมเห็นเจ้าหนูวิ่งเข้าโค้งก่อนที่จะพุ่งอย่างเร็วในทางตรง
ก่อนที่จะไปสุดอยุ่ที่ประตูทางออก ผมเลยเปิดประตูแง้มไว้นิดนึงแล้วเจ้าหนูก็มุดลอดใต้ประตูออกไป
แต่มันยังนั่งงงๆอยู่หน้าประตูห้อง ผมเลยวิ่งไล่มันไปตามโถง จนสุดท้ายมันก็วิ่งหายไปไหนความมืด
โชคดีเจ้าหนู และหวังว่าเราจะไม่พบกันอีก
ป.ล. แนบรูปประกอบเพื่อความเข้าใจตรงกันครับ
ป.ล.2 tag ไกลบ้าน เนื่องจากเหตุเกิดที่อเมริกานะครับ
ป.ล. 3 หลังจากวันก่อนที่ไล่หนูออกจากห้องได้
ก็ไปบอกคนดูแลตึกให้ช่วยมาติดไอ้ขอบยางกันฝุ่นที่ติดตรงใต้ประตูให้หน่อย
เผื่อหนูเหนอผ่านมา จะได้ไม่สามารถเข้ามานั่งเล่นในห้องอีก
คนดูแลตึกก็ให้ช่างมาติดให้เรียบร้อย ตอนไม่ได้เปิดประตูก็ดูดีเลยล่ะ ไม่มีอะไรลอดเข้ามาได้แน่นอน
แต่ทีนี้ตอนเปิดมันจะไปขูดกับพรม แบบฝืดมากๆเพราะไอ้ยางที่กันมันยาวไป
ก็ช่างมันเดี๋ยวมันคงชิน ผ่านไปสามวัน
กลับห้องมาเจอขอบยางหลุดออกมา ซึ่งผมก็ว่ามันน่าจะหลุดตั้งนานแล้วล่ะ
เลยไปบอกผู้ดูแลตึกว่า นี่นะ ยางมันยาวไปพอเปิดประตูแล้วมันจะไปลากกับพื้นมันเลยหลุดนะ
คนดูแลตึกก็รับคำ แล้วเดี๋ยวจะไปซ่อมให้ ก็โอเคดูกระตือรือล้นดี
วันนี้กลับมาถึงห้อง พบว่าคนดูแลตึกให้ช่างมาจัดการติดใหม่ให้เรียบร้อย
เปิดปิดประตูลื่นไม่มีปัญหา ไม่มีขูดหรือลากกับพื้น
ขอบยางเนียนเสมอกับขอบประตูเป๊ะๆ เนี๊ยบมาก
แต่..
เดี๋ยวนะ...
แล้วจะติดเพื่อ....