ก่อนอื่นขอขอบพระคุณกระแสตอบรับอันแสนอบอุ่นจากกระทู้ "ภาษาญี่ปุ่น(พื้นฐาน) แต่โคตรฮิต!!ในที่ทำงาน"
http://pantip.com/topic/31835299
มีผลตอบรับจากท่านผู้อ่านมากๆ วันนี้เราจึงใช้แรงใจที่ได้มาจากพวกคุณ มาต่อภาคสองของ
"ภาษาญี่ปุ่น(พื้นฐาน)แต่โคตรฮิต!!ในที่ทำงาน"
คำที่หนึ่ง
お先に失礼します/ โอะซะกิ นิ ชิซึเร ชิมัส หรือ "O-saki-ni-shi-tsu-rei-shimas"
แปลว่า
"ขออนุญาตเสียมารยาทกลับก่อนนะ"
saki = ก่อน,ล่วงหน้า (เติม O เข้าไปให้สุภาพมากขึ้น)
Shitsurei-shimasu = ขอเสียมารยาท
คำนี้เป็นคำที่เด็กใหม่หาโอกาสพูดได้ค่อนข้างยากพอสมควร
เพราะบรรยากาศในที่ทำงานญี่ปุ่นมันมาคุ!!!555
โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการพูดคำนี้ทั้งๆที่รุ่นพี่ทั้งหลายยังคงไม่กลับบ้านนั่งอยู่ในออฟฟิศ
ญี่ปุ่นมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่างไปจากไทยบ้าง
บรรยากาศที่ทำงานยุ่นหลายที่มีกฏเหล็กคือ ..ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เช่น 5 โมงเย็นแล้ว
ถึงแม้ไม่มีงานเหลือให้ทำก็ตาม แต่คุณต้องนั่งพิมพ์งานต๊อกแต๊กต๊อกแต๊ก(เสแสร้ง)ให้เหมือนว่าทำงานอยู่ยังไม่เสร็จ
บางทีไม่มีอะไรทำจริงๆ ผมก็นั่งเปิดดูข่าวนู้นนี้ ไปแทรกตัวถามรุ่นพี่ว่า..มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ??
อยู่ไปเรื่อยๆแบบนี้เพื่อรอจนกว่า จะมีรุ่นพี่กลับประปราย (ตอนนั้นจะไม่ค่อยเสียมารยาท) ถึงหาโอกาสจรลี
ก็จะได้โอกาสพูดว่า... O-saki-ni-shi-tsu-rei-shimas กับเค้าบ้าง
..ถ้าคุณพูดคำนี้แล้วได้รับคำตอบกลับว่า O-tsukare-sama-deshita (ขอบคุณสำหรับวันนี้)
หรือ O-tsu-kare ก็ถือว่าคุณรอดตัวไปได้กลับบ้านสมใจ..
แต่มีบางเคสที่คุณขออนุญาตกลับก่อน..แล้วคุณกลับได้รับการตอบรับว่า "วันนี้ไปดื่มกันมั้ย"
ตามระบบระเบียบของเด็กใหม่ญี่ปุ่น.. เราจะไม่ปฏิเสธโอกาสที่รุ่นพี่เสนอให้ครับ..เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้
คืนนั้นก็จะกลายเป็นคืนที่แสนยาวนานของคุณครับ 555555
คำที่สอง
いつもお世話になっております
"อิ ทซึ โหมะ โอ เซ หวะ นิ นัต เต๊ะ โอ ริ มัส" หรือ "I-tsu-mo-O-se-wa-ni-nat-te-o-ri-mas"
คำนี้แปลว่า
"ขอขอบคุณที่ให้ความกรุณามาโดยตลอด"
คำนี้มีความหมายดีมากและเป็นวิธีการในการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม
มักนำมาใช้เป็นคำเริ่มต้นในการคุยโทรศัพท์หรือการเขียนอีเมลล์ของคนญี่ปุ่น
ทุกครั้งที่ผมโทรหาลูกค้าญี่ปุ่น ผมต้องใช้คำนี้ครับ ซึ่ง
โคตร..จะยาวเลยและต้องพูดกันเร็วๆ (เหมือนที่คนญี่ปุ่นเค้าสปีดกันได้) ซึ่งต้องอย่าลืมครับว่า
ผมมันลิ้นสัญชาติไทยจึงเกิดอาการ "ลิ้นพัน" ขึ้นบ่อยๆ55
ยกตัวอย่าง
ลูกค้า: โมชิโมฉิ (ชื่อคน) จากบริษัท (ชื่อบริษัท) ครับ
บูม : สวัสดีครับ บูม จากบริษัท...ครับ "อิ ทซึ โหมะ โอ เซx^53^%*@#"...มัส"
ลูกค้า: ###ชะงัก งงกับคำพูดของบูม พอได้สติก็ตอบกลับว่า "อิ ทซึ โหมะ โอ เซ หวะ นิ นัต เต๊ะ อิ มัส"
แล้วจึงเริ่มบทสนทนาที่อยากจะคุย..!!
การแสดงความรู้สึกขอบคุณต่อคู่สนทนา(ทุกครั้ง) อาจจะแปลกในครั้งแรกๆที่ใช้
แต่พอได้ใช้คำนี้บ่อยๆจะรู้สึกและรู้ถึง "พลังแห่งความสำนึกรู้คุณ" ต่อคู่สนทนาของเรา
ซึ่งมีเสน่ห์มากๆในการสื่อสารครับ
คำที่สาม
申し訳ございません "โม ชิ วะเค โกะ ไซ มา เซน" หรือ "Mo-shi-wa-ke-go-zai-masen"
แปลว่า
ขอประทานอภัยอย่างสูง (โดยไม่มีข้ออ้าง หรือข้อแก้ตัวใดๆ) และพร้อมที่จะรับผิดชอบ
คำนี้มักจะใช้ในธุรกิจอย่างเป็นทางการครับ!!!!
คำนี้เป็นคำยอดฮิตในการขออภัยคนอื่นอย่างสุดซึ้งในกรณีที่เราไปสร้างความเดือดร้อนหรือความไม่สบายใจแก่คนอื่น
ตอนญี่ปุ่นได้มีโอกาสใช้บ้าง(แม้จะไม่ค่อยอยากใช้ซักเท่าไหร่ เพราะบางครั้งเราก็อยากเถียงในมุมของเรา..ความคิดเห็นของเราบ้าง 555..
แต่ถ้าใช้คำนี้เหมือนเป็นการปิดกั้นความคิดความอ่านของตัวเอง คือ "กูไม่เถียง ว่างั้น5555")
แต่ก็มีโอกาสได้ใช้ประปรายโดยเฉพาะตอนยังเป็นเด็กใหม่ๆของบริษัท ทำผิดเยอะไปหมด

วันนี้ขอให้ความรู้แค่สามคำนะครับ ใครอยากได้เยอะกว่านี้หรือเปล่า?
ถ้าอยากได้ล่ะก็ ..."โม ชิ วะ เค โกะ ไซ มา เซน"5555 ไม่อ้างไม่แก้ตัวใดๆทั้งนั้น
JapanSalaryman
ตอน2 ภาษาญี่ปุ่น(พื้นฐาน)แต่โคตรฮิต!!ในที่ทำงาน
http://pantip.com/topic/31835299
มีผลตอบรับจากท่านผู้อ่านมากๆ วันนี้เราจึงใช้แรงใจที่ได้มาจากพวกคุณ มาต่อภาคสองของ
"ภาษาญี่ปุ่น(พื้นฐาน)แต่โคตรฮิต!!ในที่ทำงาน"
คำที่หนึ่ง
お先に失礼します/ โอะซะกิ นิ ชิซึเร ชิมัส หรือ "O-saki-ni-shi-tsu-rei-shimas"
แปลว่า "ขออนุญาตเสียมารยาทกลับก่อนนะ"
saki = ก่อน,ล่วงหน้า (เติม O เข้าไปให้สุภาพมากขึ้น)
Shitsurei-shimasu = ขอเสียมารยาท
คำนี้เป็นคำที่เด็กใหม่หาโอกาสพูดได้ค่อนข้างยากพอสมควร
เพราะบรรยากาศในที่ทำงานญี่ปุ่นมันมาคุ!!!555
โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการพูดคำนี้ทั้งๆที่รุ่นพี่ทั้งหลายยังคงไม่กลับบ้านนั่งอยู่ในออฟฟิศ
ญี่ปุ่นมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่างไปจากไทยบ้าง
บรรยากาศที่ทำงานยุ่นหลายที่มีกฏเหล็กคือ ..ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เช่น 5 โมงเย็นแล้ว
ถึงแม้ไม่มีงานเหลือให้ทำก็ตาม แต่คุณต้องนั่งพิมพ์งานต๊อกแต๊กต๊อกแต๊ก(เสแสร้ง)ให้เหมือนว่าทำงานอยู่ยังไม่เสร็จ
บางทีไม่มีอะไรทำจริงๆ ผมก็นั่งเปิดดูข่าวนู้นนี้ ไปแทรกตัวถามรุ่นพี่ว่า..มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ??
อยู่ไปเรื่อยๆแบบนี้เพื่อรอจนกว่า จะมีรุ่นพี่กลับประปราย (ตอนนั้นจะไม่ค่อยเสียมารยาท) ถึงหาโอกาสจรลี
ก็จะได้โอกาสพูดว่า... O-saki-ni-shi-tsu-rei-shimas กับเค้าบ้าง
..ถ้าคุณพูดคำนี้แล้วได้รับคำตอบกลับว่า O-tsukare-sama-deshita (ขอบคุณสำหรับวันนี้)
หรือ O-tsu-kare ก็ถือว่าคุณรอดตัวไปได้กลับบ้านสมใจ..
แต่มีบางเคสที่คุณขออนุญาตกลับก่อน..แล้วคุณกลับได้รับการตอบรับว่า "วันนี้ไปดื่มกันมั้ย"
ตามระบบระเบียบของเด็กใหม่ญี่ปุ่น.. เราจะไม่ปฏิเสธโอกาสที่รุ่นพี่เสนอให้ครับ..เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้
คืนนั้นก็จะกลายเป็นคืนที่แสนยาวนานของคุณครับ 555555
คำที่สอง
いつもお世話になっております
"อิ ทซึ โหมะ โอ เซ หวะ นิ นัต เต๊ะ โอ ริ มัส" หรือ "I-tsu-mo-O-se-wa-ni-nat-te-o-ri-mas"
คำนี้แปลว่า "ขอขอบคุณที่ให้ความกรุณามาโดยตลอด"
คำนี้มีความหมายดีมากและเป็นวิธีการในการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม
มักนำมาใช้เป็นคำเริ่มต้นในการคุยโทรศัพท์หรือการเขียนอีเมลล์ของคนญี่ปุ่น
ทุกครั้งที่ผมโทรหาลูกค้าญี่ปุ่น ผมต้องใช้คำนี้ครับ ซึ่ง
โคตร..จะยาวเลยและต้องพูดกันเร็วๆ (เหมือนที่คนญี่ปุ่นเค้าสปีดกันได้) ซึ่งต้องอย่าลืมครับว่า
ผมมันลิ้นสัญชาติไทยจึงเกิดอาการ "ลิ้นพัน" ขึ้นบ่อยๆ55
ยกตัวอย่าง
ลูกค้า: โมชิโมฉิ (ชื่อคน) จากบริษัท (ชื่อบริษัท) ครับ
บูม : สวัสดีครับ บูม จากบริษัท...ครับ "อิ ทซึ โหมะ โอ เซx^53^%*@#"...มัส"
ลูกค้า: ###ชะงัก งงกับคำพูดของบูม พอได้สติก็ตอบกลับว่า "อิ ทซึ โหมะ โอ เซ หวะ นิ นัต เต๊ะ อิ มัส"
แล้วจึงเริ่มบทสนทนาที่อยากจะคุย..!!
การแสดงความรู้สึกขอบคุณต่อคู่สนทนา(ทุกครั้ง) อาจจะแปลกในครั้งแรกๆที่ใช้
แต่พอได้ใช้คำนี้บ่อยๆจะรู้สึกและรู้ถึง "พลังแห่งความสำนึกรู้คุณ" ต่อคู่สนทนาของเรา
ซึ่งมีเสน่ห์มากๆในการสื่อสารครับ
คำที่สาม
申し訳ございません "โม ชิ วะเค โกะ ไซ มา เซน" หรือ "Mo-shi-wa-ke-go-zai-masen"
แปลว่า ขอประทานอภัยอย่างสูง (โดยไม่มีข้ออ้าง หรือข้อแก้ตัวใดๆ) และพร้อมที่จะรับผิดชอบ
คำนี้มักจะใช้ในธุรกิจอย่างเป็นทางการครับ!!!!
คำนี้เป็นคำยอดฮิตในการขออภัยคนอื่นอย่างสุดซึ้งในกรณีที่เราไปสร้างความเดือดร้อนหรือความไม่สบายใจแก่คนอื่น
ตอนญี่ปุ่นได้มีโอกาสใช้บ้าง(แม้จะไม่ค่อยอยากใช้ซักเท่าไหร่ เพราะบางครั้งเราก็อยากเถียงในมุมของเรา..ความคิดเห็นของเราบ้าง 555..
แต่ถ้าใช้คำนี้เหมือนเป็นการปิดกั้นความคิดความอ่านของตัวเอง คือ "กูไม่เถียง ว่างั้น5555")
แต่ก็มีโอกาสได้ใช้ประปรายโดยเฉพาะตอนยังเป็นเด็กใหม่ๆของบริษัท ทำผิดเยอะไปหมด
วันนี้ขอให้ความรู้แค่สามคำนะครับ ใครอยากได้เยอะกว่านี้หรือเปล่า?
ถ้าอยากได้ล่ะก็ ..."โม ชิ วะ เค โกะ ไซ มา เซน"5555 ไม่อ้างไม่แก้ตัวใดๆทั้งนั้น
JapanSalaryman